|
Red tear of Lilim ตอนที่ 2
Back to Chapter 1
---------------------------------- Chapter2 ดอกกุหลาบแดงจำนวนมากตลอดสองข้างทาง ทอดยาวไปยังที่พำนักของซามาเอล เทวทูตผู้ดูแลเหล่าเทวทูตในสวรรค์ชั้น 5 และกล่าวกันว่า เขาคือเทวทูตผู้ควบคุมความตาย หากแต่ที่ ๆ เขาอยู่กลับอยู่บนพื้นโลก
เขาสร้างสรรค์หลาย ๆ สิ่งให้คล้ายอีเดน ที่ ๆ พระผู้เป็นเจ้าสร้างสรรค์ขึ้นมาให้อดัมและลิลิธอยู่ หากแต่ที่นี่มิได้มีสรรพสัตว์นานาพรรณ มีเพียงดอกไม้และพืชพรรณต่าง ๆ เท่านั้นเอง “มีแต่ดอกไม้สีแดง จำนวนมากเลย มันช่างงดงามจริง ๆ” ลิลิธเอ่ยขึ้น
“เจ้าชอบดอกไม้สีแดงรึ?” ลูซิเฟอร์หันมาถามลิลิธด้วยความสงสัย
“ใช่ จริง ๆ แล้วต้องบอกว่าข้าชอบสีแดง มันดูเป็นสีที่สวยงามดี” ลิลิธกล่าวตอบระหว่างที่มองดอกกุหลาบ ทั้งสองเดินตรงไปข้างหน้าซักครู่ ก็มาถึงซุ่มประตูทางเข้าที่มีดอกกุหลาบพันอยู่เต็ม มีขนาดไม่ได้ใหญ่โตนัก
“ข้างหน้าก็ถึงตัวคฤหาสน์ ซึ่งเป็นที่พำนักของซามาเอลแล้ว” ลูซิเฟอร์บอกลิลิธ ลิลิธมองตรงไปข้างหน้า ซึ่งที่มีเงาทะมึนของสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ มันน่าจะใหญ่กว่าคำว่าคฤหาสน์ซะด้วยซ้ำ ทั้งคู่เดินต่อไป ลิลิธมองซ้าย ขวาอย่างประหลาดใจต่อเหล่าสิ่งมีชีวิตที่ทำหน้าที่ดูแลสวนกุหลาบ จนลูซิเฟอร์สังเกตเห็นจึงได้อธิบายให้ลิลิธฟัง
“เจ้าพวกนี้คือโกเลมน่ะ พวกนี้ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตแท้ ๆ หรอก เป็นเพียงสิ่งที่เวทย์มนต์สร้างขึ้นมาเพื่อใช้ทำงานก็เท่านั้น” ลูซิเฟอร์หันมาชี้ที่ลิลิธ
“และเจ้าเอง ก็เป็นโกเลม เช่นกัน”
“หา! ข้าน่ะรึ!?!” ลิลิธชี้ที่ตัวเอง ท่าทางตกใจ
“ใช่ แต่เจ้าต่างจากโกเลมพวกนี้ ตรงที่พวกเจ้าได้รับแบ่งเศษส่วนวิญญาณจากพระผู้เป็นเจ้า จึงทำให้เจ้ามีรูปแบบที่ซับซ้อนกว่าเจ้าพวกโกเลมพวกนี้” “บางทีนะ ข้าว่าอาจจะซับซ้อนมากกว่าพวกเทวทูตด้วยซ้ำไป” ลูซิเฟอร์อธิบายไปเดินไป ลิลิธที่ฟังอยู่ได้แต่ทำหน้างง ทั้งคู่มาถึงประตูใหญ่ทางเข้าคฤหาสน์ มีเทวทูต 2 องค์ยืนเฝ้าที่ทางเข้า ลูซิเฟอร์ยกมือเป็นเชิงเพื่อขอเข้าไปข้างใน เทวทูตที่คุมทางเข้าที่เห็นเช่นนั้น ก็ได้เปิดประตูกว้างให้กับลูซิเฟอร์และลิลิธ
“ท่านซามาเอลกำลังรอท่านลูซิเฟอร์อยู่ที่ห้องโถงขอรับ” เทวทูตองค์หนึ่งกล่าว
ลูซิเฟอร์พยักหน้ารับเป็นเชิงรับทราบในข้อความที่แจ้งมา
ลูซิเฟอร์และลิลิธเข้ามาภายในคฤหาสน์ ที่นี่มันช่างใหญ่โตมากมายนัก ลิลิธคิดในใจ ทั้งสองเดินตรงไปยังห้องภายของคฤหาสน์ซึ่งเป็นห้องโถงใหญ่ ด้านในมีเหล่าเทวทูตจำนวนหนึ่งยืนเรียงแถวอยู่ ปลายสุดของห้องมีเทวทูตบุรุษผู้หนึ่งยืนอยู่ เทวทูตองค์นี้มีใบหน้าหมดจด รูปร่างสูงใหญ่ ดูสมสัดส่วน มีดวงตาเรียวงดงาม นัยตาสีน้ำเงินเข้ม ปีกทั้ง 4ส่องแสงประกายสีน้ำเงินเข้มจนดูเหมือนสีดำ รอบข้างมีสตรีรายล้อมอยู่ 3 นาง “เจ้ามาช้ากว่าที่ข้าคาดคิดนะลูซิเฟอร์” เทวทูตองค์นั้นกล่าวพูดขึ้น
“ขออภัย บรรยากาศของดินแดนที่ท่านสร้างมันทำให้ข้าอยากจะค่อย ๆ เดินทางมายังที่นี่อย่างช้า ๆ” ลูซิเฟอร์กล่าวตอบ พร้อมกับค่อย ๆ นำตัวลิลิธมายืนที่ด้านหน้าของตนเอง
“ขอแนะนำ นี่คือลิลิธ ผู้ที่พระผู้เป็นเจ้าทรงสร้างขึ้น” ลูซิเฟอร์แนะนำลิลิธสั้น ๆ
“วิหคราตรี แห่งอีเดนที่เลื่องลือกันสินะ” เทวทูตหนุ่มกล่าวขึ้นมา ลูซิเฟอร์ยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย พร้อมกับกล่าวขึ้น
“ฉายาอะไรเยี่ยงนั้น ข้าอยากรู้จังว่าใครเป็นผู้ตั้งให้นาง ท่านรึซามาเอล” ลูซิเฟอร์มองไปยังเทวทูตหนุ่ม
“หึหึหึ หาใช่ข้าไม่ เหล่าเทวทูตองค์อื่น ๆ ที่มีหน้าที่เฝ้านางต่างหาก พวกนั้นเล่าลือว่า นางผู้นี้มักไปใหนมาใหนในยามราตรี ซึ่งในความงามของนางเลยถูกเปรียบกับหมู่มวลวิหคในอีเดน” เทวทูตหนุ่มอธิบาย ลูซิเฟอร์เดินมาด้านหน้าลิลิธ พร้อมทั้งผายมือไปยังเทวทูตหนุ่ม “ผู้ที่อยู่ตรงหน้าเจ้านี่ล่ะ เทวทูตซามาเอล เทวทูตที่มีคารมคมคายมากที่สุดองค์หนึ่ง” ลูซิเฟอร์กล่าวพร้อมรอยยิ้ม คำพูดของนางออกจะล้อเล่นกับซามาเอลพอสมควรทีเดียว
ลิลิธจับจ้องที่ซามาเอลไม่วางตา หากแต่ไม่ใช่แววตาที่แสดงความสนใจใคร่รู้มากมายนัก น่าจะเรียกว่าเป็นแววตาที่มีความสงสัยอะไรบางอย่างมากกว่า ซามาเอลที่เห็นเช่นนั้นก็ไม่ได้กล่าวอะไร กลับหันไปทางลูซิเฟอร์
“ใหน ๆ ท่านก็มาถึงที่นี่แล้ว สนใจจะร่วมรับประทานและเสวนากับเราก่อนหรือไม่” ซามาเอลกล่าวถามตรง ๆ
ลูซิเฟอร์ครุ่นคิดในคำถามนั้นเพียงครู่เดียว ก็ตอบกลับไปว่า
“ไม่ล่ะ งานของเรา ณ เวลานี้เพียงแค่นำนางผู้นี้มาส่งให้ท่านเท่านั้น” ลูซิเฟอร์กล่าวตอบอย่างตรงไปตรงมาเช่นกัน
“และคิดว่างานของเราเสร็จสิ้นแล้ว เราก็ควรที่จะกลับเสียที”
“หากเช่นนั้นจะให้เราไปส่งท่านหรือไม่” ซามาเอลกล่าวถามอีกครั้ง
“มิเป็นไร ท่านมิต้องลำบากหรอก” ลูซิเฟอร์ตอบพลางเดินไปหาลิลิธ ลูซิเฟอร์จับมือลิลิธแล้วใส่สิ่งบางอย่างไปที่มือของนาง พร้อมกระซิบที่ข้างหูของนาง
“หากมีสิ่งใดที่เจ้าต้องการปรึกษาข้า จงใช้มันระลึกถึงข้า” หลังจากลูซิเฟอร์กล่าวกับลิลิธเสร็จแล้ว ก็โบกมือเป็นเชิงลาแก่ซามาเอล “งดงาม แต่ก็ช่างเป็นเทวทูตที่เข้าใจยากจริง ๆ” สตรีผมสีทองกล่าวขึ้น ซามาเอลที่รับฟังหาได้สนใจคำพูดของนางซักเท่าไหร่ เขาเดินเข้าไปลิลิธพร้อมทั้งเอามือโอบไหล่ของลิลิธไว้
“เอาล่ะ ข้าจะแนะนำให้เจ้ารู้จักภรรยาแห่งข้า ลิลิธ” ซามาเอลกล่าวพร้อมทั้งผายมืออีกข้างไปรอบ ๆ มือของซามาเอลไปหยุดที่สตรีผมสีทอง มีเขาเป็นเขาแกะ ผิวขาวในตาสีเหลืองอ่อน รูปร่างค่อนข้างบอบบาง
“ขอแนะนำให้รู้จัก นี่คือภรรยาอันดับหนึ่งของข้า นามาฮ์” สตรีผมสีทองมองลิลิธด้วยสายตาแข็งกร้าว แม้จะไม่ใช่สายตาที่ ถึงขั้นจะกินเลือดกินเนื้อ แต่มีแววแห่งการดูถูกแฝงไว้ จนลิลิธรู้สึกขนลุก
ซามาเอลยังคงแนะนำต่อไป “และนั้นอันดับที่สอง อาแกรท” มือของซามาเอลไปหยุดที่สตรีผมสีแดง บนศีรษะมีเขาคล้ายเขาโค รูปร่างค่อนข้างสูง และดูเป็นผู้หญิงที่ท่าทางห้าว ๆ นางผู้นี้มองลิลิธไม่ได้ต่างจากนามาฮ์เท่าใหร่ แต่ไม่ได้รู้สึกน่าขนลุกเท่าผู้มีศักดิ์เป็นภรรยาหลวง
“และสุดท้าย ไอเซ็ท” ซามาเอลผายมือไปยังสตรีคนที่สามมีผมสีเงินออกฟ้า ผมนางปรกหน้าปิดตาไปข้างหนึ่ง ผิวขาวดูรูปร่างบอบบางไม่ได้ต่างจากนามาฮ์นัก ซึ่งนางกำลัง... สัปหงกอยู่
“........”
ซามาเอลยืนเงียบอาการเหมือนคนแนะนำค้าง ลิลิธเองก็เช่นกัน นามาฮ์กับอาแกรทต่างจับจ้องไปที่ไอเซ็ท เหมือนไอเซ็ทจะรู้สึกตัว นางสะดุ้งเล็กน้อย ดวงตาของนางค่อย ๆ เบิกกว้าง แต่ตาของนางก็ยังปรือ ๆ อยู่ด้วยความง่วง
“ไอเซ็ท เจ้าไปทำอะไรมา ถึงได้มาสัปหงกในที่เช่นนี้” ซามาเอลตั้งคำถามไอเซ็ททันที ไอเซ็ทขยี้ตานิดหน่อย พร้อมทั้งหาวออกมาเล็กน้อย
“สงสัยเมื่อคืนข้าวิจัยอะไรเพลินไปหน่อยน่ะ” ไอเซ็ทตอบด้วยน้ำเสียงงัวเงียนิด ๆ
“พวกชอบทำอะไรไม่เป็นสาระ” นามาฮ์กระแนะกระแหนใส่ไอเซ็ท หากแต่ไอเซ็ทไม่ได้แสดงกิริยาใด ๆ ตอบกลับ
“เอาล่ะ ๆ นี่ลิลิธ นางจะมาเป็นภรรยาอันดับที่ 4 แห่งข้า เจ้าจงรู้จักไว้ซะไอเซ็ท” ซามาเอลแนะนำลิลิธต่อไอเซ็ท ไอเซ็ทจับจ้องที่ลิลิธ นางมองลิลิธอย่างไม่วางตา จนลิลิธรู้สึกประหลาดใจ ดวงตาของไอเซ็ทค่อย ๆ เบิกกว้างมากขึ้นเรื่อย ๆ นางเอาแว่นตาที่มีข้างเดียวของนางขึ้นมาใส่ สายตาที่มองลิลิธส่องแววแห่งความตื่นเต้นราวกับว่านางเจอของเล่นชิ้นใหม่
“นี่ ๆ ซามาเอล ข้าขอตัวลิลิธไปกับข้าก่อนได้มั้ย?” ไอเซ็ทขอลิลิธจากซามาเอลดื้อ ๆ
“ไม่ได้ นางยังมีเรื่องต้องคุยกับข้าก่อน หลังจากนั้นเจ้ามีธุระอะไรกับนางค่อยว่ากัน” ซามาเอลหลับตาตอบ
“งื่อ~~~” ไอเซ็ทครางเสียงสูงออกมา ใบหน้าค้อนซามาเอลนิด ๆ
“เอาล่ะ การแนะนำคงเพียงเท่านี้ ข้าขอตัวลิลิธไปกับข้าก่อน” ซามาเอลตัดบท
“ลิลิธ เจ้าจงตามข้ามา” ซามาเอลพูดพร้อมกับเดินไปยังบันไดขึ้นชั้นสอง ทิ้งให้ภรรยาทั้ง 3 มองเป็นตาเดียวกัน ลิลิธเดินตามซามาเอลไปไม่ห่างนัก จนถึงห้อง ๆ หนึ่งภายในมีหนังสือต่าง ๆ มากมาย ซามาเอลเดินไปยังโต๊ะบริเวณริมหน้าต่าง แล้วนั่งลงพร้อมทั้งจับจ้องมายังร่างกายที่เปลือยเปล่าของลิลิธ
“ข้าว่าเจ้าน่าน่าจะหาอะไรมาปกปิดร่างกายซักหน่อยนะ” ซามาเอลผสานมือไว้ที่ด้านหน้าแล้วพูด พร้อมมองลิลิธ ลิลิธมองตัวเอง นางพยายามสำรวจสิ่งต่าง ๆ อย่างละเอียด
“ข้าไม่เห็นรู้สึกว่ามันมีปัญหาอะไรนี่นา” ลิลิธตอบหน้าตาย
“.....” ซามาเอลมองอย่างประหลาดใจ ไม่ได้พูดสิ่งใดต่อ เขาชี้นิ้วไปยังหนังสือเล่มหนึ่ง ทันใดนั้นหนังสือเล่มดังกล่าวก็ค่อย ๆ เลื่อนออกจากชั้นอย่างช้า ๆ แล้วลอยมาสู่มือของลิลิธ ลิลิธรับไว้ด้วยความประหลาดใจ
“แม้เจ้าจะอยู่ที่คฤหาสน์ของข้าในฐานะภรรยา แต่ก็ไม่ใช่ไม่มีความรู้ความสามารถเลยก็ได้ ฉะนั้นข้าอยากให้เจ้าศึกษาความรู้ต่าง ๆ ณ หอสมุดแห่งนี้ไว้บ้าง” ซามาเอลกล่าวเสียงเรียบ ๆ
ลิลิธเปิดหนังเล่มดังกล่าว ก้มลงดู “.....” นางยืนนิ่ง ขมวดคิ้ว ใบหน้ามีแต่ความงุนงง “ข้า...... อ่านไม่ออก” นางเงยหน้าจากหนังสือแล้วกล่าวต่อซามาเอลอย่างตรงไปตรงมา
“เจ้าอ่านไม่ออก…..เช่นนั้นรึ?” คราวนี้เป็นซามาเอลที่กล่าวด้วยใบหน้าที่งุนงง เขาพยายามตั้งสติคิดในสิ่งที่เกิดขึ้น นางผู้นี้อ่านหนังสือไม่ออก นางผู้นี้ไม่อายที่แม้จะต้องเปลือยกายให้ผู้อื่นดู นาง.....บริสุทธิ์ไร้เดียงสา ราวกลับว่า เป็นเด็กที่ยังไม่ได้รับรู้เรื่องใด ๆ ได้แต่ทำสิ่งต่าง ๆ ไปตามสัญชาตญาณ หมายความว่า......
ซามาเอลยกมือข้างหนึ่งช้า ๆ เขาหลับตาพร้อมกับพูดอะไรซักอย่างเบา ๆ แสงเรืองรองสีแดงเกิดขึ้นบนฝ่ามือของเขา พลันก็ปรากฎผลแอบเปิ้ล อยู่ในมือของซามาเอล หากแต่ผลแอบเปิ้ลนี้มีสีแดงเปล่งประกายแปลกตา “ก่อนมานี่ ลูซิเฟอร์ให้อะไรเจ้าทานหรือยัง” ซามาเอลกล่าวถาม
“ไม่เลย” ลิลิธตอบห้วน ๆ
“เอาเข้าไป ลูซิเฟอร์นี่ก็จริง ๆ เลย” ซามาเอลบ่นเล็กน้อย ก่อนที่จะยื่นผลแอบเปิ้ลให้ลิลิธ
“ทานซะลิลิธ” ซามาเอลบอก ลิลิธรับผลแอบเปิ้ลมา นางพินิจอย่างละเอียด
“ข้าว่า หน้าตามันเหมือนผลไม้ต้องห้ามที่ปลูก ณ ใจกลางสวนอีเดนเลย..... ข้าทานได้รึ” ลิลิธรู้สึกไม่มั่นใจ
“ได้ เจ้าทานไปเถอะ” ซามาเอลให้ความมั่นใจลิลิธ
นางจึงค่อย ๆ กัดแอบเปิ้ลขนาดพอดีคำ ริมฝีปากสีชมผูของนางยามเมื่อแทะผลแอบเปิ้ลดูสวยงามอย่างมากจนซามาเอลมองไม่ วางตา นางค่อยเคี้ยวและกลืนมันลงไป ทันใดนั้นลิลิธรู้สึกร้อนภายในทรวงอก นางรู้สึกเบลอ ๆ เล็กน้อย แต่ไม่ถึงขั้นที่ทำให้นางประคองตัวไม่ได้ แต่เพียงชั่ววูบเดียวนางก็กลับมารู้สึกเป็นปกติ
“เจ้าลองดูที่หนังสือนั่นอีกทีซิ” ซามาเอลชี้ไปยังหนังสือในมืออีกข้างของลิลิธ นางจึงเปิดมันดูอีกครั้ง
ช่างน่าประหลาดยิ่งนัก
นางเห็นสิ่งที่ปรากฎในหนังสือแล้ว นางสามารถเข้าใจมันได้ รูปลายเส้นต่าง ๆ ที่นางมอง มันปรากฎเป็นคำพูดในห้วงความคิดของนางแทบทั้งหมด
“ข้าเข้าใจสิ่งที่หนังสือนี่เขียน” ลิลิธพูดด้วยสีหน้าตกใจ
“ใช่ ไม่น่าแปลกใจหรอก สิ่งที่เจ้าทานไปเมื่อครู่ คือผลไม้แห่งปัญญา ผู้ที่ทานมันจะมีภูมิปัญญา สามารถเรียนรู้และเข้าใจในสิ่งต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น แต่ก็หาใช่ทั้งหมดไม่ เจ้าจึงต้องเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ในห้องสมดแห่งนี้” ซามาเอลอธิบาย
ลิลิธมองไปมาภายในหอสมุด มันช่างมีหนังสือมากมายเหลือเกิน นางจะอ่านยังไงหมดได้ล่ะนี่
ซามาเอลเหมือนอ่านใจลิลิธออก “เจ้าก็เลือกอ่านแต่ที่เจ้าสนใจก็ได้ ไม่จำเป็นว่าเจ้าจะต้องเชี่ยวชาญไปซะทุกสิ่งหรอก” ลิลิธพยักหน้าเป็นเชิงตอบรับ
“ว่าแต่ยังไงเสีย เจ้าก็น่าจะหาอะไรมาปกปิดร่างกายซะนะ” ซามาเอลกล่าวเรื่อเดิมที่พูดไว้ตอนต้นซ้ำอีกครั้ง ลิลิธสำรวจตัวเองอีกครั้ง พร้อมทั้งมองหน้าซามาเอล
“ข้าก็ยังไม่เห็นว่านั่นจะมีปัญหาอะไรซักนิด” ลิลิธตอบหน้าตายเช่นเดิม
ซามาเอลมีสีหน้าตกใจอย่างเห็นได้ชัด ทำไม??? เพราะอะไร??? ในเมื่อนางทานผลไม้แห่งปัญญาไปแล้ว นางน่าจะมีทุกสิ่งอย่างที่พึงมี หากแต่นางกลับไม่มีความรู้สึกละอายต่อสิ่งที่กำลังทำอยู่นี่เลยงั้นรึ รึเพราะนางทานไปเพียงเล็กน้อย ไม่ ไม่น่าใช่ ผลไม้แห่งปัญญาแม้ทานเพียงนี้ก็จะสำแดงผลเต็มที่แน่นอน แล้วทำไมนางผู้นี้ถึง
“ซามาเอล” เสียงของลิลิธ ปลุกซามาเอลจากห้วงความคิด ซามาเอลเหงื่อตกเล็กน้อย ก่อนที่จะยกมือเป็นเชิงห้ามลิลิธ
“เอาเถอะ ๆ อย่างไรเสียข้าก็ยากให้เจ้าหาเครื่องแต่งกายสวมใส่ให้เรียบร้อย จะได้เหมือนผู้อื่น ณ ทีนี้” ซามาเอลพูดด้วยน้ำเสียงหนักใจ ลิลิธที่รับฟังอยู่ได้แต่เพียงพยักหน้ารับ “ห้องของเจ้าอยู่ที่ฝั่งทางทิศเหนือของคฤหาสน์”
“แล้วก็... ไม่ต้องแอบฟังหรอก เข้ามาเถอะไอเซ็ท” ซามาเอลกล่าวพร้อมมองไปยังประตูทางเข้าห้องสมุด ประตูถูกเปิดออกมา ปรากฎร่างของภรรยาอันดับสามไอเซ็ทยืนทำหน้าสำนึกผิดอยู่
“เจ้านี่ ท่าทางจะสนใจลิลิธเกินกว่าที่ข้าคาดคิดไว้มากจริง ๆ” ซามาเอลยังคงแสดงสีหน้าหนักใจต่อสิ่งที่ไอเซ็ททำ ไอเซ็ทเดินเข้ามาภายในห้องสมุด ไปหาลิลิธ นางโอบกอดลิลิธจากด้านหลัง สายตาและรอยยิ้มที่นางแสดงออก นั้นราวกับมีเลศนัยบางอย่าง แต่มันเหมือนไม่มีพิษมีภัย
“สิ่งที่พระผู้เป็นเจ้าทรงสร้างโดยใช้ฉายาแห่งพระองค์ นอกจากนี้ยังมีจิตวิญญาณแห่งพระองค์สถิตย์อยู่ เรื่องเช่นนี้น่าสนใจอย่างมากเลยล่ะ ซามาเอล” ไอเซ็ทกล่าวตอบซามาเอลด้วยสายตาที่บ่งบอกว่านางสนใจในตัวลิลิธมากเพียงใด ลิลิธพยายามขัดขืนไอเซ็ทที่กอดนาง หากแต่ไม่ทันที่นางจะขัดขืนอะไร ไอเซ็ทก็ปล่อยนางไปก่อน
“เจ้ามาก็ดีเหมือนกัน ยังก็ฝากเรื่องห้องและเครื่องแต่งกายของลิลิธด้วยก็แล้วกัน” ซามาเอลกล่าวฝากลิลิธกับไอเซ็ท ไอเซ็ทมองหน้าลิลิธ แววตานางไม่ได้ต่างจากเมื่อครู่เท่าไหร่ แต่มันเป็นแววตาที่แสดงความเป็นมิตรมากขึ้น
“ไว้ใจข้าได้ ข้าจะช่วยท่านดูแลนางเอง” ไอเซ็ทกล่าวตอบ
“ถ้าเช่นนั้นข้าก็ของฝากด้วย” กล่าวจบซามาเอลก็ลุกแล้วเดินออกจากห้องสมุดไปอย่างรวดเร็วราวกับมีเรื่องเร่งด่วน ทันทีที่ซามาเอลจากไปไอเซ็ทรีบคว้าตัวลิลิธไว้ทันที นางจับลิลิธหมุนตัว พร้อมเพ่งพินิจทุกส่วนสัดของลิลิธ
“จ...เจ้าทำอะไรของเจ้า” ลิลิธไม่ค่อยเข้าใจปฎิกิริยาของไอเซ็ทนัก
“อืม สมบูรณ์แบบมาก ๆ พระองค์ทรงสร้างเจ้าได้อย่างสมบูรณ์แบบจริง ๆ” ไอเซ็ทกล่าว
“ใหนลองซิ” ไอเซ็ทพูดเสร็จก็อ้อมไปด้านหลังลิลิธอีกครั้ง นางใช้มือซ้ายจับหน้าอกของลิลิธ แล้วบีบเบา ๆ มืออีกข้างหนึ่งค่อย ๆ เลื่อนลงไปยังโยนีของลิลิธ มือของไอเซ็ทค่อย ๆ ลูบเบา ๆ แล้วเหมือนจะพยายามใช้นิ้วกดเข้าไป
“อ่ะ ....อ้า~~~” ลิลิธร้องขึ้น มันเป็นความรู้สึกเฉกเช่นตอนที่นางมีความสัมพันธ์กับอดัม ร่างกายนางร้อนผ่าว และเหมือนรู้สึกเกร็ง ๆ
หากแต่ในเสี้ยววินาทีนั้น ลิลิธตั้งสติได้และรีบสลัดจากไอเซ็ททันที
“เจ้าทำอะไรน่ะ!!!” ลิลิธที่หน้าแดงอยู่ตวาดใส่ไอเซ็ทที่มองนางอย่างใจจดใจจ่อ ไอเซ็ทมองที่มือตัวเองที่ล้วงไปในโยนีของลิลิธแล้วพูดพร้อมรอยยิ้ม
“อืม มีปฎิกิริยาตอบกลับได้รวดเร็วกว่าสิ่งมีชีวิตอื่นจริง ๆ เจ้านี่น่ารักกว่าที่ข้าคิดนะ”
“แต่เอาเถอะ เรื่องเช่นนั้นไว้ทีหลัง ตอนนี้ข้าว่า ข้าพาเจ้าไปยังห้องก่อนดีกว่า” ไอเซ็ทยิ้มอีกครั้งแล้วเข้าไปคว้ามือลิลิธ พาเดินไปยังห้องพักทันที ลิลิธนั้นหลังจากถูกไอเซ็ทกระทำดั่งเมื่อครู่ทำให้นางไม่ค่อยไว้ใจ ผู้ที่ขันอาสาดูแลนางผู้นี้เท่าใดนัก
“ห้องของเจ้าอยู่ทางเหนือใช่รึไม่” ไอเซ็ทเอ่ยถาม
“ช...ใช่” ลิลิธตอบแบบตะกุกตะกัก ไอเซ็ทพาลิลิธเดินผ่านห้องน้อยใหญ่มากมาย คฤหาสน์แห่งนี้ช่างกว้างจริง ๆ
จนมาถึงห้อง ๆ หนึ่งเป็นห้องที่อยู่ริมคฤหาสน์ ไอเซ็ทพาลิลิธเข้าไปในห้องทันที ในห้องมีผู้มาคอยรับใช้ 3 – 4 ตนอยู่ภายใน ซึ่งมีลักษณะคล้าย ๆ โกเลมภายนอกคฤหาสน์ หากแต่เป็นผู้หญิงเท่านั้น
ไอเซ็ทเดินไปดูรอบ ๆ ภายในห้อง นางเดินไปเปิดผ้าม่านออก แสงแดดยามบ่าย สาดส่องเข้ามาในห้อง
ห้องของลิลิธนั้นตกแต่งด้วยดอกไม้สีแดง เฉกเช่นเดียวกับริมทางที่นางผ่านมา เหล่าเครื่องเรือนจัดวางเข้าที่ดูเป็นระเบียบ เก้าอี้นั่งและที่นอนของนางใช้ผ้ากำมะหยี่สีแดง ทั้งห้องราวกับว่าจงใจให้เป็นสีแดง “เจ้าชอบสีแดงงั้นรึ” ไอเซ็ทหันไปถามลิลิธ
“อืม ทำไมเจ้าถึงรู้ล่ะ” ลิลิธตอบ พร้อมกับถามด้วยความสงสัย
“ซามาเอลน่ะนะ มีความสามารถในการคาดเดาใจผู้อื่น มีความแม่นยำสูงซะด้วย” ไอเซ็ทตอบพลางไปลูบเบาะที่นั่ง จากนั้นนางเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า ภายในตู้มีชุดมากมาย หากแต่มีเพียงแค่ชุดสีแดงและดำเท่านั้นเอง
“เจ้านี่เป็นพวกคลั่งสีแดงรึไงกัน” ไอเซ็ทเปรยขึ้นด้วยสีหน้าแบบอึ้ง ๆ ต่อภาพที่เห็น
“ม...ไม่ใช่ซักหน่อย ของพวกนี้ซามาเอลเตรียมให้ข้าไม่ใช่รึ” ลิลิธแย้ง
“มันก็จัดตามลักษณะนิสัยของเจ้านั่นล่ะ ข้าสงสัยจังว่าถ้าข้า ติดเขา ให้เจ้า เจ้าจะเร็วกว่าปกติ 3 เท่ารึเปล่า” ไอเซ็ทบรรยายพร้อม ๆ กับแหย่ลิลิธด้วยมุกตลกที่แปลก ๆ
“ติด...เขา” ลิลิธทวนคำ
“หืม... อย่าใส่ใจเลย ข้าแค่พูดล้อเลียนใครบางคนก็เท่านั้นเอง” ไอเซ็ทกล่าวตอบ แต่ลิลิธก็ไม่เข้าใจอยู่ดี ไอเซ็ทยังคงเลือกชุดนั้นชุดนี้มาเทียบกับตัวลิลิธอยู่
“ข้าว่าเจ้าใส่ชุดนี้ดูดีกว่านะ” ไอเซ็ทแนะลิลิธที่มองดูชุดที่ไอเซ็ทหยิบมาให้ ไม่ว่าชุดใหน ๆ ก็แนว ๆ เกาะอก ไม่ก็โชว์เนินอกทั้งนั้น ในขณะที่นางมองเสื้อของสาวใช้แล้วนางกลับคิดว่ามันดูสวยไปอีกแบบ
“เจ้าชอบแบบมิดชิดมากกว่ารึ” ไอเซ็ทที่สังเกตเห็นอาการของลิลิธจึงถามขึ้น
“เปล่า จริง ๆ ข้าคิดว่า ทำไมข้าถึงเป็นเช่นที่ข้าเป็นไม่ได้” ลิลิธปฎิเสธพร้อมถามในสิ่งที่นางสงสัย
“จริง ๆ มันก็ได้อยู่ หากแต่เหล่าเทวทูตจำนวนไม่น้อยมองว่าการเปลือยกายทำกิจวัตรต่าง ๆ เป็นพวกไร้อารยธรรม เป็นพวกเดรัจฉานน่ะ” ไอเซ็ทตอบ
“ฉะนั้น เจ้าใส่ซะดีกว่า อย่างน้อย ๆ จะได้ไม่ต้องมานั่งฟังคำกระแนะกระแหน่ของแม่สาวเรื่องมากอย่างนามาฮ์” ไอเซ็ทกล่าวกระทบไปถึงภรรยาหลวงด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย
“นามาฮ์... ดูนางเหมือนไม่ค่อยพอใจการมาของข้าเลย อาแกรทก็ด้วย” ลิลิธกล่าวสีหน้าแฝงความเศร้าสร้อยเล็กน้อย
“นางไม่เคยพอใจใครที่ก้าวมายุ่งกับซามาเอลอยู่แล้ว ไม่ว่าข้า รึ อาแกรท ต่างก็ผ่านจุดนี้มาแล้ว ขึ้นอยู่กับว่า.....” ไอเซ็ทค้างคำเล็กน้อย แล้วหันมาชี้ที่ลิลิธ สายตาจดจ้องไปที่ใบหน้าของลิลิธ
“เจ้าจะเลือกที่จะคล้อยตามนางเฉกเช่นอาแกรท หรือเลือกที่จะไม่ยุ่งกับนางเช่นข้า หรือ......” ไอเซ็ทเอานิ้วแตะที่ริมฝีปากลิลิธ พร้อมพูดเบา ๆ “ต่อปากต่อคำกับนาง” ไอเซ็ทชักนิ้วกลับมา แล้วเอาเสื้อผ้าทาบไปที่ตัวลิลิธ
“ถ้าข้าเลือกที่จะต่อต้านนางล่ะ” ลิลิธให้คำตอบที่ไอเซ็ทไม่ค่อยจะเชื่อหูตัวเอง นางถึงกับจ้องหน้าลิลิธสีหน้าแสดงความฉงนออกมาอย่างเห็นได้ชัด แต่ไม่นานนางก็ยิ้มออกมา
“เป็นคำตอบที่น่าสนใจ เพียงแต่เจ้ามีอำนาจมากเพียงพอที่จะท้าทายนางได้น่ะนะ ซึ่ง ณ เวลานี้ข้าว่ามันคงยากอยู่” ไอเซ็ทกล่าวด้วยน้ำเสียงสนใจในสิ่งที่ลิลิธพูดออกมา
“สรุปคือ ข้าก็ควรจะแต่งตัวเฉกเช่นพวกเจ้าสินะ” ลิลิธเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแบบถูกบังคับ
“ถูกต้อง” ไอเซ็ทตอบแล้วเอาชุดพีชสีแดงเกาะอกมาทาบที่ตัวลิลิธ นางเอาชุดใส่ไปที่มือลิลิธ พร้อมกับจับบ่าแล้วหมุนตัวลิลิธ จากนั้นก็ผลักลิลิธเบา “เอ้า ไปแต่งซะให้เรียบร้อยก่อน” ลิลิธที่ถูกผลักไป นางหยุดนิ่ง แล้วก็เริ่มใส่ชุดเลยทันที
“ข้าว่าเจ้าน่าจะไปแต่งในห้องแต่งตัวนะ” ไอเซ็ทกล่าวด้วยสีหน้าหนักใจกับลิลิธที่ทำอะไรเหมือนเด็กเล็ก ๆ ลิลิธมองไปมาซ้ายขวา แล้วนางก็มองที่ไอเซ็ท
“มันจะต่างอะไรกัน ในเมื่อตลอดทางข้าก็เปลือยกายมาตลอด” ลิลิธตอบไอเซ็ทด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
ไอเซ็ทยิ้มแหย ๆ พลางคิดในใจ (เออ...จริงของนาง)
หลังจากลิลิธแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว ไอเซ็ทที่เห็นว่าใกล้เย็นแล้ว จึงจะขอตัวกลับไปยังห้องของตนเอง
“อาหารมื้อเย็น โดยปกติพวกแม่บ้านจะเป็นผู้ยกสำรับขึ้นมาให้ เจ้าเพียงแต่รออยู่เฉย ๆ ก็พอ”
“หรือหากเจ้าติดพันการอ่านตำราในห้องสมุดก็ให้ข้ารับใช้ของเจ้า เป็นผู้ไปจัดการนำมาให้เจ้าก็ได้” ไอเซ็ทอธิบาย
“ออ แล้วก็...... คืนนี้ ซามาเอลอาจจะมาหลับนอนกับเจ้าก็เป็นได้” ไอเซ็ทพูดทิ้งท้ายก่อนออกจากห้องของลิลิธไป
เพียงครู่ใหญ่ ลิลิธก็ได้ออกจากห้องของตนเองไปยังห้องสมุด
ระหว่างที่นางหาหนังสืออยู่นั้น นางนึกขึ้นได้ ถึงสิ่งที่ลูซิเฟอร์ฝากไว้ให้นาง หากแต่ตอนนี้มันไปอยู่ที่ใดก็ไม่รู้ได้
ลิลธพยายามนึก จนพอจะจำได้ว่า ตอนที่ซามาเอลเอาหนังสือเล่มหนึ่งให้นางอ่านนั้น นางได้นำมันไปเหน็บไว้ในหนังสือ เล่มนั้น หนังสือรู้สึกจะชื่อ ศาสตร์มนต์ดำ อะไรซักอย่าง แม้นางจะจำชื่อไม่ค่อยได้แต่พอจะจำจุดที่ซามาเอลดึงมันออกมาได้ นางจึงไปค้นยัง ณ ที่นั้น
“เฮ้อ~” นางถอนหายใจสั้น ๆ หลังจากที่นางรื้อจนกระจุยกระจายจนได้ในสิ่งที่นางต้องการ
สิ่งที่ลูซิเฟอร์ฝากไว้ เป็นจี้ห้อยคอ รูปร่างดาว 5 แฉกเช่นเดียวกับปานบนเนินอกของนาง ลิลิธพยายามนึกถึงสิ่งที่ลูซิเฟอร์บอกไว้ นางไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ นางเลยลองดูด้วยการถือมัน แล้วประกบมือทั้งสองไว้ที่กลางหน้าอก นางนึกถึงลูซิเฟอร์
ทันใดนั้น จี้ห้อยคอก็เปล่งแสงสีเขียนทันที นางตกในจนจี้ห้อยคอตกไปอยู่บนพื้น แสงส่องออกมาเป็นวงเหนือจี้ห้อยคอเล็กน้อย ในวงกลมนั้นปรากฎภาพของลูซิเฟอร์
“โย้ว ไม่เจอกันหลายชั่วโมงเลยนะ เบบี๋” ลูซิเฟอร์กล่าวทักนางด้วยภาษาที่แปลกประลาด ลิลิธถึงกับอ้าปากค้างตกใจ
“ไม่ต้องตกใจไป เจ้าจี้ห้อยคอนี่ทำหน้าที่เหมือนอุปกรณ์สื่อสารระหว่างเจ้ากับข้าน่ะ” ลูซิเฟอร์อธิบาย
“ข้าไม่เคยเห็นของเช่นนี้นี่นา” ลิลิธกล่าว
“งั้นก็รู้จักซะ เจ้าอาจจะได้ใช้มันบ่อย ๆ ...... หืม นั่นเจ้าแต่งตัวด้วยรึ” ลูซิเฟอร์ถามลิลิธด้วยความประหลาดใจ
“ออ...อืม พวกที่อยู่ที่นี่ให้ข้าแต่งน่ะ แล้วก็ซามาเอลให้ข้าศึกษาตำราพวกนี้ด้วย” ลิลิธพูดพลางมองไปยังกองหนังสือ
“เจ้าอ่านออกรึ” ลูซิเฟอร์ถามขึ้นทันที
“แรก ๆ ก็ไม่ออกหรอก จนได้กินผลไม้แห่งปัญญานั่นล่ะ เลยอ่านออก” ลิลิธตอบ
“Fruit of Wisdom งั้นรึ” ลูซิเฟอร์หรี่ตาลงเล็กน้อย ใบหน้าเหมือนครุ่นคิดอะไรอยู่
“ซามาเอล พูดเหมือนว่าเจ้าไม่ได้ให้ข้าทานตั้งแต่ต้นน่ะ” ลิลิธบอกถึงคำพูดของซามาเอล
“อืม ข้าไม่ได้อยากให้เจ้ารู้อะไรมากเกินไป แต่ถ้ารู้แล้วก็ไม่เป็นไรกระมัง” ลูซิเฟอร์ตอบแบบเซ็ง ๆ ต่อสิ่งที่เกิดขึ้น
“ทำไมล่ะ เจ้าไม่ได้อยากให้ข้าฉลาด ๆ บ้างรึ” ลิลิธถามด้วยความสงสัย
“ไม่ใช่หรอก ข้าคิดว่าเจ้าแบบที่ใสซื่อบริสุทธิ์นี่ ดีกว่าพวกรู้มากมีจริตมารยาน่ะ” ลูซิเฟอร์อธิบาย
“จริต...มารยา....” ลิลิธทวนคำ
“ก็อย่างเช่นที่เจ้าแต่งตัวนั่น เพราะส่วนหนึ่ง เจ้าอายที่ต้องเปลือยกายใช่หรือไม่ นั่นล่ะจริต” ลูซิเฟอร์ตอบกลับ
“เปล่า... ข้าไม่ได้อายซักหน่อย ข้ายังถามไอเซ็ทเลยว่า ทำไมข้าต้องแต่ง แต่นางบอกว่าจะได้ไม่มีปัญหากับคนอื่น ๆ” ลิลิธตอบปฎิเสธในสิ่งที่ลูซิเฟอร์อธิบาย ซึ่งนั่นทำให้ลูซิเฟอร์แปลกใจ จนแสดงออกทางสีหน้าอย่างเห็นได้ชัด
“อะไรกัน ทั้งเจ้าทั้งซามาเอล ก็ทำหน้าแปลกใจกับเรื่องนี้ทั้งคู่เลย” ลิลิธพ้อต่อสิ่งที่ลูซิเฟอร์แสดงออกมา
ในขณะที่ลูซิเฟอร์กลับแสดงทีท่าต่างจากปกติที่ร่าเริงและยิ้มตลอด มาเป็นเคร่งเครียด นางลูบปอยผมตัวเองหลายครั้ง
“เจ้าไม่เป็นอะไรนะ ลูซิเฟอร์” ลิลิธถามด้วยความห่วงใย
ลูซิเฟอร์ส่ายหัว “ไม่เป็นอะไร ข้าอาจจะต้องคิดอะไรมากหน่อยก็เท่านั้น ว่าแต่เจ้าเถอะมีเรื่องใดหรือไม่ถึงได้ติดต่อข้าในยามนี้” ลูซิเฟอร์ถามกลับ
“ไม่มีหรอก ข้าแค่ลองดูว่าเจ้าของสิ่งนี้มันใช้ยังไงเท่านั้นเอง เดี๋ยวข้าคงต้องกลับห้องของข้าแล้วล่ะ” ลิลิธตอบพร้อมรอยยิ้ม
“อืม เช่นนั้นก็คงต้องกล่าวราตรีสวัสดิ์กับ วิหคราตรี แล้วสินะ” ลูซิเฟอร์ยิ้มเล็กน้อย
“ไม่เอานามันไม่ใช่ฉายาของข้าซักหน่อย แต่อย่างไรเสียก็ราตรีสวัสดิ์นะ ลูซิเฟอร์” ลิลิธกล่าวตอบ ------------------------------------------------------------
“ว่าแต่....เจ้าไม่อายเลยจริง ๆ รึ” ลูซิเฟอร์ยังซักด้วยคำถามเดิม “ไม่ ทำไมข้าต้องอายด้วย” ลิลิธตอบด้วยคำตอบเดิม “จริง ๆ รึ” ลูซิเฟอร์ถามยืนยันอีกครั้ง “จริงสิ” ลิลิธก็ตอบยืนยันหนักแน่น ใบหน้างุนงง พลางคิดในใจ ‘พวกนี้มีปัญหาอะไรกับเรื่องที่ข้าจะอายไม่อายกันนักนะ’
-------------------------------------------------------Next to chapter 3
Create Date : 10 มกราคม 2553 |
Last Update : 10 มกราคม 2553 22:41:23 น. |
|
2 comments
|
Counter : 859 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: da IP: 203.144.144.165 วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:7:28:20 น. |
|
|
|
| |
|