"เราควรใช้ชีวิตอย่างไรจึงจะมีคุณธรรมและยุติธรรมมากที่สุด"
Group Blog
 
All blogs
 
เจริญ-เสื่อม ในระบบสื่อมวลชน

ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน อิทธิพลของสื่อมวลชนมีผลต่อการครอบงำจิตใจ โน้มนำความคิด ปลูกฝังค่านิยม และพฤติกรรมต่างๆ ของสาธารณชนมีไม่จำกัด ทำให้มีการนำเสนอข้อมูลข่าวสารของสื่อมวลชนที่เป็นผู้ซึ่งสะท้อนถึงความเป็นจริง ในขณะเดียวกันสื่อมวลชนก็เป็นผู้สร้างความจอมปลอม ด้วยการนำเสนอข่าวในบางประเด็นโดยให้มีความสำคัญเกินความเป็นจริง เหตุผลดังกล่าวจึงเป็นแรงผลักดันที่สำคัญที่ทำให้สื่อมวลชนมีฐานะเป็นสถาบันทางสังคมซึ่งจำเป็นต้องทำหน้าที่ในการให้ข้อมูลข่าวสารต่างๆ ของสังคม และสร้างความต่อเนื่องของข่าวสารทางสังคม ไม่ว่าจะเป็นด้านวัฒนธรรม และความเปลี่ยนแปลงของสังคม

ในยามที่สถานการณ์บ้านเมืองกำลังย่ำแย่ สื่อได้ให้ความสำคัญในการรับรู้ข่าวสารอย่างยิ่งเพราะปัจจุบันปัญหาต่างๆมากมายเกิดขึ้นไม่เว้นแต่ละวัน ทั้งข่าวลือ ข่าวยุบพรรคการเมือง การปฏิวัติซ้อน ข่าวความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ข่าวระเบิดหาดใหญ่ ข่าวการเสียชีวิตของแม่พิมพ์ของชาติ ซึ่งข่าวเหล่านี้ ล้วนส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคมวัฒนธรรมและต่อสภาพจิตใจของประชาชนคนไทยด้วยกันเองทั้งสิ้น ทำให้หลายคนเริ่มไม่มั่นใจในความมั่นคงด้านการเมือง เศรษฐกิจ รวมถึงความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของตนเอง

ในยุคปัจจุบันนี้สื่อมีอิทธิพลต่อการรับรู้ข่าวสารของคนในสังคมอย่างยิ่งไม่ว่าจะเป็นเด็ก วัยรุ่น หรือวัยทำงาน ซึ่งสื่อจะออกมาในรูปแบบโทรทัศน์ วิทยุ หนังสือพิมพ์ สื่อสิ่งพิมพ์ สื่อเคลื่อนที่ฯลฯไม่ว่าสื่อจะออกมาในรูปแบบใดความต้องการรู้ข่าวสารก็มีกำลังความอยากรู้อยากเห็นมากขึ้นเพราะสื่อมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของมนุษย์ บางคนอาจมีความต้องการรู้เหตุการณ์บ้านเมืองอยู่ตลอดเวลา ถ้าวันใดพลาดจากการดูโทรทัศน์ จะต้องอ่านหนังสือพิมพ์หรืออินเตอร์เนตแทน นอกเหนือจากสื่อทั้งหมดที่ผ่านไปนี้ยังมีสื่อบางชนิดที่รวดเร็วต่อการรับรู้ข่าวสาร นั่นคือ โทรศัพท์มือถือที่บริการส่ง SMS ให้แก่ผู้ร่วมใช้บริการตลอดทุก 24 ชั่วโมงเลยทีเดียว สื่อจึงเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตมนุษย์ แต่ในทางกลับกันสื่ออาจทำลายบางคนหรือบางกลุ่มให้อยู่ในสังคมไม่ได้ด้วยปลายปากกา ทั้งนี้มีตัวอย่างการกระทำของสื่อเช่น

1. การลงข่าว โดยการพาดหัวข่าวที่สะดุดตาใหญ่โต และใช้ถ้อยคำรุนแรง
2. การกระทำให้เห็นว่าพฤติกรรมในข่าว เป็นจุดเด่น เป็นสิ่งที่น่าเลียนแบบ
ถ้าสื่อมีรูปแบบการนำเสนอข่าวสาร ในมุมมองที่ดีขึ้นก็จะไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้นตามมาและไม่เกิดการเลียนแบบ อย่างเช่น
1. เน้นให้เห็นว่าสิ่งใดถูกต้อง สิ่งใดไม่ถูกต้องเห็นว่าสิ่งใดควรสิ่งใดไม่ควร
2. ชี้ให้เห็นทั้งด้านลบ และด้านบวก ด้านดีและด้านไม่ดีที่ไม่ละเมิดสิทธิของบุคคลอื่น
3. เสนอข่าวให้ความรู้ความเข้าใจ แก่สังคม รวมทั้งเสนอแหล่งข่าวข้อมูลที่ถูกต้อง

สื่อมวลชนจึงมีทั้งด้านดีและไม่ดี ซึ่งดูได้จากอิทธิพลของสื่อที่มีต่อวัยรุ่นซึ่งสื่อเป็นสิ่งสำคัญต่อความรู้สึกนึกคิดที่เปลี่ยนแปลงไป เพราะวัยรุ่นเป็นวัยที่เริ่มสนใจ ศึกษา ค้นหา ค้นคว้า ทดลองสิ่งแปลกใหม่อยู่ตลอดเวลา ทั้งเรื่องแฟชั่นที่ล้ำสมัยมากขึ้นอยู่ทุกวันด้วยเรื่องการแต่งตัวที่แปลกและเข้ายุคเข้าสมัยมากขึ้น, เรื่องเพศตรงข้าม วัยรุ่นทั้งชายและหญิงให้ความสำคัญเพศตรงข้ามมาก เพื่อให้เป็นที่ยอมรับของกลุ่มหรืออาจสร้างความสำคัญโดยการแสดงออกถึงจุดเด่นของตนเองที่มีต่อคนต่างเพศเพื่อดึงดูดความสนใจ, เรื่องเทคโนโลยีใหม่ๆที่นำเข้าจากต่างประเทศ ถ้าวัยรุ่นได้รับการกระตุ้นให้เห็นถึงคุณภาพของสินค้าก็จะมีแนวโน้มที่จะตอบสนองความต้องการของตัวเองได้ง่ายขึ้น และทำให้เกิดพฤติกรรมการเลียนแบบตามวัฎจักรค่านิยมในสังคม จนทำให้เกิดช่องว่างทางความคิด ระหว่างผู้ใหญ่และเด็กรุ่นใหม่ซึ่งอาจเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยก็ตาม

ปัจจุบันจึงเกิดปัญหาจากสื่อมากขึ้น ซึ่งวัยรุ่นหลายๆคนตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพไม่ว่าจะทางอินเตอร์เนต โดยการแชตผ่านMSN หรือเกมส์ออนไลน์, การแต่งกายตามแฟชั่นมากเกินไป เช่น นุ่งกระโปรงสั้น เสื้อสายเดี่ยว หรือโชว์หน้าอกก็ตาม ทำให้ผลที่ตามมาคือการสูญเสียกำลังใจในการใช้ชีวิตนั่นคือ การโดนข่มขืน

วัยรุ่นปัจจุบันจึงเลี่ยงไม่ได้กับสิ่งยั่วยุทั้งหลายโดยผ่านสื่อต่างๆที่มีอยู่ทุกรูปแบบรอบๆตัว ทำให้ปัจจุบันหลายครอบครัวทำงานหนักเพื่อซื้อสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายไว้ในบ้านเพื่อความสุขของคนในครอบครัว ทำให้เวลาอยู่กับลูกน้อยลงหรือไม่มีเลยก็ว่าได้ โดยคิดแค่ว่าการให้แต่วัตถุนั้นก็เท่ากับการให้ความสุขกับลูก จนทำให้เด็กขาดความอบอุ่นในเวลาต่อมา รวมทั้งการอบรมนิสัยให้รู้ถูกผิดก็ไม่มีจึงทำให้เด็กรับเอาค่านิยมผิดๆ เข้ามาและเกิดปัญหาพฤติกรรมเลียนแบบต่างๆตามมา พ่อแม่จึงถือเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่เพื่อให้ลูกมีกำลังใจต่อการดำเนินชีวิต ทำให้พวกเขาสามารถเข้าใจว่าการมีชีวิตอยู่ต่อไปนั้นเพื่ออะไร เพื่อใคร เพื่อไม่ให้เด็กมีความคิดว่าถูกทอดทิ้งอย่างโดดเดี่ยวไม่มีใครเหลียวแล ความคิดนี้อาจทำให้เด็กคิดฟุ้งซ่านเตลิดไป พ่อแม่จึงควรแสดงความรักให้ลูกรู้ว่าใครที่ดีกับเขามากที่สุด ความโดดเดี่ยวที่เขาคิดก็จะไม่เกิดขึ้นเพราะรู้ดีว่าในชีวิตพวกเขานั้นพ่อแม่ให้ความสำคัญกับเขาเพียงคนเดียว เพียงให้พ่อแม่มีเวลาไม่ทำงานอย่างเดียวและคิดแค่ว่าหาเงินให้มากๆเพื่อความสุขของลูก แต่ไม่มองว่าเวลามีค่าแค่ไหน สักเล็กน้อยเพื่อลูกเท่านั้น พวกเขาก็ชื่นใจ

บางครั้งสื่อได้นำเสนอตัวอย่างออกมาทั้งที่เหมาะสมและไม่เหมาะสมปนกันไป เช่น สื่อนำเสนอการก่อเหตุที่โรงเรียนที่มีเด็กมีพฤติกรรมก้าวร้าวจนเกิดเหตุการณ์ที่ก่อการทะเลาะวิวาทที่จะทำให้เด็กก้าวร้าวรุนแรง บางทีเด็กก็เลียนแบบพฤติกรรมของครูเช่น ครูเข้มงวด มีบทลงโทษที่รุนแรง และเสียงดังใส่พวกเขา เด็กก็จะเลียนแบบซึ่งอิทธิพลของสื่อที่รุนแรงจะมีอิทธิพลให้เกิดการเลียนแบบ จนความรุนแรงบางครั้งอาจก่อให้เกิดข่าวอาชญากรรม ข่าวสงคราม อีกทั้งภาพยนตร์ที่มีเนื้อหาไม่เหมาะสมหรือไม่ผ่านการเซ็นเซอร์ การ์ตูนที่มีเนื้อหารุนแรงแกร่งแย่งชิงดีต่อสู้กัน ก็จะส่งผลให้เด็กอ่านแล้วมีจินตนาการและเกิดการเลียนแบบ เห็นได้จากการที่เด็กก่ออาชญากรรมหลายครั้งที่ผ่านมาในสังคมจนทำให้สังคมเริ่มเสื่อมโทรมขึ้นทุกวันๆวัฒนธรรมที่ดีงามเริ่มเปลี่ยนแปลงไป

สังคมวัฒนธรรมในอดีตที่ดีงามมีอยู่หลายรูปแบบแต่ปัจจุบันเริ่มสูญหายไปพร้อมกับการเจริญเติบโตทางเทคโนโลยี เช่นขนบธรรมเนียมประเพณีการให้เกียรติซึ่งกันและกันระหว่างชายและหญิง ระบบครอบครัวที่ให้ความเคารพแก่ผู้ที่มีอายุมากกว่าหรือระบบการปกครองได้เปลี่ยนแปลงไปไม่ว่าจะด้านใดก็ตาม การเปลี่ยนแปลงทางสังคมนี้อาจจะเป็นไปทางก้าวหน้า หรือ ถดถอย ซึ่งผลกระทบที่สะท้อนออกมาสู่คนในสังคมแน่นอนว่าย่อมมีมุมมองที่หลากหลายทางความคิดที่แตกต่าง จะรับรู้ซึมซับเอาสิ่งใหม่เข้ามามีบทบาทแทนที่หรือเพิ่มเติมกับสังคมวัฒนธรรมความเป็นอยู่เดิม ซึ่งสิ่งที่บุคคลได้รับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงทางสังคมนั้น ย่อมแสดงออกถึงพฤติกรรมการยอมรับหรือยอมรับไม่ได้กับการเปลี่ยนแปลงของสังคมที่กำลังดำเนินไปอย่างไม่หยุด อย่างเช่น

กระแสสังคมปัจจุบันที่ถือว่าเรื่องเพศเป็นเรื่องเสรี หญิงชายไปไหนมาไหนตามลำพัง หรือถูกเนื้อต้องตัวกันถือว่าเป็นเรื่องธรรมดาใครๆเค้าก็ทำกัน จึงทำให้เด็กเลียนแบบซึมซับมาจากสิ่งที่อยู่ใกล้ตัว เช่น สื่อที่ใกล้วัยรุ่นมากที่สุดน่าจะเป็นสื่ออินเตอร์เนต เพราะโลกไซเบอร์ถือว่าเป็นโลกแห่งการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆที่สามารถค้นคว้าได้ทุกหลายๆแง่มุม จนบางครั้งโลกแห่งนี้มีด้านมืดซ้อนอยู่ อย่างเช่น เวปไซด์ลามกอนาจารที่ซ้อนอยู่ตามมุมต่างๆในหน้าเวปเพจ หรือการแชทออนไลน์ผ่านMSN,Yahoo ที่สามารถมองผ่านกล้องเห็นผู้เล่นได้ แต่ปัจจุบันการใช้กล้องเริ่มเปลี่ยนแปลงไป โดยมีการริเริ่มโชว์สรีระมากขึ้นจนทำให้มีการซื้อขายSEXผ่านอินเตอร์เนตแล้ว

อีกอย่างโทรศัพท์มือถือก็เป็นภัยร้ายแรงสำหรับคุณผู้หญิงไม่เชื่อก็ต้องเชื่อกันอีกทีว่า ความสะดวกสบายเพียงปลายนิ้วที่ว่า กดเมื่อไหร่ภัยมาถึงคุณเมื่อนั้น ซึ่งนาทีนี้น่ากลัวยิ่งกว่าการวางระเบิด เพราะมันกลายเป็นภัยคุกคามที่ลุกลามเงียบสุดๆ ถึงขั้นสร้างวิกฤตทางวัฒนธรรมให้แก่สังคม เพราะความต้องการด้านการแสดงออกทางเพศชัดเจนขึ้น อาจตอบปัญหาได้เลยว่ามนุษย์เราฝักใฝ่ด้านใดมากที่สุด อีกทั้ง “ความอยากรู้อยากเห็น”ของมนุษย์ จึงเป็นที่มาของความนิยมอันดับต้นๆของปัญหาความต้องการด้านเพศ นั่นคือ “คลิปแอบถ่าย” ที่วนเวียนไม่รู้จักจบสิ้นในสังคมไทย

อิทธิพลของสื่อ จึงมีผลต่อพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน ของคนในสังคมจึงจำเป็นที่ทุกคนในสังคมต้องเร่งสร้างการให้การศึกษาแก่เยาวชนทั้งในสถาบันการศึกษา การอบรมเลี้ยงดูจากสถาบันครอบครัว การขัดเกลาจากสถาบันศาสนาเพื่อสร้างบรรทัดฐานที่มั่นคงในสังคม และการให้ความรู้จากสถาบันการปกครอง อีกทั้งการห่วงใยรักใคร่ปองดองกันจากคนในสังคม ซึ่งความหลากหลายเหล่านี้ จะเป็นองค์ประกอบแห่งการนำพาความสุขและความเจริญรุ่งเรืองมาสู่ผู้คนในสังคมไทย จึงทำให้พ้นจากการครอบงำของสื่อ และจะเป็นผู้บริโภคสื่อด้วยความคิดมีสติความเข้าใจอย่างถ่องแท้……..




Create Date : 21 กรกฎาคม 2550
Last Update : 26 กันยายน 2550 15:06:53 น. 7 comments
Counter : 386 Pageviews.

 
เราขอโทษนะที่พูดรุนแรงในวันนั้น เรามันต่ำช้าเอง ที่ต้องทำให้น้ำแห่งความเสียใจไหลรินออกมาจากดวงตาที่น่าทะนุถนอม มนุษย์ทุกคนย่อมมีการก้าวพลาดกันบ้าง ขอโอกาสให้เราด้วยนะ เรายังเป็นเพื่อนกันอยู่ใช่ไหม ?
อยากจะขอเพียงอยากจะขอแค่นิ้วก้อยเธอ ส่งมือเธอมาให้ฉันดีนะเราดีกัน โทษทีที่เอาเรื่องส่วนตัว เลยยังไม่ได้อ่าน เราไม่อยากให้เวลามันกัfกร่อนมิตรภาพของเรา



โดย: บุรุษผู้สำนึกผิด IP: 203.155.120.57 วันที่: 22 กรกฎาคม 2550 เวลา:14:32:16 น.  

 
โทษทีแก้เป็นกัดกร่อนนะ ตรงคำผิด


โดย: ผู้ชายต่ำช้า IP: 203.155.120.57 วันที่: 22 กรกฎาคม 2550 เวลา:14:35:24 น.  

 
สื่อทุกวันมีแต่ความเสื่อมถอย และที่สำคัญสื่อยังมีอิทธิพลต่อวัยรุ่นอีกด้วยแล้วสังคมจะเป็นยังไงไม่อยากจะคิดเลย


โดย: nunaza IP: 58.9.142.17 วันที่: 22 กรกฎาคม 2550 เวลา:15:23:48 น.  

 
วัยรุ่นไทยไม่ค่อยมีสมอง เป็นลัทธิชอบเอาแบบอย่างจากพวกตะวันตก ทั้งการแต่งกาย ภาษา ทรงผม และอีกหลายๆเรื่อง ทั้งนี้สื่อก็ควรรับผิดชอบด้วยเพราะเป็นผู้เผยแพร่ข้องมูลข่าวสาร แต่ที่สำคัญเราควรมีสมองและเลือกว่าจะรับสิ่งใดไม่เอาสิ่งใดจากการบริโภคสื่อ ในอณาคตข้างหน้ามันจะกลืนกินอารยธรรมเราไปจนหมดสิ้น ก่อนจะโทษสิ่งต่างๆให้มองดูตัวเองให้ดีก่อน


โดย: aday IP: 58.8.161.220 วันที่: 22 กรกฎาคม 2550 เวลา:21:38:28 น.  

 
สื่อคือคนเปลี่ยนวิถีชีวิตของคนในสังคม


โดย: อัศวินม้าไม้ (V18 ปุยฝ้าย) IP: 203.155.120.58 วันที่: 23 กรกฎาคม 2550 เวลา:4:02:03 น.  

 
โต้งมันมาทำซึ้งอะไรที่blogนี้อ่ะ 5+
ยังไงก็ให้อภัยกันเถอะนะ รักกันๆ


โดย: บังเกอร์ IP: 203.155.120.57 วันที่: 24 กรกฎาคม 2550 เวลา:0:32:48 น.  

 

ความคิดจะชัดเจนด้วยตัวอย่าง
ตัวอย่างจะแจ่มแจ้งด้วยปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน
การเขียนบทความเหมือนการขายความคิด
คนจะซื้อความคิดคุณเท่ากับเชื่อ....
เชื่อในความคิดของคุณที่นำเสนอ
พยายามค่ะ
พยายามยกตัวอย่างจากปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้น
เท่ากับว่าคุณสามารถเชื่อมโยงความคิดได้
เอาใจช่วยค่ะ


โดย: คุณครูตัวกลม (คุณครูตัวกลม ) วันที่: 25 กรกฎาคม 2550 เวลา:11:17:13 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Ice PureZA
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




^^คิดถึงเพื่อน...คิดถึงเพื่อน...แล้วเจอกันนะ^^


Friends' blogs
[Add Ice PureZA's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.