ลิขิตฟ้า หรือ จะสู้มานะคน

chon_pro
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 12 คน [?]




ผมแค่อยากเขียน บันทึกเกี่ยวกับข้อมูลการทำงานของผมต่างๆ เพื่อเก็บเอาไว้ใช้ดูเวลาที่ผมหลงลืม และเพื่อเป็นประโยชน์ กับน้องๆๆๆ ทั้งหลาย
loaocat

Stat Counter :
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add chon_pro's blog to your web]
Links
 

 
Clickbank.comห้างสรรพสินค้าดิจิตอล

Clickbank.comห้างสรรพสินค้าดิจิตอล


วรวิทย์ ไชยทิพย์ //www.chaiyatip.com

เศรษฐีออนไลน์

การสมัครเป็นผู้ร่วมค้าขายกับเว็บไซต์ต่างๆ ที่เรียกว่า Affiliate Marketing มีข้อดีคือเราไม่ต้องลงทุนเรื่องสต๊อคสินค้า บริการลูกค้า จัดส่งของ ฯลฯ เพียงแต่เรานำลูกค้าส่งเข้าไปที่เว็บไซต์แห่งนั้น เมื่อลูกค้าซื้อสินค้าหรือบริการเราก็จะได้รับค่าคอมมิสชั่นตามแต่ที่เว็บแห่งนั้นกำหนด

การส่งลูกค้าไปที่เว็บซึ่งเราทำการตลาดให้นั้นก็มีตั้งแต่แบบไม่เสียตังค์คือใช้ E-mail เว็บบอร์ด บล็อก โปรแกรมแชต จนกระทั่งแบบเสียเงินคือการลงโฆษณาบนอินเตอร์เน็ต กับ Google.com หรือ Yahoo.com

ศึกษาการทำการตลาดแบบแอฟฟิลิเอทได้ที่ //tinyurl.com/ld66bx



บทเรียนทางการตลาด

ประสบการณ์การทำ Affiliate Marketing ผมเคยได้เงินจาก Amazon.com ประมาณ 8,000 กว่าบาท จากการขายของสารพัดชนิด เงินโอนเข้าบัญชีธนาคารกรุงเทพ จากสาขาอเมริกา อย่าเพิ่งด่วนชมผมไป เพราะว่าในครั้งนั้น ผมต้องเสียเงินค่าโฆษณาให้กับ Google และ Yahoo ไปร่วมหมื่นกว่าบาท แปลว่าทำธุรกิจขาดทุนนั่นเอง

ศึกษาเรื่องการทำธุรกิจกับเว็บ e-commerce ระดับโลกอย่าง Amazon.com ได้ที่

//tinyurl.com/ntq8fk

การทำ Affiliate Marketing ที่ประสบความสำเร็จคือการบริหารค่าใช้จ่ายโฆษณาให้น้อยกว่าค่าคอมมิสชั่นที่ได้ จึงจะมีกำไร นอกจากนี้ยังต้องคำนึงถึงรอบการจ่ายเงินของเว็บไซต์ที่เราไปร่วมค้าขายด้วย เพราะถึงได้กำไรดี แต่จ่ายค่าโฆษณาบ่อยกว่ารับเงินจากค่าคอมฯ ทุนหมุนเวียนงานทำธุรกิจจะหมดลงง่ายๆ

สำหรับที่อะเมซอน ค่าคอมมิสชั่นจะตัดรอบเป็นเดือนๆ และจ่ายในอีกประมาณ 2-3 เดือนถัดไป เพราะต้องรอดูรายการคืนสินค้าจากลูกค้าด้วย ปัจจุบัน อะเมซอนที่อเมริกาออกกฎห้ามชวนลูกค้าเข้าเว็บโดยการลงโฆษณากับ Google หรือ Yahoo ผู้ที่ร่วมค้าขายกับอะเมซอน ประเทศสหรัฐอเมริกา จึงเลี่ยงไปสมัครค้าขายกับอะเมซอนประเทศอื่นแทน

ร่วมค้าขายกับอะเมซอนมีข้อได้เปรียบคือชื่อเสียงเว็บเป็นที่รู้จัก คนซื้อมั่นใจว่าจะไม่โดนโกงแน่ แต่ข้อเสียคือราคาสินค้าที่นี่จะสูงกว่าที่อื่น ค่าคอมมิสชั่นน้อย (เริ่มที่ 4%) สินค้าที่เป็นสิ่งของจับต้องได้ มีระยะเวลาขนส่ง เมื่อลูกค้าคืนสินค้าก็มีระยะเวลาคืน คอมมิสชั่นจึงได้ช้า เพราะเหตุนี้คนที่ใจร้อนหรือทุนน้อยจึงเลี่ยงไปทำตลาดกับสินค้าประเภทอื่นแทน



ห้างสรรพสินค้าดิจิตอล

สินค้าที่ดีที่สุดสำหรับการทำ e-commerce คือ เมื่อลูกค้าซื้อของแล้วสามารถดาวน์โหลดสินค้าไปได้เลย ที่ //www.Clickbank.com เป็นแหล่งรวมสินค้าดังกล่าว หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e-book) หรือบทเรียนออนไลน์ (e-class) ที่ให้ความรู้ในเรื่องต่างๆ โดยแบ่งออกเป็นหมวดธุรกิจ สุขภาพ ครอบครัว คอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ต การเงิน การตลาด ความบันเทิง กีฬา และสังคม

เว็บแห่งนี้เป็นที่นิยมของคนที่ทำตลาดแอฟฟิลิเอท เพราะสมัครง่าย อนุมัติเร็ว ไม่ต้องมีเว็บอ้างอิง จ่ายค่าคอมมิสชั่นสูง หลายชิ้นจ่ายถึง 75% ของราคาขาย จ่ายผลตอบแทนเร็วเดือนละ 2 ครั้ง รายงานผลเร็วเพียงแค่ไม่กี่นาทีที่มีการซื้อขาย เราก็จะเห็นยอดคอมมิสชั่นแล้ว ส่วนข้อเสียของเว็บแห่งนี้คือมีอัตราการคืนสินค้าสูง ค่าคอมมิสชั่นงวดแรกๆ จะจ่ายเป็นเช็ค ต้องเสียเวลารอ และสินค้าบางอย่าง เช่น หนัง เพลง เกม ไม่สามารถโฆษณากับกูเกิ้ลได้เพราะผิดกฎของกูเกิ้ล

ผมเคยเลือกเอา e-book ที่สอนการจีบผู้หญิงไทยมาขายให้ชาวต่างชาติ ข้อดีของสินค้าดิจิตอลในแง่ของผู้ผลิตก็คือทำง่าย ใช้ทุนน้อย ถ้าหากท่านมีความรู้ความเชี่ยวชาญในเรื่องใดเป็นพิเศษโดยเฉพาะ และคิดว่าความรู้นี้คนทั่วไปสนใจ ขายได้ ก็ลองทำมาขายที่นี่ดูนะครับ ถ้าน่าสนใจจริง จะมีคนทำธุรกิจแอฟฟิลิเอทช่วยขายให้เยอะเลย

การจะเลือกสินค้าชนิดใดมาขายมีหลักเกณฑ์คร่าวๆ คือ เป็นสินค้าที่หาซื้อทั่วไปยาก ค่าคอมมิสชั่นสูง (เพราะถ้าน้อยเกินไปจะไม่คุ้มค่าโฆษณา) มีผู้เข้ามาสมัครขายเยอะ (ค่า Grav.สูง แสดงว่าขายได้) สินค้านั้นแก้ปัญหาให้ลูกค้าได้ และอยู่ในความสนใจของตลาด ข้อมูลเพื่อการตัดสินใจหลายตัวเราสามารถอ่านได้ที่เว็บ Clickbank เช่น ค่าคอมมิสชั่น จำนวนผู้ร่วมขายสินค้า ฯลฯ แต่ข้อมูลบางอย่างเราต้องหาเอาจากที่อื่น



วิเคราะห์ตลาดกุญแจความสำเร็จ

เราจะรู้ว่าสังคมกำลังสนใจเรื่องอะไร เพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจ นำสินค้ามาขาย อาจจะดูได้จากเขาใช้ "คำ" ใดในการค้นหาที่กูเกิ้ล เราสามารถเข้าไปดูได้ที่ //www.google.com/trends และถ้าหากเรามีคำใดอยู่ในใจอยู่แล้ว ลองใส่คำนั้นลงไปแล้วกดปุ่มค้นหา เราก็จะได้ข้อมูลว่าคำนั้นมีคนประเทศไหน เมืองไหนค้นหาบ้าง ค้นหาในช่วงเวลาใด การทำโฆษณาจะได้ตรงกลุ่มเป้าหมายและวัตถุประสงค์มากยิ่งขึ้น

เมื่อได้สินค้าที่ต้องการทำโฆษณาแล้ว เราลองมาสำรวจดูว่าคู่แข่งของเราเขียนโฆษณาเกี่ยวกับเรื่องนี้ยังไงบ้าง ลองเข้าไปที่ //www.zuula.com ใส่คำที่เราต้องการค้นหา ทางเว็บจะโชว์โฆษณาที่เกี่ยวข้องกับคำเหล่านั้นมาให้ดูทั้งหมด สามารถเลือกดูโฆษณาในเว็บกูเกิ้ล ยะฮู หรือเว็บค้นหาค่ายอื่นๆ ได้ ถ้าเห็นโฆษณาชิ้นไหนเขียนเข้าท่า เราก็นำมาดัดแปลงใช้ประโยชน์ ประหยัดแรงไปได้โขทีเดียว

ลองศึกษาดูนะครับได้ผลอย่างไรก็เล่าสู่กันฟังบ้าง สำหรับผมคงต้องเตรียมตัวไปรับเช็คใบแรกจาก Clickbank ก่อนแล้ว



Create Date : 08 ธันวาคม 2552
Last Update : 8 ธันวาคม 2552 9:34:16 น. 1 comments
Counter : 656 Pageviews.

 
น่าสนใจดีค่ะ ขอบคุณนะคะ





โดย: puy_naka63 วันที่: 7 เมษายน 2553 เวลา:19:05:34 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.