"คนที่มีความฝันให้ตามหา มีความทรงจำให้คิดถึง คือคนที่โชคดีที่สุด" ๐ จิมมี่ เลี่ยว ๐ http://twitter.com/nopsukda

พรเก้าประการ
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ทำระบบการเงิน
๐ เริ่มแล้ว

สร้างสรรค์งานเขียน และ ถ่ายภาพ
๐ เริ่มแล้ว

รักใครสักคน
๐ เริ่มใหม่ได้เรื่อยๆ

Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add พรเก้าประการ's blog to your web]
Links
 

 
หมวกไหมพรม

“ทำไมฉันต้องใส่มันไว้นะเหรอ” ฉันทวนคำถามของเพื่อนใหม่ที่พึ่งรู้จักกันได้ไม่นานนัก นั้นนะซิทำไมฉันต้องใส่หมวกไหมพรมใบนี้ไว้ตลอดนะเหรอ..... เอ...ฉันจะตอบเขาอย่างไรดีนะ

หมวกไหมพรมสีดำสนิท ((ที่เรียกกันติดปากว่า หมวกไอ้โม่ง)) ใบนี้เป็นของแถมมาจากน้ำดำยี่ห้อหนึ่งเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ซึ่งตอนที่ได้มันมานั้น ฉันก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรกับมันมากมาย ได้มาก็โยนมันไว้ในมุมตู้เสื้อผ้าอย่างไม่สนใจใยดีมันสักเท่าไรนัก เพราะตอนนั้นฉันไม่เคยมีความคิดที่จะใส่มันแม้แต่นิดเดียว

คงจะเป็นเพราะช่วงนั้นแฟชั่นมันวิ่งแข่งกับเวลามาก และฉันก็ชื่นชอบที่จะอยู่ในกระแสอย่างนั้น สนุกสนานกับการแปลงร่างไปตามศิลปินคนโปรด เดี๋ยวผมยาว ผมสั้น หรือสั้นข้างยาวข้าง จนมาถึงวันหนึ่งฉันรู้สึกว่าทำไมมันเหนื่อยอย่างนี้ กับการที่ต้องเดินตามใครสักคน พ่อก็ไม่ใช่ แม่ก็ไม่เหมือน แถมหันไปข้างๆก็มีคนที่แต่งตัวคล้ายเราอีกเป็นแสน อย่างกับถูกโคลนออกมาจากที่เดียวกันทั้งสยาม โอ๊ยเหนื่อย ฉันยอมแพ้ ให้คนอื่นเขาเดินตามกันต่อไปเหอะ ฉันไม่เอาด้วยแล้ว

ฉันลองมาเริ่มหาสไตล์ที่เป็นตัวของตัวเอง ลองมันมาหมดแล้ว ตั้งแต่การแต่งตัวแบบเท่ห์ๆ เสื้อหนังกางเกงฟิตตูด แต่ก็รู้สึกอึดอัดและก็โคตรร้อน ลองหันมาใส่เชิ้ตผูกไทค์ ดูแล้วก็ผู้ดีไปไม่ค่อยเหมาะกับหน้าเลยให้ตายซิ ลองแต่งตัวประหลาดๆ ยามตามห้างก็มองตั้งแต่หัวจรดเท้า ยามบางที่เขาก็แต่งตัวดีมีชาติตระกูลกว่าเราอีกแหะ

จนฉันเริ่มรู้สึกว่า เสื้อผ้ามันก็แค่เสื้อผ้า มันแค่ช่วยห่อหุ้มร่างกายป้องกันข้อหาอนาจารจากการโชว์ของสงวนให้กับสาวๆ ได้ตื่นตะลึง....อิอิ... ช่วยป้องกันสุขภาพของฉันให้ห่างจาก แดด ฝุ่น มลพิษ ที่เป็นกลายเป็นสัญลักษณ์ของคนเมืองไปแล้ว ทำให้ฉันรู้สึกสว่างวาบทางปัญญา ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ฉันก็คว้าเจ้าไหมพรมมาสถิตบนกบาลมา 3 ปีกว่าแล้ว

ครั้งแรกที่ฉันคิดว่าจะสวมมันไว้ก็เพราะว่า ป้องกันผมของฉันไม่ให้โดนแดดเวลาเดินทางผมจะได้ไม่เสีย ป้องกันลมไม่ให้พัดทรงผมกระจาย เพราะผมของฉันนั้นมันฟูมากๆ ต้องโกนเท่านั้นถึงจะเอาอยู่ ก็ได้หมวกนี้แหละที่ช่วยปกป้อง ฉันคิดเพียงเท่านี้เองจริงๆ ไม่ได้มีเจตนาใส่อำพรางคดีเพื่อที่จะไปปล้นธนาคารเลยนะ แต่กลับเป็นว่าเจ้าไหมพรมใบนี้เองกลายเป็นครูคนสำคัญในชีวิตฉันไปทั้งๆ ที่มันไม่ได้เรียนจบแม้กระทั่งอนุบาล 1 ด้วยซ้ำ
มันทำให้ฉันได้เห็นร่างที่แท้จริงของใครหลายๆ คน เปรียบเหมือนกับเครื่องเอ็กเรย์นิสัยของมนุษย์ บางคนแต่งตัวหรูหรา ราคาแพง แต่สายตาที่เขาส่งมาหาฉันนั้นออกไปในทางเหยียดหยาม รังเกียจ เขาไม่กล้าเดินเข้าใกล้ แม้แต่ชายตามองเมื่อเราเดินสวนกัน

มีอยู่ครั้งหนึ่ง ฉันให้เพื่อนเดินตาม ห่างราวๆ 3 เมตร เพียงแค่เดินเล่นในระยะทางไม่ถึงหนึ่งกิโลในสยามเซ็นเตอร์ ทำให้มีเรื่องเล่าต่างๆมากมาย บ้างก็หาว่าฉันโรคจิต บ้างก็คิดว่าฉันเป็นขโมย บ้างก็คิดว่าฉันเพิ่งออกจากคุก บ้างคนก็คิดว่าฉันเป็นเอเย่นต์ขายยาบ้า ว่ากันเข้าไปนั้น ฉันสงสัยว่า ทำไมจินตนาการของคนจึงได้พุ่งลงต่ำซะขนาดนั้น

ช่วงแรกๆ ฉันก็เริ่มรู้สึกท้อเหมือนกัน คิดว่าฉันคงต้องเลิกใส่ซะแล้วมั๊ง แต่ความเชื่อมั่นในหมวกใบนี้มันกลับคืนมา เมื่อวันหนึ่งฉันเจอคุณยายแก่ๆ กำลังเข็นรถผลไม้ข้ามแยกไฟแดง ซึ่งแกต้องยกรถให้ขึ้นบนฟุตบาท แต่เรี่ยวแรงของแกคงจะทดถอยไปตามวัยและกาลเวลา ฉันจึงช่วยแกยกรถ คุณยายเลยให้ส้มมา 2-3 ลูก พร้อมกับคำพูดที่ทำให้ฉันรู้สึกภูมิใจว่า “ขอบใจมากนะเอ็ง สมัยนี้หาคนจะมีน้ำใจได้ยากเหลือเกิน ไม่อยากเชื่อเลยว่าเอ็งจะช่วยยาย ตอนแรกนึกว่าโจร ” ประโยคสนทนาสั้นๆ เพียงเท่านี้เอง แต่มันสร้างความมั่นใจในหมวกใบนี้กลับคืนมาได้มากโข

ทำให้ชีวิตฉันได้เรียนรู้ขึ้นมาอีกนิดว่า ความดีต่างหากที่ปกคลุมร่างกายของเรา มากกว่าเสื้อผ้าราคาแพง ต่อให้บรรดาดีไซน์เนอร์ระดับโลกคนไหนก็ออกแบบไม่ได้ แต่ฉันกลับออกแบบมันได้ด้วยตัวเอง ดังนั้นหมวกใบนี้จึงไม่ใช่สิ่งที่จะตัดสินได้ว่า คนที่สวมมันจะเลวเสมอไป ตั้งแต่นั้นมาฉันก็ไม่เคยห่างจากหมวกไหมพรมใบนี้เลย
“ที่ใส่ไว้ก็แค่กันหัวฟูเท่านั้นเองว่ะ เนี่ยใส่ก่อนพี่โต ซิลลี่ฟู อีกนะเฟ่ย...”



Create Date : 02 ตุลาคม 2549
Last Update : 2 ตุลาคม 2549 20:12:28 น. 0 comments
Counter : 386 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.