รื้ออัลบัม...ย่ำสมุยแบบแบ๊คแพ็ค
วันนี้รื้ออัลบัมรูปเมื่อครั้งที่ไปทดลองฮันนีมูนกับพ่อโมชิค่ะ เพราะด้วยความที่ตั้งหน้าตั้งตาทำงานหาเงินมานาน จนจำไม่ค่อยได้ว่า เราสองคนไปเที่ยวด้วยกันครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่....แม่โมชิเลยจัดโปรแกรมชาร์ตแบตเตอรี่ เพิ่มความหวานให้ชีวิตคู่ซะหน่อย...
ใจนึงก็เบื่อทะเล(เพราะอยู่ภูเก็ตก็เห็นทะเลอยู่แทบทุกวัน) แต่อีกใจ ก็รักทะเลเหลือเกินค่ะ จะไปที่ไหนก็ไม่สนุกเท่าทะเลบ้านเรา ในเมื่อไหนๆก็อยู่เกาะฝั่งอันดามันเบื่อแล้ว ลองไปดูเกาะฝั่งอ่าวไทยบ้างซิ... จัดแจงซื้อตั๋วเดินทางจากภูเก็ต ไปเกาะสมุยกันเลย..... เราเดินทางแต่เช้าด้วยรถตู้มารับถึงบ้านค่ะ ค่ารถถ้าจำไม่ผิดคนละประมาณ450บาทถึงเกาะสมุยเลยค่ะ........ นี่เป็นรถที่เราดินทางไปยังจ.สุราษฎร์ค่ะ ออกจะเก่าๆไปนิด แถมรับฝรั่งมาอีกเต็มรถเลยค่ะ เรายังแอบบ่นกับพ่อโมชิเลย ว่าหายใจแทบไม่ออก....( แต่ทำไงได้ล่ะ ยังไงก็ต้องไปอ่ะนะ...) ใช้เวลาเดินทางมาเกือบทั้งวันค่ะ อากาศก็ร้อน ในรถก็หายใจไม่ค่อยออก แถมให้เราไปรอที่สุราษฎร์อีกตั้งหลายชั่วโมงกว่าจะไปถึงท่าเรือ ไมเกรนขึ้น อาเจียรไปหลายทีเลยเรา....(จะสนุกมั๊ยเนี่ย....ขอแอบบ่นนิ๊สนะคะ...) พอได้ขึ้นเรือก็เย็นพอดีค่ะ...อาการปวดหัวเริ่มดีขึ้นแล้ว ค่อยมีอารมณ์ชื่นชมธรรมชาติหน่อยค่ะ ขึ้นเรือได้นอนเอาแรงซักนิด ตื่นมาหิวสุดๆค่ะ เพราะตลอดทางตั้งแต่เช้าทานอะไรไม่ได้เลย...เราเลยเดินหาซื้อขนมในเรือมาทาน ได้อาหารรสเด็ด คือ ...มาม่าคัพ...ค่ะ (เพิ่งรู้ว่ามาม่ามันอร่อยอย่างนี้นี่เอง)ทานไปชมวิวทะเลบนดาดฟ้าเรือไป แหม...มีความสุขที่ซู๊ด....... และแล้วก็มาถึงเกาะสมุยค่ะ...จะไปทางไหนต่อดีเนี่ยเรา.......เดินๆๆถามๆๆๆก็ได้ข้อมูลค่ะ หาดละไมคือที่หมายของเรา.....จัดแจงขึ้นรถสองแถว ได้ผู้ร่วมเดินทางเป็นชาวต่างชาติค่ะ....ขอบึนทึกภาพซะหน่อย.... คนขับรถพามาถึงหาดละไม ก็เริ่มมืดแล้วค่ะ ที่พักก็ยังไม่มี ตระเวนถามหาที่พักราคาไม่แพง แต่ดูดี ....จะมีมั๊ยน๊า เพื่อนฝรั่งลงกันหมดแล้ว...ไม่เห็นเค้าเรื่องมากเหมือนเราเลยโน๊ะ....จนมาได้ที่นี่ค่ะ (จำชื่อไม่ได้แล้วสิ....อะไรหว่า....)ราคาคืนละ 800บาท ห้องก็สะอาดใช้ได้เหมาะกับคอนเซ็ปของเราเด๊ะๆ...แม้จะไม่ติดทะเลนักแต่เดินไปนิดเดียวค่ะ พอได้ๆ ....ตกลงนอนนี่แหล่ะ...หมดแรงแล้ว ในห้องก็ ok นะคะ สะอาด กว้างขวาง อยู่ในแหล่งชุมชนหาของทานง่าย..... อาบน้ำอาบท่า ออกมาหาของกิน แล้วก็เช่ารถมอเตอร์ไซค์ไว้เลยค่ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้มีแรง ก็ลุยเกาะกันเลย.... เช้าวันรุ่งขึ้นทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว ว่ายน้ำในสระของโรงแรมซะหน่อย ก็ออกตระเวณเที่ยวรอบเกาะกันเลยค่ะ ที่แรกไม่ไปไม่ได้คือ หินตาหินยายค่ะ (เคยมาเมื่อสมัยเด็กๆ หินตาหินยาย เป็นยังไงก็เป็นยังงั๊น ....ไม่เปลี่ยนเลยนะเนี่ย แอบเซ็นเซอร์นิสนึงค่ะ...เดี๋ยวไม่ได้ออกอากาศ บรรยากาศรอบๆค่ะ คนน้อย บรรยากาศดีมากๆ แดดก็ไม่ค่อยร้อนค่ะ.... ทะเลสงบๆของอ่าวไทยค่ะ.... อ่านประวัติดูนะคะ...โรแมนติคเชียว จากหินตาหินยายก็ขับรถมาเที่ยวสวนสัตว์ค่ะ....แต่ปรากฎว่าเค้ายังไม่เปิดบริการ เดี๋ยวนี้น่าจะเปิดแล้วนะคะ เห็นมีส่วนจัดแสดงโชว์ของแมวน้ำด้วย ( อดดูเลยเรา......) วันนี้ตั้งใจขับรถมอเตอร์ไซค์เที่ยวรอบเกาะเลยค่ะ ตายเป็นตาย อยากแวะตรงไหนแวะ อยากกินอะไรก็กิน ตากแดดให้ตัวดำกลับบ้านกันไปเลย....... กลับมาบ้านสมใจอยาก ใส่กางเกงขาสั้นแค่ไหน ความขาวก็หยุดอยู่แค่นั้นเลยค่ะ ที่เหลือคือดำปิ๊ดปี๋ สมใจอยาก5555 แวะไหวพระคู่บ้านคู่เมืองเค้าซักหน่อยค่ะ วิวสวยเลยทีเดียว..... ขับรถกันมาจนบ่ายก็มาถึงน้ำตกหน้าเมืองค่ะ....กำลังร้อนพอดี เสียดายจังที่ไม่ได้เอาชุดมาเล่นน้ำ อิจฉาฝรั่งจังใส่บิกินี่เล่นน้ำได้ด้วย ขืนเราถอดบ้างสิ คนได้แตกตื่นกันมั่งล่ะ.... มีช้างให้นักท่องเที่ยวนั่งด้วยค่ะ....(ช้างใน กทม.อิจฉาอ่ะดี๊...) คืนนี้เราสองคนได้ที่พักใหม่ค่ะ....อยู่ห่างไกลชุมชน เข้าไปก็งงๆ ค่ะ....เพราะเค้าเป็นรีสอร์ต ประมาณธรรมชาติบำบัดอ่ะค่ะ มีการทำดีท็อก ทานน้ำผลไม้ นั่งสมาธิ นวด แถมในร้านอาหารข้างในก็มีแต่เมนูผักอ่ะค่ะ.....เย็นนั้นเลยได้ลดความอ้วนไปในตัว พ่อโมชิทนไม่ไหวขับรถไปหา7-ele ตุนขนมมายกใหญ่ 5555 (ไม่รักสุขภาพเอาซะเร้ย...) ที่นี่ห้องพักอย่างถูกก็คืนละ1800บาท ค่ะ(ราคาตอนนั้นนะคะ) แขกส่วนใหญ่เป็นต่างชาติค่ะ ท่าทางจะตั้งใจมาเพื่อบำบัดกันโดยเฉพาะเลยค่ะ เราสองคนเป็นคนไทยคู่เดียวที่หลงเข้ามาพักที่นี่ พนักงานก็เลยดูแลเราเป็นพิเศษเลยค่ะ แต่ขอบอกว่าเป็นรีสอร์ตที่เงียบสงบมากๆค่ะ ใครอกหักแนะนำให้มาที่นี่เลย ได้อยู่กับตัวเองสุดๆ เหมือนอยู่อีกโลกนึงทีเดียว.....(หรืออาจเหงาโดดทะเลตายไปเลย ก็ไม่แน่เหมือนกันค่ะ...5555) กิจกรรมก็มีให้เล่นนะคะ...ฟรีด้วยแหล่ะ ชอบๆๆ ว่ายน้ำซะเกือบเป็นเลย (จริงๆว่ายน้ำไม่เป็นง่ะ....) ถึงเวลาต้องกลับบ้านแล้วค่ะ เราสองคนกลับบ้านกรุงเทพกันต่อเลยซื้อตั๋วรถทัวร์จากสมุยไปกทม.เลยใช้เวลาเดินทางก็เกือบคืนนึงเลยค่ะ...ถึง กทม.เช้าพอดี ไม่อยากกลับเลยค่ะ.... ลาสมุยกันด้วยภาพสวยๆกลางทะเลอ่าวไทยค่ะ.... แล้วจะกลับมาใหม่น๊า....บ๊ายบาย UpDateหาดกะตะน้อยยามเย็น....
วันนี้มาUpdate หาดกะตะน้อยกันหน่อยค่ะ...
นับตั้งแต่ที่มีเหตุการณ์บ้านเมือง ภูเก็ตก็ยังได้รับผลกระทบมาจนทุกวันนี้ บวกกับช่วงนี้เป็นหน้าLow ทำให้หาดต่างๆ มีนักท่องเที่ยวบางตาเหลือเกินค่ะ พ่อค้า แม่ค้าหลายรายต้องปิดกิจการลง มีทั้งปิดถาวร และปิดแบบชั่วคราว เพื่อรอนักท่องเที่ยวในช่วงปลายปี เพราะถึงเปิดก็ไม่มีลูกค้า ถือเป็นโอกาสได้พักผ่อนไปในตัวค่ะ.... วันนี้ได้โอกาสพาน้องหมามาวิ่งเล่นชายหาด เลยเลือกมาหาดกะตะน้อย เป็นชายหาดที่ได้รับความนิยมของนักท่องเที่ยวต่างชาติมากๆอีกที่นึงค่ะ...หน่อยเคยมาตอนช่วงประมาณต้นปี (ก่อนมีม็อบที่กรุงเทพนะ...)จะมีนักท่องเที่ยวนอนอาบแดดกันเยอะมากๆค่ะ ดูครึกครื้นกว่าวันนี้ราวฟ้ากับดิน...(หรือวันนี้เรามาเย็นเกินไปหรือเปล่าหว่า???) แต่น้ำทะเลเค้าก็ยังสวยเหมือนกันทุกวันนะคะ ถึงแม้จะเย็นมากแล้วก็ยังมีคลื่นสวยๆ ฟ้าใสๆให้ถ่ายรูปกันอยู่.... Shot at 2010-07-19 ยังแอบมีฝรั่งให้เห็นสองคนนะ... Shot at 2010-07-19 Shot at 2010-07-19 Shot at 2010-07-19 Shot at 2010-07-19 เมฆค่อนข้างเยอะนะคะ...ช่วงนี้ฝนตกบ่อยๆ... Shot at 2010-07-19 โมชิ กับพ่อโมชิค่ะ... Shot at 2010-07-19 หวังว่าบ้านเมืองเราจะยังสงบสุขกันไปนานๆนะคะ...ขอเวลาให้ชาวบ้านตาดำๆได้ทำมาหากินบ้างเถอะค่ะ....สาธุรักกันไว้เถิด เราเกิดร่วมแดนไทย จะเกิดภาคไหนๆ ก็ไทยด้วยกัน.... ...แหลมสิงห์ ชายหาดอีกแห่งของภูเก็ต...
แหลมสิงห์....อีกหนึ่งหาดที่เงียบสงบ แหม.เห็นคนอื่นเค้าอัพบล็อคกันยกใหญ่ เรารึไม่เห็นได้ไปไหนก็เลยวนเวียนอยู่แต่ในภูเก็ตเนี่ยแหล่ะ...เอาให้เบื่อกันไปข้างนึง... และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งหาดของภูเก็ตค่ะ เป็นชายหาดเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ในเกาะภูเก็ตเนี่ยแหล่ะค่ะ ชื่ออาจจะไม่เป็นที่รู้จักกันสักเท่าไหร่...ยิ่งคนไทยด้วยแล้ว น้อยคนใช่มั๊ยคะที่จะเคยได้ยิน....แต่ขอบอกว่าฝรั่ง เค้าให้ความนิยมพอสมควรที่เดียวค่ะ สาเหตุที่คนต่างชาตินิยมคงเป็นเพราะความเงียบ สงบ ชายหาดขาว น้ำสวยใส เหมาะแก่การนอนอาบแดด พักผ่อนใจได้อย่างดีจริงๆค่ะ... แต่สาวไทยอย่างเรา เห็นแดดแล้วแทบไม่อยากเดินลงไปเหยีบย่างเลยจริงๆ...ก็เรามันคนเซ้นต์ซิทีฟนี่นา แค่เห็นแดดตัวก็ดำแล้ว...5555 ดูรูปดีกว่า...... ใครเล่นน้ำทะเลแล้ว...เค้าก็มีน้ำจืดให้อาบด้วยนะคะ....เป็นน้ำจากภูเขาค่ะ ไหลตลอด...ไม่ต้องคอยเปิดปิด...(เนี่ยแหล่ะ...เค้าถึงอนุรักษ์ต้นไม้ไง...) ช่วงนี้ยังพอมีนักท่องเที่ยวค่ะ ร่มเลยตามมาให้บริการกันเยอะแยะ...เรียกว่ามีนักท่องเที่ยวที่ไหน มีร่มกางที่นั่นเลยเชียว.... ถ่ายรูปแต่คนของเรา....ดูแล้วมันไม่ค่อยสดชื่นค่ะ...ถ่ายฝรั่งดีกว่า ซูมๆๆ ไกลยังไงก็ซูมค่ะ..... เปิดเผยโฉมหน้าคู่แม่ลูกซะหน่อยค่ะ....ทนดูหน่อยละกันน๊า... หาเพื่อนซะแระ....แน่ใจนะลูกว่าเค้าจะไม่กัดอ่ะ.... พอเย็น แดดไม่มี เราก็เริ่มเดินสำรวจชายหาดได้แล้วค่ะ.... ไปไหนก็พาน้องโมชิไปด้วย.... กิจกรรมวิ่งชายหาดเนี่ย น้องโมชิชอบสุดๆ.... อีกรูปละกันค่ะ....แถมๆๆ ช่วงนี้อาจห่างเหินการอัพบล็อคหน่อยนะคะ...พอดีอยากเข้าไปเป็นคน กทม.ซัก2-3อาทิตย์ค่ะ...ม็อบหมดแล้ว กรุงเทพคงน่าเที่ยวขึ้นเยอะเลย..ใช่มั๊ยคะ.... หาดยะนุ้ย ภูเก็ต...หาดเล็กๆแต่ความสวย โช๊ะเด๊ะ ค่ะ...
กิจกรรมวันหยุด.... เดือนนี้วันหยุดเยอะจริงๆค่ะ อยู่บ้านก็แสนเบื่อ ข่าวก็มีแต่การเมืองแสนวุ่นวาย ไมมีอะไรทำ ว่าแล้วก็ชวนคุณแฟนไปว่ายน้ำทะเลดีกว่า...ไหนๆก็อยู่ภูเก็ตแล้ว ไม่ไปทะเลก็ไม่รู้จะไปไหนแล้วล่ะค่ะ.... นั่งคิดกันตั้งแต่เช้าจนบ่าย เห็นแดดข้างนอกแล้วก็อยากเปลี่ยนใจซะให้ได้ อยากดำน้ำแต่ว่ายน้ำไม่เป็น อยากนอนเล่นชายหาดก็กลัวตัวดำ เฮ้อ...อุปสรรคมากมาย จนคนพาไปเริ่มรำคาญ...ตกลงจะไปไหนเนี่ย.... อ่ะ..อะ....ไปจ้าไป.......ไปไหนก็ได้จ้า ขอให้ได้ไป.... ขึ้นรถก่อนจะไปไหนค่อยว่ากัน....วนไปวนมา...จนถึงแหลมพรหมเทพ...แดดยังแรงอยู่เลย ลงไปพระอาทิตย์ก็ยังไม่ตก เลยไปก่อนละกัน เนี่ยเป็นทางลงเขามาจากแหลมพรหมเทพค่ะ.. เห็นต้นตาลก็จำได้กันแล้วใช่ไหมคะ พอลงมาก็เจอชายหาดค่ะ ดูจะเป็นทางผ่านของคนที่มาเที่ยวแหลมพรหมเทพซะมากกว่า..แต่เราสองคนเห็นว่ามันดูสงบเหมาะแก่การดำน้ำพักผ่อนของเราซะจริงๆ...เอาตรงนี้แหล่ะ ได้แระ...ลุยเลย นักท่องเที่ยวมีบ้างประปรายค่ะ...คนไทยหายากมากๆ มีแต่แม่ค้าพ่อค้าเท่านั้นแหล่ะค่ะ...เราเลยปลอมตัวเป็นนักท่องเที่ยวซะเลย (แต่ที่จริงเราก็อยู่ภูเก็ตนี่เอง ...ฮ่าๆๆๆๆ) พอเช่าเตียงได้ สั่งน้ำกินคนละแก้ว คุณแฟนก็ห้าวหยิบอุปกรณ์ดำน้ำลุยสำรวจก่อนเลยค่ะ ทิ้งเรานอนซดน้ำผลไม่อยู่คนเดียว... แต่ลงไปได้ยังไม่ทันไร...ก็ขึ้นมาพร้อมกับมือแดงเถือกมาเลยค่ะ....มาถึงก็ยื่นมือให้เราดู โอ้...พระเจ้า...แผลค่ะแผล เนื้อที่แขนคุณแฟนแหว่ะแยกไปคนะทางเลยค่ะ เหตุก็เพราะชายหาดมันมีหินอ่ะค่ะ แล้ววันนั้นคลื่นค่อนข้างแรง พอลงไปปุ๊บโดนคลื่นซัดล้มลง มือก็เลยไปครูดกับก้อนหินเข้า... โชคดีค่ะที่หาดที่นี่เค้ามีการ์ด ที่คอยช่วยนักท่องเที่ยวอยู่ด้วย เค้าก็เลยทำแผลให้อย่างดีเลย น่ารักจริงๆค่ะ...เห็นนักท่องเที่ยวต่างชาติมาใช้บริการด้วย คงโดนเหมือนเราแน่ๆเลย.... เราเห็นบาดแผลคุณแฟนแล้วหมดอารมณ์ดำน้ำแล้วล่ะ ขนาดเค้าว่ายน้ำเป็นยังแย่เลย...แล้วเราจะไปเหลืออะไร....เอาเป็นนั่งเล่นชายหาด แล้วเก็บภาพสวยๆมาฝากเพื่อนๆชาวบล็อคแก๊งดีกว่า... และนี่ก็คือหาดยะนุ้ย จ.ภูเก็ตค่ะ มีชาวต่างชาติมาทำพิธีแต่งงานกันเล็กๆริมชายหาดด้วยค่ะ...โรแมนติคสุดๆ อยู่กันจนเย็นเลยค่ะ พ่อค้าแถวนั้นบอกอย่าเพิ่งรีบกลับ ให้คอยดูพระอทิตย์ตกก่อน เพราะที่นี่วิวเดียวกับที่แหลมพรหมเทพเลยล่ะ....เอ้า..อยู่ก็อยู่ จบวันด้วยบรรยากาศสบายๆริมหาดค่ะ... หมดไปอีกหนึ่งวัน สำหรับวันหยุดเยอะๆของเดือนพฤษภาค่ะ.... The Hotspring Resort And Spa...พังงา...
The Hotspring Resort And Spa...พังงา สงกรานต์ปีนี้ พ่อแม่พี่น้อง ต่างพากันหนีความวุ่นวายในเมืองกรุงออกมาหาความสงบสุขในต่างจังหวัดแทน โดยจุดหมายที่คุ้นเคยก็คงไม่พ้นบ้านลูกสาวที่อยู่ไก้...ไกล ขับรถกันทีอย่างน้องก็10ชั่วโมงโน่นแหล่ะ... ลูกสาวเห็นถึงความยากลำบาก...เลยจัดทริปเด็ดให้ได้พักผ่อนกันแบบสบายๆกันเลยทีเดียว....และที่ที่เคยไปแล้วรู้สึกประทับใจในความสวยงามอันดับแรกๆเลย คงเป็นที่นี่ค่ะ The Hotspring Resort And Spa... รีสอร์ตแห่งนี้อยู่ในจังหวัดพังงาค่ะ เส้นทางที่ไปถ้าคนไม่คุ้นก็ออกจะลำบากนิดหน่อย เพราะระหว่างทางที่เข้าไปถึงแม้จะไม่ไกลแต่ก็ดูเหงาๆพิลึก......แต่รับรองนะคะ ว่าเข้าไปถึงแล้วไม่ผิดหวังค่ะ ใครสนใจลองเซิร์จหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตดูนะคะ.... ว่าแล้ววันนี้คงไม่มีคำบรรยายอีกตามเคยนะคะ....หน่อยเอาภาพสวยๆมาฝากเพื่อนๆได้ดูกันค่ะ....ไปดูกันเลยดีกว่าน๊า..... บ่อน้ำนีเป็นน้ำแร่ค่ะ..อยู่ตรงกลางระหว่างบ้านพักแต่ละหลัง ร้อนน่าดูเลย ถ้าลงไปมีหวังสุกแน่ๆ... สระน้ำส่วนกลางค่ะ...สวยมากๆ แต่อันเนี๊ยเป็นสระส่วนตัวค่ะ...เล่นกันตามสบายไม่ต้องอายใครเลย ภายในตัวรีสอร์ต สามารถเดินมาชมชายหาดสวยๆบรรยายกาศเงียบสงบ เหมาะแก่การพักผ่อนจริงๆค่ะ... ส่วนของล็อบบี้ค่ะ.. ได้พักผ่อนในสถานที่ดีๆแบบนี้ บางทีก็มีความสุขไปอีกแบบนึงน๊า (เมืองไทยของเรา ไม่ไปไม่รู้จริงๆค่ะ) |
noinanai
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] ...บางครั้งเมื่อชีวิตไม่ราบเรียบอย่างที่หวัง ก็ออกไปเที่ยวซะบ้าง แล้วกลับมาสู้ต่อ... |
||||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |