เจียไต๋แฟร์ 2009
ไหนๆ ก็ได้ไปจิม ทอมป์สัน ฟาร์มละ ขอไปงานพืชผักอีกสักงาน "เจียไต๋แฟร์ 2009 มหัสจรรย์แห่งเมล็ดพันธุ์" ที่ชนม์เจริญฟาร์ม ต.วังด้ง อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ของ บริษัท เจียไต๋ ในเครือซีพีค่ะ อยู่ไปทางไทรโยค ออกจากตัวเมืองไปราวๆ 30 กม.เอง งานจะมีแค่วันที่ 10-18 ม.ค.นี้เองเรา้ต้องไปส่งคุณแม่ขึ้นรถตู้ไปเชียงใหม่ที่บ้านเพื่อนคุณแม่ก็เลยออกแต่เช้า แต่กว่าจะเดินทางออกจากกรุงเทพฯ ก็ราว 6 โมงเช้า วิ่งเส้นนครปฐม-บ้านโป่ง-กาญฯ ไปถึงงานราวๆ 8.30 น. คนยังไม่มีเท่าไหร่เลย วันนี้เป็นวันเปิดงานวันแรก แต่คงเพราะเราไปแต่เช้า เดินถ่ายรูปกันสบายๆ เลยงานนี้มี พืชผักสวนครัว ดอกไม้สวยๆ และเมล็ดพันธุ์จำหน่ายที่เห็นแจกันใหญ่ๆ นั่นคือ เมล็ดพันธุ์ต่างๆ นะคะ เช่นเมล็ดถั่วเขียว แต่งได้เก่ไก๋มากฟักแฟงแตงโมทั้งหลาย โดยเฉพาะไฮท์ไลท์ แตงโมรูปหัวใจ-สี่เหลี่ยมพืชผักสวนครัวสวนดอกไม้ต่างๆโรงเรือนฟักทองมีฟักทองหลากหลายพันธุ์มากเลยค่ะ แบบแปลกๆ ทั้งนั้นเลยขออีกรูป เพราะฟักทองสีสวยๆ น่าตาแปลกๆโรงเรือนมะเขือเทศโรงเรือนเมล่อน และโรงเรือนแตงโม (ไม่ค่อยมีอะไรแปลกใหม่)อาหาร "ตา" สู่อาหาร "ใจ" สวนดอกไม้ในร่มและร้านขายของที่ระลึกในงาน มีบูทไปรษณีย์ไทยด้วย พร้อมด้วยสังขลาฟักทองแสนอร่อย เสียดายที่จับจองไม่ทัน ได้มากินแค่ลูกเดียว อร่อยมากๆหลังจากนั้นก็ตั้งใจจะไป "ช่องเขาขาด" แต่ระหว่างทางเห็นป้าย "แดนมหามงคล" เลยขัีบเข้าไปเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม นุ่งขาวห่มขาวค่ะ ได้เข้าไปกราบพระใหญ่ในศาลาบวชใจด้วย แต่ตอนนี้เค้ากำลังบูรณะหลังศาลาอยู่ น้องชายได้ขึ้นบันไดไปที่เจดีย์ด้านบน (1600 กว่าขั้น) ด้านบนก็ประดิษฐานพระพุทธรูปหยก พระพุทธรูปทำจากไม้จันทร์หอม และพระบรมสารีริกธาตุด้วย เห็นว่าวิวด้านบนเขาสวยมากมองเห็นวิวกว้างมากเป็นสถานที่บวชใจค่ะ บวชด้วยไม่ปลงผม แ่ต่บรรยากาศเหมาะมากแก่การปลีกวิเวก ทำสมาธิ ตอนเข้าไปก็ให้เปลี่ยนชุดขาวด้วย (สวมทับชุดเดิม) ไม่เสียค่าใช้จ่ายค่ะ ไม่เรียกร้องค่าบริจาคใดๆ แล้วแต่ศรัทธาค่ะ เราก็ทำบุญไปบ้างเล็กน้อย แล้วก็ออกไปช่องเขาขาด เราเคยมาแล้ว ก็เลยถ่ายรูปมานิดหน่อย คราวนี้เข้าทำทางเดินลงใหม่ด้วย เพราะทางเดิมอาจโดนหินถล่มเพราะเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยแผ่นดินไหว ทำเป็นสะพานไม้ (ได้เงินลงทุนจากออสเตรเลียค่ะ) ทำดีเชียว แต่เหนื่อยตอนเดินขึ้นเนี่ยล่ะ 55++ใครยังไม่ได้ไปงานเจียไต๋ งานยังมีถึงอาทิตย์หน้านะคะ แล้วก็ไปเช้าๆ แบบเราดีกว่า เดินสบาย ไม่เบียดผู้คน ไม่มีใครแย่งถ่ายรูป แดดก็ยังไม่ร้อนภายในงานก็มีร้านอาหารเล็กน้อย ลูกชิ้น ไก่ย่างห้าดาว บะหมี่ อาหารทะเลแช่แข็ง ผักผลไม้จากฟาร์ม ปุ๋ย และผลิตจากเครือซีีพีค่ะ ปล....โต๊ะกินอาหารยังบางตา คาดว่าถ้าถึงตอนเีที่ยงคงต้องแย่งชิงเก้าอี้ดนตรีกันหน่อยค่ะ ถ้าไปสายๆ ที่จอดแน่นเอี๊ยดเลย บางคันจอดริมถนนไกลมากแล้วเดินเข้างานเอา ไปเช้าๆ ดีกว่ารถก็ยังไม่ติดค่ะ**************
ลัลลาทริป....ทุ่งทานตะวัน และ Primo Posto
ต้องขออภัยด้วย หากหลงเข้ามาแล้วตกใจกับความลัลลาออกนอกหน้า และรูปส่วนตัวของเราเยอะไปหน่อย นะคะ นานๆ จะได้ลัลลาแบบลดอายุตัวเองแบบนี้สักทีที่แรกเลย "ทุ่งทานตะวัน" ที่อ.มวกเหล็กเริ่มมีรูปส่วนตัวเยอะแล้ว 55++ (พอดีตั้งใจไปถ่ายรูปเล่น ลองกล้องใหม่ของน้อง มากกว่าเที่ยวน่ะค่ะ เห็นรูปเยอะๆ แล้วทำใจหน่อยเน้อ)รูปเราแบบรวมมิตรกับน้องๆ ที่ทำงานอุโมงค์ต้นไม้แวะกินสเต็ก (อีกแล้ว) ที่ร้าน Dairy Homeไร่องุ่น Granmonteรวมมิตรรูปน้องๆร้าน Primo Postoกับเพื่อนๆ และน้องๆ ที่ทำงานไปไหนกัน...กระโดดทุกทีขอวิวร้านแบบไม่มีคนบ้างนะคะที่สุดท้ายแล้วค่ะ น้ำพุธรรมชาติ บ้านท่าช้าง อยู่แถวถนนธนรัชต์นั่นแหละค่ะ เข้าไปก็ไม่ไกล น้ำใสเหมือนกับสระมรกตปล. อย่าเม้นท์ว่าเราเว่อร์นะคะ ทริปไปถ่ายรูปเล่นกัน 55++*************
ตลาดน้ำดำเินิน - ทะเลบางขุนเทียน
เป็นเดย์ทริปสั้นๆ ค่ะ รูปถ่ายก็เลยสั้นๆ ตามไปด้วยเพราะวันว่างๆ ที่ต้องมีทริปท่องเที่ยวประจำเดือนของที่บ้าน ทริปนี้คุณแม่อยากมาเองเลย "บางขุนเืทียน"ออกเดินทางออกจากบ้าน ยังเช้ามากอยู่ จึงให้น้องชายแวะไปตลาดน้ำดำเนินสะดวกก่อน เนื่องจากน้องชายยังไม่เคยมา ก็อยากจะไปเห็นสักครั้งเครื่องเทศ....เป็นอีกหนึ่งสีสันของตลาดที่นี่ ซึ่งเป็นที่สนใจของชาวต่างชาติ แต่เรายังงงๆ อยู่ว่าเค้าซื้อไปเป็นที่ระลึก หรือซื้อไปกินกันแน่หลังจากเดินเที่ยวเล่นตลาดน้ำฯ เราก็ย้อนกลับมาบางขุนเทียน แวะ "ศาลพันท้ายนรสิงห์"ได้เวลาอาหารเที่ยงพอดี ก่อนมาก็ได้ไปค้นข้อมูลในบีพีมาว่า ร้านอาหารอร่อย ไม่ควรพลาด ต้องร้าน "ครัวลุงญา" ก็เลยชักชวนกันแวะไป ร้านก็อยู่หน้าศาลนั่นเองมีให้เลือกหลายร้าน แต่ร้านนี้รถจอดเยอะที่สุด ตอนจอดรถแดดร้อนจัดมาก แต่พอเข้ามาบรรยากาศริมน้ำ อากาศเย็นสบายมากเมนูที่สั่งก็ ข้่าวผัดปู ที่เน้นปูมากกว่าข้า่วผัด ไม่เคยกินร้านไหนให้ปูเยอะมากขนาดนี้ แล้วก็ปลาทอดน้ำปลา ต้มยำรวมมิตร ผัดผัก แล้วก็ปูผัดผงกระหรี่รสชาติอร่อยมาก ราคาก็พอได้ ถ้าเราไม่สั่งปูที่ชั่งตามน้ำหนักก็ปาไปกิโลละ 800 ที่เหลือก็ไม่แพงมาก แต่รสชาติชวนติดใจให้ไปกินอีก...ต้องขอบคุณคนแนะนำด้วยนะคะ ถูกปากจริงๆหลังจากนั้นก็ขับไปเที่ยวทะเลบางขุนเทียน ตอนแรกจะขับไปดูปลาโลมา แต่ถนนเหมือนยังไม่เสร็จ ระหว่างทางไปถนนก็เป็นหลุมบ่อมาก ต้องขับรถระมัดระวังหน่อยขับผ่านจุดขึ้นเรือไปชมทะเลกรุงเทพฯ แต่พอไปถึง ถึงรู้ว่าเป็นจุดขึ้นเรือไปร้าน Bangkok Sea View เสียค่านั่งเรือคนละ 50 บาท นั่งชมวิวบ้านเรือนริมน้ำสองข้างทางไปเรื่อยๆไปถึงร้านอาหาร ตอนแรกคิดว่าเค้าจะพาไป หลักเขตกรุงเทพฯ เหมือนที่เห็นในรูป แต่ปล่อยเราลงร้านอาหาร ให้สั่งอาหาร แล้วรอเรือรอบต่อไปค่อยกลับ เราก็เลยถามเขาว่าทำไมไม่พาไป เขาก็บอกว่าคลื่นแรง (จริงหรือเปล่าเนี่ย)บรรยากาศร้านอาหาร เนื่องจากเพิ่งอิ่มมาจากร้านครัวลุงญา ก็เลยสั่งแค่ชา-กาแฟ คนละแก้วขากลับเจอฝนด้วย ต้่องรอจนฝนหยุด ถึงนั่งเรือกลับออกมาได้ รูปก็เลยบรรยากาศเลยขมุกขมัวไปหน่อย ...รูปแม่กับน้องชายเราระหว่างรอเรือกลับกลับออกมาก็ต้องวิ่งช้าๆ เพราะถนนกำลังทำอยู่ ฝนเพิ่งตกไปก็ต้องวิ่งระวังหน่อย....ใครไปแถวนั้นก็ระวังหน่อยนะคะ*********
หาดทรายแก้ว สัตหีบ และไร่องุ่นซิลเวอร์เลค พัทยา
จริงๆ แล้วมี 2 ทริป ไปเหมือนกันคนละช่วงเวลา แต่จะอัพรวมกันเป็นบล๊อกเดียวกันแล้วกันเนอะทริปนี้เป็นทริปพักผ่อนวันเดียวกับเพื่อนๆ ที่ หาดทรายแก้ว สัตหีบสมุดเล่มใหญ่นั่นเป็นประวัติการปรับปรุงหาดทรายแก้วค่ะ เพิ่งปรับปรุงได้ไม่นานนี่เองหาดทรายขาวๆ น้ำใสๆพักกันสักนิดน้ำใสใช่ไหมล่ะอีกรูปเพื่อนๆอุปกรณ์ปิคนิคของเรา 55++หลังจากออกจากหาดทรายแก้วแ้ล้วก็พาเพื่อนๆ แวะไป ไร่องุ่นซิลเวอร์เลคฝนตกและเป็นเวลาเย็นแล้วก็เลยไม่ค่อยมีแดดมุมยอดฮิตกันมาก กว่าคนจะซา หามุมถ่ายได้ร้านขายน้ำองุ่นและผลิตภัณฑ์จากองุ่นทั้งหลายมีร้านขายไอศครีมด้วย แต่ยังไม่ได้ชิมง่ะ ชิมแต่น้ำองุ่น อร่อยมากมีน้ำองุ่นแก้วโตด้วย จะกินไปกี่ปีหมดเนี่ยเพื่อนๆ กับน้ำองุ่นแก้วโตลงไปไร่องุ่นบ้างดีกว่า ไร่องุ่นวิวสวยๆ ด้านหลังเป็นบ่อน้ำไหนลองชิมหน่อยซิ เอ๊ยไม่ใช่ แค่แอ๊คท่าถ่ายรูปก็พอองุ่นพวงโตๆอีกซักพวงปิดท้ายทริปนี้ด้วยรูปนี้ค่ะอ้อ...บรรยากาศดีมากเลยค่ะ โซนด้านบนติดเขากำลังสร้างสโมสรขายอาหารมั๊งคะ มีโดมหลายโดม และมีนักดนตรีทั้งร้องและเล่นเครื่องดนตรีสดด้วยอ่ะ ออกไมค์ดังไปทั่วไร่เลย ตอนแรกนึกว่าเปิดแผ่น ร้องเพลงคลาสสิคด้วย ชอบมากๆที่สำคัญไม่เสียค่าเข้าชมด้วย 55++ กิจกรรมอื่นๆก็มีนั่งรถม้า ขับรถ ATV เห็นว่ากำลังสร้างส่วนที่เป็นบ้านพักเพิ่มเติมเป็นแบบล๊อกเคบินด้วยยังไม่เสร็จ*******ขอเพิ่มรูปอีกทริปก่อนหน้านี่ (พอดีเสียดายรูปถ่ายมาแล้ว) แ่ต่จุดมุ่งหมายที่เดียวกันเลย ต่างกันที่แวะไปไร่องุ่นก่อนตอนเช้าง่ะ บรรยากาศเลยต่างกัน เพราะมีแดด และไปก่อนหน้านั้นนานมากแล้วเลย บางอย่างที่มีในปัจจุบันก่อนหน้ายังไม่มีเลยอ่ะดูนางแบบไปด้วยแล้วกันน้ำองุ่นสุดอร่อย แล้วละ 25 บาทเองมีรถม้าด้วย เที่ยวชมไร่สุดลูกหูลูกตา แต่รอบละเท่าไหร่จำไม่ได้อ่ะหมดแล้ววิวไร่องุ่น เพราะตะก่อนยังไม่มีอะไรเลยค่ะ แวะเข้าไป เขาชีจรรย์ ที่อยู่ไม่ไกลกัน (ไร่องุ่นอยู่หลังเขาชีจรรย์ค่ะ) แล้วก็ขับรถไปหาดทรายแก้ว อยู่ในโรงเรียนชุมพลทหารเรือ เข้าไปก็เลี้ยวซ้ายมือ แลกบัตรผ่านกันก่อน เพราะต้องเ้ข้าเขตทหารสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ภายในค่ายขับรถตรงเข้าไปเลยค่ะ บรรยากาศสวยคล้ายอุโมงค์ต้นไม้พอไปถึงแล้วก็ต้องจอดรถทิ้งไว้ แล้วไปซื้อตั๋วรถสองแถวพาไปหาด เพราะไม่ให้นำรถเข้าไปค่ะ ยกเว้นหลัง 17.00 น. สำหรับพวกที่ค้างคืนที่หาดจ่ายค่ารถกันก่อน คนละ 30 บาท (ไป-กลับ)ระหว่างทางจุดชมวิวสวยๆหาดทรายขาวๆร้านอาหาร ที่นี่มีบ้านพักด้วย "บ้านทรายแก้ว 1" อันนี้เป็น 2 หลังนะคะ น่าจะหลังละ 700 บาท/คืนนะคะ แต่ต้องโทรจองแต่เนิ่น เต็มตลอด แต่ก็มีบริการนอนเต้นท์ด้วยค่ะ หน้าหาดมีต้นสน บรรยากาศดีเชียวอุปกรณ์กัดแดด-กันดำ ของเราจบทริบ (จริงๆ) ด้วย 2 ภาพนี้แล้วกันjust relaxเหนื่อยนัก...ก็พักกันบ้างนะคะHave a nice weekend ค่ะเพื่อนๆ*****
บ้านพิพิธภัณฑ์....ย้อนความทรงจำในวัยเด็ก
ที่ที่หนึ่งที่เราอยากมาหลายครั้งแต่ก็พลาดไป ครั้งนี้เลยต้องมาให้ได้ เลยต้องนัดกันสายหน่อย เพราะพิพิธภัณฑ์เปิด 10.00 โมงเช้า ขนาดนัดกัน 9.00 โมงเช้า ยังมาถึงก่อนพิพิธภัณฑ์เปิด ก็เลยนั่งแลกของฝาก ของขวัญปีใหม่กันในรถ"บ้านพิพิธภัณฑ์" ที่ตั้ง ซอย คลองโพ 2 ศาลาธรรมสพน์ ถ.พุทธมณฑล สาย 2เวลาเปิดทำการ เสาร์-อาทิตย์ เวลา 10.00-17.00 น. ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 30 บาท เด็ก 10 บาท หลังจากเสียค่าเข้าชมแล้วก็เข้ามาตื่นตาตื่นใจที่ชั้นล่างกันก่อน ร้านขายของชำ สารพัดสิ่งของขายของเก่าๆ เช่นนี้ร้านขายของเล่นขึ้นมาชั้นสองโรงพิมพ์ (อันนี้บอกตามตรงว่าไม่เคยเห็น เกิดไม่ทันจริงๆ ค่ะ)ข้าวของเครื่องใช้ในครัวเรือนสมัยก่อนร้านถ่ายรูปกล้องถ่ายรูปที่เรียงรายอยู่ในตู้เบื้องหลังภาพสวยของภาพสมัยก่อนถ่ายออกมาแล้วเป็นอย่างนี้ 55+++มีโรงหนังฉายหนังขาวดำด้วยค่ะ ซื้อตั๋วกันก่อนนะคะร้านนี้ ทั้งตัดผมและรับตัดเสื้อผ้ามุมบ้านเก่าขึ้นไปชั้น 3 กันค่ะที่ว่าการอำเภอห้องเรียนสมัยโบราณนาฬิกาเก๋ๆ ที่เราต้องแอบเหล่มองเสมอ ว่าเมื่อไหร่จะหมดคาบเสียทีแบบเรียนสมัยโบราณร้านขายแผนเสียงมุมข้่าวของเครื่องใช้ในบ้านถุงไปรษณีย์ลงไปชั้นล่างกันต่อในส่วนที่เรายังไม่ได้แวะร้านขายยาร้านขายขนมขนมเหล่านี้ จำกันได้บ้างไหมข้ามไปอีกอาคารนึงร้านขายกาแฟ (แถมพร้อมทั้งคนชงและคนชิม)อุปกรณ์การชงร้่านขายทองร้านทำฟัน แค่เห็นก็กลัวแล้วร้านเครื่องเขียนไฟฉายตรากบ เกิดทันกันไหมสุดท้าย ซื้อโปสการ์ดส่งหาเพื่อนกันดีกว่า********************