นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ 80 พรรษา เมืองทองธานี
นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550วันที่ 1-10 ธันวาคม 2550 ศูนย์แสดงสินค้าฯ เมืองทองธานีพอเดินเข้างานเค้าจะแจกแผ่นพับเพื่ออธิบายแต่ละโถงการแสดงนะคะ(คำบรรยายที่เราเขียนใต้แต่ละโถง เราเขียนตามแผ่นพับที่แจกให้มานะคะ)นิทรรศการแบ่งเป็น 9 โถงโถงที่ 1 มหาจักรีบรมราชวงศ์พระราชประวัติและพระราชกรณียกิจอันโดดเด่นของพระมหากษัตริย์แห่งราชวงจักรีโถงที่ 2 พระราชประวัติพระราชประวัติฯ เมื่อครั้งทรงพระเยาว์ พระบรมราชาภิเษกสมรส และการเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติแต่งโถงด้วยหิมะจำลองด้วยค่ะ (จำลองให้เหมือนประเทศสวิสฯ)พร้อมด้วยภาพหาดูยากมีน้ำพุด้วยโถงที่ 3 พระอัจฉริยภาพพระอัจฉริยภาพด้านต่างๆ ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระอัจฉริยภาพด้านการถ่ายภาพพระอัจฉริยภาพด้านกีฬาพระอัจฉริยภาพด้านจิตรกรรมพระอัจฉริยภาพด้านคีตศิลป์พระอัจฉริยภาพด้านวรรณกรรมพระอัจฉริยภาพด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี(เขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำ)โถงที่ 4 แนวคิดและทฤษฏีการพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืนพระราชกรณียกิจ อาทิ โึครงการรักษาป่า โครงการอนุรักษ์ดินและน้ำการปลูกหญ้าแฝก เพื่อพลิกพื้นดินแห้งแล้งการทำฝนหลวง เพื่อช่วยปัญหาฝนแล้งโครงการแก้มลิง เพื่อช่วยปัญหาน้ำท่วมโครงการปลูกป่าชายเลน เพื่อป้องกันความรุนแรงของภัยธรรมชาติโถงที่ 5 ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงแนวพระราชดำริปรัญชาเศรษฐกิจพอเพียงที่สามารถนำไปใช้ในการดำเนินชีวิตอย่างพอเพียงบอร์ดเพื่อให้เขียนปณิธานแห่งความพอเพียงแนวคิดความพอเพียงของคนดัง (ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล) จริงๆ แ้ล้วมีหลายคน แต่ในความคิดเราบางคนไม่เห็นจะพอเพียงตรงไหนเลย ต้องแบบดร.สุเมธสิ พอเพียงจริงๆแนวคิด....โถงที่ 6 เสด็จฯ เยี่ยมเหล่าทหารหาญเรื่องราวของการเสด็จฯ เยี่ยมและให้กำลังใจเหล่าทหารหาญฉายวีดีทัศน์ แฮ่ม..ที่นั่งชมยังเป็นเหมือนบังเกอร์เลยอ่ะด้านหน้าโถง มีรูประหว่างการเสด็จฯ เยี่ยมแล้วเกิดอุบัติเหตุรถคว่ำด้วยให้เห็นว่าพระองค์ทรงเหน็ดเหนื่อยและต้องฝ่าอันตรายแค่ไหนโถงที่ 7 เสด็จฯ เจริญสัมพันธไมตรีต่างประเทศเรื่องราวของการเสด็จฯ เจริญสัมพันธไมตรี เยื่ยมเยือนนานาอารยประเทศโถงที่ 8 สถิตในดวงใจ ไทยทั้งผองเรื่องราวในฐานะทรงเป็นกษัตริย์ผู้ให้ กษัตริย์ผู้ก่อประโยชน์สุขแก่เหล่าพสกนิกรชาวไทย และกษัตริย์ผู้เป็นศูนย์รวมแห่งจิตใจของไทยทั้งชาติโถงนี้เค้าจำกัดคนเข้าเป็นรอบๆ คนเยอะและเราคลาดกับแม่เรา เราก็เลยไม่ได้เข้าไปดูเลย โถงที่ 9 80 พรรษา ถวายพรพระภูมินทร์ร่วมถวายพระพรแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรับบัตรเขียนคำถวายพระพร พร้อมภาพถ่ายในหลวงและสติ๊กเกอร์เรารักในหลวงไว้ติดรถฟรีนำบัตรอวยพรไปแขวนไว้มาร่วมเคาะระฆัง 80 พรรษาจบงานแต่เพียงเท่านี้ค่ะพอออกมานอกงาน ก็มีแจกซีดี ตอนแรกแจกสีเหลือง เป็น CD + VCD พร้อมเพลง 4 เพลง แต่แม่เราออกมาก่อนแต่ออกอีกทางเลยไม่ได้เขียนคำถวายพระพร แม่เราก็ไม่ยอม ขอเข้าไปใหม่เราก็เลยต้องเข้าไปเป็นเพื่อน จนได้เขียนคำถวายพระพรสมใจ พอกลับออกมาเค้าแจกซีดีเพลงพระราชนิพนธ์ (แบบสีเทา) อีกคนละแผ่น เราเลยได้ซีดี 2 แบบเลย (เปล่าโกงนะคะ)หลังจากออกจากงานนี้ก็ไปเดินงานเมดอินไทยแลนด์ต่อ (ไม่มีรูปนะคะไม่ได้ถ่าย ตั้งใจไปถ่ายงานนิทรรศการอย่างเดียว) เดินไปเดินมาขาจะลาก จอดรถไปตั้ง 5 ชั่วโมงแน่ะใครที่ยังไม่ได้ไป หยุดหลายวันถ้าไม่ได้ไปเที่ยวไหนอย่าลืมแวะไปนะคะ งานมีถึงวันที่ 10 ธันวาคมไม่ได้มีนิทรรศการเฉพาะในกรุงเทพฯ เท่านั้นนะคะ จัดนิทรรศการฯ 4 ภูมิภาคเลย ที่ จ.ขอนแก่น จ.สงขลา จ.เชียงใหม่ และจะ.ชลบุรีค่ะ ใกล้ที่ไหนไปดูได้เลยนะคะปิดท้ายด้วยคำคมจากงาน แล้วคุณจะรู้ว่า "ในหลวงรักคนไทยมากแค่ไหน" ************************
รวมภาพ...นิทรรศการ
งานที่ 1 The 1st ASEAN Arts and Craft Festival 2006 ที่ศูนย์ศิลปาชีพบางไทรอาคารที่จัดนิทรรศการภายในงานก็มีบูธงานศิลปะของแต่ละประเทศศิลปะการเขียนภาพพู่กัน จีนโบนัสที่ได้ไปงานนี้ ได้ชมการชักหุ่นกระบอกของพม่าและหุ่นกระบอกน้ำของเวียดนาม ไม่ต้องไปถึงประเทศเวียดนามก็มีมาให้ชมถึงที่เลยงานที่ 2 นิทรรศการ 4 ปีทีวีบูรพาชอบๆ รูปวาดปู่เย็นปู่เย็นตัวเป็นๆและยายฮาย2 พิธีกรหนุ่ม คนค้นคน กำลังแจกลายเซ็นคิวยาวเหยียดงานที่ 3 แสงสีปีใหม่ ถนนราชประสงค์แต่ตอนเราไปกลางเดือนมกราคม เค้าเก็บไฟจนแทบไม่เหลือความสวยงามแล้วสิเริ่มต้นนัดที่ ร้านเค้ก Secret Recipe สยามพาราก้อนแวะสักการะพระพรหมเอราวัณ เพื่อเป็นสิริมงคลปีใหม่ถ่ายรูปเล่น หน้า Central Worldกับเพื่อนๆงานที่ 4 พลุเมืองทองฝ่ารถติดเป็นชั่วโมงๆ เพื่อไปรอถ่ายรูป แต่กล้องติงต๊องได้ภาพมาดูดีเท่าที่เห็นบนทางด่วนเมืองทอง ยามกำลังโพล้เพล้งานที่ 5 รวมพลคนเสื้อเหลือง ถนนราชดำเนิน 5 ธันวาคนเสื้อเหลืองเยอะมากๆขบวนพาเหรด นักเรียนนายร้อยไฟประดับ หน้าโรงแรมรัตนโกสินทร์แสงเทียนไชโย หลังจบเพลงสรรเสริญพระบารมีพลุไฟสนามหลวง เบลอมากๆงานที่ 6 กิจกรรมของบริษัท มอบคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์การเรียนให้น้องๆ ที่โรงเรียนวัดท่าด่าน จ.นครนายกอันนี้ดูไม่เกี่ยวกับนิทรรศการเท่าไหร่แห่งแรกแวะไปถ่ายรูปหมู เอ๊ย หมู่กับผู้บริหารและพนักงานตัวแทนที่ไปทำกิจกรรม ที่บริเวณเขื่อนท่าด่านก่อนเค้าให้ใส่เสื้อเหลืองด้วยทำกิจกรรมร่วมกับน้องๆ ก่อนพี่ๆ สต๊าฟร่วมร้องเพลงระหว่างน้องๆ เล่นเกมส์น้องๆ มาต่อแถวรอรับของรางวัล
นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ 50 ปี ทรงพระผนวช
ตั้งใจจะไปเดินเล่นงานภูเขาทอง แต่ไหนๆ ก็ไม่อยากให้เสียเที่ยว ไปชมนิทรรศการ ทรงพระผนวชที่วัดบวรฯ ที่อยู่ใกล้ซะเลย นิทรรศการจัดเป็นวันสุดท้ายแล้วด้วยข้อมูลประวัติการผนวชและการจัดนิทรรศการ จาก //www.manager.co.th หลังจากที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงขึ้นครองราชย์ในปี พ.ศ.2499 พระองค์ท่านทรงมีพระราชศรัทธาที่จะผนวชในพระพุทธศาสนา ดังนั้นในวันที่ 22 ตุลาคม 2499 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจึงได้เข้าพระราชพิธีทรงพระผนวช ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง โดยมีสมเด็จพระวชิรญาณวงศ์ สมเด็จพระสังฆราช เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร ทรงเป็นพระอุปัชฌาจารย์ และทรงได้รับพระสมญานามว่า ภูมิพโล ภิกขุ หรือขานพระนามตามสำนักพระราชวังว่า พระภิกษุพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อเสร็จพระราชพิธีทรงพระผนวชแล้ว พระภิกษุพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระสังฆราชเจ้า มาประทับ ณ พระตำหนักปั้นหย่า วัดบวรนิเวศวิหาร ซึ่งทรงเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์ที่ 4 ที่เสด็จออกทรงพระผนวชขณะทรงครองราชย์ และเนื่องในวโรกาสเฉลิมพระเกียรติ 50 ปี ทรงพระผนวช ทางคณะกรรมโครงการบูรณปฏิสังขรณ์วัดบวรนิเวศ ในพระบรมราชูปถัมภ์ จึงได้จัดงาน นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ 50 ปี ทรงพระผนวช ขึ้น เพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อพระพุทธศาสนิกชน และพระราชกรณียกิจขณะที่ทรงพระผนวชเริ่มต้นจากอาคารมนุษยนาควิทยาทาน วัดบวรนิเวศวรวิหาร ภายในงาน เริ่มต้นขึ้นไปชั้นบนจะมีประวัติของสมเด็จพระสังฆราชองค์ปัจจุบัน และอดีตภายในห้องแรกสมเด็จพระพุทธโสภิต เรืองฤทธิ์ อุดมญาณ(พระพุทธรูปทรงเครื่องปางห้ามสมุทร)ห้องประวัติพระสังฆราชจากองค์อดีต-ปัจจุบัน ในรัชสมัยของ ร.9 เราค่ะ (รวม 19 องค์ค่ะ)ตู้หนังสือเก๋ (ถ่ายรูปมาเพราะเห็นว่าน่ารักดี)ภาพเจ้าอาวาสวัดบวรฯ ในอดีต-ปัจจุบันเข้าสู่งานนิทรรศการการผนวชเราชอบรูปนี้มากเลย ทรงพระสรวลกันบรรยากาศภายในห้องนิทรรศการโชคดีมากที่เรามาวันสุดท้าย เค้ากำลังเก็บเครื่องอัตถบริขารของในหลวงสมัยยังผนวชอยู่ เลยเก็บภาพได้ทันเราออกจากงานนิทรรศการเกือบได้เวลาปิด แวะเดินถ่ายรูปภายในวัดเราว่าวัดบวรฯ มีสถานที่หลายๆ แห่งน่าเข้าไปเที่ยวชมมาก เนื่องจากเป็นวัดเก่า มีพิพิธภัณฑ์เก็บของเก่าจำนวนมาก วันหลังว่าจะมาเที่ยววัดบวรฯ อย่างเดียวแวะไหว้พระประธานภายในโบสถ์ ซึ่งมีประชาชนจำนวนมากมาสวดมนต์ไหว้พระในวันพระนี้พอดี โชคดีอีกแล้ว เราได้รับแจกพระไพรีพินาศ ด้านหลังสลักอักษรย่อ ภปร. ซึ่งวัดทำแจกในงานนี้โดยเฉพาะหลังจากออกจากวัด เราก็ไปเดินเล่นบางลำภู แวะกินผัดไท แถวๆ ซอยระหว่างบางลำภูกับข้าวสารซะหน่อย แต่ไม่กล้ากินเยอะ เนื่องจากหมายมาดว่าค่ำๆ จะอยู่รอกินโจ๊ก 9 หม้อ ขึ้นชื่อซะหน่อยแต่แพงชะมัด ผัดไทเส้นกับไข่ 20 บาท (ก็มันถนนข้าวสารนี่เนอะ)แล้วก็ไปเดินเล่นงานภูเขาทอง ไฟประดับบนภูเขาทองสวยงามมาก แต่ก็อีกนั่นแหละ กล้องเราซูมได้แค่เนี่ยบรรยากาศร้านขายของในวัด เราไม่ได้ถ่ายรูปเท่าไหร่ เนื่องจากคนเบียดเสียดกันหนาแน่น เพราะเป็นวันลอยกระทงอยากเล่นมาก "ปาลูกโป่ง"ถ่ายกระทงซะหน่อย แต่วันนี้ไม่ได้ลอยเดินกลับไปบางลำภู เพื่อกินโจ๊ก 9 หม้อดังที่ตั้งใจไว้อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ยามค่ำคืนโฉมหน้า โจ๊ก 9 หม้อรูปสุดท้าย โฆษณาร้านซะหน่อยเดินเล่นวันลอยกระทง แต่ไม่ได้ลอยกระทงซักแอะ...
ซุ้มไฟเฉลิมพระเกียรติ
9 มิถุนายน 2549
เริ่มต้นจากงานนิทรรศการฯ จบที่ซุ้มไฟเฉลิมพระเกียรติ
4 มิถุนายน 2549เริ่มต้นตอนเช้าด้วยการไปงานนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ ที่เมืองทองธานี ซึ่งครั้งนี้เป็นการชมงานครั้งที่ 2 เนื่องจากไปครั้งแรกแล้วแบตกล้องหมดอย่างน่าเสียดาย ครั้งที่ 2 นี้จึงกลับไปแก้มือ พร้อมด้วยประชาชนล้นหลามกว่าเดิมมากๆ หลังจากนั้นเราก็เดินทางไปถนนราชดำเนินเพื่อดูซุ้ม แต่เผอิญไปเร็วไปหน่อย ฟ้ายังไม่มืด ซุ้มก็ยังไม่เปิดไฟ หลายๆ ซุ้มยังตกแต่งไม่เสร็จ และเราก็ยังไปไม่ถึงพระบรมรูปทรงม้าอ้างอิงจากคู่มือชมซุ้มของคุณ noinop ที่ได้รับแจกจาก กทม. ที่ลงใน BP วันก่อน แต่เพิ่งมาเห็นที่หลัง แล้วแบตกล้องก็ใกล้หมดเต็มทีแล้ว เลยไม่หมดทุกซุ้มที่เดินผ่านเลย ฮือๆ อย่างนี้ต้องไปแก้มืออีกแล้วซุ้มที่ 13 มงคล 8ซุ้มที่ 10 มหาจักรีฐานของซุ้มมหาจักรีเข้ามาสู่ถนนราชดำเนินกลางเครื่องราชสักการะ มี 3 สิ่ง แต่ถ่ายได้แค่ 2 ค่ะ เนื่องจากบายศรี 9 ชั้นตั้งอยู่ที่ไฟแดงหน้าลานพลับพลาฯ รถติดอยู่เลยถ่ายไม่ได้ซุ้มที่ 8 ธูปเทียนแพซุ้มที่ 7 พานพุ่มทองผ่านอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยต่อไปเป็นซุ้มเครื่องสิริราชกกุธภัณฑ์ซุ้มที่ 6 มหาพิชัยมงกุฎซุ้มที่ 5 พระแสงขรรค์ชัยศรี (บรรยากาศเริ่มมืดแล้ว)ซุ้มที่ 2 ฉลองพระบาทเชิงงอน (พอดีแวะเข้าถนนข้าวสารเพื่อค่าเวลาให้พระอาทิตย์ตกดิน กลับออกมา เลยไม่ได้ถ่ายซุ้มที่ 3 วาลวิชนี และพระแส้ และซุ้มที่ 4 ธารพระกร)บรรยากาศแสงไฟโดยรอบซุ้มเฉลิมพระเกียรติกาญจนาภิเษก หน้าสะพานผ่านพิภพลีลาภาพจบทริปนี้ค่ะ แบตหมดพอดี เอาไว้ไปถ่ายซ่อมใหม่ ภาพก็เบลอๆ ไม่ค่อยชัดเลย ไม่รู้คนถ่ายห่วย หรือกล้องไม่ตั้งขาตั้งกล้อง และกล้องไม่ได้เน้นให้ใช้ถ่ายภาพกลางคืน และต้องซูมมากๆ หรือเปล่า ปลอบใจตัวเองก่อน เอาไว้แก้มือแล้วจะมาใหม่นะ....