อิตาลี ตอนที่ 5 Malcésine


Day8 26/08/05

วันนี้ตั้งใจว่าจะไปเมือง Malcésine ซึ่งอยู่ตอนบนของทะเลสาป จะไปขึ้นเคเบิ้ลเพื่อขึ้นไปเดินเล่นบนยอดเขา Monte Baldo ซึ่งสูงถึง 2132 เมตรจากระดับน้ำทะเล แต่ดูท่าแล้วน่าจะไม่ได้เดิน เพราะวันนี้อากาศไม่ดี ท้องฟ้าขะมุกขะมัว มีหมอกลง แต่ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ตั้งใจจะไปก็ไปดีกว่า เผื่อว่ากลางวันอากาศอาจจะดีขึ้น ปล่อยให้ มชล ไปเล่นกับเพื่อนซักพักนึงก่อน ใกล้ 11 โมงเราก็ออกเดินทางกัน

เราขับรถเลียบทะเลสาปไปเรื่อยๆ และไปลงเรือข้ามฟากเพื่อร่นระยะทางที่เมือง Maderno จากนั้นกขับรถต่อไปยังที่หมาย ชายฝั่งด้านตะวันออกนี้ เราว่าสวยกว่าด้านตะวันตกอีกนะ มีหาดกว้างกว่าแล้วก็เป็นหินขาวๆก้อนเล็กๆ น่ามองไปตลอดทาง ไม่นานเราก็ถึงเมือง Malcésine ก่อนจะไปขึ้นเคเบิ้ล ก็ต้องหาอะไรรองท้องกันก่อน ระหว่างที่มองหาที่กินกลางวัน เราก็อดใจที่จะไม่เดินดูเมืองไหว ก็มันน่ารักมากๆเลย แต่ก็ต้องตัดใจ เอาไว้ค่อยกลับลงมาดู ขืนชักช้าจะอดขึ้นซะเปล่าๆ แต่ขนาดว่ารีบแล้วก็เกือบบ่ายสามแล้วถึงได้ขึ้น เพราะต้องรอ มชล กินข้าว แล้วก็เดินๆๆ จะมาเดินจ้ำแบบเราก็ไม่ได้ ก็เลยต้องช้าแบบนี้แหละ


ท่าเรือที่เมือง Maderno



ฝั่งตรงข้าม Maderno

บ้านเรือนในเมือง Malcésine


เคเบิ้ลที่เราจะขึ้นนี้เพิ่งสร้างเมื่อปี ค.ศ.2002 นี่เอง ค่าขึ้นไปกลับคนละ 13.50 ยูโร เป็นแบบหมุนได้รอบ 360 องศา ใช้เวลาเพียง 10 นาที ก็จะขึ้นไปถึง de Monte Baldo ข้างบนมีสองสถานี เราสามารถลงที่สถานีแรกด้านบน เพื่อหยุดเดินเล่นหรือชมวิว เรามาถึงจุดแรก ยังพอจะมองเห็นวิวข้างล่างได้มั่ง แต่ก็ไม่ชัดเจนเพราะหมอกลง หลังจากนั้นก็ขึ้นต่อไปยังสถานีบนสุด ซึ่งตรงจุดนี้จะสูง 1760 เมตรจากระดับน้ำทะเล จริงๆตั้งใจจะขึ้นไปเดินเล่นและไปให้ถึงจุดที่สูงที่สุด เพื่อไปชมวิวด้วย แต่ว่าวันนั้นเราไม่สามารถเดินไปได้ เพราะหมอกลงจัดมาก จนมองไม่เห็นป้ายบอกทางเลย อาจหลงทางหรือเดินตกเขาได้ เลยเดินได้แค่นิดหน่อยก็ต้องกลับมานั่งจิบกาแฟที่ร้านใกล้ๆสถานี แล้วก็ตัดสินใจลงมาเที่ยวในเมืองกันดีกว่า

ภาพนี้จากเวปท่องเที่ยว เราจะขึ้นไปด้วยกระเช้าแบบนี้แหละ



จากที่เห็นนี้เรากำลังจะขึ้นไปสถานีบนสุดชั้นที่สอง







จากเวปท่องเที่ยว (ถ้าไม่มีหมอกเราจะได้เห็นแบบนี้)



พักก่อนนะคะ


ลงมาข้างล่างแดดจ้าเชียว นั่งพักกินแอปเปิ้ลกันแล้วก็เดินต่อ เราว่าเมืองนี้น่ารักกว่าทุกๆเมืองเลย ร้านค้าบ้านช่องจะอยู่บนเนินลดหลั่นสลับกันไป แค่เดินชมบ้านเราก็ไม่เบื่อเลย เอกลักษณ์ที่ขาดไม่ได้คือ การตากผ้าโดยโจ่งแจ้ง บางทีก็คร่อมถนนเลย ดูบ้านดูช่องรวมทั้งมองๆหาที่กินตอนเย็นไปด้วย จากนั้นยังมีเวลา เราก็จะไปสำรวจปราสาทริมทะเลกัน ชื่อปราสาทนี้ก็ดันจำไม่ได้ซะอีก ได้แผ่นพับข้อมูลมาด้วย แต่หาไม่เจอซะแล้วตอนนี้ ก็เลยข้ามเรื่องราวนี้ไปก็แล้วกัน เราขึ้นไปถึงด้านบนสุดด้วย ก็มาแล้วก็อยากจะดูให้มันละเอียด สองพ่อลูกรออยู่ด้านล่าง เพราะมันสูงมาก กลัวจะเอา มชล ไม่ทัน เวลาถ้าเค้าอยากทำอะไรเอง แล้วเนี่ย ห้ามไม่ฟัง แถมจะคอยวิ่งหนีอีกด้วย เลยให้อยู่ข้างล่างนั่นแหละ

ขึ้นมาแล้วก็ไม่ผิดหวังเลย จากบนยอดนี้สามารถมองเห็นวิวของเมืองนี้ สวยงามมาก ไม่ว่าจะเป็นด้านชายฝั่งทะเล หรือฝั่งทางด้านที่อยู่อาศัย เราใช้เวลาข้างบนนานพอสมควร ไม่ใช่อะไรหรอก ก็กว่าจะเดินขึ้นไปถึงนะ เหนื่อยเอาการ


ทางขึ้นปราสาท







มองจากยอดบนจะเห็นสถานีเคเบิ้ล







เมฆมาบังดวงอาทิตย์พอดีเลยได้ภาพนี้มา







มองจากช่วงกลางปราสาท



ชั้นถัดไป



เห็นสองพ่อลูกลิบๆ



จุดชมวิวด้านข้าง หวิวๆ


ลงมาจากปราสาทแล้ว เราก็เริ่มมองหาที่กินข้าวกันล่ะ ถ้าร้านที่อยู่ด้านในๆ ส่วนมากจะเป็นแบบสแน๊คบาร์ซะมากกว่า หรือไม่งั้นก็จะเป็นร้านแบบทึมๆ ต้องนั่งในร้าน ไม่เอาดีกว่า มันอึดอัด เดินไปรอบๆริมทะเล น่านั่งทั้งนั้นเลย แต่ๆๆๆ ราคาแพงจัง แถมคนก็เยอะมากๆเลยอ่ะ ดูมันวุ่นวาย เอ้าเดินหาต่อไป เกือบปลายหมู่บ้านแล้ว จนไปเจอร้านนึง ดูหน้าร้านท่าทางไฮโซ อาหารก็ราคาแพง คนก็ไม่เยอะด้วย แต่ที่น่าสนใจคือมีเมนูกุ้งเผาด้วย หันไปมองหน้าผู้ร่วมทาง แล้วบอกว่า เอาร้านนี้แหละนะ มื้อสุดท้ายที่ทะเลสาปแห่งนี้ เพราะพรุ่งนี้เราต้องไปที่ใหม่แล้ว แพงก็ช่างเหอะ อยากกินมากๆเลย เป็นอันว่าตกลง เดินเข้าไปข้างในสุด โอ บรรยากาศดีมากๆเลย ได้นั่งติดทะเลด้วย เราก็แบบเกร็งนิดๆเพราะแต่งตัวแบบโทรมๆกันเลย บริกรสุภาพมากเลย เป็นกันเอง ไม่ทำให้เราดูตัวลีบ มีการมาแนะนำพนักงานที่จะคอยดูแลโต๊ะเราด้วย เราสั่งกุ้งเผา ส่วนบาร์ทสั่งสะเต๊กเนื้อ มชล สั่งมักกะโรนี ในนั้นจะมีแต่จานใหญ่ๆ พนักงานก็ถามว่า ต้องการเป็นจานเล็กมั๊ย เพราะสำหรับเด็กมันจะเยอะไป ดีมากเลยค่ะ พอถึงเครื่องดื่ม บาร์สั่งเบียร์ เรานึกกระแดะขึ้นมาหรือไงไม่รู้ สั่งไวน์ขาวค่ะ ก๊ากกกก ปกติจะกินได้แค่แก้วเดียวเท่านั้นแหละ ก็สั่งไปว่าหนึ่งแก้ว แต่พอเค้ามาเสริฟ มาเป็นเหยือกเล็กอ่ะ ประมาณสองแก้วได้ ตายละหวา ต้องซัดคนเดียวด้วย เอาก็เอาวะ แล้วจะบอกว่าผลเป็นไง อิอิ

อาหารมาเสริฟแล้ว ของบาร์ทจานใหญ่เชียว ของเราก็ใหญ่นะ แต่กุ้งน่ะมีแค่หกตัวเอง แต่ยังดีที่ไมใช่ตัวกะจิ๋ว แต่อร่อยมากเลย
บาร์ทมาขอชิมด้วย เราบอกไม่ได้หรอก มีแค่นี้เองง่ะ ชั้นก็ไม่อิ่มน่ะสิ มีหวงกินด้วย ก๊ากกกกก จริงๆไม่ใช่อะไรหรอก มชล ก็จะกินด้วย สำหรับลูกไม่หวง แต่รู้งี้สั่งให้เค้าด้วยซะตอนแรกก็ดีแล้ว ฮืมๆๆ มื้อนี้ไม่เสียดายตังเลย อร่อยจริงๆ ตอนมาจ่ายตังที่เคาเตอร์ (ร้านนี้แปลก จะมาจ่ายตังที่เคาเตอร์ด้านหน้า) เค้าแถมเหล้าอะไรไม่รู้ แช่เย็นไว้นะ คนละแก้วเล็กๆ ก็ดื่มไปด้วย อึ๋ย รสขมๆหวานๆบอกไม่ถูก แต่ที่แน่ๆร้อนวาบเลย

หลังจากกินเสร็จ ก็ออกมาเดินย่อยอาหารกัน ร้านค้าบางร้านยังไม่ปิด ก็เดินดูไปเรื่อย มาเจอเสื้อคลุมยีนส์ตัวยาวถึงเข่า ลดราคาด้วย อยากได้ เลยไปลอง คนขายก็ดี ซื่อสัตย์ดี เราลองแล้วเค้าบอกว่า มันใหญ่ไปนิดนึงสำหรับเธอนะ คือชอบที่เค้าไม่บังคับขายเราน่ะ โดยส่วนใหญ่เราจะเจอว่า ดีค่ะ สวยค่ะ เหมาะมากเลย ทั้งๆที่เราเห็นแล้วว่ามันไม่ได้เรื่อง แต่เราชอบมากอ่ะ แล้วมันก็แค่ว่าไหล่ตกไปนิดนึง เลยบอกว่า ไม่เป็นไร ชั้นอยากได้ เด๋วให้แม่สามีแก้ให้ก็ได้ ตกลงเราซื้อ ถึงตอนจ่ายเงิน เราจ่ายบัตรเครดิตไป แต่พอเราออกมาจากร้านแล้ว ก็กำลังจะเก็บบัตรเข้ากระเป๋า เอ๊ะ นี่มันบัตรเอทีเอ็มนี่หว่า เราหยิบผิด เพราะสองบัตรนี้หน้าตามันคล้ายๆกัน แถมสีเดียกันอีก (บัตร Postbank)ทำไมเครื่องมันรับวะ แสดงว่าผลของไวน์สองแก้ว แล้วก็เหล้าอีกแก้วเล็กๆ มันออกฤทธิ์น่ะสิ คือจริงๆ เราก็เริ่มมึนๆเบลอๆแล้วล่ะ อิอิ ส่วนที่เครื่องมันรับบัตร ก็คงเพราะมันคือบัตรเอทีเอ็มซึ่งใช้จ่ายเงินแทนการจ่ายสดได้ คือตัดบัญชีทันทีเลย แล้วมันมีตรามาสเตอร์การ์ดอยู่ด้วย มันก็เลยผ่านฉลุย สรุปก็จ่ายสดไปไม่ได้ใช้เครดิต 5555555


ยอดนั้นล่ะที่คลานขึ้นไปน่ะ


เดินชมเมืองดีกว่า



ทางเดินน่ารักๆ







ในร้านอาหาร



บรรยากาศยามเย็น






ขากลับบาร์ทดันขับหลงทางอีก ขับเพลินไม่ได้ดูป้าย เราก็เริ่มเมาแล้วก็ง่วงด้วย ก็เลยไม่ได้ช่วยดู เลยกลับถึงที่พักสี่ทุมกว่าๆ ไปถึงก็ไม่สนใจแล้ว เปลี่ยนชุดนอนเลย ทั้งแม่ทั้งลูก 55555555 มชล ดีใจมากแม่มานอนด้วย (ปกติพ่อจะพาเข้านอน)นอนกอดเราแน่นเลย


จบงี้ทุกทีเลย









Create Date : 29 ธันวาคม 2548
Last Update : 11 มกราคม 2549 4:27:18 น. 16 comments
Counter : 502 Pageviews.

 
wooooooooooow!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
อลังการงานสร้างจริงๆ ค่ะ
ไกน์สาวก็น่ารัก สุดๆ ค่ะ


โดย: menzel วันที่: 29 ธันวาคม 2548 เวลา:5:57:41 น.  

 
สวยมากๆค่ะ ชอบอิตาลี่มากนะคะ โรแมนติก เหมาะสมที่สุดกับครอบครัวน่ารักและแสนดีทั้งสามคนน่ะค่ะ


โดย: ปุ้ม หญิง IP: 61.90.105.204 วันที่: 29 ธันวาคม 2548 เวลา:17:12:59 น.  

 
บรรยากาศดีจัง ชอบเมืองแบบนี้ง่ะ ดูสงบๆดี

สวัสดีปีใหม่คับ


โดย: simple things วันที่: 29 ธันวาคม 2548 เวลา:19:41:37 น.  

 
แวะมาแปะการ์ดครับ อิๆ




โดย: simple things วันที่: 29 ธันวาคม 2548 เวลา:21:01:02 น.  

 
Malcesine และ Monte Baldo เป็นอะไรที่ผมประทับใจมาก

ยังจำตอนขึ้นไปข้างบน วันนั้นอากาศสุดยอดมากเลยพี่ ขี้เหนียวค่าลิฟต์ กะว่าจะเดินลง สุดท้ายได้แค่ครึ่งทางเอง หมดแรงข้าวต้ม

แต่มุมที่เห็นจากลานบนเขานั้นสวยตรึงใจผมอยู่เลยอ่ะครับ อยากดูรูปต้องคลิ๊กไปที่บล๊อคผมแหละ แหะๆ

น้องมชลนี่ท่าทางจะชอบเดินเที่ยวชมเมืองนะครับพี่

ขอเดาว่าอายุน้อยกว่าเจ้าทิมมี่ ที่ร๊อตเตอดัมแน่เลย พูดแล้วคิดถึง อยากไปเยี่ยมหาที่นั่นสักที อยากกินน้ำพริกกะปิ


โดย: หนุ่มเฮสเซ่น (Hessenboy ) วันที่: 29 ธันวาคม 2548 เวลา:21:35:26 น.  

 
ประทับใจทุกภาพครับ แต่ภาพที่มีเมฆมาบังดวงอาทิตย์สวยสุดๆ




โดย: maczy วันที่: 29 ธันวาคม 2548 เวลา:22:46:58 น.  

 
ขอบคุณทุกๆคนที่มาทักทายนะคะ สวัสดีปีใหม่และขอให้โชคดีมีความสุขกันมากๆค่ะ

แจ๊ค พี่ไปดูรูปที่เวปมาก่อนแล้ว ยังอิจฉาอยู่เลย อยากลุยๆแบบนั้นมั่งอ่ะ ติดที่ไอ้ตัวเล็กนี่แหละ ปีนี้ปีแรกที่เค้าเดินเที่ยวเอง ปีก่อนๆ ยังต้องแบกกันอยู่ (อิอิ พ่อเค้าแบกใส่หลังไปอ่ะ) กะว่าปีหน้าจะไปลุยฟินแลนด์กันสองคน เอาเค้าไปฝากย่าไว้ แต่พอเห็นเค้าเดินเก่งแบบนี้เลยเปลี่ยนใจแล้ว เด๋วปีหน้าเอาไปด้วย


โดย: jeab&michelle วันที่: 30 ธันวาคม 2548 เวลา:0:56:22 น.  

 
ขอให้คุณเจี๊ยบเเละครอบครัวมีความสุขมากๆในปีใหม่ที่จะมาถึงนี้
คิดหวังสิ่งใดสมความปรารถนาทุกประการนะคะ
((เที่ยวอิตาลี่คุ้มจริงๆเลยนะคะ เที่ยวละเอียดเลย...คุ้มๆๆๆ))


โดย: ปลาทอง9 วันที่: 30 ธันวาคม 2548 เวลา:4:27:47 น.  

 
เพิ่งมีเวลามาตามอ่านนะเจี๊ยบ ลูกยังเล็กๆ อย่าเก็บตัวอยู่กับบ้านนะจ๊ะ ดีแล้วเที่ยวเยอะๆ เมื่อก่อนเราทำแบบเจี๊ยบเหมือนกัน ไปมันเรื่อยตุรกี อียิปต์ โดมินิกัน ปารีส ออสเตรีย เว้นอิตาลี อิๆ ไปไหนกระเตงลูกไป พวกเยอรมันหาว่าเราทรมาณเด็กนะ

ตอนนี้ลูกเข้าโรงเรียนลาได้อย่างมากสามอาทิตย์เศษๆ และต้องพาไปหาตายาย โอกาสเที่ยว ตปท. นอกจากเมืองไทยมันน้อยลงมากเลย ไปได้ก็แค่ใกล้ๆในยุโรปอย่างสเปญ ไม่สนุก ไม่ตื่นเต้น และลาได้แค่อาทิตย์กว่าๆ ปีหนึ่งเราลาได้แค่สามสิบห้าวันเอง

มาเชียร์เจี๊ยบเที่ยว จะได้เก็บตกเกร็ดต่างๆจ้ะ

อ้อ ส่งใบลาช่วงปีใหม่ด้วยนะ เหอๆ เพื่อนแฟนมาเที่ยวพักด้วย ไม่รู้จะหาเวลามาเวะได้หรือเปล่า มาเที่ยวนี้เก็บตกได้เยอะเลย คุ้มจ้ะ


โดย: มพถ IP: 84.139.107.24 วันที่: 30 ธันวาคม 2548 เวลา:6:36:01 น.  

 






Happy New Year'2006

หนี่ฯเอาการ์ดามาฝากค่ะ
มีความสุขมากๆๆ และตลอดไป




โดย: หนี่หนีหนี้ (แพรวขวัญ ) วันที่: 30 ธันวาคม 2548 เวลา:12:19:03 น.  

 
แวะมาลงชื่อ่อนค่ะ เดี๋ยวจะเข้ามาตามอ่าน ครอบครัวเจ้าของบล็กน่ารักและอบอุ่นดึนะคะ


โดย: brasserie 1802 วันที่: 30 ธันวาคม 2548 เวลา:13:43:00 น.  

 
สวัสดีปีใหม่ครับ มีความสุขมากๆ ในปี 2549 นี้นะครับ




โดย: หนุ่มเฮสเซ่น (Hessenboy ) วันที่: 1 มกราคม 2549 เวลา:19:39:25 น.  

 
It sounded so wonderful trip. Makes me wanna go there too (^^)

Happy New Year kha


โดย: mommy45 วันที่: 3 มกราคม 2549 เวลา:1:27:11 น.  

 
ขอบคุณทุกๆคนที่เข้ามาทักทายและอวยพรนะคะ ขอให้มีความสุขมากๆในปีใหม่นี้จะคะ

มพถ เรากำลังคิดอยู่เลยว่า ปีหน้านี้ มชล เข้า รร แล้ว เวลาก็คงมีจำกัด อาจได้เที่ยวน้อยลง เพราะต้องพาเค้าไปเมืองไทยมากกว่า ยายคอยอยู่


โดย: jeab&michelle วันที่: 3 มกราคม 2549 เวลา:18:42:56 น.  

 




หนี่ฯแอบบบ ตามไปด้วยอีกแล้วค่ะ
ตะการ สายตา มากๆๆเลยยยยย


อากาศที่นั่นเป๊นใงบ้างค่ะ
หิมะตกรึยัง หนี่ฯอยากรู้ อีกแล้วค่ะ



โดย: หนี่หนีหนี้ (แพรวขวัญ ) วันที่: 3 มกราคม 2549 เวลา:23:17:35 น.  

 
สวยจังเลยค่ะ อยากไปๆๆๆๆๆๆ



โดย: yadegari วันที่: 13 มกราคม 2549 เวลา:4:55:36 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

jeab&michelle
Location :
ตอนใต้ของเนเธอร์แลนด์ Netherlands

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






บล๊อคของคนชอบเที่ยวค่ะ พาลูกตระเวนเที่ยวไปทั่ว จนเดี๋ยวนี้ลูกก็ติดเที่ยวด้วยแล้วเหมือนกัน
หนังสือเราเองค่ะ

เที่ยวเนเธอร์แลนด์บายเจี๊ยบ

Promoot jouw pagina ook

web page hit counter
New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add jeab&michelle's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.