เช้าวันที่สองเราของการเดินทาง วันนี้เราจะแวะไปบ้านซันด้วย (น้องที่รู้จักกันทางเนต)ที่ Garmisch Partenkirchen เราจึงต้องออกเดินทางกันตั้งแต่แปดโมงเช้า วันนี้เราจะใช้เส้นทาง Augsburg-Garmisch Partenkirchen-Insbruck(ออสเตรีย)แล้วจึงมุ่งหน้าเข้าอิตาลี จุดมุ่งหมายคือหมู่บ้าน San Felice del del Benacoในทะเลสาบคาร์ดา
ระหว่างทางฝนตกพรำๆอีกแล้ว ระหว่างที่รถแล่นไปเรื่อยๆ ยิ่งเข้าใกล้เขตเมืองที่ซันอยู่ เรานึกสงสัยว่า ทำไมยังไม่มีภูเขาอีกนะ เพราะเมืองนี้เป็นเมืองที่เค้ามีการเล่นสกีแล้วก็ใช้เป็นที่แข่งขันการกระโดดสกีระดับโลกด้วย ขณะที่กำลังนึกอยู่นั้น เหลือระยะทางอีกประมาณ 60 กม ก็จะถึงเมืองนี้แล้ว จู่ๆก็ปรากฎภูเขาขึ้นมาทันที ต้องบอกก่อนว่า โดยทั่วไปเวลาที่เราเข้าเขตเทือกเขาเนี่ย เราก็มักจะเห็นเทือกเขาใหญ่น้อยลดหลั่น สลับกันไป แต่ที่นี่ไม่เป็นอย่างนั้น เป็นพื้นราบ แล้วจู่ๆก็เป็นเขาเลย ภูมิประเทศแถบนี้สวยมาก แต่เสียดายฝนตกเลยไม่ได้แวะถ่ายรูปเลย ได้แต่รูปเนี๊ย
ไปถึงบ้านซันก็สิบโมงครึ่งกว่าแล้ว บ้านซันน่ารัก มีต้นแอ๊ปเปิ้ลหน้าบ้านด้วย ไปถึงก็ทักทายกันยังไม่ทันไรก็จัดการกินกันซะแล้ว อิอิ สำหรับเจ้าบ้านคงเป็นมื้อเช้า ของเรากลายเป็นมื้อเที่ยงไป มื้อนี้สามีซันลงทุนไปซื้อมาด้วยตัวเอง เป็นไส้กรอกเยอรมันแบบต้ม เป็นอาหารท้องถิ่นของที่นี่ ซันเตรียมไว้คนละสองชิ้นแต่เรากินได้แค่ชิ้นกับอีกนิดหน่อยเอง ก็มันชิ้นเล็กซะเมื่อไหร่ล่ะ แล้วก็เพิ่งกินอาหารเช้ามาจากโรงแรม เลยไม่มีที่ว่างให้ใส่ ทั้งๆทีเป็นของชอบของเราเลย ก็ไส้กรอกเยอรมันน่ะอร่อยนนี่นา กินไปก็คุยกันไป สามีซันก็เป็นคนเงียบๆ คล้ายบาร์ท งานนี้เลยมีแต่เรากับซันคุยกันแบบรีบๆเลย ก็มีเวลาน้อยอ่ะ ซันก็ต้องรีบไปดูกระเบื้องทำบ้าน เราก็ต้องออกเดินทางต่อ เพราะระยะทางยังอีกยาวไกล แถมฝนก็ต้งเค้ามาอีกแล้ว
ลีนุสกับมิเชลเลอร์
หลังจากร่ำรากันเสร็จเราก็ต้องออกเดินทางกันต่อ โดยใช้เส้นทางเล็กมุ่งหน้า Insbruck ประเทศออสเตรีย ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวที่น่าสนใจของออสเตรียอีกเมืองนึง แต่เราไม่ได้แวะ เพราะเคยไปมาแล้ว ตอนที่มิเชลเลอร์ขวบกว่า พอเข้าเขตชายแดนออสเตรียได้ไม่เท่าไหร่ ฝนก็ตกพรำๆ แถมรถติดอีก ติดนานมากๆเลยเราต้องเปลี่ยนไปใช้ทางด่วนแทน พอเริ่มเข้าเขตอิตาลี ขับรถมุ่งหน้าสู่ Verona เพื่อจะไปทะลสาบคาร์ดา เราตัดสินใจว่าจะใช้เส้นทางด่วนตลอด เนื่องจากระยะทางไกลมาก แต่พอเข้าทางด่วนไปได้ไม่เท่าไหร่ รถก็ติดนานมากๆ รถมากจริงๆ ที่เห็นก็เป็นคนที่จะไปเที่ยวทั้งนั้น แต่ละคันก็มีสัมภาระเต็มรถ มีทั้งคนอิตาลีเอง แล้วก็ที่เยอะก็เห็นจะเป็นคนเยอรมัน แต่รถของคนดัชท์มีบ้างประปราย ไม่เยอะเท่าไหร่ เพราะเป็นช่วงเปิดเทอมกันแล้ว แต่เราไปช่วงนี้ได้ เพราะมิเชลเลอร์ยังไม่ได้เข้าโรงเรียน
เริ่มจะเข้าเขตอิตาลีแล้ว
เนื่องจากรถติดแบบไม่ขยับเอาซะเลย เราเลยตัดสินใจออกไปใช้ทางเล็กคู่ขนานดีกว่า เพราะในบางช่วงเราเห็นว่ามันไม่ติด แล้วรถก็ไปได้เรื่อยๆ พอตัดสินใจออกจากทางด่วน ก็อยากจะบ้าตายอีก ดันมาติดตรงช่องจ่ายเงินอีก พอผ่านช่องจ่ายเงินมาได้ ก็มาติดแหงกอีก เพราะรถทางเลนซ้ายเลนขวาวิ่งตัดกันให้วุ่น เฮ้อ นึกว่าเราอยู่เมืองไทยซะอีก อิอิ พอหลุดมาได้ ขับไปได้ซักพัก ติดอีกแล้ว ติดแบบขยับได้ทีละนิดๆ เริ่มอารมณ์เสียล่ะ เอ้า มองเข้าไปทางด่วนใหม่ เออ ทีนี้มันโล่งอีกแล้ว เอาไงดี เอาวะ เข้าไปใหม่ วิ่งไปได้เรื่อยๆ ติดอีกแล้วอ่ะ แต่ว่ายังไม่ถึงกับติดแหงก ยังไปได้เรื่อยๆ ติดบ้างวิ่งบ้าง จนท้องเริ่มร้องอีกแล้ว เลยแวะปั๊มน้ำมันเพื่อเข้าห้องน้ำแล้วก็หาอะไรรองท้องกันเพราะตอนนั้นก็สี่โมงเย็นแล้ว พอเลี้วเข้าปั๊มมาได้หน่อยนึง โอ๊ยจะบ้าตาย คนเยอะมากๆ ทั้งรถบัส รถส่วนตัว รถคาราวาน มองไปตรงห้องน้ำ คิวยาวมากกกกกกกกกกกโดยเฉพาะห้องน้ำหญิง ส่วนห้องน้ำชายไม่แน่น เพราะว่าผู้ชายไปปล่อยข้างทางข้างป่ากันได้ เรายังไม่ปวดมากเลยรอไปก่อนดีกว่า หาอะไรกินก่อน รอให้คนซาลงแล้วค่อยไปเข้า แต่ว่า มชล (ต่อไปนี้คือคำย่อของมิเชลเลอร์) ทนไม่ได้แล้วอ่ะ จะให้ฉี่ข้างๆรถเธอก็ไม่ยอม แบบว่าคนเยอะไง แหมตัวแค่เนี้ยทำเป็นอาย สุดท้ายเลยให้ไปฉี่กับพ่อที่ห้องน้ำชายซะเลย อิอิ
ออกจากปั๊มไปได้สักพักรถเริ่มติดอีกแล้ว เวรกรรม มาเที่ยวแล้วเจอแบบนี้อยากกลับเลย นี่ขนาดเลยช่วงซัมเมอร์ไปแล้วนะเนี่ย ถ้ามาช่วงซัมเมอร์คงบอกกลับบ้านกันเถอะ ทำไงดี เอาวะออกจากทางด่วนไปใช้ทางคู่ขนานแล้วกัน เห็นรถมันว่างๆ มันหลอกเราอีกแล้วค่ะ วิ่งฉิวได้แค่พักใหญ่ๆ ทีนี้ติดหนึบเลย ยังเหลือระยะทางอีกยาวไกล ยังไม่มีวี่แววว่ามันจะเลิกติดเลย หกโมงเย็นกว่าๆแล้ว จะบ้าตายอยู่แล้ว ต้องตัดสินใจขับรถย้อนกลับไปเข้าทางด่วนอีก คราวนี้โชคดี รถเริ่มบางตาแล้ว ขับไปได้เรื่อยๆ จนกระทั่งไม่ติดเลย มาแวะหาของกินรองท้องอีก เพราะสองทุ่มครึ่งแล้ว กินเสร็จต้องโทรไปที่แคมปิ้งอีกว่าเราคงเข้าไปเช็คอินไม่ทันแน่(เค้าให้ถึงสี่ทุ่มอ่ะ) ก็โอเคเค้าให้ไปเอากุญแจกับยาม ออกจากปั๊มสามทุ่มแล้ว ตอนนี้เริ่มใช้ความเร็วของรถได้เต็มที่ เพราะถนนเริ่มว่าง อาจเป็นเป็นช่วงอาหารค่ำ หรือว่าบางส่วนก็ออกนอกเส้นทางไปแล้วหรือถึงที่พักไปแล้วก็ได้ สรุปเราถึงที่พักที่เมือง San Felice del Benacoประมาณสี่ทุ่มครึ่ง เก็บข้าวของอย่างคร่าวๆเสร็จแล้วก็เข้านอนกันเลย เพราะเหนื่อยมาทั้งกัน ตื่นกันตั้งแต่เจ็ดโมงกว่าๆ ขับรถกันมาตลอดทั้งวัน (จริงๆเรานั่งอย่างเดียว ก๊ากกกกกก ยังบ่นอีก)
อ้อ หลังจากที่เรามาถึงอิตาลีได้สองวัน ก็ได้ข่าวว่า มีฝนตกหนักในเขตเยอรมัน น้ำท่วมเสียหายหนัก โดยเฉพาะเส้นทางที่เราขับผ่านมานั้นถูกน้ำตัดขาด เมืองAugsburg ที่เราพักนั้นก็ถูกน้ำท่วมเสียหายหนัก เมืองที่ซันอยู่ก็น้ำท่วมเสียหายหนัก นึกเป็นว่าบ้านซันจะเป็นไงมั่ง จะโทรไปก็โทรไม่ได้เพราะการสื่อสารถูกตัดขาดหมด มารู้ข่าวซันสองสามวันหลังจากเกิดเหตุแล้วว่า บ้านซันไม่ได้โดนน้ำท่วม ก็ค่อยยังชั่ว เรียกว่าโชคดีมากๆเลยที่เราผ่านมาก่อน ไม่งั้นคงไม่ได้เดินทางต่อแน่ๆเลย