Chapter 39

ตอนที่ 39
"ทำไมไม่ยอมไปรับพ่อกับแม่หละลูก?" เสียงมารดาเอ่ยทักไจ่ไจ๋ที่นั่งลูบหัวเจ้าพีพีอยู่อย่างหงอยๆ ไจ่ไจ๋เงยหน้าขึ้นมองเจ้าของเสียงแล้วฝืนยิ้ม
"จะไปทำไม? เดี๋ยวก็ต้องเห็นหน้ากันทุกวันอยู่แล้ว" พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบแล้วลุกเดินหนีเข้าบ้าน คำพูดนั้นทำให้บุพการีทั้ง 2 คนถึงกับอึ้งไป แม้กระทั่งเจอร์รี่เองก็ยังนึกไม่ถึงว่าน้องชายจะพูดออกมาแบบนี้
"เข้าบ้านเถอะครับ" เจอร์รี่พูดตัดบทแล้วช่วยพ่อแม่ยกสัมภาระเข้าบ้าน
"อ้าว....มากันแล้วหรอ?" แวนเนสเอ่ยทักแล้วลุกขึ้นไปช่วยพี่ชายถือกระเป๋า
"เป็นไรกันหรอ?" แวนเนสบุบใบ้ไปทางผู้ให้กำเนิดทั้งสองที่มีสีหน้าเจื่อนๆพร้อมกับเอ่ยถามพี่ชายแบบไม่มีเสียง
"จะเป็นอะไรได้หละ?" เจอร์รี่ตอบแล้วผงกหัวขึ้นไปด้านบน
"ไม่น่าหละ....ไอ้ตัวดีหน้าหงิกเข้ามาเชียว" แวนเนสกระซิบแล้วหันไปยิ้มแหยๆให้พ่อกับแม่ที่มองเขายืนซุบซิบกับพี่ชายอยู่
"มีความลับอะไรกันหรอจ๊ะ?" แม่เอ่ยถามแวนเนส คนถูกถามยิ้มกลบเกลื่อนแล้วเฉไฉเดินเข้าไปกอดมารดา
"คิดถึงม๊ากมาก......" แวนเนสเอ่ยปากอ้อนทำให้แม่อดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้
"คิดถึงเหมือนกันจ๊ะ! แล้วนี่ไม่สบายหายหรือยัง? แล้วตกลงไปทำอะไรมาถึงได้ไข้ขึ้น?" แม่ย้อนถามพลางเอามือลูบแก้มลูกชายอย่างอ่อนโยน
"หายแล้วครับ! ส่วนสาเหตุก็อย่างที่บอก!" พูดจบก็เหล่มองพี่ชายแล้วหัวเราะออกมา
"ยังมีหน้ามาหัวเราะอีก! เดี๋ยวเถอะ!" เจอร์รี่เงื้อนไม้เงื้อนมือขึ้น แวนเนสเบี่ยงตัวไปหลบอยู่หลังบุพการีทันที
"อะไรกันเนี่ย 2 คนนี้? เล่นอะไรกันเป็นเด็กๆ!" พ่อพูดยิ้มๆแล้วโอบไหล่แวนเนสยืนหลบอยู่ข้างๆ
"เสี้ยวเทียนหละลูก?" พ่อถามต่อ
"ไปทำงานยังไม่กลับ สงสัยกลับดึกอีกตามเคย!" แวนเนสตอบแล้วจูงมือพ่อไปนั่งที่โซฟา
"พ่อแม่นั่งก่อนเดี๋ยวผมไปเอาน้ำมาให้" พูดจบก็วิ่งเข้าห้องครัวไปเสียงดังโครมคราม
"เฮ้ย!! ค่อยๆเดิน!!" เจอร์รี่ตะโกนไล่หลังแล้วส่ายหน้ากับความไฮเปอร์ของน้องชาย
"หัดเป็นตาแก่ขี้บ่นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?" พ่อดึงมือลูกชายคนโตให้นั่งข้างๆ
"พ่อก็....." เจอร์รี่ครางแล้วทำหน้างอนๆ พ่อกับแม่ประสานเสียงหัวเราะกันขึ้นมา
"พ่อน่ะอย่าไปแซวลูกสิ! เดี๋ยวเกิดงอนไม่เลี้ยงน้องขึ้นมาเราจะลำบากนะ" แม่แกล้งพูดหยอกพ่อ
"เอาไปเลี้ยงเองให้หมดเลยพ่อ! ผมเหนื่อยละ!" เจอร์รี่ได้ทีพูดทีเล่นทีจริง
"ฮึ! แหย่หน่อยทำงอน!" พ่อผลักหัวลูกชายอย่างหมั่นไส้แกมเอ็นดู
"ทำพูดดีไป.....เดี๋ยวพ่อทำจริงๆแล้วอย่ามาบ่นว่าเหงาหละ!" พ่อพูดต่ออย่างอารมณ์ดี เจอร์รี่หัวเราะออกมาเบาๆ
"น้ำครับ!" แวนเนสยื่นแก้วน้ำให้พ่อกับแม่
"ขอบใจมาก" พ่อแม่ตอบรับพร้อมกัน
"อะ!" แวนเนสยื่นแก้วน้ำให้พี่ชายด้วย เจอร์รี่ยิ้มแล้วรับแก้วน้ำมา
"ขอบใจ.....วันนี้ท่าทางคงจะมีพายุนะเนี่ย!" พี่ใหญ่อดที่จะพูดแซวน้องไม่ได้
"งั้นไม่ต้องกินเลย! ไปหยิบเองปะ!" แวนเนสแย่งแก้วน้ำมาจากมือพี่ชายมาดื่มเองหน้าตาเฉย
"อ้าว......มีงี้ด้วยหรอ?" เจอร์รี่ถือแก้วค้าง แม่ตีแขนแวนเนสเบาๆ
"ทำไมชอบไปแกล้งพี่เขานะ!" แม่เอ็ดลูกชายคนรอง
"พี่ใหญ่เริ่มก่อนนะแม่! ผมยังไม่ทันทำอะไรเลย!" แวนเนสประท้วงหน้ามุ่ย
"หรอจ๊ะ?" แม่ย้อนถามยิ้มๆ
"ใช่สิ! นั่นมันลูกรักหนิ! จะทำอะไรก็ถูกก็ดีไปซะทุกอย่าง!" แวนเนสพูดงอนๆ
"ขี้งอนแบบนี้ใครจะไปรักหละ?" แม่แกล้งพูดขึ้นลอยๆ พ่อกับเจอร์รี่มองแวนเนสขำๆ
"ก็มีอยู่คนนึงนะ" เจอร์รี่พูดต่อให้แวนเนสรีบหันควับไปมองพี่ชาย
"จริงหรือเปล่าเอ่ย?" เจอร์รี่แกล้งถามย้ำ
"ไอ้บ้า!!!" แวนเนสทุบพี่ชายเป็นพัลวันด้วยความเขิน เจอร์รี่เอาแขนขึ้นมากันแต่ก็หัวเราะชอบใจไปด้วย
"ฮ่าๆๆ!!! โอ้ย!! เจ็บนะ!!!" พี่ใหญ่ร้องโอดโอยเพราะรู้สึกเจ็บขึ้นมาจริงๆ
"หยุดๆๆ!! พอแล้วลูก!!" แม่ร้องห้ามเสียงหลงพร้อมกับดึงแขนแวนเนสไว้
"ทำไมเล่นแรงแบบนี้หละ? พี่เขาเจ็บนะ!" แม่ทำเสียงดุลูกชายคนรอง
"ทำสำออยไปอย่างงั้นแหละ! เจ็บอะไรที่ไหน? เวลาพี่ใหญ่ทำผมเจ็บกว่านี้อีก!" แวนเนสเถียงแล้วหันไปถลึงตาใส่พี่ชายที่ยิ้มอย่างผู้ชนะ
"พี่เขาทำอะไรเรา?" พ่อย้อนถามแวนเนสบ้าง
"พี่ใหญ่ชอบบิดหูอ่ะ!" แวนเนสได้ทีฟ้อง
"สมน้ำหน้าแล้ว!" แม่พูดแทรกขึ้นแล้วเสียงหัวเราะก็ดังขึ้น ยกเว้นแวนเนสที่ไม่ขำด้วย
"รักกันมากก็คุยกันไป 3 คนก็แล้วกัน! ผมจะไปนอนแล้ว!!" พูดจบแวนเนสก็ลุกพรวดขึ้นยืน
"แหม.....แม่เขาล้อนายเล่นน่ะทำงอนไปได้" เจอร์รี่เอ่ยปากง้อน้องชายเมื่อเห็นแวนเนสเริ่มจะงอแง
"ไม่รู้ไม่ชี้!" แวนเนสพูดเสียงห้วนแล้วสะบัดหน้าหนี
"หืม.....ขี้งอนจริงจริ๊งง....." แม่ลุกขึ้นยืนแล้วโน้มคอแวนเนสเข้ามาหอมแก้มเสียฟอดใหญ่
"เจ้าจอมทะโมนของแม่ออกจะน่ารักขนาดนี้ใครจะไม่รักได้เนี่ย!!" แม่รีบพูดเอาใจลูกชายเมื่อเห็นว่าการหยอกล้อนั้นออกจะแรงไปนิดเพราะคนที่ไม่ค่อยคิดอะไรอย่างแวนเนสเริ่มจะงอนขึ้นมาจริงๆ
"จริงหรอ? รักแค่ไหน?" แวนเนสย้อนถามแต่ยังมีท่าทีงอนๆอยู่
"รักที่สุดเลย!" แม่ตอบ
"ไม่เชื่อ! แม่รักพี่ใหญ่มากกว่า!" พูดจบก็หันหลังให้แต่แอบกลั้นยิ้มไว้
"ใครบอก? แม่น่ะรักลูกมากกว่าอีกนะ! เพราะอะไรรู้มั๊ย? เพราะว่าลูกน่ะหน้าตาเหมือนแม่กว่าใครๆเลยงัย!" แม่ยังพูดเอาใจลูกชายต่อไป ส่วนพ่อก็นั่งมองแม่ลูกหยอกล้อกันอย่างมีความสุข
"จริงนะ!" แวนเนสย้ำคำเมื่อแม่พยักหน้าตอบรับแวนเนสก็สวมกอดมารดาแน่นพร้อมกับยิ้มร่า
"โหย!! หมั่นไส้!!!" เจอร์รี่เอ่ยขึ้นลอยๆ
"นี่แหนะ! ว่าน้องได้ยังงัย!" แม่ตีแขนเจอร์รี่ดังเพี๊ยะ ทำเอาคนถูกตีสะดุ้งเฮือก
"หูย.....แม่อ่ะ....." เจอร์รี่ครางออกมาเบาๆพร้อมกับเอามือลูบแขนตัวเองไปมา เสียงหัวเราะจึงได้ดังประสานกันขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง

- ที่ห้องเคน -
"กลับดึกนะ" พ่อเอ่ยทักขึ้นทันทีเมื่อเคนก้าวขาเข้าห้อง เสียงนั้นทำให้เจ้าของห้องถึงกับชะงัก
"พ่อ" เคนเรียกพ่อเสียงแผ่ว
"ตกใจหรอลูก? ขอโทษทีนะ พอดีเห็นลูกยังไม่กลับแล้วพ่อเองก็นอนไม่ค่อยหลับ จะลุกขึ้นมาเปิดไฟก็เกรงใจแม่เขา เลยถือวิสาสะเข้ามาในห้องลูกโดยไม่ได้ขอลูกก่อน" พ่อให้เหตุผลพร้อมกับลุกขึ้นยืน
"ไม่เป็นไรหรอกครับ ยังงัยนี่ก็บ้านพ่ออยู่แล้ว" เคนตอบแล้ววางกระเป๋าลงบนโต๊ะทำงาน
"บ้านของเราลูก ไม่ใช่บ้านของพ่อคนเดียว" พ่อแย้งขึ้นด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล เคนนิ่งไปก่อนที่จะฝืนยิ้มออกมา
"พ่อตามสบายนะครับ เดี๋ยวผมขอเข้าไปดูน้องหน่อย" เคนบอกแล้วทำท่าจะหมุนตัวออกจากห้อง
"น้องหลับแล้ว อย่าไปกวนน้องเลย" พ่อพูดแทรกขึ้นแล้วเดินเข้าไปแตะไหล่ลูกชาย เคนยืนก้มหน้านิ่ง
"ถ้าไม่เป็นการรบกวน พ่ออยากพูดคุยกับลูกบ้าง" พ่อเกริ่นนำขึ้นมา เคนเม้มปากอย่างลังเล
"แต่ถ้าลูกเหนื่อยแล้ว อยากนอนพักผ่อนก็ไม่เป็นไร" พ่อพูดตัดบทแล้วทำท่าจะออกจากห้องไป
"เอ่อ.....พ่อครับ....." เคนเรียกพ่อไว้ ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกัน แต่เสียงนั้นทำให้คนฟังรู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูก
"ผมยังไม่ง่วง ถ้าพ่ออยากคุยก็ได้ครับ" เคนแทบจะไม่รู้สึกตัวในขณะที่พูดอยู่เลย รอยยิ้มปรากฎขึ้นบนใบหน้าของชายวัยกลางคน
"งั้นเราไปนั่งคุยที่เตียงกันดีมั๊ย?" พูดจบพ่อก็จับแขนลูกชายแล้วพาเดินไปที่เตียงด้วยกัน
"ทำงานเป็นยังงัยบ้างลูก? เหนื่อยมากมั๊ย?" พ่อเป็นฝ่ายเริ่มต้น
"เหนื่อยเหมือนกันครับ เพราะผมต้องทำงานหนักกว่าคนอื่นๆ" เคนตอบแล้วถอนลมหายใจออกมาเบาๆ
"หนักกว่าคนอื่น?" พ่อทวนคำด้วยสีหน้างงๆ
"ครับ! ด้วยเหตุผลที่ว่าเพราะผมเป็นเด็กฝาก ใครๆก็เลยคิดว่าผมคงไม่มีความสามารถอะไร" คำพูดนั้นทำให้พ่อนิ่งงันไปพักใหญ่ แล้วเคนเองก็เงียบไปด้วยเช่นกัน
"พ่อขอโทษที่ทำให้ลูกต้องลำบาก แต่พ่อเห็นว่าลูกอยากได้งานนี้พ่อก็เลย....." พ่อพูดต่อไม่ออกได้แต่กลืนน้ำลายกลับลงคอด้วยความลำบาก
"พ่อก็เลยใช้อำนาจที่พ่อมีทำให้ผมได้ในสิ่งที่ต้องการ!" เคนพูดต่อให้ด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
"แต่ไม่เป็นไรหรอกครับ ยิ่งใครเขาดูถูกผมมากเท่าไหร่มันก็ยิ่งเป็นแรงผลักดันให้ผมต้องยิ่งกระตือรือร้นมากขึ้น ไม่งั้นมันอาจจะทำให้พ่อขายหน้าได้" เคนพูดต่อโดยไม่ได้มองหน้าคู่สนทนา พ่อนิ่งเงียบไป
"ผมยังไม่ได้ขอบคุณพ่อเลยที่ทำให้ผมมีงานทำ ขอบคุณมากนะครับ!" คำพูดทุกคำที่หลุดออกมาจากปากของลูกชายเสียดแทงใจผู้เป็นพ่อยิ่งนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งแล้วด้วยท่าทีที่เฉยเมิยของคนตรงหน้ายิ่งทำให้คนเป็นพ่อร้าวรานใจเป็นอย่างมาก
"ลูกไม่จำเป็นต้องขอบคุณพ่อหรอก พ่ออยากบอกให้ลูกรู้ว่าทุกสิ่งที่พ่อทำนั้นมันไม่ใช่เพราะว่าเป็นหน้าที่ แต่พ่อตั้งใจทำมาจากตรงนี้......" พ่อเอามือทาบที่อกของตัวเองด้วยแววตาปวดร้าว เคนอึ้งไปกับคำพูดของพ่อ
"ดึกมากแล้วลูกคงอยากพักผ่อน พ่อไม่กวนแล้วดีกว่า" พูดจบพ่อก็ลุกขึ้นยืน เคนนั่งก้มหน้านิ่งขอบตาร้อนผ่าวน้ำตาพาลจะไหลออกมาให้ได้
"ฝันดีนะลูกรัก" พ่อพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาแล้วปิดประตูลงอย่างเบามือ เคนทิ้งตัวลงนอนบนเตียงปล่อยให้น้ำตาไหลรินออกมาเงียบๆ

- ตอนเช้า -
"ทำไมไม่กินหละไจ่ไจ๋?" แม่เอ่ยถามลูกชายคนเล็กที่นั่งเอาช้อนเขี่ยข้าวเล่นอย่างเซ็งๆ
"ผมไม่หิว" ไจ่ไจ๋ตอบเสียงห้วนอย่างไม่สบอารมณ์นัก
"เฮ่อ! ดื้อไปจะได้อะไรขึ้นมา?" พี่ใหญ่ถอนหายใจก่อนที่จะย้อนถามน้องเบาๆ ไจ่ไจ๋ไม่ตอบแต่หน้ามุ่ยลงกว่าเดิม ทำให้สมาชิกที่เหลือได้แต่ลอบสบตากันอย่างหนักใจ ยกเว้นพ่อที่ก้มหน้าก้มตากินข้าวอย่างเงียบๆ
"อ้าว! เสี้ยวเทียน! มากินข้าวก่อนลูก" แม่เห็นเคนเดินผ่านหน้าประตูไปก็อ่ยปากเรียกไว้ เคนชะงักแล้วส่งสายตาเข้ามาภายในห้อง แล้วสายตาก็พลันประสานกับพ่อพอดี สีหน้าของพ่อดูเคร่งขรึมอย่างที่ไม่เคยเป็มาก่อน แว๊บนึงในใจเคนรู้สึกเจ็บจี๊ดขึ้นมาเฉยๆที่เห็นท่าทางพ่อเป็นแบบนั้น
"ไม่หละครับ" เคนปฏิเสธแต่แม่ลุกขึ้นแล้วก้าวเท้าเข้าไปหาลูกชาย
"กินซักหน่อยเถอะ ท้องจะได้ไม่ว่าง" ด้วยความเป็นแม่ก็ย่อมห่วงไปต่างๆนานามือก็จับแขนลูกชายพลางคะยั้นคะยอ แต่เคนกลับสะบัดออก ทำให้แม่ที่ไม่ทันตั้งตัวเซไปเล็กน้อย
"เสี้ยวเทียน!!!" เสียงผู้เป็นพี่ 2 คนดังขึ้นพร้อมกับขยับตัวเพื่อจะลุกขึ้นไปเคลียร์สถานการณ์ แต่ก็ต้องชะงักเมื่อร่างของพ่อลุกตัดหน้าขึ้นไปก่อน และโดยไม่มีใครคาดคิดฝ่ามือของพ่อก็ตวัดฉับลงที่แก้มด้านซ้ายของลูกชายเต็มแรง
"เพี๊ยะ!!!" เสียงนั้นทำให้ทุกสิ่งในห้องหยุดการเคลื่อนไหวไปชั่วขณะ เคนเงยหน้ามองพ่อทั้งอึ้งทั้งตกใจ
"เพี๊ยะ!!!" ฝ่ามือใหญ่ตวัดลงซ้ำที่เดิมอีกครั้งแต่หนักหน่วงกว่าครั้งที่แล้วทำให้คนร่างใหญ่เซล้มลงไปฟุบอยู่ที่พื้น ภาพนั้นเรียกสติของสมาชิกอีก 4 ชีวิตให้กลับมา
"เสี้ยวเทียน!!!" แวนเนสโผเข้าไปหาน้องชายพร้อมๆกับแม่ที่ร้องออกมาเสียงหลงพลางเอาตัวบังลูกชายไว้จากผู้เป็นพ่อ
"พ่ออย่า!!" เสียงร้องห้ามพ่อดังมาจากผู้เป็นแม่และบรรดาลูกชายอีก 3 คน เจอร์รี่กับไจ่ไจ๋ช่วยกันรั้งแขนบิดาไว้
"แกจะทรมานชั้นไปอีกนานแค่ไหน!!!??? เมื่อไหร่แกถึงจะพอซักที!!!???" เสียงพ่อตะโกนถามพร้อมกับหยาดน้ำตาที่ไหลเอ่อออกมา
"ทำได้ดีมากเสี้ยวเทียน!! ทำให้ชั้นเหมือนกำลังตายทั้งเป็นกับการกระทำของแก!! แกทำได้สำเร็จจริงๆ!!" พ่อตะคอกใส่ลูกชายอย่างขาดสติ โดยไม่ทันได้คิดว่าคำพูดประโยคนั้นก็ทำร้ายจิตใจคนฟังให้เจ็บปวดพอๆกัน
"หยุดนะพ่อ!! อย่าว่าลูกนะ!! ลูกไม่ได้ทำอะไรผิด!!" เสียงแม่ออกตัวเพื่อปกป้องลูกชาย พ่อเปลี่ยสายตามาที่ผู้เป็นแม่ แววตานั้นปวดร้าวไม่ต่างกันซักเท่าไหร่
"ออกไปให้พ้น!! อย่าเข้ามาใกล้ลูกชั้นอีก!!!" แม่ตวาดเสียงดังลั่นพร้อมกับผลักดันพ่อสุดแรง
"แม่!!!" ไจ่ไจ๋เรียกมารดาพร้อมกับปล่อยโฮออกมาอย่างตกใจ ตั้งแต่เกิดมาเขาไม่เคยเห็นบุพการีทั้งสองคนโมโหใส่กันแบบนี้เลย เจอร์รี่กับแวนเนสเองก็อึ้งจนทำอะไรไม่ถูกเช่นกัน พ่อหันหลังแล้วเดินขึ้นบันไดไปเงียบๆโดยไม่เหลียวกลับมามองอีกเลย
"เสี้ยวเทียน.....แม่ขอโทษลูก....อย่าถือสาพ่อนะพ่อเขาไม่ได้ตั้งใจ....." แม่ใช้อุ้งมืออุ่นๆประคองหน้าลูกชายอย่างอ่อนโยน น้ำตาไหลรินออกมาอย่างไม่ขาดสาย
"ปล่อยผม....." เคนพูดเสียงแผ่วเหมือนคนไม่มีแรง แล้วยันร่างที่ชาไปหมดทั้งตัวขึ้นยืน
"อย่าไปไหนนะลูก.....แม่ขอร้อง....." แม่อ้อนวอนลูกชายพร้อมกับจับมือเคนแน่นไม่ยอมปล่อย
"ปล่อยผม....." เคนพูดย้ำประโยคเดิมด้วยน้ำตานองหน้าแล้วพาร่างที่ไร้ความรู้สึกใดๆเดินไปอย่างไร้จุดหมาย แม่มองตามแล้วซบหน้าลงกับฝ่ามือร้องไห้โฮออกมา ไจ่ไจ๋ขยับเข้าไปหามารดาแล้วร้องไห้ตามไปด้วย
"แวนเนส! นายดูแม่กับน้องนะ!" พูดจบเจอร์รี่ก็วิ่งตามเคนออกไป
"เสี้ยวเทียน....." เจอร์รี่เรียกน้องชายพร้อมกับรั้งแขนน้องไว้
"ปล่อยชั้น......" เคนพูดจนแทบจะเป็นเสียงกระซิบภาพที่เขาเห็นตรงหน้าพร่ามัวเพราะหยาดน้ำตา
"นายจะไปไหน?" เจอร์รี่พยายามดึงตัวน้องชายเข้ามาใกล้แต่เคนก็ดิ้นรนไม่ยอม
"ปล่อย!!! อย่ายุ่งกับชั้น!!!" เคนตวาดแล้วทิ้งตัวนั่งลงร้องไห้ออกมาอีก
"เสี้ยวเทียน....." เจอร์รี่น้ำตาคลอด้วยความสงสารน้อง เขาทรุดตัวนั่งลงข้างๆแล้วค่อยๆดึงน้องชายเข้ามากอดไว้ เคนสะอื้นจนตัวโยน ทำให้พี่ชายอดที่จะร้องไห้ตามออกมาด้วยไม่ได้
"ไม่เป็นไรแล้วนะ....พี่ใหญ่อยู่นี่แล้ว....." เจอร์รี่กระซิบบอกพลางเอามือลูบหลังน้อง เขาคิดหาคำที่จะมาพูดปลอบใจน้องชายไม่ได้เลย เพราะรู้ว่าความเจ็บปวดที่น้องได้รับมันมากเกินกว่าที่จะมีคำใดๆมาพูดปลอบได้
"ได้โปรด....ปล่อยชั้นไป....." เคนเงยหน้าพูดขอร้องกับพี่ชาย เจอร์รี่เอานิ้วไล้แก้มของน้องชายที่ขึ้นผื่นเป็นรอยฝ่ามือแดงๆอย่างแผ่วเบา แน่นอนว่าความเจ็บปวดที่ร่างกายมันเทียบกันไม่ได้เลยกับความเจ็บปวดที่อยู่ภายในใจ
"แล้วนายจะไปไหน?" เขาย้อนถามน้องชายเสียงสั่น รู้สึกกลัวขึ้นมาเฉยๆ
"ไปที่นั่น....." เคนชี้นิ้วไปอย่างไร้จุดหมาย เจอร์รี่เม้มปากเพื่อกลั้นไม่ให้น้ำตาไหลออกมาอีก
"พี่รักนายนะ" เจอร์รี่พูดทิ้งท้ายแล้วปล่อยมือที่โอบกอดน้องชาย ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะต้องรั้งน้องชายเอาไว้อีก เคนลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกไปจากประตูบ้านช้าๆไม่มีความรู้สึกใดๆหลงเหลืออยู่ภายในร่างกายเขาอีกแล้ว เจอร์รี่มองตามร่างน้องชายจนลับตา บางอย่างบอกเขาว่าบางทีครั้งนี้เขาอาจจะต้องสูญเสียน้องชายคนนี้ไปตลอดกาลก็ได้



Create Date : 12 พฤศจิกายน 2549
Last Update : 12 พฤศจิกายน 2549 17:30:15 น. 0 comments
Counter : 810 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 
 

loving_zai
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]




[Add loving_zai's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com