IP address ตอนที่ 2 - IP address ก็มีการแบ่งเป็นบ้านเลขที่และเมืองครับ
จาก IP address ตอนที่ 1 ซึ่งเป็นการเปรียบเทียบการสื่อสารในเครือข่ายคอมพิวเตอร์ หรือเครือข่ายอินเตอร์เน็ต กับการส่งจดหมายนั้น มีสิ่งหนึ่งที่ผมตั้งใจจะมาบอกในตอนที่ 2 นี้ก็คือ IP address ก็มีการแบ่งเป็นเมืองเช่นกัน (แต่ในทางเทคนิคแล้ว เราไม่ได้เรียกว่าเมืองนะครับ) เอ้าเรามารู้จัก IP address ให้มากขึ้นกันอีกนิดนะครับ
ผมขอท้าวความเดิมจาก IP address ตอนที่ 1 ในเรื่องของการเปรียบเทียบคำศัพท์ในเรื่องจดหมายกับ IP address สักหน่อยนะครับ โดยจะเพิ่มเรื่อง เมืองกับบ้านเลขที่ใน IP address เข้าไป ซองจดหมาย = IP packet ตัวจดหมาย = ข้อความที่อยู่ใน IP packet (data หรือ application หรือ service) ที่ใช้ในการสื่อสารกัน บุรุษไปรษณีย์ = อุปกรณ์ในเครือข่ายอินเตอร์เน็ต หรือเครือข่าย IP (IP network) เช่น Switch, Router, ADSL Router และ Firewall เป็นต้น ที่อยู่ของผู้ส่งและผู้รับจดหมาย = IP address ของอุปกรณ์ต้นทางและอุปกรณ์ปลายทาง เช่น IP address ของคอมพิวเตอร์ต้นทาง และ IP address ของคอมพิวเตอร์ปลายทางเป็นต้นที่อยู่บนซองจดหมาย ประกอบด้วย เมือง และ บ้านเลขที่ IP address บนหัว (header) ของ IP packet ประกอบด้วย Network ID และ Host ID นั่นคือเมือง = Network ID บ้านเลขที่ = Host ID หมายเหตุ ที่อยู่ของผู้ส่งและผู้รับจดหมาย ผมขอแบ่งออกง่ายๆ (เพื่ออธิบายเรื่อง IP address) เป็นสองส่วนคือ เมือง และบ้านเลยที่ครับ ทำไม IP address ถึงต้องแบ่งเป็น Network ID กับ Host ID? เราลองนึกถึงการส่งจดหมาย ประกอบกับรูปข้างบนดูนะครับ ลองนึกดูว่า หากบุรุษไปรษณีย์ 1 ต้องส่งจดหมายของนางสาว A ไปให้กับนาย B ซึ่งอยู่ที่เมือง 3 บ้านเลขที่ 1 แล้ว บุรุษไปรษณีย์ 1 ควรจะมีข้อมูลซึ่งเป็นที่อยู่ของนาย B ละเอียดแค่ไหนถึงจะเพียงพอต่อการส่งจดหมายไปให้ถึงปลายทาง โดยมีคำตอบให้เลือกสองข้อ ดังนี้ ก. ต้องมีข้อมูลที่อยู่ของนาย B ซึ่งประกอบไปด้วย เมือง 3 และบ้านเลขที่ 1 (รวมถึงต้องรู้ที่อยู่ของคนอื่นๆ ทุกคนในเมือง 3 และเมืองอื่นๆ อย่างละเอียด [เมือง และบ้านเลขที่]) และจากนั้นก็ดูต่อว่าจดหมายฉบับนี้ควรจะส่งไปทางไหน หรือส่งผ่านเมืองอะไรจึงจะใกล้ที่สุด และใช้เวลาในการส่งน้อยที่สุด ข. มีแค่เพียงข้อมูลที่เป็นเมืองของนาย B ก็พอแล้ว ไม่จำเป็นต้องรู้บ้านเลขที่ของนาย B เพราะเดี๋ยวพอจดหมายฉบับนี้ไปถึงเมือง 3 แล้ว บุรุษไปรษณีย์ 3 ซึ่งเป็นบุรุษไปรษณีย์ท้องถิ่นของเมือง 3 เขาก็รู้เองว่านาย B บ้านเลยที่ 1 อยู่ที่ไหน (บรุษไปรษณีย์ จะต้องรู้จัก หรือมีข้อมูลบ้านเลขที่ภายในท้องถิ่นของตนเองทั้งหมด แต่สำหรับเมืองอื่น รู้เพียงแค่ปลายทางเป็นเมืองไหน จะส่งต่อไปได้อย่างไร [ส่งต่อไปให้กับเมืองไหน] ก็พอ) ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า บุรุษไปรษณีย์ 1 รู้เพียงแค่ว่า เมืองปลายทางที่จะต้องส่งจดหมายฉบับนี้ไป เป็นเมืองที่ 3 (โดยไม่สนใจบ้านเลขที่) และจะส่งจดหมายฉบับนี้ต่อไปยังเมืองไหนจึงจะทำให้จดหมายฉบับนี้สามารถเดินทางไปหาเมืองที่ 3 ด้วยระยะทางที่สั้นที่สุด หรือเร็วที่สุด ถ้าเป็นคุณ คุณจะเลือกข้อไหนครับ แต่ถ้าเป็นผม ผมจะเลือกข้อ ข. ครับ เพราะถ้าเลือกข้อ ก. คุณจะต้องใช้ความจำมาก (หรือเป็น Router ก็ต้องใช้ Memory หรือหน่วยความจำมากเช่นกัน) ไหนจะต้องจำบ้านเลขที่ในเมืองของตัวเองทั้งหมด และยังต้องมาจำบ้านเลขที่ของเมืองอื่นๆ อีก โอ้วล้นสมองครับ แต่ถ้าเลือกข้อ ข. คุณก็จำบ้านเลขที่เฉพาะภายในเมืองที่คุณดูแลก็พอแล้ว ส่วนบ้านเลขที่ในเมืองอื่นไม่ต้องไปจำหรอกครับ จำแค่ว่าเมืองปลายทางต่างๆ จะส่งผ่านไปเมืองไหนจึงจะทำให้จดหมายสามารถเดินทางด้วยระยะทางที่สั้นสุด หรือเร็วสุดก็พอ จริงไหมครับกล่าวมาซะเยอะ สรุป ตอบ ข. ครับ เอ้ากลับมาที่เรื่องของเครือข่ายคอมพิวเตอร์ (computer network) หรือเครือข่ายไอพี (IP network) กันบ้างครับ ก่อนอื่นขอเปรียบเทียบบุรุษไปรษณีย์กับ Router ดังนี้ครับ - บุรุษไปรษณีย์ 1 = Router 1 - บุรุษไปรษณีย์ 2 = Router 2 - บุรุษไปรษณีย์ 3 = Router 3เปรียบเทียบเมือง/บ้านเลขที่ กับ Network ID/Host ID รูปแบบจดหมาย รูปแบบ IP address ที่อยู่นางสาว A = เมืองที่ 1 บ้านเลขที่ 1
เมืองที่ 1
บ้านเลขที่ 1
IP address ของ Computer นางสาว A = 10 .1.1.1
Network ID = 10
Host ID = .1.1.1
ที่อยู่นาย B = เมืองที่ 3 บ้านเลขที่ 1
เมืองที่ 3
บ้านเลขที่ 1
IP address ของ Server B = 172.16 .1.1 Network ID = 172.16
Host ID = .1.1
เมื่อ Router 1 รับ IP packet (ที่มีปลายทางคือ 172.16.1.1) มาจากคอมพิวเตอร์ของนางสาว A จากนั้น Router 1 จะทำการตรวจสอบ IP address ปลายทางบนหัวของ IP packet (IP header) พบว่า IP ปลายทางนี้มี Network ID = 172.16 จากนั้น Router 1 จะนำ Network ID นี้ไปเปรียบเทียบกับตารางเส้นทาง (routing table) ของตนเอง (ซึ่งในตารางเส้นทางจะเก็บแต่ Network ID เท่านั้น) เพื่อหาว่า จะส่งต่อ (forward) IP packet ที่มีปลายทางเป็น Network ID: 172.16 นี้ต่อไปให้ Router ตัวไหน จึงจะทำให้ IP packet นี้ไปถึงปลายทางได้เร็วที่สุด หรือใช้ระยะสั้นที่สุด ซึ่งแน่นอน จากรูปมีแค่เส้นทางเดียวคือ ต้องส่งต่อให้ Router 2 ซึ่ง Router 2 ก็ทำเช่นเดียวกับ Router 1 จนกระทั่ง IP packet นี้ไปถึง Server B จนได้หมายเหตุ เส้นทางที่ดีที่สุดในภาษา Router เราเรียกว่า Best Pathเกิดคำถามว่า ทำไม Network ID ของ นางสาว A เป็น 10 แล้วทำไม Network ID ของนาย B จึงไม่เป็น 172 หรือทำไม Network ID ของนางสาว A ไม่เป็น 10.1 ก็ในเมื่อ Network ID ของนาย B ยังเป็น 172.16 เลย?อันนี้ก็ยาวครับ สำหรับตอนที่ 2 นี้ขอจบแค่นี้ก่อนครับ ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป ค่อยเก่งนะครับ ไม่ต้องรีบร้อนครับ ตอนต่อไป จะเน้นทางด้านเทคเนคของ IP address มากขึ้นนะครับ คือจะใช้คำที่เป็นภาษาของ IP network มากขึ้นเรื่อยๆ ลองติดตามดูนะครับ ขอบคุณครับสำหรับกำลังใจจากทุกท่าน ผมจะพยายามเขียนไปเรื่อยๆ ครับ (ยังมีอีกเยอะ) โก้-ชัยวัฒน์
Create Date : 08 มิถุนายน 2554
Last Update : 20 มกราคม 2559 0:25:42 น.
25 comments
Counter : 12394 Pageviews.
โดย: คนกันเอง IP: 202.91.20.84 วันที่: 10 มกราคม 2555 เวลา:13:33:47 น.
โดย: แป้ง IP: 110.49.227.48 วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:22:36:02 น.
โดย: มด IP: 58.137.171.130 วันที่: 19 มีนาคม 2555 เวลา:7:58:43 น.
โดย: jj IP: 202.149.29.81 วันที่: 26 มีนาคม 2555 เวลา:17:17:36 น.
โดย: 1 IP: 124.120.62.117 วันที่: 16 กรกฎาคม 2555 เวลา:11:20:16 น.
โดย: โก้ IP: 27.130.144.53 วันที่: 17 กันยายน 2555 เวลา:2:45:03 น.
โดย: pbig IP: 171.6.174.30 วันที่: 13 ตุลาคม 2555 เวลา:20:40:37 น.
โดย: K IP: 121.209.201.71 วันที่: 25 มีนาคม 2556 เวลา:19:57:51 น.
โดย: kochaiwat วันที่: 26 มีนาคม 2556 เวลา:20:00:08 น.
โดย: pruetikul IP: 180.110.235.160 วันที่: 21 กรกฎาคม 2556 เวลา:18:06:11 น.
โดย: Snackjack IP: 203.158.109.3 วันที่: 24 มีนาคม 2557 เวลา:9:41:06 น.
โดย: Snackjack IP: 180.183.49.226 วันที่: 24 มีนาคม 2557 เวลา:23:18:40 น.
โดย: kochaiwat วันที่: 25 มีนาคม 2557 เวลา:10:19:01 น.
โดย: nitikarn IP: 180.183.207.53 วันที่: 16 มิถุนายน 2557 เวลา:16:05:24 น.
โดย: โก้ IP: 110.78.187.227 วันที่: 25 กรกฎาคม 2557 เวลา:12:59:44 น.
โดย: วัชรพล IP: 58.11.49.38 วันที่: 2 สิงหาคม 2557 เวลา:15:35:41 น.
โดย: eyenewera IP: 49.49.112.43 วันที่: 20 สิงหาคม 2557 เวลา:11:06:08 น.
โดย: TTIT IP: 171.96.144.14 วันที่: 26 พฤศจิกายน 2557 เวลา:9:25:39 น.
โดย: ผู้อ่าน IP: 118.175.64.146 วันที่: 17 ธันวาคม 2557 เวลา:11:48:27 น.
โดย: ct IP: 122.155.34.20 วันที่: 20 ธันวาคม 2557 เวลา:9:39:54 น.
โดย: Ironman IP: 58.10.22.106 วันที่: 3 เมษายน 2558 เวลา:14:09:39 น.
โดย: LEK IP: 101.108.85.100 วันที่: 27 ตุลาคม 2558 เวลา:17:31:49 น.
โดย: Bitbasic IP: 49.49.216.104 วันที่: 9 กรกฎาคม 2559 เวลา:2:07:59 น.
โดย: tintin IP: 223.24.175.6 วันที่: 7 มีนาคม 2561 เวลา:23:08:50 น.
โดย: Apiwat IP: 159.192.219.169 วันที่: 10 กรกฎาคม 2562 เวลา:11:37:05 น.
kochaiwat
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 693 คน [? ]
เริ่มงานครั้งแรกที่บริษัท UIH (United Information Highway) ซึ่งเป็นบริษัทผู้ให้บริการทางด้านการสื่อสารข้อมูล อาทิเช่น Lease Line, Frame Relay และ MPLS และได้ย้ายไปร่วมงานกับบริษัท dtac โดยได้ทำงานเกี่ยวกับ IP Network (Switch/Router/Firewall/F5-Loadbalancer) รวมถึง MPLS Network และ IPRAN (IP Radio Access Network) ซึ่งเป็น IP Network ที่รองรับ Access ของ Mobile System นอกจากนั้นยังสนใจศึกษาเรื่อง IPv6 Address ที่จะมาใช้แทน IPv4 ที่เราใช้งานอยู่ในปัจจุบัน แต่ด้วยความชอบในการแบ่งปันความรู้ จึงได้มีโอกาสสอน CCNA อยู่ที่สถาบันแห่งหนึ่งในอาคารฟอร์จูนทาวน์ในวันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2549 จนถึง พ.ศ. 2553 รวมเป็นเวลา 4 ปี, หลังจากนั้นในระหว่างที่ทำงานที่ dtac ก็ได้สอนเสาร์-อาทิตย์เรื่อยมา เคยเป็น Trainer หรือ Instructor อย่างเต็มตัว สอนวิชาต่างๆ ของ Cisco อย่างเป็นทางการ (Authorize Training) ที่บริษัท Training Partner Thailand จนถึง มีนาคม 2014 และได้ตัดสินใจออกมาสอนเอง เพราะด้วยความรักในอาชีพการสอน และต้องการที่จะแบ่งปันความรู้ให้กับบุคคลในระดับกลางและล่างเพื่อส่งเสริมให้ได้มีโอกาสได้เรียน และได้มีโอกาสสมัครงาน แต่ด้วยใจรักในบริษัท Cisco ดังนั้น เมื่อมีโอกาสเข้ามา จึงได้ตัดสินใจหยุดการสอน และได้เข้าไปเป็นพนักงาน หรือทำงานที่บริษัท Cisco Thailand ตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2559 (2016) จนถึงปัจจุบัน ลูกค้าที่เคยมารับการอบรม เช่น - Lao Telecom Company Ltd - CAT Telecom - TOT - True - dtac - CDG Group - SITA air transport communications and information technology (www.sita.aero/) - Infonet Thailand - MultiLink Co., Ltd - โรงพยาบาลไทยนครินทร์ - และเคยไปเป็นวิทยากรพิเศษที่ มหาวิทยลัยกรุงเทพสุวรรณภูมิ ปัจจุบัน โก้-ชัยวัฒน์ ได้ผ่านการสอบ: - Cisco Certified Internetwork Expert (CCIE) No. 51353 และ - Cisco Certified Systems Instructor (CCSI) ซึ่งเป็น Certificate ที่ออกให้โดย Cisco สำหรับผู้ที่จะเป็นผู้สอน Cisco Certificate อย่างเป็นทางการ และได้รับ CCSI ID: 34784 วิชาที่สามารถได้สอนได้สำหรับ Cisco Certificate ในขณะนี้คือ - CCNA Routing & Switching - CCNA Security (IINS) - CCNP Route & Switch: ROUTE - CCNP Route & Switch: SWITCH - CCNP Route & Switch: TSHOOT - MPLS (IOS) - MPLS Traffic Engineering (IOS) - CCNP Service Provider: SPROUTE (OSPF, IS-IS, BGP, Prefix-List, Route-Map and RPL (Routing Policy Language)) - CCNP Service Provider: SPADVROUTE (Advance BGP, Multicast, and IPv6) - CCNP Service Provider: SPCORE (MPLS, MPLS-TE, QoS) - CCNP Service Provider: SPEDGE (MPLS-L3VPN, MPLS-L2VPN (AToM and VPLS) - IPv6 Certification ที่มีอยู่ในปัจจุบัน CCIE# 51353, CCSI# 34784, CCNA Routing & Switching, CCNA Security (IINS), CCNA Design, CCNP Routing & Switching, CCIP, CCNP Service Provider ซึ่งเป็น Certification ของ Cisco product รวมถึง Certification ของสถาบัน EC-Council (www.eccouncil.org) นั่นคือ Certified Ethical Hacker (CEH) "เป้าหมายมีไว้ให้ไล่ล่า บ้างเหนื่อยล้าบ้างหยุดพัก ชีวิตแม้ยากนัก แต่เรารักเราไม่ถอย ชีวิตแม้ต้องคอย จะไม่ปล่อยไปวันๆ ชิวิตไม่วายพลัน แม้นสักวันต้องได้ชัย" "แม้ระยะทางจะไกลแค่ไหน แม้ต้องใช้เวลามากเพียงใด ขอเพียงแค่มีความตั้งใจ เราต้องได้ไปให้ถึงมัน" ผมจะไม่ยอมทิ้งฝัน แต่จะไล่ล่ามันให้ถึงที่สุด สักวันฝันอาจจะเป็นจริง ถึงจะไปไม่ถึง แต่ผมก็ภูมิใจที่ได้ทำ ============================== ความรู้ = เมล็ดพืช ความพยายามในการเรียนรู้ = ปุ๋ย, น้ำ และความใส่ใจที่จะปลูก สรุปคือ ยิ่งพยายามเรียนรู้ ยิ่งพยายามศึกษาในเรื่องใดๆ ผลที่ได้คือ จะได้ความรู้ในเรื่องนั้นๆ อย่างลึกซึ้ง เปรียบเสมือนปลูกต้นไม้ด้วยความใส่ใจ ให้น้ำ ให้ปุ๋ย ผลที่ได้ก็คือ ต้นไม้ที่เติบโตอย่างแข็งแรง และผลิดอกและผลที่งดงามให้เราได้ชื่นชม ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จจะอยู่ที่นั่น หรือที่ไหนก็ช่าง แต่เชื่อเถอะ เราจะได้ผลลัพธ์ที่ดีจากความพยายามนั้นๆ ไม่มากก็น้อย อยากได้อะไรให้พยายาม แล้วความสำเร็จมันจะเข้ามาหาเอง ผมเชื่อ และมั่นใจอย่างนั้น =============================== ตอนนี้ผมได้ไปถึงฝัน (CCIE) แล้ว และสิ่งที่ไม่คาดฝัน คือได้ทำงานที่บริษัท Cisco ซึ่งถือได้ว่าไกลเกินฝัน กว่าผมจะมาถึงจุดนี้ได้ เกิดจากความตั้งใจ มุ่งมั่น และพยายามอย่างไม่ย่อท้อ ศึกษาหาความรู้ และฝึกฝนตนเองอยู่เสมอ จนกระทั่งประสบความสำเร็จ และผมก็ได้พิสูจน์แล้วว่า ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น ขอเพียงแค่อย่าท้อ อย่าถอย และอย่าหยุด ผมขอเป็นกำลังใจให้กับทุกคน และขอให้ประสบความสำเร็จดังที่มุ่งหวัง ไม่ว่าท่านจะหวังสิ่งใดก็ตามครับ ท้ายที่สุด ผมขอฝากข้อคิดในเรื่อง Certificate ไว้สักนิดนะครับ: *** "CCIE และ Certificate อื่นๆ มีไว้เพื่อทำมาหากิน และมีไว้เพื่อข่มตนไม่ให้เกรียน เพราะความเกรียนจะนำมาซึ่งการเป็นเป้าให้คนที่เค้าหมั่นไส้ยิงเอานะครับ" *** Facebook: Chaiwat Amornhirunwong