ชีวิตในฟินแลนด์ อยู่ให้เป็น ไปต่อให้มีความสุขกับการใช้ชีวิตในฟินแลนด์ ...
Group Blog
 
All Blogs
 

เสียแฟน ให้สาวบาร์....ตอน สาม

วันนั้น...ชมพูปวดท้องอย่างรุนแรง จนต้องเข้าโรงพยาบาล... และเมื่อพบ ซีส ในช่องท้อง หมอต้องทำการผ่าตัดออกโดยด่วน
ทำให้เธอต้องพักรักษาตัวต่อในโรงพยาบาล

เอ็ดเวิร์ดเองก็จะเป็นจะตาย เป็นห่วงสาวคนรัก ก็คนเคยคุยกันทุกวัน เห็นหน้ากันทุกวัน

บัดนี้เธอไปนอนโรงพยาบาล ทำให้เอ็ดเวิร์ด ไม่เป็นอันกินอันนอน ต้องจับตั๋วบินด่วนมาเฝ้าเธอที่โรงพยาบาล
มาเฝ้าเธออย่างใกล้ชิด อยู่เป็นเพื่อนชมพู จับมือเธอ ดูทีวีด้วยกัน
ทานข้าวด้วยกัน...
กลางคืนเอ็ดเวิร์ดจ้างพยาบาลพิเศษให้เฝ้าชมพู เค้าเองห่วงใยชมพูมากๆ
ช่วงที่ชมพูต้องพักรักษาตัวนี้ ทำให้เอ็ดเวิร์ด ใกล้ชิดกับ ลูกๆ ของชมพู
แต่เอ็ดเวิร์ดก็ แสดงออกชัดเจน และบอกชมพูว่า

“ที่รัก ผมรักคุณมากนะ รักมากที่สุด และรักลูกคุณด้วย” ชมพูน้ำตาซึม และพูดอะไรไม่ออก

“ผมรักคุณ รู้มั๊ยว่าคุณเป็นแม่ที่ประเสริฐมาก คุณตัวเล็ก แต่หัวใจยิ่งใหญ่ ผมรักคุณที่จิตใจข้างในของคุณ....”

ถึงตรงนี้ ชมพูบ่อน้ำตาแตก เธอร้องไห้ ดีใจ... ดีใจในความโชคดีของตัวเอง ที่วาสนาของเธอนั้นได้มาเจอคนดีๆ แบบเอ็ดเวิร์ด
.........................................................................................

พอชมพูออกจากโรงพยายามเอ็ดเวิร์ดก็บินกลับทันที เพราะเค้ายังติดงานอยู่
ส่วนชมพูนั้น แพ้ยาสลบทำให้เธอมีอาการ ไอ ตลอด หนึ่งเดือนเต็มๆ เวลานั่งคุยกับเอ็ดเวิร์ด เธอก็ไอตลอดเวลา

ทั้งๆที่เธอไม่อยากจะให้เค้าเห็นแบบนั้น หากเอ็ดเวิร์ด ต่างหากที่ต้องการจะเห็นเธอ และเฝ้ามองเธอด้วยสายตาห่วงใย ..




จน อีกหกเดือนผ่านไป เดือน ก.ค ของปีถัดมา
เอ็ดเวิร์ดก็ขอให้ชมพูมาเยี่ยมเขาที่ ประเทศสแกนดิเนเวีย

ซึ่งเอ็ดเวิร์ดก็ได้ทำเรื่อง เชิญชมพูไปเที่ยวบ้าน เธอเองด้วยความที่เป็นแม่บ้าน ชมพูก็ไปดูแลเอ็ดเวิร์ด ดูแลบ้าน

ก็เป็นแบบฉบับของคู่รักทั่วไป เอ็ดเวิร์ดเองก็ดูแลชมพูดีมาก พ่อแม่พี่น้องเขาดีดีต่อเธอทุกอย่าง ลูกๆเขาก็ดีรักชมพู
อะไรๆ ก็ลงตัว... ไม่มีอะไรที่จะหวานและลงตัวไปมากกว่านี้แล้ว
และเอ็ดเวิร์ด ก็ซื้อแหวนเพชร วงเล็กๆน่ารัก สวมให้ชมพู

“ผมรักคุณชมพู... รักที่สุด...เหมือนทุกครั้งที่เคยรัก...เพียงแต่มากขึ้นๆ จนผมไม่รู้ว่า ความรักของผมนั้นมากแค่ใหนแล้วตอนนี้”

ชมพูน้ำตาไหลอีกค่ะท่านผู้อ่าน ดราม่าตลอด ... (ดิฉันก็คงจะน้ำตาซึมไปกับเธอ เพราะหากชีวิตนี้ ใครที่เคยพบเจอคนที่รักคุณแบบนี้ จะเข้าใจเป็นอย่างดีว่ามันปราบปลื้มแค่ใหน)

เค้าทั้งคู่ก็ดินเนอร์กันในร้านอาหารที่หนึ่ง บรรยากาศดี มีดนตรีพร้อม
ซึ่งชีวิตชมพู ยังไม่เคยสัมผัสอะไรแบบนี้ เคยสัมผัสบรรยากาศ แต่ยังไม่เคยสัมผัสบรรยากาศที่มาพร้อมกับ ชายหนุ่มรูปงาม ที่แสนจะโรแมนติก ที่กำลังพาเธอ ล่องลอยไปกับการเต้นรำแบบนี้

ชมพูรู้สึกเขิน อีกทั้ง เต้นไม่เป็นอีกต่างหาก ได้แต่โอบกอด โยกไปมา ในอ้อมกอดของเอ็ดเวิร์ด ..
เธอซุกหน้าอยู่กับอกกว้างของเอ็ดเวิร์ด ฟังเสียงหัวใจที่เต้นของเค้าอย่างอบอุ่น

เอ็ดเวิร์ด ซบใบหน้า ลงมา คลอเคลียศรีษะของเธอ
ผมหอมนั่น ทำให้เค้าเคลิ้มหลับไหล ล่องลอยอย่างมีความสุข
(อิจฉาแฮะ ข้าพเจ้าผู้เขียน)




 

Create Date : 13 กุมภาพันธ์ 2554    
Last Update : 13 กุมภาพันธ์ 2554 5:15:39 น.
Counter : 690 Pageviews.  

เสียคนรัก...ให้สาวบาร์ ....ตอนสอง


เมื่อชมพูไปถึงโรงแรมพร้อมน้องชาย ที่เป็นตำรวจนอกเครื่องแบบ ชมพูก็ตกใจมาก
เพราะเอ็ดเวิร์ด ได้นั่งรอเธออยู่ตรงล็อบบี้นั่นเอง
ในมือถือดอกกุหลาบสีขาว ช่อใหญ่

แล้วเค้าก็ลุกขึ้นยืนเมื่อเธอมองเห็น... เค้ายิ้มแฉ่ง...ชูดอกไม้ช่อใหญ่และก้มหัวให้เล็กน้อยอย่างสุภาพ

ซึ่งวันนี้เค้าใส่สูท ผูกไท หล่อเต็มยศ และยื่นดอกกุหลาบช่องามนั้น ให้เธอ...
และสายตาทุกคู่ ณ บริเวณนั้นต่างก็หันมามองเป็นตาเดียว... พนักงานสาวยิ้มๆ และสะกิดมองเธอเป็นตาเดียว

ชมพูแทบจะก้าวขาไม่ออก... เกิดมายังไม่เคยมีชายหนุ่มที่ใหน มาทำสวีทเธอด้วยดอกไม้ช่อใหญ่ขนาดนี้

เอ็ดเวิร์ด หันมามองน้องชายชมพู ในเชิงเป็นคำถาม...ทำให้ชมพูได้สติ และรีบแนะนำน้องชายให้รู้จักอย่างเร็ว เพราะกลัวเอ็ดเวิร์ดเข้าใจผิด...

รู้สึกคืนนั้นเวลาได้ผ่านไปอย่างรวดเร็ว... ชมพูรู้สึกมีความสุข
เพราะความโรแมนติกของเอ็ดเวิร์ค และความที่เค้าคุยสนุกสนาน ยิ้งเก่งนั่นทำให้ชมพูได้แต่นั่งยิ้มสยามพิมพิลัย ฟังเพลิน

ทั้งสามคนก็ไปทานข้าวกัน จนกระทั่งดูแล้วเขาก็ไม่ได้น่ากลัวแต่กลับโรแมนติกเสียจนชมพู ขยิบตาให้น้อง และบอกให้น้องกลับไปได้แล้ว
”เมื่อไหร่แกจะไปเข้าเวรเสียที....ไอ้ร้อยเวรรรร..หา” ว่าแล้วชมพูก็ เตะขาน้องชายบอกให้ไปได้แล้ว
..แต่ท่านก็ยังเฉยอีก แถมพอได้เวลา ไล่ชมพูกลับบ้านซะงั้น
เพราะเค้าสองคนจะไปต่ออีก เอ่ออออ ตกลงชมพูก็ต้องกลับบ้านโดยที่สองหนุ่มมาส่ง แล้วก็ออกไปลัลลา กันตามประสา..

วันรุ่งขึ้น เค้าโทรมาหาเธอตั้งแต่ลืมตาตื่น โดยที่ยังไม่ออกจากที่นอนด้วยซ้ำ
“ชมพูครับ.... วันนั้นมาทานข้าวเป็นเพื่อนผมหน่อยสิครับ...ตื่นมาไม่มีเพื่อนเลย” เค้าอ้อนเธอ

แล้วเธอก็พาเด็กๆ สองสาวน้อย ไปรู้จักเค้า ไปว่ายน้ำในสระที่โรงแรม ใช้เวลาด้วยกัน สนุกสนาน เด็กๆ ก็ชอบเค้ามาก แม้จะคุยกันไม่เข้าใจสักเท่าไหร่ แต่เค้าสามคนก็เข้ากันได้เป็นอย่างดี

ตลอดสิบวันนี้ เอ็ดเวิร์ด ต่างก็ใช้เวลากับชมพู เพื่อศึกษากันมากขึ้น

“ผมมีคอนโด อยู่พัทยา... และผมก็ตั้งใจที่จะไปนอนคอนโดของผม แต่เท่าใมผมต้องมานอนโรงแรมอีกเนี่ยยยยย” น้ำเสียงเค้าอ้อนเธอตลอดเวลา ทำให้เธอต้อง ค้อนเขาประจำ

“อ้าว แต่คุณมาเองนะ... ฉันไม่ได้บังคับคุณซะหน่อย” ...เธอแกล้ง ยอกย้อนเค้า...

“แต่มาก็ดีแล้วนี่คะ... เพราะถ้าไม่มาฉันก็คิดถึงคุณส่ะซี” เธออ้อนเค้ากลับ
ตลอดสิบวันที่เอ็ดเวิร์ดอยู่โรงแรมนี้
ชมพูได้ใช้เวลากับเค้ามากพอที่จะเกิดความรักใคร่ รู้สึกดีๆ ยิ้มได้แบบยิ้มออกมาจากใจ ตั้งแต่มีเอ็ดเวิร์ดเข้ามาในชีวิต ทำให้ชีวิตสีเทาของชมพู กลายเป็นสีชมพู อย่างง่ายดาย

พวกเขาใช้เวลา ทานข้าว ดูหนัง ฟังเพลง ช็อปปิ้ง ท่องเที่ยวในสถานที่ต่างๆ เอ็ดเวิร์ดเองก็ชื่นชอบชมพู แบบที่ผู้ชายคนหนึ่ง อยากจะหยุดชีวิต ณ วันนี้กับเธอ

ส่วนชมพูก็ชื่นชมเอ็ดเวิร์ด แม้จะยังไม่เคยพาเค้าเข้าใจ แต่ใจของเธอก็ต้อนรับเค้าเข้ามาแล้วเต็มหัวใจ

และเอ็ดเวิร์ดก็รู้และเข้าใจวัฒนธรรมไทย ดีทุกอย่าง เค้าสุภาพ สบายๆ ยิ้มเก่ง
เอ็ดเวิร์ด สูง 185 ในขณะที่ชมพูสูง 160

ชมพูรู้สึกว่า รูปร่างของเอ็ดเวิร์ดนั้น ดูดี สมส่วน ไม่อ้วน หุ่นแบบนี้เลย ที่สาวไทยทั้งหลายต่างใฝ่ฝัน(อันนี้ข้าพเจ้า ผู้เขียนวิจารณ์เอง เพราะดูจากรูปถ่ายแล้ว หนุ่มเอ็ดเวิร์ด หล่อได้ใจอีป้าลีสุดๆ กร๊ากกก วิจารณ์รูปร่างทะลุเสื้อผ้าเข้าไปถึงเนื้อในกันเลยทีเดียว หุหุ)

ชมพูสูงขนาดมาตรฐานสาวไทยแม้จะไม่เท่าไซด์นางแบบ แต่เธอก็รูปร่างกระทัดรัด อรชร หุ่นเธอไม่อ้วน... (สวยเกินบรรยายค่ะพี่น้องผู้อ่าน ต้องขออภัยที่ไม่สามารถโชว์ให้เห็นได้ ว่าเธอสวยแค่ใหน)

จากนั้นผ่านไปสองเดือน... เอ็ดเวิร์ดกลับประเทศไปแล้ว
แต่ก็ยัง คุยกันทางเอ็ม โทรศัพท์หากันมั่ง เปิดกล้องคุยกันมั่ง ทุกๆวันผ่านไป คนทั้งสอง ต่างผูกพันธ์กันมากขึ้นๆ

เอ็ดเวิร์ดเองก็ตกหลุมรัก ชมพู สาวไทย ชีวิตธรรมดาๆ ไม่หวือหวาดั่งสาวกรุงเทพฯ หรือสาวพัทยา ที่เค้าเคยเห็นอย่างแน่นอน

และทุกครั้งที่เปิดแคมนั้น...เมื่อชมพูปวดท้องเมนส์ เอ็ดเวิร์ดก็จะเห็นตลอด ว่าอาการของเธอแย่แค่ใหน

แต่เค้าก็อยากจะเห็นเธอ นอนคุยกับเธอ และให้เธออยุ่นิ่งๆ บนเตยงอย่างเดียว แค่นี้เอ็ดเวิร์ดก็พอใจแล้ว
เพราะใจเค้าอยากจะดูแลสาวคนรักด้วยตัวของเค้าเอง..




 

Create Date : 13 กุมภาพันธ์ 2554    
Last Update : 13 กุมภาพันธ์ 2554 5:11:16 น.
Counter : 617 Pageviews.  

เสียแฟน....ให้สาวบาร์

เสียแฟน ให้สาวบาร์
วันนี้ชมพูตื่นเช้ากว่าปกติ เพราะลางานเอาไว้ เนื่องจากเธอต้องไปสนามบินสุวรรณภูมิ เพราะมีนัดกับเอ็ดเวิร์ด

ชมพูตื่นเต้นเป็นพิเศษ ทั้งคืนเธอแทบจะนอนไม่หลับ ก็แน่นอนแหละเพราะนี่เป็นเดทครั้งแรกของเธอ ที่จะต้องไปเจอกันตัวเป็นๆ ที่สนามบิน

ชมพูเอง ผ่านความล้มเหลวของชีวิตคู่มาอย่างยากลำบาก แต่ลูกสาวของเธอทั้งสองนั้นต่างเป็นกำลังที่ดีที่สุดสำหรับเธอ ในการดำเนินชีวิตหลังการหย่าขาดจากอดีตสามีคนไทย ที่ไม่เอาถ่าน แต่ลูกสาวของเธอที่น่ารักและหน้าตาสะสวยนั้น
ก็ทำให้ชีวิตของเธอมีสุขตามประสาแม่ๆ ลูกๆ กันเสมอมา

ด้วยความเหงาทำให้ชมพูเองก็อยากจะเริ่มต้นใหม่ๆ แต่ประสบการณ์ที่เลวร้ายทำให้ชมพูไม่กล้าแม้แต่จะสบตาใคร

และด้วยสถานะความพร้อมของเธอ หน้าที่ระดับหัวหน้างานในบริษัทดัง ทำให้เธอไม่กล้าแม้แต่จะทำอะไรเสียหาย
ต่อภาพลักษณ์ตัวเอง รวมไปถึงครอบครัวผู้หลักผู้ใหญ่ที่เธอนับถือ...นี่แหละมั๊งที่เรียกว่า “กรอบแห่งประเพณีไทย”

หากแต่วันนี้... เอ็ดเวิร์ด...หนุ่มจากสแกนดิเนเวีย กลับทำให้ชมพูกระวีกระวาด เลือกชุดนั้น ลองชุดนี้ แล้วมองดูตัวเองในกระจก อย่างกับสมัยที่เธออายุ สิบห้า ก็ไม่ปาน

แต่แล้วก็ไม่มั่นใจสักที ต้องเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา... เสื้อผ้าที่กองพะเนินเทินทึก บนที่นอนหนานุ่ม กลับไม่มีชุดใหนถูกใจหล่อนแม้แต่น้อย...ทั้งๆ ที่ชมพูเองเป็นคนที่ง่ายๆ สบายๆ

หากแล้วก็เลือก เดรสสีดำเข้ารูป สั้นระดับเข่า คอไม่ลึก แถมออกแนวสุภาพเกินไปด้วยซ้ำ...
เธอเกิดความไม่มั่นใจสักเท่าไหร่ หากจะยิบชุดสุภาพๆ ก็เกรงว่าเอดเวิร์ดจะคิดว่าเธอเป็นน้องโบ

หากจะยิบชุดทันสมัย ก็กลัวว่าสายตาประชาชีจะตัดสินเธอกลางสนามบินนั่น...

ก็เธอไม่เคยเดทกับหนุ่มต่างชาติมาก่อนนี่นา ...
ชมพูแวะรับเพื่อน ที่นัดแนะไว้แล้วเรียบร้อย ขับรถไปด้วยกัน

บ่ายสองกว่าๆ ท่ามกลางอากาศเร่าร้อน เดือน พ.ค.ของเมืองไทยนั้น เมื่อมองออกนอกกระจกของสนามบิน เห็นเปรวแดดเต้นระยิบระยับ ส่งผลให้ใจของชมพูร้อนลุ่มยิ่งกว่าแดดที่แผดเผาอยู่ด้านนอกนั้นก็ไม่ปาน

เพราะอีกไม่กี่นาที เอ็ดเวิดก็จะเดินออกมาแล้ว ใจเธอเต้นแรงสุดๆ
แม้จะคุยกันผ่านกล้อง เห็นหน้าค่าตาเวลาคุย เวลาที่เค้าเดิน ไปมา ระหว่างคุยผ่านกล้อง ตลอดสี่เดือนนี้ ไม่มีวันใหนที่จะไม่ได้คุยกัน

เอ็ดเวิร์ดเป็นหนุ่มนักออกแบบ มีธุรกิจรับออกแบบด้านวิศวะกรรมเป็นของตัวเอง
ด้วยวัย 48 ที่ค่อนข้างจะหนุ่มและหล่อเหลา ทำให้ชมพูเองก็ขาดความมั่นใจไปไม่น้อย เมื่อเห็นโปรโฟล์ของคู่เดท...

และวันนั้นก็ได้เจอกัน ... ความตื่นเต้น ค่อยๆ ลดน้อย หายไป ในอีกสองชั่วโมงหลังจากนั้น...

เอ็ดเวิร์ด มีคอนโดฯ ที่หาดจอมเทียน ย่านพัทยา และเค้าก็มาเมืองไทยบ่อยๆ ปีละสอง หรือ สามครั้ง เห็นจะได้
(นี่แหละมั๊ง อีกเหตุผลหนึ่ง ที่ชมพูวางระยะห่างกับเอ็ดเวิร์ด เพราะหนุ่มหล่อแบบเค้าที่มาเมืองไทยบ่อยๆ เป็นบ้านหลังที่สองแบบนี้นั้นมักจะไม่ธรรมดา)

แล้วเค้าก็เอ่ยปากชวนเธอไปพัทยาด้วยกัน... แต่เธอก็ปฏิเสธเพราะ ส่วนตัวแล้ว ฝรั่งไปพัทยา สำหรับเธอนั้นไม่ค่อยจะรู้สึก ว่าเป็นเรื่องที่ดีสักเท่าไหร่นัก
แต่เธอก็ไม่ได้คิดอะไรมากนัก เพราะชมพูเองกับเอ็ดเวิร์ด ก็คุยกันชัดเจนว่าควรจะเป็นแค่เพื่อน ต่อกันก่อน
และให้เวลาเป็นเครื่องตัดสินอนาคตจะดีกว่า
และวันนั้นชมพูก็กลับบ้านพร้อมเพื่อนสาว ให้เอ็ดเวิร์ด กลับคอนโดฯที่พัทยาคนเดียว

แต่เอ็ดเวิร์ดก็รายงานสถานการณ์กับชมพูตลอดเวลา ว่าทำอะไร ที่ใหน อย่างไร ...
ทำให้ชมพูนึกขันอยู่ไม่น้อย ในการกระทำของเอ็ดเวิร์ด...เค้าไปพัทยาได้สามวัน...แต่ในสามวันนี้ เอ็ดเวิร์ดกลับไม่เป็นตัวของตัวเองซะงั้น...

พะวงแต่กับโทรศัพท์ ไม่ว่าจะกินจะนอน เช้า สาย บ่าย เย็น เอ็ดเวิร์ด เป็นต้องกด โทรศัพท์หาชมพูตลอดเวลา

“ชมพูครับ...(เค้าชอบเรียกเธอเป็นภาษาไทยแบบนี้เสมอ) วันนี้เพื่อนผมเดินทางมาจากบ้าน และผมได้ฝากของให้คุณด้วยนะ” เค้าโทรบอกเธอ

“อะไรนะคะ” เธองุนงง ว่าเค้าจะฝากอะไรมา

“เพื่อนผมเค้ามาพักที่โรงแรมนะ คุณช่วยไปรับของที่ผมฝากมาหน่อยได้มั๊ย ตอนหนึ่งทุ่มของวันนี้นะครับ” แล้วเอ็ดเวิร์ดก็วางสายไป

ชมพูเอง ก็สงสัยว่า ทำใมเอ็ดเวิร์ด ทำอะไรไม่ถามเธอก่อน
จะให้เธอไปเจอเพื่อนเค้าและรับของมา โดยไม่รู้สึกอะไรน่ะเหรอ ชมพูไม่กล้าไปหรอก ไม่รู้ว่าเค้าจะมองเธอยังไงด้วยซ้ำ

ตอนหกโมงครึ่ง..ชมพูก็โทรไปบอกเอ็ดเวิร์ดว่า

“ไม่นะคะ ฉันไม่กล้าไปพบเค้าหรอก และไม่รู้ด้วยว่าเป็นของอะไร ฉันไม่เคยต้องการอะไรจากคุณนะคะเอ็ดเวิร์ด”

เธอบอกเค้าไปตรงๆ และตะหงิดในใจเล็กน้อยว่า เค้าน่าจะถามเธอก่อนว่ายังไง ไม่ใช่ตัดสินใจเองแบบนี้

“ไปเถอะครับ... พลีสส”
..........................................................................................




 

Create Date : 13 กุมภาพันธ์ 2554    
Last Update : 13 กุมภาพันธ์ 2554 5:05:02 น.
Counter : 715 Pageviews.  

เมื่อลูกของฉัน...ไม่มีพ่อ (ตอนจบ)

อาจจะเป็นว่า ในหน้าของฉัน ที่แสดงออกนั้น เศร้าลงไปในถนัดใจก็เป็นได้
“อีกนานมั๊ยคะ” ฉันถามเค้า เบาๆ
“สองเดือนนี้แหละ .” เขาหยุดนิดหน่อย
“ผมถึง...กลับมาก่อนกำหนดเพื่อที่จะอยู่กับคุณให้มากขึ้น”

เขาเอาหัวมาชนที่หัวฉัน แล้วดึงไหล่ฉันให้เอนตัวไปผิงตัวเขา...
ถึงตอนนี้ฉันไม่ได้ ขัดขืนแต่อย่างใด... ใจฉันหล่นหายไปที่พื้น
รู้สึกเหมือนของบางอย่างได้หลุดลอยไปไกล

ณ ตอนนั้นฉันอธิบายไม่ถูก...รู้สึกว่า... ความสุขของฉันได้หายไปหลายปี...และพึ่งเริ่มจะกลับมามีความสุขอีกครั้ง...แต่ตอนนี้ มันทำท่าจะจะมลายหายไปอีกแล้ว

ฉันไม่พูออะไรอีกเลย... รู้สึกว่าใจฉันมันเศร้าเกินไป... หัวใจเขาที่เต้นอยู่ตรงนี้ ฉันได้ยินถนัดชัดเจน
เขาจูบที่ผมของฉันเบา... และถามฉันว่า...

“คุณสามารถ ย้ายไปอยู่ต่างประเทศได้หรือเปล่า” ฉันฟังแล้วก็ ใจชื้นขึ้นมา...เหมือนจะดีใจ
แต่เมื่อใจคิดไปถึงลูก... ใจฉันก็เหี่ยววูบลงไปอีก

“หลังจากอาทิตย์นี้แล้ว ผมต้องย้ายเข้าไปทำงานที่ กรุงเทพฯ จนกว่าจะถึงวันเดินทางกลับฝรั่งเศสนะ

“ไม่นะ”...ฉันเอ่ยประโยคแรก ออกไปอย่าง ยากเย็น... “แค่อาทิตย์เดียวเองเหรอ ที่คุณจะอยู่ที่นี่” ฉันถามเขา

“ใช่” เขาโอบกอดฉันไว้ แล้วดึงแขนของฉันให้ไปโอบรอบพุงใหญ่ๆ ของเขานั่น
ฉันทำตามอย่างว่าง่าย...

“คุณย้ายไปอยู่กับผมนะ...ที่กรุงเทพฯ”
“ผมจะรับผิดชอบคุณเอง ทุกอย่าง”
“ผมรักคุณนะ... รักคุณด้วยใจ”
และนั่นก็เป็นคำพูดประโยคเดียว ที่เปลี่ยนแปลงฉันทั้งชีวิต...
จนถึงปัจจุบัน....
..............................................................................................

ผู้เขียน...
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวค่ะ... ชีวิตที่ผ่านมารู้ศึกเศร้าไปด้วยค่ะ
แต่วันนี้ที่ผู้เขียนเห็น คือ..หนุ่มน้อย อายุ 17 แล้ว... และหล่อมากกกกก
ผู้เขียนเห็นผ่านแคม เมื่อคุณแม่แนะนำและเค้าก็มายกมือไหว้ทางแคม

บุคลิกภาพ อ่อนโยน (พูดไทยได้ชัดเจนค่ะ) เค้าหล่อจนผู้เขียนคิดในใจว่า นี่ถ้าอยู่เมืองไทย หนุ่มน้อยคนนี้ คงจะต้องไปเป็นนายแบบ หรือดาราแน่ๆ เลย (เขาสูง 185 ซม. ค่ะคุณผู้อ่าน)

ตอนนี้มีน้องๆ มาอีก สองคน หญิงหนึ่งและชายหนึ่ง เป็นลูกครึ่งที่น่ารักมากๆ และสามารถพูดไทยได้อย่างแจ่มแจ๋ว...

ที่แน่ๆ บ้านช่องใหญ่โตมโหฬารค่ะ...(ขออนุญาติบอกเถอะนะคะ เพราะมันมโหฬารจริงๆค่ะ) และเห็นบ้านที่เมืองไทยทางรูปถ่ายแล้วค่ะ... ปราสาทชัดๆ...อายยยย ผู้เขียนบรรยายไม่ถูกค่ะ

ถึงอย่างไรก็ตาม...ความสุขของเจ้าของเรื่องตอนนี้...ช่างเป็นเหมือนคำกล่าวที่ว่า
“เมื่อฟ้าหลังฝน งามตา” ฉันใดก็ฉันนั้นเลยค่ะ.. ขอบคุณค่ะ




 

Create Date : 24 มกราคม 2554    
Last Update : 24 มกราคม 2554 19:25:42 น.
Counter : 769 Pageviews.  

เมื่อลุกของฉัน..ไม่มีพ่อ ตอน 8 (ก่อนจบ)

เขาพาฉันไปทานข้าว ที่พัทยาปาร์ค... ซึ่งฉันไม่เคยไปมาก่อน...ด้วยความบ้านนอกของตัวเอง
ก็ไม่รู้ว่า ไอ้บุฟเฟ่ เนี่ย มันไปตักอะไรมากินก็ได้ (เค้าก็บอกแหละ แต่ไม่แน่ใจ)

ฉันก็ไม่ค่อยกล้าตักของดีๆ มากนัก เพราะไม่มั่นใจว่ามันฟรีจริงๆ หรือเปล่า (บ้านนอกจริงค่ะ พอไม่เคยมันก็ทำให้ไม่มั่นใจ)

แล้วขึ้นไปที่สูง ก็วิวสวยค่ะ แต่ฉันกลัวซะงั้น เพราะเหมือนพื้นมันหมุม ได้ทำให้รู้สึกว่าไม่ค่อยมั่นใจ...
รีบกินเสร็จก็อยากกลับบ้านซะงั้น... เขาก็ไม่ว่าอะไร
แต่ถามว่าทำใมอยากรีบกลับเร็วจัง...

“ฉันกลัว” ฉันตอบอย่างเชื่องช้า ด้วยเสียงเบามากกกกก
เขาหัวเราะกร๊ากกกก คงดูออกว่าฉันประหม่าล่ะมัง

“มาย เบบี๋” แล้วเขาก็เอื้อมมือมาจับหัวฉัน และบีบเบาๆ (ฝ่ามือเขาใหญ่มาก แค่จับหัวฉันก็เกือบครึ่งหัวไปแล้ว)
นั่นเป็นการสัมผัสตัวฉันครั้งแรก ฉันรู้สึกเขิน ในทันที และอึกอัก อย่างบอกไม่ถูก

เขาหัวเราะต่อ... แล้วบอกว่า งั้นเราไปฟังเพลงกันต่อดีใหม?
ฉันก็บอกว่า ก็ได้ค่ะ ถ้ามันไม่สูง
เขาก็หัวเราะอีก (คงจะหัวเราะในความบ้านนอกของฉันน่ะแหละ)

และเราก็มาถึง โรงแรมหนึ่ง ซึ่งต้องขับเข้ามาในซอย ...ตอนที่เข้ามามันลึกพอสมควร และเปลี่ยว ไม่ค่อยมีรถเลย... ฉันแอบมองหน้าเขา อยู่หลายครั้ง และนั่งตัวแข็งมาก

เขาก็หันมาบอกว่า ไม่น่ากลัว เป็นแค่โรงแรมติดชายทะเล ตรงนั้นมันมีบาร์ ที่นั่งดื่มได้ด้วย
ฉันก็ตระหนกนิดหน่อย เพราะเค้า บอกว่า มีบาร์

แต่เมื่อไปถึงแล้ว อ้อ มันสวยค่ะ เราเดินผ่านสระว่ายน้ำ ที่สวยมาก ออกแบบไว้สองข้างทางเดินเลยค่ะ

เป็นสระว่ายที่กว้างมาก และติดกับชายหาด ขาวสะอาด มองเห็น โค้งน้ำทะเล ตัวเมืองพัทยา สวยงามค่ะ
แล้วเราก็ไปนั่งบาร์ ที่หน้าบาร์ มีเก้าอี้นวมหุ้มด้วยผ้าฝ้ายสีขาวสะอาด ออกแบบเหมือนสำหรับนอนเล่นก็ได้

ดูแล้ว รู้สึกผ่อนคลายมากๆ ค่ะ
มีคนเล่นดนตรีสองคน เป็นชาวต่างชาติ และบาร์ที่มองเห็นเหล้าหลากหลายตระการตา

พนักงานที่มารับคำสั่ง ออเดอร์ นั้นจะ นั่งลงไป ไม่ยืนค้ำหัวแขก
ฉันรู้สึกว่า ผ่อนคลาย สบายๆ หายใจโล่ง..

แอบมองเขาที่คุยอยู่กับพนักงาน เค้ายิ้มๆ พูดจาอ่อนโยน และสุภาพมาก
พอเขาหันมามองฉัน

ฉันตกใจเล็กน้อย รู้สึกว่า ตัวเองอายที่เค้ารู้ว่าฉันแอบมองอยู่
อันที่จริงฉันเองก็ผ่านการมีลูกมาแล้ว...แต่ผู้ชายคนนี้เค้าเป็นฝรั่ง ทำให้ฉันเขินๆ อย่างบอกไม่ถูก

เขาสั่ง ค็อกเทลมาให้ฉัน (ซึ่งยอมรับตรงๆ ว่าตอนนั้นฉันไม่รู้จัก และนั่งเอ๋อ เมื่อเขาถามฉันว่า ฉันต้องการจะดื่มอะไร... และฉันตอบไม่ได้ ได้แต่อึกอักๆ)

เราสองคนนั่งคุยกันไปเรื่อยๆ ฉันเข้าใจบ้าง ไม่เข้าใจบ้าง แต่รู้สึกได้เลยว่าเขาเองก็พยายามที่จะทำให้ฉันเข้า ไม่รำคาญหรือหงุดหงิด
ฉันรู้สึกได้ว่า เขาน่าอบอุ่น... ตลอดเดือนกว่ามานี้ เขาเสมอต้นเสมอปลาย ไม่ว่าจะเป็นการโทรหา

หรือ บางครั้ง สั่งอาหารมาส่งให้ที่บ้าน (เป็นอาหารจากทางร้านน่ะค่ะ) ... น่าอายนะคะจะว่าไปแล้ว เค้าคงรู้ว่าชีวิตฉันเป็นอยู่อย่างไร
แต่ ณ ตอนนั้น มันเป็นความใส่ใจดูแลจากเขา..ซึ่งฉันไม่เคยได้รับจากใครมาก่อน...

“ผมคิดถึงคุณมากๆนะ” เขากล่าวออกมา แล้วเขาก็เอามือ มาตบข้างตัว เรียกให้ฉันไปตรงนั้น

ฉันมองงงๆ และทำหน้าประหลาดใจ ว่าทำใมเขาเรียกให้ฉันไปนั่งตรงนั้น...
ฉันก็เฉยๆ ทำหน้าไม่ถูก... อยากไปอยู่ใกล้ๆ เขา..อยากรู้ว่าร่างกายของเค้านั้นอบอุ่นแค่ใหน

แต่ฉันก็กระดากที่จะทำแบบนั้น.... ฉันทำหน้าเหร๋อ หรา
แล้วเค้าก็ลุกขึ้นมานั่งข้างๆ ฉัน แทน...

“คุณก็คิดถึงผมใช่มั๊ย” เขาถามฉันอีก แต่ฉันไม่ตอบ เพราะปากสั่นและตื่นเต้น ไม่รู้จะพูดอะไร
มือที่ถือแก้วเหล้าสวยๆ นั่น กำแน่นอย่างไม่รู้ตัว ฉันไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าเขา เขาตัวใหญ่ ค่อนข้าง อ้วน แม้จะไม่มาก แต่ก็ท้วม เมื่อมานั่งข้างฉัน รู้สึกเลยว่า ฉันตัวเล็กลงไปถนัดตา

“ผมต้องย้ายกลับไปทำงานที่บ้านแล้วนะ...” เขาพูดเบาๆ
แต่ทำให้ใจฉันหยุดเต้นทันที....และหันมามองเขาตรงๆ

“บริษัทต้องการให้ผมไปทำงานที่ฝรั่งเศส เพราะที่เมืองไทยทุกอย่างลงตัวแล้ว” เขาเศร้าเล็กน้อย
...........................................................




 

Create Date : 24 มกราคม 2554    
Last Update : 24 มกราคม 2554 5:47:54 น.
Counter : 622 Pageviews.  

1  2  3  4  

Lee Jay
Location :
Nurmijärvi,Vantaa,Helsinki Finland

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 143 คน [?]




ชื่อ ลี ค่ะ เป็นป้ารุ่น เกือบ เลขที่ 5 เข้าทีมวัยรุ่น
ไม่ได้อัดบล็อกเกือบ 3ปี

pub-3852458659373246
New Comments
Friends' blogs
[Add Lee Jay's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.