Group Blog
 
All blogs
 
Wild Love ตอนที่ 6

"นี่ก็วันที่ห้าแล้ว เจ้าคิดว่าเราจะหาต้นเชอร์รี่สีทองพบไหม" เกเลมว่า เมื่อทั้งสองเดินลัดเลาะอยู่ในป่า

"ถ้าซิลเวียให้แผนที่มาไม่ผิด มันน่าจะอยู่บนนั้นนะ" กานุสพยักเพยิดให้ดูหน้าผาหินสูงชันมียอดแหลมปราศจากต้นไม้ แต่เพียงเห็นทางขึ้นก็แทบจะถอดใจ ด้วยลักษณะลาดชันและคับแคบ หากพลาดแม้เพียงนิดเดียว คงต้องฝังร่างอยู่แถวนี้

"เจ้าว่านางทำนายแม่นแค่ไหน?" นางพยัคในร่างเสือดำหันมาถามจิ้งจอกหนุ่ม

"เราคงจะรู้ในอีกไม่ช้า หากข้าถอยตอนนี้ ก็ต้องตายด้วยคมเขี้ยวของเจ้าอารอนอยู่ดี เจ้าคิดว่าข้าควรเสี่ยงไหม" กานุสถามกลับ

"งั้นเราไปพิสูจน์คำทำนายของตาเฒ่าลีเมอร์ กับแม่สาวแพนด้ากัน" เกเลมว่าแล้วเดินนำไปก่อน


"เดี๋ยวก่อน! นั่นมันอะไร?" กานุสเห็นบางสิ่งเคลื่อนไหวอยู่บนยอดเขานั่น ลักษณะใหญ่โตมโหฬารทีเดียว เพราะเพียงการขยับตัวช้าๆ ก็ทำให้หินแตกเซาะหล่นลงมาตามหน้าผา

"ถ้ามันเป็นงู ข้าก็ไม่เคยเห็นอะไรใหญ่ยักษ์ขนาดนี้มาก่อน" เกเลมเพ่งมองด้วยสายตา และคาดเดาจากรูปร่างที่เห็นเพียงบางส่วนเท่านั้น

"ไปกันเถอะ ข้าคิดถึงที่นอนนุ่มๆ เต็มทีแล้ว" กานุสสูดหายใจลึก ก่อนทั้งสองจะลัดเลาะขึ้นไปตามผาอย่างระมัดระวัง และเงียบที่สุด เพื่อไม่ให้เจ้าสัตว์ประหลาดนั้นไหวตัว


"โอ้แม่เจ้า! ดูนั่นสิ!" เกเลมกระซิบ เมื่อมาถึงยอดเขาเป็นลานเล็กๆ และเห็นต้นเชอร์รี่ ผลสีทองดกเต็มกิ่งก้านจนแทบไม่มีใบ

"แล้วเราจะจัดการกับเจ้านี่ยังไง" กานุสกระซิบกลับ เมื่อเห็นเต็มตาแล้วว่ามันเป็นงูยักษ์ที่พันตัวอยู่รอบต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ และคงกินผลของมันเข้าไปจนตัวโตขนาดนี้

"ข้าจะย่องเข้าไปเก็บผลเชอร์รี่ เจ้าคอยระวังอยู่ที่นี่" เกเลมนัดแนะเสร็จแล้วเข้าไปใกล้ กลายร่างเป็นมนุษย์ แล้วค่อยดึงถุงผ้าออกมา รูดผลเชอร์รี่ลงไปเบามือ พลางเหลือบมองเจ้างูขี้เซาไปด้วย แต่พอไม่เห็นมันขยับ จึงเพลินเก็บผลไม้ไปเรื่อยๆ

"เกเลม! ระวัง!!" กานุสร้องเสียงหลง เมื่อเจ้างูยักษ์โผล่หัวขึ้นมาเบื้องหลัง อ้าปากกว้างเกินส่วนสูงของนางเสียด้วยซ้ำ

เกเลมกลายร่างอีกครั้ง แล้วรีบกระโจนออกจากบริเวณนั้นด้วยความเร็ว เจ้างูยักษ์จึงงับต้นเชอร์รี่เข้าไปจนหักโค่น และนั่นทำให้มันยิ่งโกรธ ผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ร่วงกระจายลงเต็มพื้น

"กินผลเชอร์รี่เร็วเข้า กานุส!" หญิงสาวร้องบอกขณะหลบอยู่หลังก้อนหินขนาดใหญ่ และพยายามหลบการจู่โจมของศัตรู

จิ้งจอกหนุ่มรีบทำตาม หากแต่รสเปรี้ยวของผลไม้ที่ไม่คุ้นเคย ทำให้พะอืดพะอมได้ไม่น้อย ถึงกระนั้นก็ยังพยายามกินเข้าไปให้มากที่สุด แล้วเจ้างูยักษ์ก็เปลี่ยนเป้าหมายทันที

"ผลไม้นี่จะออกฤทธิ์เมื่อไหร่?" กานุสร้องถาม ขณะวิ่งหลบคมเขี้ยวไปมาบนลำตัวเกล็ดมันวาว ซึ่งพยายามจะรัดตัวเขาให้ได้

"ข้าไม่รู้! ข้าจะล่อมันลงไป เจ้าเกาะลำตัวมันไว้ให้ดี" เกเลมร้องตอบ มองปลายหางที่อยู่ตรงหน้าแล้วงับเข้าไปจนเลือดกระฉูด แล้วก็ได้ผล เจ้างูยักษ์ตรงไปที่หญิงสาวทันที เกเลมทะยานออกวิ่งสุดฝีเท้าลงไปตามหน้าผาที่ไต่ขึ้นมา และถูกไล่ล่าไม่ลดละ ส่วนกานุสเกาะอยู่บนลำตัวใหญ่ลื่นด้วยความหวาดเสียว พอใกล้ถึงพื้นจึงกระโจนลง แล้วทั้งสองก็วิ่งหายเข้าไปในป่ารกด้วยต้นไม้

เสียงหัวเราะของทั้งสองดังขึ้นประสานกันขณะกลิ้งตัวลงนอนที่พื้น เมื่อรู้ว่าเจ้างูนั้นละความพยายามที่จะตามมาแล้ว

"ข้านึกว่าจะไม่รอดเสียแล้ว" กานุสหอบหายใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยเหงื่อและรอยยิ้ม ไม่คิดว่าจิ้งจอกขี้โรคอย่างเขาจะทำอะไรแบบนี้ได้ ถ้าเล่าให้พี่ชายทั้งสองฟัง ต้องไม่เชื่อแน่ๆ

"เสียดาย เก็บมาได้เท่านี้เอง" เกเลมยิ้มกว้างแล้วชูถุงผ้าในมือขึ้น

"ถ้าเจ้าเก็บมากกว่านี้ เราทั้งคู่อาจต้องไปอยู่ในท้องเจ้างูนั่นแล้ว" กานุสหัวเราะ

"แต่แค่นี้ก็พอที่จะทำให้เจ้าชนะเจ้าอารอนได้สบายๆ เลยล่ะ" เกเลมหันมองชายหนุ่มด้วยประกายตาสดใส

"ปัญหาก็คือ.. ข้าจะกินมันเข้าไปยังไงไหว" ชายหนุ่มเริ่มทำหน้านิ่ว

"ท่านแม่เจ้าอาจจะพอช่วยได้ในเรื่องนี้" เกเลมว่าแล้วลุกยืน

"ข้าขอพักอีกหน่อยนะ" กานุสยังคงนอนอยู่ที่เดิม

"เจ้าคิดถึงเตียงนุ่มๆ แล้วไม่ใช่เหรอ?"

"ก็ได้ ช่วยฉุดข้าที" กานุสยื่นมือให้

"เฮ้อ..." เกเลมส่งมือให้ หากแต่ฉุดเท่าไหร่ก็ไม่ขึ้น ส่วนนางกลับล้มลงบนร่างชายหนุ่มเสียเอง

"เชอร์รี่คงออกฤทธิ์แล้วล่ะ" กานุสว่าแล้วยิ้มกริ่ม

"ดูจะผิดเวลาไม่ซักหน่อยนะ ปล่อยข้าได้แล้ว" เกเลมมองด้วยสายตาดุ

"ถ้าเจ้าให้ข้าเห็นดวงตาสีฟ้าของเจ้าอีกซักครั้ง" กานุสยิ้มสบตา

"ข้าไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร"

"แต่ข้ารู้..."





ในวันที่เจ็ดซิลเวียไปรอรับเกเลมและกานุสที่ชายป่าตามที่สัญญากันไว้ แล้วทั้งสามก็ตรงกลับไปยังวูฟรินด้วยกัน ภายในปราสาทเงียบเชียบในตอนกลางวัน

"กานุส! เกเลม! พวกเจ้าไปไหนมา แม่เป็นห่วงเสียแทบแย่" มีเรียทักถามเมื่อเห็นทั้งสองเนื้อตัวมอมแมมโผล่เขามาในห้องหนังสือ พร้อมหญิงสาวร่างท้วมอีกคน

"นี่ซิลเวียเพื่อนข้า" กานุสรีบแนะนำเมื่อเห็นมารดามองนาง หญิงสาวย่อตัวลงทำความเคารพผู้อาวุโส แล้วยิ้มเยือนให้อย่างน่าเอ็นดู

"ท่านป้าดูนี่สิ พวกเราได้อะไรมา" เกเลมยื่นถุงผ้าขนาดย่อมให้ มีเรียรับมาเปิดดู ไม่แน่ใจว่ามันคือ...

"เชอร์รี่สีทอง! ท่านแม่" กานุสว่าเสียงตื่นเต้น

"พวกเจ้าได้มาจากไหน?" มีเรียมองทั้งสองประหลาดใจระคนยินดี เพราะหากเป็นจริง ลูกชายตนก็มีสิทธิ์ชนะเจ้าสิงค์หนุ่มขี้โอ่นั่นแล้ว

"เกเลมไปพบมันตกอยู่ในป่า แล้วซิลเวียก็ช่วยแนะให้เราไปจนถึงต้นมัน น่าเสียดายที่เจ้างูยักษ์โค่นต้นเชอร์รี่ไปเสียแล้ว ไม่งั้นเราอาจไปเก็บได้เรื่อยๆ" กานุสบอกเล่า

"ท่านป้าต้องเก็บเรื่องนี้เป็นความลับระหว่างเราสี่คน ไม่งั้นจะมีภัยมาถึงตัว" แพนด้าสาวเอ่ยแนะ

"ซิลเวียทำนายได้แม่นมากท่านป้า นี่หากตาเฒ่าลีเมอร์ยังอยู่ คงมีคู่แข่งคนสำคัญ" เกเลมกล่าวเสริม

"หากตาเฒ่าลีเมอร์ยังอยู่เหรอ?" มีเรียถามสงสัย

"ข้าลืมบอกท่านแม่ เจ้าอารอนมันฆ่าตาเฒ่าตายตั้งแต่คืนที่มีงานเลี้ยงแล้ว ข้ากับเกเลมช่วยกันฝั่งศพมากับมือ"

"มันช่างชั่วร้ายนัก!!" มีเรียว่าด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง เพราะครอบครัวนางกับลีเมอร์รู้จักมักคุ้นกันมานาน มิน่าตาเฒ่าถึงพูดจาแปลกๆ ในคืนนั้น คงเพราะรู้ชะตากรรมของตนนี่เอง




กานุสและเกเลมขอให้ซิลเวียพำนักอยู่ที่วูฟรินจนกว่าการประลองจะสิ้นสุด เนื่องจากชอบอัธยาศัยนาง และการที่นางรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าก็ทำให้ทั้งสองอุ่นใจขึ้น

มื้อค่ำเป็นไปอย่างครึกครื้น เมื่อรู้ว่าอารอนจากไปแล้ว เกเลมร่วมโต๊ะกับครอบครัวจิ้งจอก อเร็ดอร่อยไปกับเนื้อสดๆ ที่เสริฟขึ้นโต๊ะแบบไม่อั้น ส่วนอีกโต๊ะที่อยู่อีกมุมของห้องก็กำลังมีความสุขกับผลไม้ถาดโต และการพูดคุยกันประสาหญิง

"เจ้ากินเก่งจริงๆ ซิลเวีย" กาเรนว่าขำๆ เพราะผลไม้กองโตร่อยหรอไปในปริมาณที่คิดว่าตนกินทั้งเดือนก็คงไม่หมด

"ก็ดูรูปร่างข้าสิ ถ้าข้ากินอย่างเจ้าสองคน ข้าคงไม่มีเรี่ยวแรงทำอะไร" ซิลเวียว่าพลางหยิบผลไม้เข้าปากไม่หยุด

"อันที่จริง ข้าว่าเจ้าทำให้ผลไม้จำเจดูมีรสชาติขึ้นเยอะทีเดียว" กีวี่ว่าพลางกัดสาลี่คำโต

"พวกเจ้าคุยอะไรกัน ขอข้าร่วมวงด้วยคน" เกเลมอิ่มจากอาหารหลัก และขอย้ายวงมานั่งกับเพื่อนสาว กาเรนและกีวี่มองนางด้วยสายตาหวาดๆ

"ไม่ต้องกลัวข้าหรอกน่า ข้าอิ่มแล้วล่ะ" หญิงสาวว่าล้อ

"นางไม่กินเจ้าทั้งสองหรอก อีกหน่อยพวกเจ้าจะสนิทกันราวพี่น้องเชียวล่ะ" ซิลเวียว่าไปกินไป ขณะที่ทั้งสามหันมองหน้านาง

"เจ้าหมายความว่ายังไง?" เกเลมถามนำ

"นั่นสิ.." กาเรนอยากรู้ขึ้นมาบ้าง

"เจ้าเห็นอะไรในอนาคตของพวกข้า" กีวีถามกระตือรือร้น

"ข้าบอกได้เพียงว่า หนทางนั้นไม่ง่ายเลย ศัตรูตัวฉกาจของพวกเจ้ากำลังจะมา เชื่อผลไม้ข้ากินได้เลย" ซิลเวียทำเสียงจริงจัง แล้วจู่ๆ แพนด้าสาวก็ยิ้มออกมา

"แต่ไม่ต้องห่วงหรอกนะ ฟ้าลิขิตชะตาไว้แล้ว ต่อให้ลำบากแค่ไหน พวกเจ้าก็ต้องไปจนถึงจุดหมายอยู่ดี"

"แล้วเจ้ารู้ได้ยังไงว่าจุดหมายของพวกข้าคืออะไร?" เกเลมถามยั่ว

"หากพวกเจ้าสงสัยล่ะก็ คืนนี้หลังสองยาม ให้มาที่ห้องข้า แล้วจะได้รู้คำตอบ" ซิลเวียยิ้มขำ หากแต่ทั้งสามสาวมองหน้ากันไปมากับปริศนาที่ได้รับฟัง





"กานุส เจ้ามีอะไรจะบอกพวกเราไหม เรื่องที่เจ้าหายหน้าไปเสียหลายวัน" โอตุสเริ่มซักลูกชายหลังจากเกเลมลุกจากโต๊ะอาหารไปแล้ว

"ข้ากับเกเลมก็แค่หลงป่าเท่านั้นเองท่านพ่อ" จิ้งจอกหนุ่มว่ายิ้มๆ

"แล้วเรื่องที่เจ้ากับอารอนจะประลองกันนั่นล่ะ?" โอตุสถามด้วยสีหน้ากังวล

"เกเลมจะช่วยข้าฝึกซ้อม ท่านพ่อไม่ต้องห่วง" กานุสตอบน้ำเสียงเรียบไร้แววทุกข์ร้อน

"หากนางลงสนามเอง พวกข้าคงไม่ห่วงหรอก" โตนุสว่าเพราะเคยเห็นฝีมือนางมาแล้ว

"นั่นสิ เจ้าไม่เคยเอาชนะข้าสองคนได้เลยด้วยซ้ำ" เปกัสช่วยเสริม

"ข้าขอเวลาหนึ่งสัปดาห์ แล้วพี่จะได้รู้ว่าข้าไม่ใช่ลูกแหง่อีกต่อไป" กานุสว่าด้วยแววตาแน่วแน่

"ถ้าเจ้ามั่นใจเช่นนั้น ข้าจะจัดให้เจ้าสามคนประลองกันซักครั้ง" โอตุสเสนอ

"เอาจริงเหรอ ท่านพ่อ?" โตนุสประสานนิ้วเข้าหากันแล้วหักดังกร๊อบ ส่งยิ้มท้าทายให้น้องๆ

"แม้ข้าจะเพิ่งหายจากอาการบาดเจ็บ ก็อย่าคิดว่าจะเอาชนะข้าได้ง่ายๆ" เปกัสหันไปยิ้มข่มน้องชายบ้าง

"ข้าต่อให้พี่ทั้งสองคน เข้ามาพร้อมกันเลย" กานุสตอบหน้าตาเฉย ทำเอาพ่อและพี่ชายประหลาดใจไม่น้อย

"พวกเจ้ามีพี่เลี้ยงกันหมดแล้ว แม่คงได้แค่ให้กำลังใจเฉยๆ" มีเรียยิ้มแล้วมองไปอีกโต๊ะซึ่งสาวๆ นั่งรวมตัวกันอยู่

"โตนุส เปกัส ข้าหวังว่าเจ้าสองคนคงจะไม่..." โอตุสมองด้วยสายตาคาดโทษ

"โธ่ท่านพ่อ! ถ้าให้เจ้ากานุสมีพี่เลี้ยงคนเดียว ก็ไม่ยุติธรรมกับพวกข้าสิ" พี่ใหญ่เริ่มประท้วงก่อน

"อีกสามราตรี ลูกสาวพญาอินทรีย์กับอสรพิษก็จะมาถึงแล้ว" โอตุสเตือนลูกชาย

"ก็รอให้พวกนางมาถึงก่อนสิท่านพ่อ" เปกัสต่อรอง

"ข้าหวังว่าเจ้าจะรู้ว่าอะไรควรไม่ควร ดูอย่างน้องเจ้าบ้างสิ" โอตุสว่าแล้วผละจากโต๊ะอาหารไปทันที

"นี่เจ้าเป็นลูกคนโปรดไปตั้งแต่เมื่อไหร่??" โตนุสหันมองน้องเล็กแล้วแกล้งทำหน้าประหลาดใจ

"งานนี้ข้ายอมตกกระป๋องดีกว่า" เปกัสว่าแล้วหัวเราะ

"เมื่อไหร่พวกพี่จะเลิกกัดข้าเสียที" กานุสส่ายหน้าแล้วยิ้มขัน










(to be continued) ^^






















Create Date : 31 มกราคม 2555
Last Update : 3 กุมภาพันธ์ 2555 6:48:13 น. 17 comments
Counter : 502 Pageviews.

 
ได้ฤกษ์เสียทีนะคะ


โดย: Kim-Ha วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:0:12:07 น.  

 
เข็ดฟันแทนแหมลูกหมาเอ้ยลูกจิ้งจอกน่าพกกระปิด้วยนิ จะได้เพิ่มปริมาณการกินอีกนิด



โดย: Pa_Stang วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:14:02:27 น.  

 
วิ่งหลบงูยังจะจิ้มกะปิอีกเหรอคะพี่ตังค์


โดย: Kim-Ha วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:14:43:59 น.  

 
ไม่งั้นก็ไม่เข้าขั้น พิศดารขั้นเทพสิคะ ตามองน้องงูมือจิ้มกระปิ สุดยอด


โดย: Pa_Stang วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:15:29:19 น.  

 


โดย: Pa_Stang วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:15:39:52 น.  

 
^
^
^
ส่งเม้นท์ขั้นเทพป่ะคะเนี่ย

ต้องไปหาเทียนมาลนค่ะ จะได้เห็นตัวหนังสือ


โดย: Kim-Ha วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:15:42:27 น.  

 
กร๊ากกกกกกกก ไปได้ไง บรื๊อออ


โดย: Pa_Stang วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:16:02:09 น.  

 
ไม่ทันแบ่งผลไม้สะละ อยู่ดึก หิว



โดย: Pa_Stang วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:0:38:06 น.  

 
เมื่อคืนสลบไปเลยค่ะ เช้านี้ก็เหมือนยังไม่ตื่น

คนละแก้วค่ะ



โดย: Kim-Ha วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:9:04:35 น.  

 
ฝนตกไหมคะพี่ตังค์??

ในออฟฟิสหนาวมากกก


โดย: Kim-Ha วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:15:06:18 น.  

 
ตอบทันไหมอ๊ะ ไม่มีฝนแถมร้อน..ปริ้นเลยละคะ


วันนี้ญาติเยอะจริงแว๊บเข้าเรือนมิได้เลย

วันนี้รับกาแฟไปสอง ไม่รู้คืนนี้จะรึ


โดย: Pa_Stang วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:19:01:05 น.  

 
ไม่ทันแล้วค่ะ ถึงบ้านแล้ว

ได้ข่าวว่าในเมืองตกหนักค่ะ พอดีอยู่นอกเมืองไม่ตก อิอิ กลับมาถึงบ้านเห็นน้ำท่วมขังถนนเข้าซอย ถึงรู้ว่าตกจริงๆ

งั้นคืนนี้ก็ได้เพื่อนเลยค่ะ ตั้งใจจะทำงานถึงเที่ยงคืนค่ะ


โดย: Kim-Ha วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:19:06:01 น.  

 
ฝนกำลังตกคะ แต่ความร้อนไม่ลดเลย รึไฟลนก้นอีกแล้วก็ไม่รู้นิ


กาแฟสองแก้วเมื่อเช้า หมดอายุรึเปล่าหว่า


โดย: Pa_Stang วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:23:41:53 น.  

 
บอกว่าคนละแก้ว พี่ตังค์ยังดริ้งสองแก้วอีก เป็นไงล่ะ??


โดย: Kim-Ha วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:23:45:45 น.  

 
อัพไปหน่อยนึง ไต่ขึ้นไปอ่านก่อนหลับนะคะ อิอิ


โดย: Kim-Ha วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:23:46:41 น.  

 
เมื่อคืนไม่ทันได้อ่านคะ กาแฟเกินขนาด ถึงเช้า


โดย: Pa_Stang วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:12:53:18 น.  

 
ไปทำมาหากินก่อนนะคะ เย็นนี้เจอกันค่ะ พล็อตเรื่องใหม่มาอีกแล้ว


โดย: Kim-Ha วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:13:48:03 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Kim-Ha
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




จิ้นกระจาย ^^


Smileymissmynovel@gmail.com






Friends' blogs
[Add Kim-Ha's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.