Group Blog
 
All Blogs
 
สามก๊ก ศึกกัวต๋อ



ศึกกัวต๋อ(官渡之戰)Battle of Guandu เกิดขึ้นที่ริมฝั่งแม่น้ำเหลืองในปี 200 AD เป็นศึกที่โจโฉได้ชัยชนะต่ออ้วนเสี้ยว เขาโจมตีคลังเสบียงและกองทัพของอ้วนเสี้ยว ภายหลังศึกนี้ อ้วนเสี้ยวเสียชีวิตในเวลาต่อมาใม่นาน ผลของการศึกครั้งนี้ทำให้โจโฉกลายเป็นผู้นำดินแดนภาคเหนือของเมืองจีน

ตั้งแต่ปี 196 AD โจโฉและอ้วนเสี้ยวนั้นเกิดบาดหมาง ไม่ลงรอยกัน สงครามระหว่างสองฝ่ายนั้นเพียงรอเวลาเท่านั้นว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ พื้นที่ของกัวต๋อนั้นกลายเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ เพราะว่าใกล้กับที่ลุ่มเอี๋ยนและแม่น้ำเหลือง และยังเป็นทางที่มุ่งไปสู่เมืองฮูโต๋ โจโฉเป็นคนแรกที่คำนึงถึงความสำคัญของพื้นที่นี้ ในปี 199 เขาเคลื่อนทัพไปสร้างป้อมปราการที่นั่น ปี 200 โจโฉโจมตีเล่าปี่ จนเล่าปี่พ่ายแพ้ต้องหนีไปหาอ้วนเสี้ยว ในปีนั้นเอง อ้วนเสี้ยวได้ประกาศสงครามกับโจโฉ นำทัพมุ่งลงใต้ ทัพหน้าของอ้วนเสี้ยวโจมตีป้อมรักษาการณ์ที่ลิหยงทางเหนือของแม่น้ำเหลือง อิกิ๋มแม่ทัพที่รักษาการที่ลิหยงได้ส่งสารแจ้งการโจมตีของอ้วนเสี้ยว โจโฉจึงระดมทัพสองหมื่นคนเข้ารักษาการณ์ที่กัวต๋อในทันที เตรียมพร้อมป้องกันการโจมตีของอ้วนเสี้ยว

ในไม่ช้ากองทัพใหญ่ของอ้วนเสี้ยวก็มาถึง ทหารของอ้วนเสี้ยวมีพลเดินเท้าหนึ่งแสนคนและทหารม้าอีกหนึ่งหมื่นคน อ้วนเสี้ยวส่งงันเหลียงไปโจมตีเล่าเอี๋ยนเจ้าเมืองตองกุ๋น ที่แปะแบ๊ ชีสิวพูดว่า งันเหลียงนั้นไม่ใส่ใจและไม่มีความอดทน แม้ว่าเขาจะอาจหาญ แต่เขาไม่สามารถจัดการกองทัพด้วยตัวคนเดียวได้ อ้วนเสี้ยวไม่เห็นด้วยกับชีสิว

ในฤดูร้อน เดือนที่สี่ โจโฉยกทัพขึ้นเหนือไปช่วยเล่าเอี๋ยน ซุนฮิวแนะว่า กองทัพของเรานั้นมีขนาดเล็กเกินกว่าจะไปสู้กับศัตรู เพื่อที่จะเอาชัยชนะ ท่านต้องแบ่งแยกกองทัพศัตรู เมื่อท่านยกทัพไปถึง ที่ลุ่มเอี๋ยน แกล้งทำเป็นส่งทหารข้ามแม่น้ำเข้าโจมตีด้านหลังพวกเขา อ้วนเสี้ยวต้องมุ่งหน้าไปตะวันตกเพื่อรับมือ ถ้าท่านส่งทหารอย่างรวดเร็วไปที่แปะแบ๊และโจมตีอย่างฉับพลัน ท่านจะปราบงันเหลียงได้แน่ โจโฉทำตามแผนการของเขา ทันทีที่อ้วนเสี้ยวรู้ว่าศัตรูข้ามแม่น้ำเหลืองมา เขาส่งกองทหารย่อยไปตะวันตกเพื่อรับมือ โจโฉก็ถอยทัพมุ่งหน้าไปตะวันออกเพื่อช่วยเหลือเมืองแปะเบ๊ พวกเขายังอยู่ห่างจากทัพงันเหลียงมากกว่าสิบลี้ แต่งันเหลียงตื่นตระหนกยกทัพออกมาต่อสู้ด้วย

โจโฉส่งเตียวเลี้ยวและกวนอูนำทัพไปสู้ กวนอูมองเห็นธงประจำตัวของงันเหลียง เขาลงแส้ม้าของเขา ควบม้าถึงตัวงันเหลียงท่ามกลางทหารกว่าหมื่นคนของงันเหลียง กวนอูตัดหัวงันเหลียงแล้วควบม้ากลับมา ไม่มีทหารงันเหลียงคนไหนกล้าขัดขวางกวนอู การปิดล้อมที่แปะแบ๊จึงถูกทำลาย ผลจากการสู้รบที่แปะเบ๊นั้น หลังจากนั้นโจโฉก็เตรียมการที่จะทิ้งเมืองและอพยพชาวบ้านไปตะวันตกทางแม่น้ำเหลือง

อ้วนเสี้ยวข้ามแม่น้ำเหลืองมาติดตามพวกเขา แต่ชีสิวแย้ง บอกว่า เมื่อท่านทำศึกสงคราม ท่านต้องใส่ใจในเหตุการณ์ที่เป็นไปได้ทุกอย่าง แผนที่ดีที่สุดตอนนี้คือการรักษาค่ายที่ที่ลุ่มเอี๋ยน และส่งทัพหน้าไปที่ กัวต๋อ ถ้าพวกเขาสามารถยึดเมืองได้ ท่านก็ยังมีเวลาพอที่จะยกทัพตามทัพหน้าไปได้ แต่ถ้าท่านนำทัพทั้งหมดไปและเกิดสถานการณ์เลวร้ายขึ้นมา ทหารซักคนก็ไม่สามารถเอาชีวิตรอดกลับมาได้ แต่อ้วนเสี้ยวไม่เห็นด้วยกับเขา

ชีสิวมาถึงที่ทางแยกและถอนใจพูดว่า นายท่านมั่นใจมากเกินไป ขุนนางแต่ละคนก็ทะเยอทะยานสูง แม่น้ำเหลืองช่างกว้างใหญ่นัก ใยข้าต้องข้ามไป ชีสิวจึงอ้างว่าตัวเองป่าวยและขออนุญาตกลับเมือง แต่อ้วนเสี้ยวไม่อนุญาตและโกรธเคืองเขา อ้วนเสี้ยวยึดอำนาจสั่งการกองทัพของเขาและมอบให้กัวเต๋า

เมื่ออ้วนเสี้ยวนำทัพมุ่งใต้จากที่ลุ่มเอี๋ยน โจโฉให้ทหารของเขาตั้งค่ายที่เชิงเขาทางใต้ โจโฉส่งคนไปสอดแนม พวกเขากลับมารายงานว่า มีทหารม้าห้าพันถึงหกพันนาย ไม่นานพวกเขาก็กลับมารายงานอีกว่า ทหารม้าของอ้วนเสี้ยวเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก และพลเดินเท้านั้นมีมากเกินกว่าจะนับได้หมด โจโฉจึงสั่งพวกเขาไม่ต้องสอดแนมอีก

โจโฉให้ทหารม้าของพวกเขาลงจากอานม้าและปล่อยม้าไป สัมภาระต่าง ๆ ที่ขนจากแปะเบ๊ถูกวางไว้ตามหนทาง ขุนนางต่าง ๆ คิดว่าในเมื่อข้าศึกมีทหารม้าจำนวนมาก พวกเขาควรที่จะกลับไปป้องกันค่ายให้แข้มแข็ง แต่ซุนฮิวกลับพูดว่า นี่คือกับดักสำหรับศัตรู แล้วเราจะหนีไปได้อย่างไร โจโฉมองเขาแล้วก็ยิ้ม

บุนทิวและเล่าปี่ แม่ทัพทหารม้าของอ้วนเสี้ยวนำทหารม้าห้าหกพันนายมุ่งหน้ามา เหล่าขุนนางของโจโฉต่างพูดว่า เราควรให้ทหารขึ้นบนหลังม้าเตรียมพร้อม แต่โจโฉพูดว่า ยังก่อน ทหารอ้วนเสี้ยวหยุดนิ่งไปชั่วครู่ แล้วก็เดินทัพต่อและแยกย้ายไปเก็บสัมภาระ โจโฉจึงบอกว่า ตอนนี้แหล่ะ แล้วพวกเขาก็กระโดดขึ้นหลังม้า

ทหารโจโฉมีจำนวนน้อยกว่าหกร้อยนาย แต่พวกเขาพุ่งเข้าโจมตีอย่างรวดเร็ว และได้ชัยชนะเด็ดขาดเหนือศัตรู พวกเขายังสามารถตัดหัวของบุนทิวได้อีกด้วย

บุนทิวและงันเหลียงเป็นแม่ทัพที่มีชื่อเสียงของอ้วนเสี้ยว แต่ในการรบแค่สองครั้ง พวกเขาทั้งสองก็ถูกสังหาร กองทัพของอ้วนเสี้ยวจึงสูญเสียขวัญกำลังใจในการต่อสู้อย่างมาก

หลังจากการต่อสู้ครั้งนั้น อ้วนเสี้ยวได้จัดกองทัพใหม่และส่งเล่าปี่ให้ไปโจมตีโจโฉอีกทาง โจโฉนั้นเป็นนักยุทธศาสตร์ที่เก่งกาจ เขารู้ถึงการต่อสู้โดยอยู่ในฐานะที่ด้อยกว่า เขาสั่งให้แม่ทัพต่าง ๆ ถอยกลับไปที่กัวต๋อ

ในเวลาเดียวกันเล่าปี่ได้ปล้นสดมภ์ใน Ru และ Ying ผู้คนทางตอนใต้ของเมืองฮูโต๋ต่างเดือดร้อน โจโฉวิตกกังวลเรื่องนี้ โจหยินจึงว่า ตำบลทางใต้นั้นรู้ดีว่ากองทัพของเรากำลังเผชิญกับวิกฤตการณ์ และพวกเขาต่างเชื่อว่าเราไม่สามารถส่งกองหนุนไปช่วยเขา ถ้าเล่าปี่นำทัพใหญ่มา ก็เป็นไปได้ที่พวกเขาจะทรยศต่อเรา แต่เล่าปี่นั้นเพิ่งจะมาบัญชาทหารอ้วนเสี้ยวได้ไม่นาน เขาไม่มีเวลาทำความคุ้นเคยกับทหารอ้วนเสี้ยว ถ้าเราโจมตีเขาตอนนี้เขาสามารถมีชัยเหนือเขาได้

ดังนั้นโจโฉเลยส่งโจหยินและอิกิ๋มพร้อมทหารม้าเข้าโจมตีเล่าปี่ โจหยินเอาชนะเล่าปี่และไล่เล่าปี่ไป และยึดหัวเมืองที่ก่อกบฏต่าง ๆ กลับคืนมา โจโฉก็ออกคำสั่งให้ปกครองเมืองพวกนั้นอย่างปราณี

เล่าปี่กลับไปหากองทัพอ้วนเสี้ยว แต่เขาต้องการจากไปอย่างลับ ๆ ดังนั้นเขาจึงเสนอให้อ้วนเสี้ยวเป็นพันธมิตรกับเล่าเปียวทางตอนใต้ อ้วนเสี้ยวส่งเล่าปี่กลับไป ยีหลำ พร้อมคนของเขา ที่นั่นเล่าปี่ได้กลุ่มโจรของ Gong Du มาเพิ่มได้ทหารหลายพันคน โจโฉส่ง ซัวหยง เข้าโจมตีเล่าปี่ แต่เล่าปี่เอาชนะและฆ่าซัวหยงได้

กองทัพอ้วนเสี้ยวมาถึง Yangwu ซึ่งอยู่ทางเหนือของกัวต๋อ ชีสิวพูดกับเขาว่า แม้ว่ากองทัพเหนือของเราจะมีจำนวนมาก แต่ความแข็งแกร่งและจิตใจนั้นไม่เทียบเท่ากับคนทางใต้ เสบียงอาหารของชาวใต้นั้นมีจำนวนน้อยและคลังเสบียงก็ไม่สมบูรณ์เท่าของเราทางภาคเหนือ ดังนั้นชาวใต้ต้องการที่จะสู้รบรู้ผลอย่างรวดเร็ว การรบที่ยืดเยื้อจะเป็นประโยชน์ต่อพวกเรา ท่านควรจะรอคอยและไม่ต้องทำอะไรสองสามสัปดาห์ อ้วนเสี้ยวไม่เห็นด้วยกับเขา

ในเดือนที่แปด อ้วนเสี้ยวนำทัพทั้งหมดไปตั้งค่ายบนเนินทราย ขยายปีกของค่ายไปหลายสิบลี้ทางตะวันตกและตะวันออก โจโฉกระจายค่ายของเขาเพื่อเผชิญหน้ากับอ้วนเสี้ยว

โจโฉนำทัพฝ่าวงล้อมของอ้วนเสี้ยว แต่ไม่สามารถฝ่าไปได้และถูกบังคับให้กลับไปป้องกันค่าย อ้วนเสี้ยวสร้างหอคอยสูงและเพิ่มความสูงของเนินเพื่อที่จะยิงธนูเข้าไปในค่ายโจโฉ ทุกคนในค่ายโจโฉต้องสวมเกราะป้องกันตัวเอง โจโฉจึงสร้างรถสายฟ้าเพื่อยิงหินเข้าใส่หอคอยอ้วนเสี้ยวและสามารถทำลายหอคอยได้ทั้งหมด (**รถสายฟ้าเป็นชื่อที่ทางฝั่งอ้วนเสี้ยวใช้เรียกเครื่องมือนี้ของโจโฉ รถสายฟ้าเป็นเครื่องยิงหินชนิดหนึ่งที่สามารถเคลื่อนที่ได้ คำว่าสายฟ้าอาจจะหมายถึงเสียงดังตอนที่ยิงหินออกไปหรือเสียงดังเวลาที่ก้อนหินกระทบจุดหมาย**) อ้วนเสี้ยวสั่งให้ขุดอุโมงค์เพื่อมุดไปในค่ายโจโฉ แต่โจโฉได้ขุดคูลึกในกำแพงค่ายเพื่อป้องกัน

กองทัพโจโฉนั้นเล็กกว่า เสบียงอาหารก็หมด กองทัพของเขาเหนื่อยล้าและล้มป่วย ผู้คนของเขาที่ประสบปัญหาจากการจัดเก็บภาษีก็หันไปร่วมกับอ้วนเสี้ยวหลายคน โจโฉกังวลมาก เขาเขียนจดหมายไปหาซุนฮกเรื่องการถอยทัพกลับไปฮูโต๋ เพื่อที่อ้วนเสี้ยวจะถูกบังคับให้ไปสู้กับเขาที่นั่น

ซุนฮกตอบว่า อ้วนเสี้ยวนำกำลังทั้งหมดมาที่ กัวต๋อ ถ้าเขาได้ชัยชนะและทำให้ท่านพ่ายแพ้ที่นั่น ท่านเผชิญหน้ากับความแข็งแกร่งด้วยความอ่อนแอ และถ้าท่านไม่สามารถจัดการเขาได้ ท่านจะถูกกำจัด นี่ถือเป็นหายนะของแผ่นดิน

ยิ่งกว่านั้น อ้วนเสี้ยวเป็นเพียงผู้นำธรรมดาทั่วไป เขาสามารถรวบรวมผู้คนแต่เขาไม่รู้ว่าจะใช้พวกเขาอย่างไร ด้วยพรสวรรค์ด้านการศึกของท่าน การเข้าใจสถานการณ์การรบ และด้วยลิขิตสวรรค์ ท่านจะแพ้ได้อย่างไร

เสบียงอาหารท่านอาจจะน้อย แต่ท่านไม่ได้อยู่ในช่องแคบของ Chu และ Han ระหว่าง Rongyang และ Chenggao ในตอนนั้น หลิวปังและเซี่ยงหวี่ต่างก็ไม่เต็มใจถอยทัพ เพราะพวกเขารู้ดีว่าใครถอยทัพก่อนคนแรกจะสูญสิ้นทุกอย่าง

กองทัพของท่านอาจน้อยกว่าของอ้วนเสี้ยวถึงสิบเท่า แต่ท่านก็สามารถยึดที่มั่นและสามารถรักษาไว้ได้ ท่านรั้งเขาไว้ทำให้เขาไม่สามารถไปไหนได้ ถ้าท่านยังสามารถยึดที่นั้นได้อีกครึ่งปี ความเข้มแข็งของทัพเขาต้องหมดลง นี่เป็นเวลาตัดสินแพ้ชนะ และเป็นโอกาสที่จะทำให้เขาประหลาดใจ แล้วท่านจะทิ้งโอกาสนี้ไปหรือ

เมื่อได้รู้ถึงความจริงพวกนี้ โจโฉเพิ่มความแข็งแกร่งให้แนวป้องกันของเขาและยึดที่นั่นเป็นที่มั่น

โจโฉไปต้อนรับคนที่มาส่งเสบียงแล้วพูดว่า ภายในสองอาทิตย์ ข้าจะปราบอ้วนเสี้ยวเพื่อพวกท่าน แล้วข้าก็จะไม่ทำให้พวกท่านลำบากอีก

ขบวนเสบียงของอ้วนเสี้ยวเดินทางมุ่งหน้ามา กัวต๋อ มีเกวียนขนส่งหลายพัน ซุนฮิวพูดกับโจโฉว่า เสบียงอาหารของอ้วนเสี้ยวอยู่ระหว่างขนส่ง ฮันเบ๋ง คนที่คุมเสบียงมานั้นกล้าหาญ แต่เขาดูจะประเมินคู่ต่อสู้ต่ำไป ถ้าเราโจมตีเขา เขาต้องพ่ายแพ้

โจโฉถามว่าใครที่เราควรจะส่งไป ซุนฮิวจึงว่า ซิหลงมีความสามารถจะทำได้ ดังนั้นพวกเขาจึงส่งแม่ทัพซิหลงและ สูหวน ไปโจมตีฮันเบ๋ง ฮันเบ๋งพ่ายแพ้หลบหนีไป ซิหลงเผาเสบียงอาหารที่ขนส่งมา

การที่โจโฉทำลายเสบียงที่ขนมา ทำให้อ้วนเสี้ยวต้องส่งคนออกไปนำเสบียงมาเพิ่ม ในฤดูหนาวเดือนที่สิบ อ้วนเสี้ยวนำเสบียงอาหารมาเพิ่ม เขาส่ง อิเขง และแม่ทัพคนอื่นนำทหารมากกว่าหมื่นคนไปคุ้มกันขบวนเสบียง พวกเขาหยุดพักตอนกลางคืนห่างไปจากค่ายอ้วนเสี้ยวสี่สิบลี้ทางเหนือ ชีสิวพูดกับอ้วนเสี้ยวว่ากำลังทหารที่คุ้มกันเสบียงอาหารนั้นน้อยเกินไป ท่านควรจะส่ง เจียวกี๋ ออกไปสกัดทัพของโจโฉ อ้วนเสี้ยวไม่เห็นด้วย

เขาฮิวจึงว่า โจโฉนั้นมีทหารเพียงน้อยนิด และเขานำกำลังทั้งหมดมาสู้กับเราที่นี่ ไม่มีทางที่เขาจะทิ้งทหารจำนวนมากไว้ที่ฮูโต๋ ถ้าเราส่งกองทัพเดินทางไปตอนกลางคืนเพื่อโจมตีกะทันหัน เราจะสามารถยึดฮูโต๋ได้ เมื่อเราได้ฮูโต๋ เราก็ได้ตัวองค์ฮ่องเต้ และสามารถโจมตีโจโฉโดยอาศัยพระนามฮ่องเต้ ขณะที่โจโฉกลายเป็นขบฏ แม้ถ้าโจโฉไม่ถูกทำลาย เราก็สามารถให้เขาเร่งรีบกลับไปช่วยเมืองฮูโต๋และเราสามารถปราบเขาได้แน่ อ้วนเสี้ยวไม่เห็นด้วย พูดว่า สิ่งสำคัญตอนนี้คือการเอาชนะโจโฉ

ในตอนนั้นคนในครอบครัวเขาฮิวทำผิดกฏหมาย เมื่อสิมโพยไปจับตัวเขา เขาฮิวโกรธมากและไปหาโจโฉ

ทันทีที่โจโฉรู้ว่าเขาฮิวมา เขาเดินเท้าเปล่าไปต้อนรับเขา จับมือเขาและหัวเราะพูดว่า เขาฮิว ท่านเดินทางมาไกลมาก เวลานี้ข้ามั่นใจว่าจะได้ชัยชนะ พวกเขาเข้าในที่พักและนั่งลงพูดคุย เขาฮิวพูดกับโจโฉว่า อ้วนเสี้ยวที่กองทัพที่เข้มแข็ง ท่านจะรับมือเขาได้อย่างไร และเสบียงอาหารท่านมีมากน้อยแค่ไหน โจโฉจึงว่า เรามีเสบียงพออยู่ได้เป็นปี

เขาฮิวจึงว่า นั่นไม่ถูกต้อง บอกความจริงข้ามา โจโฉจึงว่า เราสามารถอยู่ได้ครึ่งปี เขาฮิวจึงถามว่า ท่านไม่อยากเอาชนะอ้วนเสี้ยวหรือ เหตุใดท่านไม่พูดความจริง โจโฉจึงว่า ข้าล้อเล่นต่อท่าน ความจริงแล้วเราไม่สามารถรบยืดเยื้อได้เกินกว่าหนึ่งเดือน ข้าควรทำอย่างไร

เขาฮิวว่า ท่านเผชิญหน้ากับเขาเพียงลำพังด้วยกองทัพที่ถูกตัดขาด ไม่มีความช่วยเหลือจากภายนออก และเสบียงของท่านก็ใกล้หมด นี่เป็นวิกฤตสถานการณ์

เวลานี้อ้วนเสี้ยวมีเกวียนขนเสบียงกว่าหมื่นคันที่ Gushi และ อัวเจ่า และกองทหารที่คุ้มครองเสบียงนั้นไม่มีการเตรียมพร้อม ถ้าท่านส่งทหารเคลื่อนที่เร็วโจมตีโดยที่พวกเขาไม่ระวัง ท่านจะสามารถจัดการเสบียงพวกเขาได้ ภายในไม่เกินสามวัน อ้วนเสี้ยวต้องพ่ายแพ้ต่อตัวเอง

โจโฉยินดีมาก เขาทิ้งโจหองและซุนฮิวไว้ป้องกันค่าย เขานำทหารห้าพันนาย ทั้งหมดถือธงรบของกองทัพอ้วนเสี้ยว สั่งให้ทุกคนห้ามส่งเสียงและมัดปากม้าไว้ พวกเขาออกจากค่ายตอนค่ำและเคลื่อนที่ไปโดยไม่ใช้ถนนหลัก ทหารทุกคนต่างขนเชื้อเพลิง ถ้ามีใครถามพวกเขา พวกเขาก็จะตอบว่า ท่านอ้วนกลัวว่าโจโฉอาจจะโจมตีด้านหลัง เขาจึงส่งกำลังเสริมไปป้องกันด้านหลัง ทหารอ้วนเสี้ยวก็เชื่อ พวกเขาจึงสามารถผ่านไปได้

เมื่อทัพโจโฉมาถึง พวกเขาล้อมค่ายเสบียงของอิเขงและจุดเพลิง เหล่าทหารอ้วนเสี้ยวที่คุมเสบียงต่างแตกตื่นและสับสน ทันทีที่ไฟสว่างไปทั่วค่าย อิเขงและคนอื่นก็เห็นว่าโจโฉนำทหารมาน้อยแค่ไหน พวกเขาจึงตั้งแถวรบหน้าประตูค่าย โจโฉเข้าโจมตีทันที อิเขง ถอยไปยังแนวป้องกันของค่าย แต่โจโฉตามไปโจมตีเขาอีกครั้ง

เมื่ออ้วนเสี้ยวรู้ว่าโจโฉไปโจมตี อิเขง เขาพูดกับ อ้วนถำ ว่า ในขณะที่โจโฉโจมตี อิเขง ข้าจะยึดค่ายของเขา โจโฉก็จะไม่มีที่ให้กลับไป อ้วนเสี้ยวส่ง โกลำ และเตียวคับไปโจมตีค่ายโจโฉ

เตียวคับว่า ถ้าโจโฉนำกองทัพที่ดีที่สุดของเขาไป โจโฉต้องชนะ อิเขง เมื่อ อิเขง พ่ายแพ้ การใหญ่ก็จะเสียไป ข้าขอร้องให้นายท่านไปช่วย อิเขง ก่อน แต่กัวเต๋าคัดค้านอย่างแข็งขันว่าพวกเขาควรโจมตีค่ายโจโฉ

เตียวคับแย้งว่า ค่ายท่านโจโฉนั้นแข็งแกร่ง ถ้าเราโจมตี เราจะไม่มีทางได้ชัยชนะ ถ้า อิเขง และคนอื่น ๆ พ่ายแพ้ เราเองที่จะเป็นฝ่ายถูกจัดการ

อ้วนเสี้ยวส่งทหารบางส่วนไปช่วย อิเขง และนำทัพส่วนใหญ่เข้าโจมตีค่ายโจโฉ แต่ไม่สามารถยึดได้

เมื่อทหารม้าอ้วนเสี้ยวมาถึง อัวเจ่า แม่ทัพของโจโฉบางคนบอกว่า ข้าศึกกำลังประชิดเข้ามา เราควรจะส่งทหารไปสกัดไว้ก่อน โจโฉโกรธมากพูดว่า รอให้พวกเขามาอยู่หลังทัพเราก่อนแล้วค่อยบอกข้า ทหารโจโฉต่างต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด ทหารโจโฉเร่งรีบเอาชนะศัครู พวกเขาตัดหัว อิเขงและแม่ทัพคนอื่น เผาเสบียงอาหารและฆ่าทหารได้มากกว่าพันคน พวกเขาตัดจมูกศัครู ริมฝีปากและลิ้นจากสัตว์เลี้ยงและม้า และแสดงมันต่อกองทัพของอ้วนเสี้ยว

ทหารอ้วนเสี้ยวต่างกังวลและหวาดกลัว กัวเต๋าอับอายที่แผนเขาล้มเหลว จึงพูดจาใส่ร้ายเตียวคับให้อ้วนเสี้ยวฟังว่า เตียวคับนั้นยินดีที่กองทัพเราพ่ายแพ้ เตียวคับโกรธและหวาดกลัว เขาและ โกลำ เผารถศึกและหนีไปค่ายโจโฉเพื่อขอสวามิภักดิ์

โจหองนั้นระแวงสงสัยไม่เต็มใจที่จะเปิดค่ายรับพวกเขา แต่ซุนฮิวบอกว่า แผนของเตียวคับถูกปฏิเสธ เขาจึงโกรธและหลบหนีมา ใยท่านจึงสงสัยเขา แล้วพวกเขาก็รับพวกเตียวคับเข้าค่าย

ที่กัวต๋อ กองทัพอ้วนเสี้ยวไม่สามารถตีค่ายโจโฉให้แตกได้และเกิดการตื่นตระหนก และวุ่นวายจนเกิดความสับสนอลหม่านไปทั้งกองทัพหลังจากรู้ว่าเสบียงอาหารถูกทำลาย โจโฉฉวยโอกาสเข้าโจมตีในขณะที่ทัพอ้วนเสี้ยวอ่อนแอถึงที่สุด ทัพของอ้วนเสี้ยวพ่ายแพ้ยับเยิน อ้วนเสี้ยวพร้อมด้วยอ้วนถำ พร้อมด้วยขุนนางของเขาขี่ม้าหนีไปตามแม่น้ำเหลืองพร้อมทหารม้า 800 นายคอยอารักขา โจโฉไล่ตามพวกเขาแต่ไม่สามารถตามทัน ทัพโจโฉได้ทรัพย์สมบัติจากกองทัพอ้วนเสี้ยว แผนที่และบันทึกต่าง ๆ ทหารอ้วนเสี้ยวที่ยอมแพ้ถูกโจโฉฝังทั้งเป็น ตั้งแต่เริ่มจนกระทั่งสิ้นสุดสงคราม ทหารของอ้วนเสี้ยวเจ็ดหมื่นนายตายในการรบ (รายงานนี้เป็นของโจโฉที่เสนอต่อฮ่องเต้ ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงเกินจริง ทหารอ้วนเสี้ยวตอนเริ่มสงครามมีเพียงหนึ่งแสนนาย เป็นไปไม่ได้ที่ทัพโจโฉจะฆ่าทหารส่วนใหญ่ของทัพอ้วนเสี้ยวได้ ตัวเลขคงถูกเพิ่มเข้าไป การฆ่าเชลยศึกทั้งหมด แม้ว่าจะเป็นการโหดร้าย ทำให้โจโฉดูโหดเหี้ยม แต่ในสมัยนั้นยังไม่มีอาวุธร้ายแรงที่จะควบคุมตัวนักโทษได้ ไม่มีใครคาดได้ว่า นักโทษจะลุกฮือขึ้นมาโจมตีเมื่อไหร่ อาวุธในสมัยนั้นก็คือร่างกายและอาวุธที่ฟาดฟันกัน เพื่อเป็นการตัดปัญหา การฆ่านักโทษจึงจำเป็น)


Create Date : 05 พฤษภาคม 2549
Last Update : 5 พฤษภาคม 2549 17:31:25 น. 4 comments
Counter : 2429 Pageviews.

 
อ่าว

ทัพอ้วนเสี้ยวมีกำลัง 7 แสนโจโฉ 7หมื่นไม่ใช่หรอ

กุนซือยังขาดเล่าหัว มันสมองสำคัญด้วย


โดย: อุยเอี๋ยน IP: 58.8.187.55 วันที่: 14 พฤษภาคม 2549 เวลา:14:40:15 น.  

 
จำนวนทหารอาจมีการคลาดเคลื่อนไปบ้าง เพราะแต่ละตำรามันไม่เหมือนกัน แต่ในที่นี้ 20000 - 110000 ก็ถือว่าใกล้เคียง ไอที่ว่า 7 แสน ต่อ 7 หมื่น มันไม่ใช่แล้ว


โดย: เล่าขลุ่ย IP: 222.123.44.156 วันที่: 27 ตุลาคม 2551 เวลา:18:33:14 น.  

 
อ้วนเสี้ยวต่างกับโจโฉมาก โจโฉมีภาวะผู้นำ สายตาเล็งการณ์ไกล รอบคอบ ใจกว้าง ไม่เลือกชาติตระกูลไม่แบ่งแยกชนชั้น ใช้คนมีความสามารถ ไม่ติดใจเอาความกับเรื่องที่ผ่านๆมา และที่สำคัญโจโฉมีความเด็ดขาดในการบังคับบัญชา เป็นแบบฉบับของเจ้านายที่ลูกน้องยอมสู้ตายถวายหัวให้ ในขณะที่อ้วนเสี้ยวเป็นแม่ทัพที่โลเล ไม่เด็ดขาด หูเบาหลงเชื่อคำสอพลอ ขาดเหตุผล แบ่งแยกชั้นวรรณะ


โดย: เล่ามาย IP: 124.121.20.138 วันที่: 29 พฤษภาคม 2552 เวลา:9:37:37 น.  

 
อัตรส่วน หนึ่งต่อห้า เป็นไปได้ยากมากที่จะชนะ นอกจากทหารไม่มีฝีมือ หรือขาดการรุกรบ


โดย: นักวิชาโกง IP: 202.29.98.3 วันที่: 4 มิถุนายน 2556 เวลา:9:19:32 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

kazama
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add kazama's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.