Group Blog
 
All blogs
 

Oh_gift99 Review : Beauty Best Buy 2010 รวมทุก Item ที่ประทับใจ Part1 [FACE] ๛


สวัสดีปี 2011 ค่า ขอให้ปีนี้เป็นปีที่ดีของทุกคนเลยค่ะ !!
วันนี้กิฟท์จะมารีวิว รวบรวมทุก Item ที่ประทับใจในปีเสือดุที่ผ่านมา
หวังว่าจะถูกใจบ้างนะคะ ^^ ทำมาเป็นรูปๆให้ดูง่ายนิดนึง
เชื่อว่าส่วนใหญ่คนไทยไม่ค่อยชอบอ่านกัน 5555


มาดูลักษณะสีผิวและสภาพผิวกันก่อนนะคะ ม้วฟๆๆ

สีผิว : ขาวไปทางเหลืองค่ะ ใช้แป้งเบอร์ 1-2 , Nc25 , Oc02
สภาพผิว : ผสมค่อนไปทางมัน T-zone
ลักษณะผิว : มีสิวบ้างบางระยะ มีรอยสิวและรอยแดงพอสมควรค่ะ
ปัญหาผิว : ผิวมันเฉพาะจุด แห้งเฉพาะจุด
ปัญหาหลัก : รอยคล้ำใต้ตาที่แย่ลงๆทุกวัน ปกปิดได้แต่รักษาไม่ได้

----------------------------------------------------------------

เริ่มที่ " The Best of Foundation "

รวมรวมรองพื้นที่อยู่ในความประทับใจปี2010


ปีนี้หน้าเหียกมาก ต้องพึ่งรองพื้น หน้าแก่ไวน่าใจหาย
รู้ตัวอีกทีก็ขาดรองพื้นไม่ได้แล้ว ไม่กล้าเปลือยหน้าออกจากบ้านเลย
ใช้รองพื้นหลอกชาวบ้านไปวันๆ ว่าหน้าใสไร้รูขุมขน ฮือๆๆๆๆๆ




อันดับ1 "Revlon Photo ready" เบอร์ 003,005
เห็นถามกันเยอะว่าใช้เบอร์อะไรดี อยากขาวใสใช้003
ไม่อยากหน้าลอยใช้ 005 อยากดูขาววอก
หรือหน้าจริงเหมือนโดนของแต่ถ่ายรูปแจ่มเลือกเอาจ้ะ...
รองพื้นตัวนี้ก็แปลก บางวันก็เด้ง เด้ง เด้ง ขอย้ำ 3 ที
บางวันก็เฉยๆ ดีกว่าไม่ทา ราคาก็ไม่แพง ก้มหน้าทาต่อไป ซิกๆ


อันดับ 2 "Ipsa pure protection Liquid foundation" เบอร์101
ที่ลองเป็นแบบเนื้อครีมนะคะ เนียนผิดรอยได้ดี
มีเยิ้มๆบ้างๆระหว่างวัน "แนะนำว่าเป็นรองพื้นที่น่าสนใจอีกตัว"


อันดับ 3 Lancome Teint miracle 0C3
ลองที่หลังมือพบว่าบางมาก แต่พอลงที่ผิวหน้าพบว่ามันกลืนมาก
ไม่วอกหลอกลอย ดูออร่าไม่น่าเชื่อ หากแต่มันไม่คุมมันเลยนะคะ
แทบจะไม่ปกปิดเลยด้วยซ้ำ แต่ทำให้ผิวดูดีเหมือนไม่ได้ทารองพื้น


อันดับ 4 Covermark essence foundation liquid yn20
ได้มาจากงาน Ws เป็นการใช้รองพื้นโทนเหลืองที่หลีกเลี่ยงตลอด
เพราะเข้าใจว่ามันทำให้สาวผิวเหลืองดูเหลืองหนักเข้าไปอีก
แต่พอแตะที่ผิวหน้าก็ดูกลมกลืน ไม่ปกปิดมากนะคะ ใสๆใช้ได้ทุกวัน


อันดับ 5 ไว้ใช้ออกงาน Lm silk cream #Ivory beige
ปกปิดดีมาก เสกว่าหน้าเนียน ปิดรูขุมขนได้ใน3นาที
ระหว่างวันมีเยิ้มบ้าง ใช้คู่กับแป้งLunasolยิ่งเนียนจัดแต่ก็หนาจัดเช่นกัน
ระหว่างวันหากมีเหงื่อจะเยิ้มได้ง่ายมาก เอาไว้ใช้เวลาออกงานเท่านั้น





ต่อด้วย Concealer ประจำปี 2010

เมื่อพูดถึงรองพื้นขาดไม่ได้ก็ต้องพูดถึง "คอนซีลเลอร์"
กิฟท์ไม่ค่อยมีสิวเลยไม่ได้เน้นที่คอนซีลเลอร์ปิดสิวนะคะ
แต่ถ้าพูดถึงใต้ตาก็มีอยู่ 3 ชิ้น ที่หยิบมาใช้เป็นประจำค่ะ





อันดับ 1 Benefit "Confession of Concealaholic"

เห็นกล่องแล้วตกใจเพราะเล็กกว่าที่คิด แต่ใช้แล้วก็ไม่ผิดหวัง
ทุกอย่างที่ให้มาในพาเลทได้ใช้หมด และนานกว่าจะหมด คุ้มดีค่ะ !!

- erase paste no.2 สีอออกส้มไปหน่อย แต่เอาไว้ปิดวันที่แพนด้า
สีส้มช่วยพรางความคล้ำสีม่วงของใต้ตาได้ดีค่ะ
- Boiing เบอร์2 พอดีกับผิวเลย ปิดได้ทั้งแพนด้าและรอยสิว
- Lemon aid ลดรอยแดงเปลือกตาให้ตาสว่างขึ้น
- eyebright ไม่ได้ใช้ประโยชน์เท่าไรสำหรับสีผิวเหลืองแบบเอเชีย
- Thaat gal ไม่ค่อยกล้าใช้กลัวหมด เพราะหลอดเล็กมาก 555

// อ่านรีวิวเพิ่มเติม ได้ที่กระทู้นี้ค่ะ ^^

//pantip.com/cafe/woman/topic/Q10045811/Q10045811.html


อันดับ2 "Kate Concealer for under eye"
ราคาไม่แพง 200นิดๆ โอเคระดับนึง เนื้อหนากว่าตัวอื่นๆ
ปิดแพนด้าได้พอสมควร แต่ระหว่างวันหายซะงั้น
กลายเป็นด่างๆตรงใต้ตา ใครผิวแห้งมากๆแนะนำนะคะ
เพราะเนื้อครีมชุ่มชื้นดี แต่ไม่หนัก ผิวมันไม่แนะนำค่ะ...

อันดับ3 Smashbox under eye Brightener
ปิดแพนด้าได้น้อยมาก แต่ช่วยเรื่องไฮไลท์ให้ใต้ตาสว่างมากกว่า
เนื้อเหลวเกลี่ยง่าย สีสว่างมีประกายเล็กๆ ไว้ใช้วันเบาๆ





เมื่อลงรองพื้นแล้ว คอนซีลเลอร์แล้ว ก็ต้องต่อด้วยแป้งฝุ่น

แป้งฝุ่น " Loose Powder "

แป้งฝุ่นบางคนไม่เข้าใจว่าจำเป็นอย่างไร ? แต่ถ้าคุณเป็นคนแต่งหน้า
มีความจำเป็นนะคะ ที่จะช่วยเซ็ทพวกครีมต่างๆให้แนบสนิทกับผิว
นับตั้งแต่บำรุงกันแดดจนไปถึงรองพื้นต่างๆ บางคนสงสัยว่า
ใช้แป้งแข็งยี่ห้อดังๆแล้วทำไมเป็นคราบ บางครั้งก็ลืมเหตุผลที่สำคัญ
อย่างแป้งฝุ่นไป แป้งฝุ่นที่ดี ไม่จำเป็นต้องราคาแพงค่ะ
อาจจะใช้แป้งฝุ่นธรรมดาที่ตามห้างทั่วไปก็ได้ค่ะ





อันดับ 1 "Covermark loose powder"
เป็นแป้งโปร่งแสงที่บางเบามากๆ ได้มาจากไปWs
คิดว่าคล้ายๆของ Lunasol แต่ตัวนี้จะปกปิดดีกว่านิดนึง
ลูน่าจะเบาๆ เซ็ทพวกรองพื้นต่างๆได้ดี ขายแบบแยกตลับ
แป้งโปร่งแสงเข้ากับผิวได้ดี เข้ากับรองพื้นทั้งยี่ห้อเดียวกัน
และยี่ห้ออื่นๆได้ดีค่ะ แต่ถ้านับเรื่องราคาก็ไม่คุ้มเท่าไร
เพราะแป้งที่ถูกกว่านี้หลายๆเท่าก็มีคุณสมบัติใกล้เคียงกัน..


อันดับ 2 LM loose powder # Translucent
แป้งโปร่งแสงตัวดังที่ขึ้นชื่อเรื่องคุมมันที่สุด ปกปิดดีกว่าทุกๆตัวที่มีอยู่
แต่ในบางครั้งก็ปกปิดเกินไป และให้ความรู้สึกแมทท์หรือแห้งเกินไป
ไม่สบายหน้าเท่าไร แต่วันที่จัดหนักก็จำเป็นต้องใช้แป้งที่มีคุณสมบัตินี้
ราคาค่อนข้างแพงและไม่มีพัฟมาให้ค่ะ

อันดับ3 Felicite Premium viel powder [mmu]
แป้ง mmu โปร่งแสงต่างๆ มีประกายส่วนมากช่วยเรื่องความกระจ่าง
เนื้อแป้งเบา ใช้ช่วงที่ต้องการเผยผิว หรือช่วงรักษาสิว
แต่จำเป็นต้องแต่งหน้า ไม่ทำให้ผิวอุดตันเพิ่มขึ้น
ถ้าพูดถึง mmu ในความรู้สึกชอบแป้งของยี่ห้อนี้ที่สุด ^^


อันดับ 4 "ดร.สมชายแป้งฝุ่นสีเนื้อ" *ต้องมีติดโต๊ะเครื่องแป้งไว้
เป็นแป้งที่ถูกมาก ทำหน้าที่ของมันได้ดีคือการเซ็ทรองพื้น
ใช้หมดไปหลายกระปุกแล้ว ถ้าใช้ทุกวันก็หมดเร็วเหมือนกัน
แป้งละเอียดเปิดมาฝุ่นฟุ้งกระจายเลย แพ้อากาศไม่แนะนำ
คุมมันได้พอสมควร ช่วยเรื่องการรักษาสิวด้วย


อันดับที่ 5 "MTI feel perfect" #แป้งโปร่งแสง
ไปเรียนแต่งหน้ากับ MTI ได้เลยซื้อมา น่าจะ300ปลายๆ
เนื้อแป้งเบาดีค่ะ ทำหน้าที่ของแป้งฝุ่นได้ดี เข้าได้กับทุกสีผิว
ไว้ใช้รองใต้ตาเวลาแต่งตาดำมากกว่า ราคาไม่แพงไม่ค่อยเสียดาย
ใครอยากได้ Lm แต่งบน้อย ตัวนี้ดีพอใช้เลยค่ะ





มากันที่แป้งผสมรองพื้นบ้างค่ะ ไว้ใช้เติมระหว่างวัน


"Foundation Powder"

การใช้แป้งผสมรองพื้นเติมระหว่างวันเป็นความคิดที่ผิดนะคะ
แต่ทำไงได้ละหน้าหมองซะขนาดนั้น เวลาที่เราใช้รองพื้น
ตามหลักใช้แค่แป้งฝุ่นตาม ให้มันเซ็ทตัวก็พอ
แต่ความจริงไม่เป็นอย่างนั้น ผู้หญิงไทยเราเหมือนขาดอะไรไป
ถ้าไม่ทาให้มันเต็มสตรีม มีวิธีแก้ค่ะ ถ้ารู้สึกว่ามันหนาไป
ใช้แปรงปัดออกได้ค่ะ นอกจากช่วยลดความหนาแล้ว
ยังทำให้สีเมคอัพและทุกอย่างกลมกลืนมากขึ้นด้วย

วิธีใช้ โดยระหว่างวันใช้ซับมันหรือทิชชู่ซับความมันออกก่อน
แล้วค่อยแตะแป้งซับที่หน้านะคะ และควรซักพัฟทุกอาทิตย์ด้วย
อย่าปล่อยให้หมักหมมจะเป็นแหล่งเชื้อโรคซึ่งเป็นต้นเหตุของสิวค่ะ





อันดับ 1 "Lunasol skin fusion powder foundation" #oc02
คนที่ผิวค่อนข้างดีอยู่แล้วขอแนะนำ เสียอย่างเดียวที่ไม่คุมมันเอาซะเลย
ยิ่งทาก็ยิ่งหนา แป้งช่วงจมูกชอบหาย ทำหน้าด่างอยู่บ่อยๆ
แต่ซับมันออกแล้วตบๆนิดหน่อย ก็เด้งเหมือนเพิ่งออกจากบ้านมา
สาวผิวมันโปรดหลีกเลี่ยง ผลที่ได้อาจตรงกันข้ามได้ค่ะ !!


อันดับ 2 Beautilicious puff up souffle #1 vaniila
ปกปิดน้อย คุมมันได้ดี สีแป้งไม่ขาวมาก ได้ลุคส์ใสๆ
บางเป็นธรรมชาติ ไม่มัน ระหว่างวันแป้งไม่เปลี่ยนสี
คนผิวแห้งอาจถึงขั้นเกลียด เพราะมันคุมมันจนหน้ารู้สึกว่าตึงไปเลย
แม้เป็นแป้งผสมรองพื้น แต่บางเหมือนแป้งอัดแข็ง เหมาะกับผิวที่ดีอยู่แล้ว


อันดับ3 Kma Cove Ideal [no.1 refill]
ปกปิดดีมาก สีแป้งเหมาะกับสาวไทยผิวอมเหลือง เบอร์1ไม่ขาวเท่าไร
รุ่นนี้ออกไปทางเหลือง ตบระหว่างวันจะหนามากใช้แปรงปัดจะเบาๆกว่า
ระหว่างวันสีแป้งจะดร็อปเล็กน้อย เหมาะกับพวกแต่งหน้าละคร ออกงาน ราคาไม่แพงด้วย **ยี่ห้อนี้แป้งแต่ละรุ่นโทนสีไม่เหมือนกันนะคะ**


อันดับ 4 Kose Supreme powder Foundation
คุณสมบัติคล้าย Lunasolมาก แป้งกำมะหยี่เนื้อนุ่ม
ปกปิดค่อนข้างดี ไม่คุมมัน ราคาใกล้เคียง ต้องซื้อตลับแยกรีฟิล
แป้งยี่ห้อนี้สีค่อนข้างขาว เลือกให้เหมาะยาก ใครผิวขาวมากๆ
แบบขาวชมพูเป็นญี่ปุ่นเกาหลี ลองพิจารณายี่ห้อนี้ค่ะ


อันดับที่ 5 "Kma Clear white powder cake"
เป็นแป้งที่พัฒนาล่าสุด สีแป้งขาวขึ้นไม่ดร็อประหว่างวัน
บางเบาขึ้น เปลี่ยนเบอร์1เป็นโทนชมพู แต่ยังเข้าได้ดีกับสีผิวคนไทย
อาจเป็นเพราะเป็น บ.คนไทยด้วย เลยทำสีเข้าผิวกับสาวไทย
เมื่อเปรียบกับ Cover ideal บางกว่าอย่างเห็นได้ชัดมากใช้ได้ทุกวัน


----------------------------------------------------------------

สำหรับบล็อคนี้ก็ขอรวบรวมไว้เฉพาะหมวด"FACE " ก่อนนะคะ
แล้วจะทะยอยอัพ ส่วนอื่นๆให้ครบ ถ้าอัพรวมเลย เกรงว่าจะอ่านยาก
ขอบคุณที่ติดตามชมกันด้วยค่ะ และเสพรีวิวด้วยสติเช่นเคย บ๊ายบาย !!





 

Create Date : 17 มกราคม 2554    
Last Update : 17 มกราคม 2554 0:15:08 น.
Counter : 9088 Pageviews.  

สารพัด สีปัดแก้ม all about Blush on Part 1 ๛





หลังจาก อ่านเรื่องของแป้งๆไปแล้วนะคะ

ข้ามมาที่ฝั่ง ของสีสัน บนแก้มกันบ้างค่ะ กับบลัชออนต่างๆ ในกรุ

เยอะมากกกกกก




ดูรูปรวมๆก่อนเลยค่ะ










และ ขยายเข้ามาอีก ในกองนี้ มีอะไรกันบ้างน้า ...









ส่วนมากจะเป็นบลัชออน ราคาย่อมเยานะคะ เน้นถูกและดี


ถ้าพูดถึง ถูกและดี กับแบรนด์ที่เคยฮิตมากๆ


อย่าง Rimmel ก่อนดีกว่าค่ะ



ตัวนี้ แทบไม่ต้องบรรยาย น่าจะเคยได้ยินกิตติศัพท์



กับ Santa rose ว่าไปคล้าย Ogasm ของ Nars



สนน ราคาประมาณ 150 บ. ไทย








สีส้ม อมชมพู มีประกายพอสวยงาม ส่วนตัวเราว่าสีสวยกว่า นาร์สนะ

แต่เรื่องความติดทนพอประมาณ ยังสู้นาร์สไม่ได้ค่ะ

แต่ความราคา และความคุ้ม ชนะเลิศ



---------------------------------------------


และแบรนด์ฝั่งเมกา ถูกและดี ก็จะพลาดเจ้า Elf ไปไม่ได้


เริ่มที่ บรอนเซอร์ก่อนดีกว่า กับ สี Sunkissed จาก Elf


สีเค้าว่าเหมือนอะไรนะ จากลุง shu เคยเห็นในบล็อค พี่ฝน แมวจอมกวน


หรือ พี่เปิ้ล มิถุนา ไม่แน่ใจ 555+









ตัวนี้ งามมากค่ะ สีน้ำตาลทอง บ่มแดด แทนๆ งามแงะเลย

เสียตรงที่ เนื้อร่วนมาก เป็นผงร่วงง่ายมากๆเลย แต่ราคา แค่ 99บ.

จะร่วงก็ไม่เสียดาย



----------------------------------------------------------


และมา ที่บลัช Efe กันบ้าง อีก 2 สี


Shy และ Innocent จริงๆมี Glow อีก ตัว แต่แตกยับเยิน


หลานเอาไปเล่น ตามด้วยหมาสุดที่รักเอาไปแทะต่อ สุดแสนช้ำใจ


ทำไมช่างทำลายดวงใจกิฟท์เช่นนี้ อยากจะบอกว่าชอบสี Glow ที่สุด


มันสวยแบบ สวยได้อีกอะ แต่ไม่รู้จะไปฝากใครซื้อแล้วอะ ฮืออออ








สี Shy ก็จะออก ชมพูอมแดงนิดๆหวานๆ


สี Innocent ชมพู นู้ดๆ อมส้มนิดเดียว ใสๆ


สี Glow นี่ มันส้มอมชมพู แต่ปัดแล้ว ออกแดงนิดๆ โกลว์สมชื่อ ติดตรึงใจ




ราคาประมาณ 99 บ. ไทย เหมือนว่าที่เมกา ประมาณ เหรียญเดียว

ใครไปเมกา ซื้อฝากเค้าที ฮืออออออ



* ติดไม่ค่อยทนนะคะ แต่สีน่ารักมาก และ คุ้มมาก ซื้อเก็บไว้ให้ชื่นใจ



-----------------------------------------------------------



และยังอยู่กับแบรนด์ ต่างประเทศ ตัวนี้ภูมิใจเสนอมาก


กับ Sue Devitt แพคเกจกระดาษๆ ดูธรรมดา แบบนี้ แต่เลิศค่ะ

ราคาประมาณ 150 บ.ไทย Bonjois ไม่ได้กินเงินกิฟท์เลย 55555


เรียกว่า คุณค่าที่กิฟท์คู่ควร เอิ๊กๆๆ








มากัน 2 สี กับ Belize และ Tralee



Belize สีชมพูอมแดงนิดๆ โกลว์ๆ ปัดแล้วแก้มฉ่ำมาก คุณภาพทะลุราคา


Tralee สีนี้จะออกน้ำตาลบ่มแดด แทนๆหน่อย โกลว์ๆ งามแงะ






ตัวนี้ ให้ 9 / 10 ติดที่ แต่งได้ไม่ประจำ เพราะวิ้งฉ่ำมาก


จะสวยใต้แสงไฟเป็นพิเศษค่ะ



---------------------------------------------------




ก็ยังเป็นของดีราคาถูกค่ะ กับ แบรนด์ cosmeda ที่เปลี่ยนจาก Mona

ตอนนี้ เป็น Beauty buffet อีกแล้ว งงเลย




เป็นบลัชออนรุ่นเก่าค่ะ ไม่แน่ใจ ยังมีอยู่รึเปล่า แต่รุ่นใหม่ก็สวยใช้ได้เลย








สีชมพูอ่อนนมๆ สีนี้สวยค่ะ ปัดแล้วแก้มสว่าง แต่ติดไม่ค่อยทนเลย


ใช้ได้เรื่อยๆค่ะ ราคาประมาณ 259 บ.


--------------------------------------------------------



ก็ยังเป็นของดีราคาถูกอยู่นะ บอกแล้วว่าคนมันจน 55555


เป็นมิสทีนริช ชิมเมอร์บริค ยาใจคนจนค่ะ อันนี้เป็นโทนชมพู


และ บลัชลิมิเต็ด เซเลอร์มูน เอ้ย รุ่น Love [Op]







มิสทีนริช โทนชมพู ปัดรวมๆกันก็ได้ ชมพูเงาๆ ค่ะ


แต่ไม่สวยเท่าโทนน้ำตาลทอง อันนั้นแนะนำมาก


ใครอยากได้ BB , Lm แต่ไม่มีงบ


สอยมิสทีนริช สีน้ำตาลทองค่ะ ใช้ได้เลย ^^




บลัช ลิมิเต็ด Op รุ่น Love สี ส้ม กับ สีชมพู


สีสวยทั้ง 2 ด้าน แต่ บลัช op ยังเป็นฝุ่นๆ แป้งๆอยู่มาก และไม่ทนเท่าไร


แต่สีสวย และ ตลับน่ารักเกินห้ามใจ อภัยได้ค่ะ


*ไม่แนะนำให้พกพา แตกแน่นอนค่ะ



------------------------------------------------------



มาที่ฝั่งไทยกันดีกว่า


บลัชออนในดวงใจ red apple จาก fasio ตลับกลม รุ่นเก่า


หลังใช้รุ่นใหม่ ตลับเหลี่ยมจนเกลี้ยง เลยไปหาตลับกลมกลับมาใช้


และ บลัช เมจิก จาก แพลตินั่ม









fasio [red apple ] ตลับกลม สวยสู้รุ่นใหม่ไม่ได้ รู้สึกสีมันหม่นกว่า

แต่ก็แดง แบบน่ารักๆ เลือดฝาดเหมือนเดิม แต่รู้สึก รุ่นใหม่สีจะใสๆกว่า


บลัช เมจิก สีชมพูอมแดง นิดๆค่ะ สีโทนนี้มีเพียบเลย - -*




------------------------------------------------------



ถูกและดี มีแต่คนชอบกันมั่ง กับ Loreal Blush on









สีฮิตๆทั้ง 2 สี กับ Rosy cheek และ Pink Mashmalow




สีในตลับ









- Rosy cheek สีนี้สวยมากชมพูอมแดง กึ่งวิ้ง กึ่งเงา ปัดแล้วหน้าสว่าง

แต่ถ้าปัดมากไป อาจวิ้งท่วมหน้า เหมือนคนเป็นฝ้าได้



- Pink Mashmalow สีนี้สวยอีกเช่นเคย ชมพูนมๆเงาๆ

แต่ไม่ค่อยเข้ากับเราเลย ไม่ค่อยชอบวิ้งๆเท่าไร ชอบบลัชเนื้อแมทท์

แต่สีสวยจับใจจริงๆ เป็นสีอย่างที่ชอบเลย ใครชอบวิ้งๆห้ามพลาด



-----------------------------------------------------------


ดูแบรนด์ Za กันบ้าง กับ บลัชออน สีชมพูกลีบบัว

ตัวนี้ราคาพอประมาณเลยไม่ถูกไม่แพง

มีไฮไลท์ข้างนึง เป็นบลัชสีชมพูกลีบบัวข้างนึง เก๋ซะ !






ตัวนี้ยังไม่ได้ลองปัดจริงจังค่ะ เก็บไว้ก่อน คิดว่าจะปล่อยอยู่

เพราะเยอะมากใช้ไม่ทัน - -*



------------------------------------------------------



มากันที่ตัวเด็ด อยากเสนอบ้าง กับ


แบรนด์ Ck สีisire


ที่เป็น out of stock ของ Sephora ไปแล้ว










ตัวนี้ สีชมพูนมๆ โกลว์ๆ ค่ะ ออกเงาๆ สวยอะ ปัดแล้วแก้มหวานมาก

ดูมีชาติตระกูลขึ้นมาทันที แพงใช้ได้เลย

เป็นบลัชที่ราคาแพง เกือบที่สุดที่มี 555

แต่เอาน่า อยากสวยลงทุนหน่อย อิอิ



-------------------------------------------------------------



3 ศรี คู่ซี้ หน้าเกือบเหมือนกันบ้าง ตลับที่โทนเดียวกัน แยกแทบไม่ออก







มีอะไรกันบ้าง รายงานตัวด่วน



shu m pink 33 e เป็นอะไรที่ถ่ายยากมาก ถ่ายมาไม่เหมือนสีจริงเลย

สีชมพูนมๆ ยอดฮิตของ ลุง ชูค่ะ ที่ต้องสอยมาประดับ โต๊ะเครื่องแป้งบ้าง

เนื้อแมทท์ค่ะ แต่สีไม่ค่อยเข้ากับกิฟท์เลย

หน้าเหลืองเกินปัดแล้ว อมแดงเฉย ใครสนใจปล่อยต่อ 450 ค่ะ ใหม่ๆเลย



The face shop [Pk101] ตัวนี้ ชมพูนมๆ สีเดียวกับ shu เลย

สีบนหน้าก็ยังไม่เพี้ยน เป็นชมพูนมๆ เนื้อแมทท์ แต่แป้งมาก

ปัดแล้วฟุ้งเข้าจมูกเลยใช้ไม่บ่อย - -*



The face shop [Pk102] นี่ชมพูนมๆ บาร์บี้มาอีกนิดนึง สีนี้ สวยมาก

ปัดแล้วได้ชมพูสว่างๆ มีวิ้งนิดๆ กำลังดี ไม่แป้งเท่า 101 ใช้บ่อยที่สุดตลับนี้

เป็น must have ที่อยากให้ทุกคนลองให้ได้ค่ะ แล้วจะติดใจ ....



---------------------------------------------------------




3สาวโชว์บั้นท้ายหน่อย พอดูก้นตลับ


ค่อยเห็นความต่างของแพคเกจหน่อย








-----------------------------------------------------------



และ Nars อีก 3 สี ที่ชาตินี้ต้องขอมีกับเขาให้ได้


ได้มาเป็นของขวัญวันเกิดค่ะ ขอบคุณมากๆ Thx ด้วยนะตาลเพื่อนรัก






จะไม่พูดถึงมากนะคะ เพราะ มีคนรีวิวไปเยอะแล้ว



Desire สำหรับกิฟท์ปัดไม่เข้าเท่าไร ออกแดงไม่ชมพูเลย
อยากให้สีบนแก้ม ชมพูอย่างบนตลับอ่า ปัดที่แก้มแล้วสีเพี้ยน
ปล่อยต่อไปตามหาเจ้าของเรียบร้อย เลยสอย Ck มา แทน 55


Deep throat ตัวนี้สำหรับกิฟท์ ออกส้มมากกว่าชมพู
ปัดแล้วไม่ไบรท์ น่าจะเหมาะกับกับงานที่แสงไฟจัดๆ
ปัดทุกวันไม่สวยเท่าไร ฮืออ ใช้ได้ไม่บ่อยเท่าที่คิด T^T



Luster ตัวนี้ออก น้ำตาลทอง
ตอนไปลองที่เคาเตอร์ไมสวยว้า
พอได้มาปัดเองแล้ว รู้สึกว่า มันไม่ใช่อะกิฟท์ .....



-----------------------------------------------------------



ความรู้สึกหลังครอบครอง Nars เริ่มคิดว่า อะไรที่เค้าว่าดี

อาจไม่ดีสำหรับเราก็เป็นได้ค่ะ ตอนนี้อยากได้ Angelika แต่แพ้วิ้ง

และลังเลใจ กับ Matahari น่าจะเชื่อพี่ซิ่มแต่แรก T^T

ถ้า น้องแอง ปัดแล้วยังไม่สวย คงต้องลาจาก

น้องนางบ้านนาร์สแต่เพียงเท่านี้ค่ะ 55555



---------------------------------------------------------



ก็หมดไปแล้วนะคะ กับ สีปัดแก้มในกรุน้อยๆ รึเปล่า

ตอนนี้กำลังมีโครงการ สอย บลัช smashbox หลายๆสี 555

แล้วจะมารีวิวใน Part 2 ค่า ขอบคุณที่ติดตามอ่านค่า ^^



---------------------------------------------------






 

Create Date : 09 สิงหาคม 2552    
Last Update : 9 สิงหาคม 2552 23:33:16 น.
Counter : 7847 Pageviews.  

สารพัดแป้ง all about Powder ภาค 2 ๛





สวัสดีจ้า กลับมาต่อกันดีกว่า เป็นกรุ๊ปบล็อคที่ตั้งขึ้นมาใหม่


หลังจากไม่รู้จะยัดรีวิวนี้ไว้ใน กลุ่มไหนดี เลยตั้งใหม่ซะเลย


เพื่อรีวิว เป็น part ๆ ไป แป้งเอย บลัชออนเอย อายไลเนอร์ มาสคาร่า


ส่วนพวก เห่อของ ก็จะไปตั้งที่ สารพัดจะเห่อ


ส่วนของที่อยากปล่อย ก็ ทะยอยนำมาปล่อยในราคาถูกๆค่ะ


------------------------------------------------



มากันที่ สารพัดแป้ง Part 2 ที่ติดไว้ค่ะ


เห็นมีกระทู้ถามถึงเยอะ ว่า แป้งม้าโยก ผสม กับไม่ผสม ต่างกันยังไง

แบบไหนดีกว่า กิฟท์ก็เป็นคนนึงค่ะที่สงสัย เลยซื้อทั้ง 2 แบบ 5555







เป็นแป้ง Beauty credit (แป้งม้าโยก Moist )


สีชมพูผสมรองพื้น สีทอง ไม่ผสมรองพื้น No.21 ค่ะ





ตลับน่ารักเนอะ ....

(ทางเว็บ ราคาต่อตลับประมาณ 300 กว่า บ. ไทย)







มาดูสีแป้งเปรียบเทียบจากในตลับกันดีกว่าค่ะ









แป้งม้าโยกผสมรองพื้น no.21 ตัวนี้จะสีพอดีกับหน้ามากกว่า เนียน

ปกปิดกว่า แป้งไม่ผสมรองพื้นพอสมควรเหมาะกับสาวผิวขาวเหลือง

เพราะเป็นสีเนื้อ โทนเหลืองเจือมากกว่ารุ่นไม่ผสม



แป้งไม่ผสมรองพื้น สีขาวกว่ารุ่นผสม ไม่ปกปิดเลย ให้ลุคส์ผ่องๆ บางๆ

เหมือนแป้งโปร่งแสง เหมาะกับสาวผิวขาวๆ เพราะเป็นแป้งสีเนื้ออ่อน



* แต่ผลการใช้ของทั้งคู่ ก็ยังไม่ถูกใจทั้งคู่ เพราะ แบบผสมรองพื้น

ยังเป็นคราบตรงจมูก และแบบไม่ผสมก็ติดไม่ทน แปปๆหายไปจากหน้า

แต่ก็ยังใช้ได้บ่อยๆ ถ้าให้เลือก ก็เลือกยากมากค่ะ

เพราะแบบผสมก็เข้ากับผิวดี แบบไม่ผสมก็ใช้ได้เรื่อยๆ

ถ้าคนผิวหน้าไม่มีปัญหาอะไร แนะนำ ม้าโยกค่ะ




ลองสีบนหลังมือค่ะ








ม้าโยกไม่ผสม สีจะออกสีเนื้ออ่อนเหมาะกับคนขาวๆ ไม่ปกปิด

ม้าโยกผสม สีจะอมเหลืองกว่า เหมาะกับขาวเหลือง ปกปิด แต่เป็นคราบ





----------------------------------------------------------


* ผลการใช้เป็นแค่ของกิฟท์เพียงคนเดียวนะคะ
กิฟท์ผิวแห้ง และผิวผสมช่วงจมูกค่ะ ไม่ค่อยมีสิว มีแพนด้าน้อยใต้ตา
แนะนำให้อ่านไว้เปรียบเทียบการตัดสินใจอีกทีค่ะ
อาจไม่ใช่ผลที่เกิดกับทุกคน มีทั้งคนที่ชอบและไม่ชอบจ้ะ

**โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชมค่ะ**




-------------------------------------------------------



ตัวต่อมาค่ะ







แป้งผสมรองพื้นฮันนี่ฟลาวเวอร์ จากเครือโรซี่ ราคา 380 บ. ไทย


และ แป้งผสมรองพื้น icci รุ่นใหม่ ประมาณ เกือบ 300. ไทย









สีแป้งจากตลับค่ะ



แป้งผสมรองพื้นฮันนี่ฟลาวเวอร์ จากเครือโรซี่ เบอร์ 21



ตัวนี้สีแป้งสวยค่ะ เหมาะกับผิวคนไทย เนียน ผ่อง

แต่ยังปกปิดไม่พอสำหรับการทำงานของกิฟท์ ใช้ได้เรื่อยๆค่ะ



แป้ง icci


แป้งตัวนี้ สีแป้งออกเหลืองชัดเจนค่ะ ไม่เหมาะกับกิฟท์เลย

ส่วนใหญ่กิฟท์ใช้แป้งอันเดอร์โทนชมพู ถึงเข้าหนังหน้าค่ะ

เหมาะกับสาวๆ ผิว 2 สี หน่อย เพราะแป้งไม่ขาวมากค่ะ เบอร์ 21




*2 ตัวนี้ใครสนใจ ติดต่อมาเลยนะคะ icci ขาย 200 บ.


แป้งฮันนี่ ขาย 250 บ. ค่ะ ตลับจริง พร้อมรีฟิล 1 อัน มีของแถมด้วย




---------------------------------------------------




มากันที่แป้งฝุ่นกันบ้างค่ะ



กับ แป้งป่าตอง และ แป้งฝุ่นโรตรี เบอร์ 23









ดูแค่ตลับก็สวยแล้ว มาดูเนื้อแป้งกันบ้าง








แป้งป่าตอง ก็ สีเนื้ออ่อนค่ะ ตัวนี้สีออกเหลือง แต่ไม่ดีซ่าน

เคยเป็นแป้งที่โปรดปรานตัวนึงค่ะ



แป้งฝุ่นโรตรี เบอร์ 23 สีเนื้ออ่อนเช่นเดียวกัน มีวิ้งๆด้วย ให้หน้าผ่อง


แต่เกลียดกลิ่นมันจริงๆ ให้ตายเถอะ ซาร่า







ทาลงบนผิวแล้ว



ป่าตอง ก็กลืนไปกับผิว เนียนๆ ผ่องๆ

โรตรี ก็เนียนไปกับผิว จะสว่างกว่า มีวิ้งๆด้วย



แต่ตอนนี้ มี ของที่โปรดปรานใหม่แล้ว ขายคู่กัน 150 บ. ขาดตัว


เต็มๆตลับ ใครสนใจสอบถามได้ ขี้เกียจเก็บ แค่ตลับโรตรีก็คุ้มแล้ว .....




------------------------------------------------------------


มากันที่แป้งฝุ่น ที่ตอนนี้ใช้ทุกวันเลยค่ะ


กับแป้งฝุ่น ดร. สมชาย ของดีราคาถูกมีอยู่จริงจ้า






ตัวนี้แป้งเนื้อละเอียดมาก ราคาที่เจ๊เล้ง ประมาณ 105 บ.


ซื้อที่บิ๊กซี 190 แพงงงงงงง







แป้งเนื้อละเอียด สีเนื้ออ่อนๆ เข้าได้กับทุกสีผิว ราคาประหยัด

คุมความมันได้พอสมควรเลยค่ะ แนะนำๆ ใช้แปรงปัดวนๆหลังลงรองพื้น

ช่วยรองพื้น set ตัวได้ดี กับผิว



ชอบมากใช้ 5-6 กระปุกได้แล้ว 555







ตอนไปซื้อระวังด้วยนะคะ ที่เคาเตอร์มีหลายสีมาก

ทั้งเหลือง เนื้อ ขาว ชมพู ระวังหยิบมาผิดนะจ้ะ



มาดูด้านหลังกล่อง กับ ส่วนผสม เป็นแป้งรักษาสิวด้วย

ใครที่ รักษาสิวอยู่ หมอให้งดแป้งพัฟ ลองใช้ตัวนี้ดูค่ะ









เทสที่หลังมือ ได้แบบนี้ค่ะ ผ่องๆ สีนวลๆ อนูละเอียด








ถูกและดี แบบนี้ ได้ 9/10 ค่ะ เพราะ ด้วยความที่มันละเอียดมาก

บางทีฟุ้งเข้าจมูก ต้องกลั้นหายใจ 555555555



-------------------------------------------------------


มาที่แป้งฝุ่นเทพ ที่สาวห้องแป้งคนไหนไม่มี จะเชยได้


ก็หามาใช้ให้ทันสมัย กับเค้าหน่อย


กับ แป้ง โปร่งแสง


[ Lm Loose setting Powder *Translucent ]










ชมด้านในกันหน่อยค่ะ เพราะว่าแพง เปิดใช้แค่ครึ่งพอ เดี๋ยวหกเยอะ 555










แป้ง Lm ก็ละเอียดนะคะ แต่ Matte มากเลย ใช้แล้วหน้าแห้งมาก

แต่ก็นวลดี ใช้ลงเวลาใช้รองพื้นหนักๆ หรือ ออกงานสำคัญๆ

เพราะแพง เปลืองมากค่ะ 55555 ข้อเสียคือ ไม่มีพัฟมาให้

ใช้แปรงก็เปลืองเหมือนกัน กว่าจะทั่วหน้า เทียบความคุ้มแล้ว

แป้ง ดร. สมชาย ชนะเลิศค่ะ โหะๆๆๆ


-------------------------------------------------------



มาต่อกันที่ แป้งเท็ลมี ที่อยากจะแนะนำให้รู้จักกันค่ะ








*แป้งผสมรองพื้น เท็ลมี two -way sport nurishing

*แป้งผสมรองพื้น เท็ลมี two - way Sport sun control





ซื้อมาที่บิ๊กซี ในราคาลด 25% จาก 300 กว่าๆ

เหลือ 250 บ. เท่านั้นค่ะ เป็นแบบตลับรีฟิล

และน้ำแร่ ประมาณ 80 บ. ลดเหลือ 64 บ.




มาดูสีแป้งใกล้ๆกันบ้าง








เป็นสีแป้ง ที่ ดูแล้ว นี่แหละสีแป้ง คนไทย

เพราะ sun way ก็ สีแบบนี้ เท็ลมี นี่แหละ ภูมิใจใช้ เท็ลมี อิอิ

มันออก สีเนื้อเหลืองอมส้มนะ แต่พอปาดลงบนผิวแล้วตกใจ

ขาวมาก ขาวจะวอกได้ แต่ระหว่างวัน สีดร็อปนะ หน้าเกือบหมอง



*เพราะเป็น two-way เลย เนียนเด้งมากยิ่งใช้คู่กับน้ำแร่ สุดยอดเลย*



มาดูชาร์ทสีบนผิวกันบ้าง








- two -way sport nurishing ตัวนี้บางกว่า ไม่ปกปิดมาก เนียนนน

- two - way Sport sun control ตัวนี้ขาวที่สุดของ เท็ลมีแล้ว

หนากว่าปกปิดกว่า เนียน ได้ลุคส์คุณนาย





** สุดท้ายจะแนะนำว่า สำหรับ เท็ลมี sport ตัวนี้เหมาะกับกลางแจ้งมาก

เพราะติดทนนานดีจริงๆ ใครที่ชอบ เท็ลมี เนเจอร์ไบรท์ ตัวนี้ เด้งกว่า

สีแป้ง ออกขาวกว่า น่าลองเช่นเดียวกันค่ะ



----------------------------------------------------------------




แป้งผักกาดผสมรองพื้น เบอร์1







เนื้อแป้งขาวนะคะ สีออกเนื้ออ่อน

แต่ไม่ขาวเท่าที่ร่ำลือ ตอนแรกก็กลัวว่าจะวอกมาก


เนื้อไม่หนาค่ะ เบาบาง ไม่ปกปิดเท่าไร ใช้ได้เรื่อยๆ แป้งกลิ่นหอมค่ะ



---------------------------------------------------------



ต่อมาเป็นแป้งมันเทศผสมรองพื้นสกินฟู้ดส์ค่ะ เบอร์ 13







เบอร์ขาวสุดค่ะ แม่ค้าบอกไม่ขาวมาก แต่เราว่ามันก็ขาวนา


เนื้อแป้งสีเนื้อ อมเหลืองอมแดงๆนิดนึง ปกปิดดีค่ะ แต่ไม่ชอบเท่าไร


เค้าบอกเหมาะกับคนหน้าแห้ง ส่วนตัวว่าหนาไปนิด แต่ก็เป็นแป้งที่ดีค่ะ



---------------------------------------------------------


แป้ง สกินฟู้ดส์ตัวสุดท้าย รักหมดใจ แป้งองุ่น เบอร์ 21


เป็นแป้งไม่ผสมรองพื้นค่ะ









ตัวนี้สีเนื้อ เบาบาง ไม่ปกปิดเท่าไรค่ะ แต่ผ่อง หน้านวลดี ชอบมากก

กลิ่นแป้งฉุนไปนิดนึง แต่ใช้จนหมดก็แปลว่าชอบบมากกก

ใช้คู่เบสองุ่น กับ รองพื้น องุ่น เด้งมาก

10/10 รักหมดใจ ยกเว้นกลิ่นของเธอ .....



----------------------------------------------------



มาที่แป้งไทยๆ กันบ้างจ้า








แป้งผสมรองพื้น sun grace เบอร์ 2 โทนเหลือง



ราคา 600 กว่าๆ แป้งตลับ คุณนายได้อีก


สีเนื้ออ่อน อมเหลืองดีค่ะ กิฟท์ใช้แล้วเนียนมากไม่คราบเลย

แต่ไม่ผ่องเท่าไร แป้งคล้ำกว่าผิวอยู่นิดนึง

น่าจะเหมาะกับผิว 2 สีมากกว่า



มาดูสีกันนิดนึง






-------------------------------------------------------



และตัว สุดท้ายกับ แป้งชีเน่ white plus เบอร์ c1


ตัวนี้ก็สีเนื้ออ่อนอมเหลืองนิดนึง สีแป้งสวย เนื้อบาง ไม่หนา

ปกปิดนิดหน่อย แต่ติดไม่ค่อยทนเท่าไรนะคะ ^^


---------------------------------------------------------




ก็หมดไปแล้วนะคะ เยอะโฮกเลย กับ Part แป้ง อิอิ


ก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับคนที่สนใจไม่มากก็น้อยค่ะ


ต่อกันด้วย Part กรุ บลัชออน ที่จะทะยอย มาลงเร็วๆนี้ค่ะ


ขอบคุณสำหรับกำลังใจเช่นเคยค่ะ ^^




---------------------------------------------------





 

Create Date : 09 สิงหาคม 2552    
Last Update : 9 สิงหาคม 2552 23:11:53 น.
Counter : 19964 Pageviews.  

สารพัดแป้ง all about Powder Part 1 ๛





สวัสดีค่า มิตรรัก นักบล็อค ....

วันนี้จะมาแฉ เอ้ย รีวิว แป้งต่างๆ ที่เคยใช้จ้า


เยอะมว้ากกกกกกกกกกกก .....




ก็ลองดูนะคะ เผื่อสนใจตัวไหนอยู่ ดีไม่ดีอย่างไร


จะได้เปรียบเทียบไว้ตัดสินใจประกอบการซื้อกันค่ะ


จะได้ สิ่งที่เข้ากับเรามากที่สุดจ้ะ





ดูรูปรวมๆก่อนเลยค่ะ เยอะมว้ากกกกก ........







----------------------------------------------------------


มาที่ตัวแรกกันเลย กับ Tell me nature bright c1



ตัวนี้ดังมาก ตัวโปรดของพี่พิม ชิฟฟ่อนเลย อิอิ







แป้งสีค่อนข้างกลืนผิวเลยค่ะ ปกปิดดีมาก ตลับก๊อกแก๊กไปหน่อย

อย่างที่เห็น พกไปพกมา แตกครับพี่น้อง

ยิ่งใช้คู่กับน้ำแร่ ยิ่งเด้ง เสียอย่างไม่เหมาะกับคนขาวๆเท่าไร

เพราะระหว่างวัน มีคนทักว่าหน้าเนียนมาก แต่ดูหมองจัง หน้าดำกว่าตัว - -

แต่ด้วยความเนียน และ เด้งมาก ของมัน ให้ 8 /10 ค่ะ

คนขาวมากไม่แนะนำ พอไปใช้กับเพื่อนเราที่คล้ำกว่าเราเยอะมาก

ชีขาวเด้งเลยอะ เหมาะกะชีมากกว่าซะงั้น >,<








มาดูสีแป้งกันบ้างดีกว่า แตกละเอียดเลย (- -*) ฮ่วย








ทาลงผิวแล้ว สีกลืนผิวดี ปกปิดพอสมควร ทามากๆจะหนาได้




---------------------------------------------------------------



มากันที่ แป้งโปร่งแสงริมเมล สเตย์แมทท์







ตัวนี้ชื่อก็บอกอยู่แล้ว ว่าแป้งโปร่งแสง เพราะฉะนั้นจะเข้าได้ดีกับทุกสีผิว

ให้ผิวผ่องเด้ง มีประกายออร่า ดีทุกอย่าง เสียที่ติดไม่ทน

และตลับง่อยพกพาไม่ได้ จึงมีประโยชน์แค่ใช้แทนแป้งฝุ่น

เป็น primer ให้แป้งตัวอื่นๆ ไป แต่ก็ให้ 9/10 ค่ะ

ชอบอย่างไม่มีเหตุผล



--------------------------------------------------------------



มาดูเทียบบนผิว ระหว่างริมเมล vs เท็ลมี






ริมเมล


ชื่อก็บอกแล้วว่าแป้งโปร่งแสง ดังนั้นจึงไม่ปกปิด แต่ช่วยอำพรางผิว

ใช้ความกระจ่างใส และแสงหลอกตา ว่าดูผ่องเป็นประกายนิดๆ

แต่ดันติดไม่ทน - -*



เท็ลมี


กลืนเข้ากับผิวและปกปิดเนียนสนิทไปกับผิว อย่างเห็นได้ชัด

แต่แป้ง ขนาดเบอร์ 1 แล้ว ก็ยังไม่ขาวพอ ทำหน้าหมองระหว่างวัน โฮกกก




----------------------------------------------------------



มากันที่ อดีตลูกรัก แป้งมิสทีนไวท์อิมเมจ เบอร์ s1






*สังเกตุว่า ถ้าแป้งที่มีรหัส s มันจะมี เฉดสีชมพูผสมอยู่
แต่ถ้าเป็น รัหส c เนื้อแป้งจะออกเหลืองกว่า





แต่ยังไง ก็เคยเป็นลูกรักกันมาก่อน ด้วยความที่ปกปิดดีมาก

สีเข้ากับผิวสุดๆ แม้จะไม่ทาอะไรที่หน้าเลย ลงแป้งเดี่ยวๆ ยังเด้ง

ผิดความคาดหมายของแป้งมิสทีนมาก แต่ข้อเสียคือหนาได้อีก

ระหว่างวัน ลงตามไป คราบถามหาแบบไม่ต้องรอ ได้อย่างเสียอย่างจริงๆ

แต่ถึงกระนั้น ก็ใช้มา ได้ 3 -4 ตลับ ปัจจุบันก็ยังคิดถึง

ไว้ลดราคาแล้วจะสอยมาให้อุ่นใจ 555555



* คิดดูขนาดแตกละเอียด ก็ยังแคะๆมาเก็บไว้ รักมากจริงๆ 555



----------------------------------------------------------


ตัวด้านขวา มิสทีน แพลตินั่ม หรือแพลตตี้ ที่รู้จักกันดี

แป้งสีสวยค่ะ คล้าย ดีว่า คล้าย ไวท์อิมเมจ ตระกูลเดียวกัน

แต่ ผิวสัมผัสดันเหมือนกับแป้งไดมอนด์ คือ ออกด้านๆ แมทท์เกินไป

สาวหน้าแห้งอย่างเราใช้แล้วไม่ปลื้ม พยามชอบมันแล้ว

แต่ยังไงก็ไปกันไม่ได้ เราจบกันแค่นี้ ...... (ปัญญาอ่อนดีนะตรู 555)




--------------------------------------------------------







และมาดูรีวิวเปรียบเทียบ ระหว่าง 2 ตัวนี้กันดีกว่าค่ะ



ไวท์อิมเมจ


ปกปิดดีกว่า แพลตินั่มเห็นๆ เนื้อแป้งดูมีความชุ่มชื้น

เหมาะกับสาวผิวแห้ง ปกปิดริ้วรอยเนียนมาก แม้ไม่ได้ลงอะไรก่อน

แต่มันหนาและคราบเกินให้อภัย แป้งตรงจมูกละลายไปก่อนเพื่อนเลยย



แพลตตินั่ม



ทาที่มือดูจะเป็นแป้งที่แสนดี แต่ลงบนหน้าแล้วอย่าให้พูด

ด้านได้อีก แมทท์มากกกกกกก แห้งได้อีก

แต่ถ้าคนที่ใช้เข้าก็เบาบางกำลังดีเลยค่ะ สีแป้งเหมาะกับผิวคนไทยด้วย

แต่ไม่ทนเท่าไรนะ แอบเห็นน้อง pc ใช้ หน้าน้องเหมือนไม่แต่งเลย


------------------------------------------------------




และถ้าพูดถึงแป้ง มิสทีนแล้ว จะพลาดตัวนี้ไปไม่ได้เลยค่ะ


กับแป้ง Diva หรือ แป้งดีว่ะ น่านเองงงง








รีวิวเห่อไปเรียบร้อย กับบล็อคที่แล้ว ยั่วกิเลสพี่น้องได้พอสมควรเนาะ


ใครที่พลาดไป แวะกลับไปชม ละเอียดๆได้เลยค้าบ ที่ลิงค์นี้



//www.bloggang.com/mainblog.php?id=giftza54&month=20-07-2009&group=17&gblog=2




แป้งดีว่า ตลับสวยได้ใจ แม้จะใหญ่ไปหน่อย

แต่ด้วยข้อดี เกือบทุกประการ ให้อภัยได้ จ้า









ทาลงบนผิวแล้ว สีกลืนผิวได้ดี แป้งเกาะผิวดี ตามคำโฆษณา

เนียนดี ไม่คราบ เหมือนตัวอื่นๆ ปกปิดพอประมาณไม่หนามาก



------------------------------------------------------



ต่อมาเป็นสีแป้ง ของแป้งดีว่า Vs แป้งไดมอนด์ค่ะ


เบอร์ 1 : เบอร์ 1 ค่ะ



ลองดูเปรียบเทียบกันนะคะ เผื่อบางคนมีไดมอนด์อยู่แล้ว








คล้ายๆกันค่ะ แต่แป้ง ไดมอนด์ จะแมทท์กว่า และ สีไปโทนชมพูมากกว่า



--------------------------------------------------------------



มากันที่



เปรียบเทียบสีแป้ง มิสทีน Diva กับแป้ง คิวท์เพรส Evory BB บ้าง








สีแบบใกล้เคียงกันมาก แทบแยกไม่ออก ปกปิดปานกลางทั้งคู่

เป็นสีแบบ เหลืองอมชมพู ไม่กินไปทางใดทางนึงมากไป

แป้งบางๆ ไม่หนามาก ไม่แมทมาก แต่สำหรับกิฟท์ บีบี ใช้แล้วเป็นคราบ

ชอบ ดีว่ามากกว่าค่ะ




---------------------------------------------------------------




ชาร์ทสี แป้ง ดีว่า กับแป้งที่นำมาเทียบรวมๆ









- แป้งคิวท์เพรส BB เนื้อกินเหลืองนิดๆ เบาบาง แต่ก็ยังไม่ใช่ที่สุด


- คิวท์เพรส Evory whitening เนื้อออกเหลืองอมชมพู ปกปิดดี หนามากๆ


- แป้งมิสทีน Diva ตัวนี้ก็กินเหลืองมากกว่าชมพูนิดๆ เบาบางปกปิดพอดี


- และแป้งมิสทีนไดมอนด์ ตัวนี้ออกชมพูชัดเจน แมทท์มาก ไม่ชอบ





------------------------------------------------------------



มากันที่แป้งตัวจี๊ดมั่ง เอ๊ะ เหมือนพยาธิตัวจี๊ดไงไม่รู้แฮะ 5555+


กับแป้ง ตระกูล คิวท์เพรส แบบเน้นๆ










เริ่มกันที่ คิวท์เพรส ไอวอรี่ บีบี สีชมพูน่าร๊ากกก


ซื้อเพราะตลับแท้ๆ ตลับสวยจริงๆ ตัวเธอ ... สีแป้งก็แจ่ม


เนียนด้วยแต่ดันเป็นคราบ จบกันแค่นี้ เชอะ ...



------------------------------------------------------







มาต่อกันที่ ตระกูลไอวอรี่ กันอีกที

กับ ไอวอรี่ ไวท์เทนนิ่ง เบอร์ 1

อ่านรีวิวมา กิตติศัพท์ว่า ตัวเธอนางนี้ก็เด้งมาก

ถึงกับต้องซื้อตุนไว้ทีเดียว จั๊งซี่มันต้องลอง


เด้งจริง ขาวจริง แต่หนาได้อีก คราบมาเยือน ตะหมูกข้อยอีกแล้ว





** พยามปรับความเข้าใจ กับ แป้งทุกๆตัวอยู่ ถ้าไปกันไม่ได้

สงสัย ถึงเวลาที่เราต้องแยกทางกันสักที ฮืออออ




---------------------------------------------------------








ดูรีวิวเปรียบเทียบสีกันค่ะ



ไอวอรี่บีบี บางกว่า สีกลืนผิวกว่า

ไอวอรี่ ไวท์เทนนิ่ง หนา ปกปิดได้มากกว่า เหมาะกับคุณหญิงคุณนาย



------------------------------------------------------



และขอจบ รีวิว ภาค 1 กับเรื่องของแป้งๆ ไว้แค่นี้ก่อน

แล้วจะมาต่อภาค 2 เร็วที่สุดจ้ะ


มี อะไรกันบ้าง ก็อย่างเช่น แป้ง ม้าโยก

แบบผสมและไม่ผสมรองพื้นต่างกันตรงไหน และมากแค่ไหน

และแป้ง ตระกูล skinfood อธิเช่น แป้งผักกาด แป้งมันเทศ แป้งองุ่น

และแป้งอื่นๆอีก - -* พูดแล้วเหงื่อตก ของข้อยคนเดียวหรือนี่

ล่าสุดเพิ่งถอยแป้ง เท็ลมี sport sun กับ นูริชชิ่งมาอีก - -*




**อ่านรีวิวแล้ว อย่าลืมทิ้งคอมเม้นท์ทักทาย

หรือ เป็นกำลังใจให้ด้วยนะค้าบบ บ๊ายบายยยจ้า **




---------------------------------------------------




 

Create Date : 07 สิงหาคม 2552    
Last Update : 7 สิงหาคม 2552 3:00:02 น.
Counter : 8410 Pageviews.  

รีวิวแบบเบสๆ รวบรวมเบสเขียวที่มีแต่คนถามถึงจ้า ๛




สวัสดีปีใหม่ค่า โอ้กิฟเองค่ะ


ขอให้ปีนี้เป็นปีที่ดี สำหรับทุกๆคนเลยนะคะ สาธุ !




วันนี้จะมารีวิวเบสเขียว ยี่ห้อต่างๆที่เคยใช้ และ ผ่านหนังหน้ามาค่า


เห็นถามกันเยอะมากๆเลยค่า เกี่ยวกับกระทู้ถามหาเรื่องเบสเขียว



ขอรวบรวมให้แล้วกันน้า เพราะว่า ก็ลองใช้มาพอสมควร


ที่จะรีวิวเนี่ย ก็ไม่ใช่ทั้งหมด ยังมีเบสคิส ไฮไลท์ คราวหน้า จัดไป !


เอาเท่าที่ยังจำความรู้สึกในการใช้ได้ และก็ฮิตๆละกันเนอะ









กิฟท์ไม่เรียงถูกหรือแพงนะคะ รีวิวตามยี่ห้อแล้วกันคร๊าบบ


ด้วยความที่กิฟท์เป็นอะไรที่บ้าเลือด


ขอให้กรูได้ลอง ลองแล้วก็ขายต่อเพื่อนมั่ง ยกให้มั่ง ตามประสา





***ขอแจ้งก่อน กิฟท์เป็นคนผิวขาวเหลือง ค่อนไปทางขาวนิดนึงค่ะ


บางคนบอกผิวน้ำผึ้ง บางคนบอกเมิงน่ะขาว


เอ๊ะ สรุปกรูเป็นแบบไหน





ผิวหน้าแห้ง แพ้ง่าย หน้าไม่มัน มีเหงื่อเฉพาะเวลาเหนื่อยมากๆ


หรือร้อนเกินมนุษย์ทนได้ ผิวหน้าไม่มีสิว


มีจุดด่างดำรอยสิวพอประมาณ กับแพนด้า ช่วงๆ หลินฮุ่ยทั้งครอบครัว


ทั้งหน้าไม่มีปัญหาอะไร แต่ขอบตาคล้ำอย่างแรง


คนผิวแห้งผิวขาวเหลืองก็พิจารณาดูค่า คนผิวมันก็ลองวิเคราะห์ดูจ้า


เพราะผลที่ได้อาจต่างกัน วิจารณญาณส่วนตัวค่ะ




******************************************





ตัวแรกเลย ถามถึงกันบ่อยอยู่เหมือนกัน

1. The style silky soft base ( Green)







ตัวนี้ มาที่เบสเขียวมิชชาเดอะสไตล์ก่อน

เนื้อเบสค่อนข้างเหลว กลิ่นหอม ไม่ช่วยเรื่องปกปิด

ช่วยให้หน้าผ่องขึ้นพอประมาณ สมราคา

ราคาไม่แพง พรีมา 180 ในไทยก็ประมาณ 300 กว่าๆ ไม่โหดร้ายไป

สีผิวเข้ากับหน้า หลอดนึงใช้ได้นานจนเบื่อ คุมมันพอสมควร

ไม่ทำให้หน้าแห้งเกิน แตะ 5 จุด แล้ว เกลี่ยโลด

ตบแป้งฝุ่น ปัดบรัชออน ตบแป้งพัฟนิดนึง เติมกลอส กรีดตา โอเค และ


คะแนน ให้ 8 เต็ม 10 เนื่องด้วยเห็นผลทั้งปวง ถูกและดี

แต่ยังมีที่ดีกว่านี้จึงต้องกั๊กคะแนนไว้ก่อน





----------------------------------------------------------------




2. The style silky soft base (สีม่วง) ตัวนี้ก็ดี แต่ ไม่ค่อยปลื้มเท่าไร





รูปโคตรโหดเลย 5555555


ส่วนตัวคิดว่าเข้ากับคนผิวคล้ำ หรือ ขาวอมชมพูมากกว่า ขาวเหลือง


เพราะทำให้หน้าหมองเหมือนโดนของ รู้สึกหน้าม่วงมากมาย จบกัน


เคยเอาไปทาแค่ใต้ตาแพนด้าของเราก็ไม่ช่วยอะไร รู้สึกทาแล้วหลอกตา


หลอกหลอนมากมาย แม่ไม่ปลื้มจบ ให้แค่ 7 ฐานราคาถูก





----------------------------------------------------------------




มาที่ เบสมิชชาอีกสักตัว รุ่นนี้กลิ่นหอม

3. The Style Perfect finish Base (Green)


รุ่นเก่ามัน DSW อันนี้สูตรใหม่ ทำไมของดีๆมันมักจะเลิกผลิต (วะ)





ส่วนตัวแล้วชอบรุ่นนี้มาก เพราะกลิ่นหอม ผ่อง เนื้อข้นกำลังดี ไม่เหลวไป

ไม่หนืดไป หน้าผ่องๆ ราคาแพงกว่าตัวบนนิดหน่อย เกาหลี 300 กว่า


ช็อปไทยก็ประมาณ 600 เนอะ แต่รุ่นแรกที่เป็นหลอดชมพู (DSW)


ก่อนเปลี่ยนเป็น the stlye ดีกว่ามากๆ ก็เลยงอนเลิกใช้ นอกใจไปลองอื่นๆ


ตัวนี้ ถูกใจ แต่ก็ให้แค่ 8 ถือว่าก็หาซื้อยากอยู่นะ





----------------------------------------------------------------




4. มาที่ misha ตัวสุดท้ายตัวนี้ราคาแพงที่สุด ในแบรนด์นี้ละ

Green base misha M นั่นเอง ที่เป็นขวดแก้ว รูปทรงไฮโซ นั่นเอง






ตัวนี้ราคาในไทยประมาณ 1200


ราคาพรีจากเกาหลีประมาณ 600 กว่าๆ


ก็ถือว่าแพงอยู่ แต่ผลที่ได้เนียน ผ่องเด้ง อำพรางรอยแดง ไปได้เยอะ


แต่ไม่ปกปิดรอยสิวหรือจุดด่างดำนะคะ ถ้าอยากปกปิด


แต่หน้าไม่หนาแบบหน้ากาก ต้องดูเป็นพวกรองพื้นบางๆ จะดีกว่า


ไว้ค่อยมารีวิวต่อไป ตัวนี้ เป็นหัวปั๊ม บางทีก็กดออกมาได้เยอะเกิน


เนื้อค่อนข้างข้นทีเดียว ควรใช้แต่น้อย เดี๋ยวจะวอกไป


ตัวนี้คุมมันดีพอสมควรแก่ราคาแต่เพราะหนังหน้าแห้งอยู่แล้ว


ใช้แล้ว รู้สึกหน้าแห้งกว่าเดิม เหมือนไอ้นี่มันดูดซับน้ำมันไว้


เนื่องด้วย เนื้อข้น ทาแล้ววอกง่าย


ราคายังแพงไป และมีที่ดีกว่านี้ ให้ แค่ 7 คนผิวมันลองพิจารณาได้จ้ะ




----------------------------------------------------------------




5. มาที่แบรนด์ Etude กันบ้าง ตัวนี้ ใช้แต่ เบสเขียว Baby skin






ตัวนี้ จุดเด่นมันจริงๆ อยู่ที่กลิ่น หอมมาก


หอมเหมือนแป้งเด็ก ทาแล้ว สดชื่น


เป็นหัวปั๊มอีกแล้ว ทำให้กดได้เยอะกว่าใช้ เปลืองง แต่ราคาน่ารัก


อยู่ที่ 200 กว่าๆ ถ้าพรีเกาหลี แต่ราคาไม่น่ารักอย่างยิ่ง ถ้าซื้อช็อปไทย


ตัวนี้ ถ้าน้องๆ ไม่ค่อยมีรอยด่างดำ รอยแดง ก็แนะนำ เหมาะกับวัยดีค่ะ


แต่ส่วนตัวแล้ว คิดว่าเนื้อมันก็ข้นใช้ได้อยู่ ทาแล้ว หน้าผ่องเด้งดี


แต่ทามากไปก็จะวอกเหมือนกัน รู้สึกมันจะไม่คุมมันด้วย


ตัวนี้ก็ให้แค่ 7 ยังมีที่ถูกใจกว่านี้ค่ะ





----------------------------------------------------------------



6. ข้ามฝั่งมาที่ เบสเขียวTony moly ไวท์บลอสซั่ม มีช่วงนึง ที่ฮิตๆกัน






ก็พยามหามาลองเช่นกัน ฝาปั๊มอีกแล้ว ตัวนี้เป็นทรงกระบอก


เหมือนที่ฉีดยุงเลย เอิ๊กๆ บอบบางมาก ตกทีเดียว ฝาแตก - -*


ตัวนี้เนื้อข้นอีกแล้วแต่ไม่ได้ข้นอะไรมาก ห้ามใช้เยอะ หน้าจะวอกมาก


แต่ ตัวนี้ปิดรอยแดงได้ดีมาก กลิ่นหอมคล้าย Baby skin ของอิทูดี้


ใช้แล้วหน้าผ่องเด้ง ราคาแพงใช้ได้ ราคาพรีมาเกือบ 600


แต่ปริมาณ 50 ml ก็ใช้ได้นานมาก ครั้งนึงใช้นิดเดียว คุมมันด้วย


ใช้แล้วบางทีหน้าแห้งๆ แต่เด้งก็ถือว่าชอบค่ะ


ถูกใจให้ 9 เต็ม 10 ทั้งผิวแห้งผิวมันรับไว้พิจารณาได้จ้ะ





----------------------------------------------------------------




7. มาที่ตัวโปรด เบสองุ่นยอดฮิต Grape fresh base (green)







ตัวนี้เป็นอะไรที่ปลื้มมากๆ กลิ่นก็หอม เนื้อก็กำลังดี ไม่เหลว ไม่ข้น


แต่เป็นฝาปั๊มอีกแล้ว มีบ้างที่กระฉอก นอกลู่นอกทาง แต่ให้อภัยได้ จุ๊บๆ


ตัวนี้ใช้แล้วหน้าผ่องเด้ง คุมมันมั้ย ก็ไม่ค่อยนะ รู้สึกชุ่มชื้นๆ


เหมือนเบส มีมอยเจอร์มากกว่า คนหน้าแห้งอย่างข้อย ถูกใจหลาย


เลิฟๆเลยตัวนี้ ยิ่งใช้คู่กับแป้งองุ่น โอ๊ย ครบเซ็ท ความชอบส่วนตัว 555+


ให้ 10 เต็ม 10 อย่างช่วยไม่ได้ ราคาไม่แพงเว่อร์ โอยลูกรัก


พรีมาเกือบ 400 ประมาณ 368 มั้ง ในไทยก็ 600 กว่า ๆ ไม่โหดร้าย




----------------------------------------------------------------




8. น่าจะสุดท้ายแล้วละ เพิ่งได้ลองใช้ ไม่นาน



กับ Base เขียว The face shop แบบหลอดยาสีฟัน






เหมือนจริงๆ กลัวเผลอเอามาแปรงฟันง่ะ



ตัวนี้คุมมันดีกว่า มิชชา ฟันธง



เนื้อไม่เหนียวเหมือนจะเหลวแต่แอบแห้งหน่อย เกือบแป้ง



แต่ โอเค เด้งผ่อง คนหน้ามันน่าจะชอบเลย



เพราะบางทีกิฟท์รู้สึก เกลี่ยยาก ทั้งที่พอบีบจากหลอด



พุ่งออกมาเหมือนเนื้อจะเหลว แต่พอเกลี่ยลงหน้าดันแอบแห้ง



สีค่อนข้างสว่าง ออกเขียวนวลๆ หน้าผ่องเด้งได้ใจ ราคาถูกแสนถูก



พรีมาประมาณ 180 ก็ให้ 9 เต็ม 10 ติตรงที่ บางทีเกลี่ยยาก



คนผิวมัน สอยโลดค่ะ ผิวแห้งเผื่อใจไว้นิดนึงนะ อย่าหวังเยอะ





------------------------------------------------------------



มาดูลักษณะรองพื้นกันดีกว่า



แต่ละตัวเหมือนหรือแตกต่างกันยังไง








----------------------------------------------------------------



หน้าแต่งออกมาแล้วได้ประมาณนี้ จะใสๆหน่อย ไม่หวือหวา



ไม่ปกปิดน้า แค่ลดรอยแดง + ความกระจ่างใส ให้หน้ากิ๊กกก



แอ๊บแบ๊วได้เรื่อยๆ เอิ๊กกกกก !







----------------------------------------------------------





-สรุปแล้ว คนที่ไม่มีปัญหาอะไรมาก มีแค่ รอยแดงหน้าไม่แห้งไม่มัน


ก็เลือกใช้เป็น มิชชาเดอะสไตล์ ตัวนี้ กลางๆ


ใช้ได้ทั้ง คนหน้าแห้ง และ หน้ามัน


ราคาน่ารัก กลิ่นหอมใช้ได้ เนื้อใช้ได้ คุมมันใช้ได้ ผ่าน






- คนหน้ามัน อยากได้เบสคุมมันมาหน่อย


ปกปิดรอยแดงมากหน่อย ก็ดูเป็น เบสยาสีฟัน The face shop


ตัวนี้ผ่องเด้ง คุมมันดี ราคาแจ่ม


ก็ดูเป็นทางเลือกได้ค่ะ






- สำหรับคนหน้าแห้งหน่อย มีรอยแดงไม่มาก


ผิวหน้าไม่มีปัญหาอะไร อยากให้หน้าผ่องๆ


ก็เลือก เบสองุ่นเขียวค่ะ ตัวนี้ผ่องเด้ง เกลี่ยง่าย


ราคาไม่แพงเว่อร์ ใช้คู่กับ


รองพื้นองุ่นเบอร์ 21 แป้งองุ่นเบอร์ 21


สุดยอดเลยล่ะ ผิวขาวเหลือง หน้าค่อนข้างแห้ง


จัดไปอย่าให้เสีย !





ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้อง สังเกตุกันเป็นส่วนตัวด้วยค่ะ บางช่วง เช่นหน้าหนาว


หน้าเราอาจแห้งกว่าเดิม ก็อย่าลืมลงบำรุงเยอะๆก่อนแต่งหน้า


ตามด้วยกันแดดแล้วค่อยลงเบสปรับสีผิว


ถ้าผิวหน้ามีร่องรอยมาก อาจจะใช้เป็นรองพื้นบางๆ แทนเบส


หรือ จะ ปกปิดด้วยคอลซีลเลอร์ก็ดีค่ะ






แต่เบสเขียวแล้ว อาจจะเหมาะกับคนผิวขาวเหลืองไปทางสองสี



อาจจะไม่เหมาะกับคนผิวคล้ำมากๆ เพราะ มันจะดูหลอกๆ ลอยๆ



ยังไงก็ลองเลือกดูค่ะ ตามความเหมาะสมค่า ^^






หวังว่ารีวิวจะเป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจได้ ไม่มากก็น้อยค่า


แต่ยังไงก็แล้วแต่ เป็นผลต่อการใช้ของกิฟท์เพียงคนเดียว


ด้วยสภาพผิว สีผิว และอื่นๆ


อาจไม่ตรงกับผลการใช้ของหลายๆคน


ก็ ลองพิจารณาดูจ้า
.......










 

Create Date : 07 มกราคม 2552    
Last Update : 20 มกราคม 2553 3:52:12 น.
Counter : 91190 Pageviews.  

1  2  

oh_gift99
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]






สวัสดีค่ะชื่อกิฟท์นะคะ เรียกว่าโอ้กิฟท์ก็ได้ค่ะ
ช่วงนี้ไม่ค่อยได้อัพเดทในบล็อคเท่าไรนะคะ
ยุ่งอยู่กับงานเเละภาระที่มากขึ้นตามวันเวลา
เข้าไปคุยกันได้ที่facebbok ชื่อ " oh_gift99 "
ใครมีคำถาม ถามมาในfacebookจะตอบเร็วกว่าค่ะ
เเต่จะพยามกลับมาอัพบล็อคบ่อยๆค่ะ คิดถึงทุกคน ^__^
มีความสุขที่ได้แบ่งปัน และแนะนำคนอื่นๆ
บางทีเห็นคนเลือกเครื่องสำอางก็เข้าไปแนะนำเขาเฉยๆก็มี555
เห็นหน้าคุ้นๆ พบกิฟท์ที่ไหนก็เข้ามาทักทายได้จ้า






สีผิว : ขาวเหลืองกลาง LMเบอร์ 3, Oc03 , Mac nc30
สภาพผิว : ผิวผสม ค่อนข้างแพ้ง่าย
ปัญหาผิว : แพนด้าใต้ตามาทั้งครอบครัว



~Anyway Welcome and enjoy My Blog ka~


ติดต่อ - สอบถาม "Oh_gift99"
E-mail : giftza54@hotmail.com


** ขอสงวนสิทธิ์ ตาม พรบ.คอมพิวเตอร์ 2550
โดยบทความและรูปภาพใน blog ทั้งหมด
ห้ามนำไปใช้โดยไม่ได้รับการอนุญาติเด็ดขาด**






บล็อคปักหมุด

oh_gift99 talk : เผยทุกเคล็ดลับการ Shop online แถมเว็บโปรดของโอ้กิ๊ฟท์แบบหมดเปลือก ๛

Oh_gift99 Present : เผยรายชื่อ Website ขายของยอดฮิตทั้งหลายทั้งแหล่ Part 2 ๛






" My Blog in Wordpress "

http://ohgift99.wordpress.com//







Friends' blogs
[Add oh_gift99's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.