All Blog
มาลอง อ่านใจน้องหมา กันเถอะ
มาลอง อ่านใจน้องหมา กันเถอะ








มาลองอ่านใจน้องหมากันเถอะ (thaidogcenter)
โดย ผศ.น.สพ.ปานเทพ รัตนากร

  ท่านผู้อ่านเชื่อไหมคะว่าหมาที่ท่านเลี้ยง หรือพบเห็นอยู่นั้นเขามีความต้องการติดต่อสื่อสาร กับคนเรา แต่สิ่งที่มาจำกัดก็คือ วิธีการสื่อสาร เพราะหมาพูดภาษาคนไม่ได้ ทำได้เพียงส่งเสียง ภาษาหมาติดต่อกันเอง นั่นมิใช่ว่าเราจะเข้าใจความต้องการ อารมณ์ จิตใจของหมาที่ต้องการสื่อออกมาไม่ได้ หมายังมีการแสดงกิริยาท่าทางให้ปรากฏเห็นเป็น "ภาษาท่าทาง" ซึ่งคนเราได้ศึกษาไว้จนเป็นแนวทางที่จะเข้าถึงความต้องการที่หมาสื่อออกมา

         ตัวอย่างของอวัยวะที่หมาใช้ประกอบการสื่อภาษาท่าทาง เช่น ท่าของร่างกายโดยส่วนรวม ใบหู ดวงตา ริมฝีปาก ลิ้น หาง ขน ตลอดจนเสียง ฯลฯ

         ฉะนั้นท่านผู้อ่านสามารถเดาใจหรืออ่านใจหมาได้ไม่ยาก และเป็นประโยชน์แก่ตัวท่านเองอย่างน้อยๆ ก็รู้ว่าขณะเผชิญหน้าหมาตัวหนึ่งเขาจะประสงค์ดีหรือร้ายต่อท่าน อย่างไร

หมาสบอารมณ์ เป็นหมาที่มีลักษณะเป็นมิตร จิตใจขณะนั้นกำลังเบิกบาน อารมณ์ปกติดี รับแขก หมาจะแสดงท่าทางตามสบายหรือไม่เกร็งตัว หางทอดลงตามสบาย ยกหัวตั้งสูง เผยอปากเล็กน้อย อาจมีลิ้นแผลมห้อยออกมาข้างใดข้างหนึ่ง

หมาชวนเล่น การเล่นของหมานั้น จะเกิดขึ้นอยู่เสมอในชีวิตประจำวัน เมื่อมีอารมณ์เบิกบาน ลักษณะการชวนเล่น คือ หมอบส่วนหน้าและเหยียดขาคู่หน้าออกไป โดยขาคู่หลังยังยืนอยู่ คล้ายๆ คนเราหมอบแต่ก้นโด่งนั่นแหละ พร้อมกันนี้ก็จะแกว่งหางไปมา จากนั้นจึงกลิ้งตัวทางด้านข้าง ซ้าย ขวาสุดแท้แต่ใจหรือ เอียงคอเอาหน้าแนบพื้น สายตาจะจับจ้องมองมายังผู้ที่เขาเชิญชวน ปากอ้าเล็กน้อย บางครั้งก็จะทำท่าแบบนี้แต่เขยิบเข้า และถอยออกจากผู้ที่เขาสนใจ ถ้าท่านเห็นแบบนี้แสดงว่าหมาเห็นท่านเป็นเพื่อนเล่น ยอมไว้ใจแล้ว

หมาหงอ จากท่าหมาชวนเล่นที่กล่าวไปแล้ว หากหมาย่อ ขาคู่หลังเตี้ยลงเรี่ยพื้น ใบหูหลุบไปข้างหลัง หุบปากสนิท หางตกหยุดแกว่ง อาจส่งเสียงครางหงิงๆ หยุดนิ่งกับที่และอาจนอนตะแคงลงต่อไป เห็นท่านี้หมายความว่าเขา "หงอ" ยอมจำนน

หมาขี้แพ้ ขี้กลัว ท่านคงเคยสังเกตเห็นหมาที่ นอนหงาย หางจุกระหว่างขา (จุกตูด) ยกคอขึ้นแต่หน้าคุ้มลง หูยกขึ้นเล็กน้อย ขาคู่หน้างอเข้าเล็กน้อย นี่เป็นท่าแสดงการยอมแพ้อย่างไม่มีเงื่อนไข ไม่ว่าจะกับหมาด้วยกัน หรือคนก็ตาม ซึ่งบางตัวก็กลัวจัดชนิดขี้ขึ้นสมอง อาจฉี่เรี่ย ฉี่ราด ขี้แตก ออกมาด้วย

หมากร้าว เพราะกลัว หมาแยกเขี้ยว มิใช่ว่าจะดุหรือเข้ามาทำร้ายเสมอไป มีอยู่ประเภทหนึ่งที่แสดงอาการกลัวออกมาโดยใช้ท่าทีก้าวร้าว คือ ย่อตัวเล็กน้อย ลำตัวเกร็ง ขนหลังตั้งชัน หางเหยียดตรงหยุดนิ่ง หูหลุบไปข้างหลัง อ้าปากจนเห็นฟัน คอก้มเสมอลำตัวมองพุ่งตรงไปข้างหน้า เห็นอย่างนี้อย่าเข้าไปยุ่งเกี่ยว สักพักเขาจะค่อยๆ เลี่ยงหลบไปเอง

หมาเจ้าพ่อ เป็นหมาเจ้าถิ่น หมาหัว โจก คุมฝูงในพื้นที่หรือมีความหวงถิ่นฐานบ้านช่อง จึงแสดงท่าทางออกมาเพื่อสื่อให้ผู้พบเห็นรู้ว่า "ข้าเป็นเจ้าของพื้นที่ สมบัติและลูกน้องเหล่านี้ ห้ามแตะต้อง" ลักษณะท่าทางคือ หางยกตั้งสูง หูตั้ง คอตั้ง อ้าปากแสยะเขี้ยว มองพุ่งตรงมายังผู้ที่เขาจะสื่อด้วยพร้อมกับเดินย่าง สามขุม สี่ขุม เข้ามาอย่างไม่เกรงกลัว เพื่อกัดต่อไป เห็นอย่างนี้เตรียมทางหนีทีไล่ไว้ได้เลยครับ

         ทั้ง 6 ท่าทางนี้คงช่วยให้ท่านผู้อ่าน "เดาใจหมา" ได้บ้างเพื่อประโยชน์แห่งสวัสดิภาพของตัวท่าน





Free TextEditor



Create Date : 22 ธันวาคม 2554
Last Update : 22 ธันวาคม 2554 10:56:57 น.
Counter : 521 Pageviews.

0 comment
ทำไม ไซบีเรียน ฮัสกี้ ไม่ค่อยเชื่อฟัง และกินยาก
ทำไม ไซบีเรียน ฮัสกี้ ไม่ค่อยเชื่อฟัง และกินยาก






ทำไม? ไซไม่เชื่อฟัง ทำไม? ไซกินยากกันจัง (Thailand Pet Journal)
เรื่องโดย Little North

เป็นปัญหาที่คนเลี้ยง ไซบีเรียน ฮัสกี้ ส่วนใหญ่จะพบเจอและปวดหัวกันมากที่สุด และส่วนใหญ่หาทางออกกันไม่ได้ หรือแก้ไขกันด้วยวิธีที่ผิด อันจะเป็นการส่งเสริมพฤติกรรมในทางลบให้กับสุนัขแทน

ท้าวความถึงต้นกำเนิดของไซบีเรียน ฮัสกี้นั้น เดิมถูกใช้เป็นสุนัขลากเลื่อนในเขตหนาวอย่างไซบีเรีย ตอนเหนือของยูราเซีย หรือโซเวียตเดิม ซึ่งสุนัขเหล่านี้จะมีหน้าที่วิ่งลากหรือขนสำภาระของเจ้าของเดินทางไปยังที่ต่าง ๆ บนพื้นหิมะ ที่ยานพาหนะใด ๆ ก็ไม่อาจเข้าถึงได้ และเนื่องด้วยภูมิประเทศส่วนใหญ่ปกคลุมด้วยหิมะ เป็นสีขาวเวิ้งว้างว่างเปล่าสุดลูกหูลูกตา สุนัขลากเลื่อนในทีมหนึ่ง ๆ อาจมีตั้งแต่น้อย ๆ จนถึงหลายสิบตัว ตามจำนวนน้ำหนักของที่จะขนไป โดยมีสุนัขตัวนำ หรือจ่าฝูงเป็นตัววิ่งนำหน้าสุดของทีม และเป็นผู้นำทางสุนัขที่เหลือรวมทั้งสัมภาระและมนุษย์ไปยังจุดหมายปลายทางต่าง ๆ

       แล้วคราวนี้เราลองนึกภาพดูสิครับ หลับตาแล้วนึกถึงดินแดนว่างเปล่าสีขาวโพลนไปหมด ทีมสุนัขลากเลื่อนทีมหนึ่งทำงานของมันโดยวิ่งไปข้างหน้าอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ผู้คุมเลื่อนที่อยู่ท้ายสุดของขบวนคือมนุษย์ ออกคำสั่งให้สุนัขวิ่งตะบึงไปข้างหน้า และด้วยสายตาของมนุษย์ พื้นที่ข้างหน้าที่เราเห็นนั้นดูเรียบเนียนเป็นสีขาวไปหมด เราก็สั่งให้สุนัขวิ่งต่อไปโดยไม่คิดอะไร

          แต่ใครจะรู้เล่า!! ว่าพื้นที่ข้างหน้าที่เราจะเหยียบลงไปนั้น ข้างใต้หิมะจะเป็นอะไร อาจจะเป็นธารน้ำแข็ง หุบเหวลึก หรือชะง่อนผาอันสูงชัน ซึ่งหากพลาดเพียงนิด นั่นหมายถึง ชีวิตของคุณจะจบสิ้นทันที

          แต่เราเหล่ามนุษย์ยังมีผู้นำที่มีประสาทการรับรู้ที่ฉับไว ประสาทการดมกลิ่นที่ยอดเยี่ยม และสัญชาตญาณที่สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่นในอันที่จะเอาตัวรอดในพื้นที่อัน ทรหดนี้มาตั้งแต่ยุคของสุนัขป่าโบราณ สุนัขลากเลื่อนเช่น ไซบีเรียน ฮัสกี้ ทุกตัวสามารถรับรุ้ได้ว่าข้างหน้านั้นมีอันตรายอะไรซ่อนอยู่ และเมื่อรับรุ้ถึงสิ่งนั้น สุนัขจะเลือกตัดสินใจเชื่อสัญชาตญานของตนเองและหยุดชะงักลงโดยไม่ฟังคำสั่งใดๆของมนุษย์ ไม่ว่า จะโบยด้วยแส้ หรืออกคำสั่งอย่างใดๆ ก็ตาม และนั่นเองคือการช่วยชีวิตมนุษย์อย่างเรา ๆ ไปโดยปริยาย

และอุปนิสัยการเชื่อสัญชาตญาณของตนเองมากกว่าคำสั่งของมนุษย์นั้น ทำให้สุนัขลากเลื่อนเป็นสมบัติอันล้ำค่าของผู้ที่ต้องดำรงชีพในดินแดนที่ปกคลุมด้วยหิมะอันแสนทรหด เพราะหากไม่มีสุนัขเหล่านี้ พวกเขาอาจตายระหว่างการเดินทางไปแล้ว นับคร้งไม่ถ้วนก็เป็นได้ ผู้คนเหล่านี้รักสุนัขของเขามาก และไม่คิด ว่าอุปนิยเชื่อตนเองมากกว่าเจ้าของของสุนัขเหล่านี้ จะเป็นอุปสรคใด ๆ ต่อการอยู่ร่วมกับพวกมัน เพราะพวกมันคือจิตวิญญาณที่แท้จริงของป่าของธรรมชาติที่ยังไม่สาบสูญไปกับกาลเวลา

          จวบมาจนปัจจุบันนี้ ไซบีเรียน ฮัสกี้ ถูกนำมาเป็นสัตว์เลี้ยง และอุปนิสัยเชื่อสัญชาตญาณมากกว่าคำสั่งของมนุษย์ที่มีค่าสำหรับมนุษย์น้ำแข็งนั้น ได้ถูกถ่ายทอดมาจากรุ่นสู่รุ่น จนมาถึงเจ้าลูก ๆ หน้าตาบ้องแบ๊วของเรา ๆ ทั้งหลาย แต่ตอนนี้อุปนิสัยแบบนี้ กลายเป็นปัญหาเมื่อ ไซบีเรียน ฮัสกี้ ไม่ต้องใช้ลากเลื่อนอีกแล้ว จนทำให้ใครหลาย ๆ คนปวดหัว แต่อยากให้ลองย้อนถามตัวเองสักนิดครับ ว่าเราควรเข้าใจสิ่งที่พวกเขาเป็นมาหลายร้อยปี หรือควรเปลี่ยนให้เขามาเป็นแบบเรากันแน่!!

   มาต่อกันด้วยเรื่อง ทำไมไซบีเรียนถึงกินยากจัง

          ก็อีกนั่นล่ะครับ เมื่อสมัยที่สุนัขยังถูกใช้ในงานลากเลื่อนอยู่นั้น ถิ่นที่อยู่ของพวกเค้าเป็นพื้นที่ทุรกันดาร อาหารมีอยู่น้อย และหายาก...สิ่งมีชีวิตในแถบขั้วโลกจึงปรับสภาพร่างกายของตนเองให้เหมาะสม กับสภาพแวดล้อมและสภาพอากาศ รวมถึงสุนัขลากเลื่อนอย่างไซบีเรียนของพวกเราด้วย

  โดยร่างกายของสุนัขในเขตหนาวนี้จะถูกปรับให้รับอาหารในปริมาณที่น้อย แต่อาหารที่รับเข้าไปนั้นส่วนใหญ่จะเป็นพวกโปรตีนและไขมันล้วน ๆ เพื่อให้ร่างกายอดทนต่อสภาพความหนาวเย็นของแถบขั้วโลกได้ และมีระบบเผาผลาญอาหารที่ช้ากว่าสัตว์ในเขตอบอุ่น โดยระบบย่อยจะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไปตามสภาพอากาศที่เค้าอยู่ ร่างกายจึงสามารถเก็บสารอาหารไว้ใช้ได้ยาวนานกว่า จึงทำให้สุนัขลากเลื่อนในเขตหนาวไม่จำเป็นต้องกินอาหารบ่อย ๆ แต่ก็ยังมีเรี่ยวแรงหรือมีพลังงานในการที่จะวิ่งหรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ตามปกติ

          ทั้งนี้ สุนัขลากเลื่อนในเขตหนาวนั้น จะมีอาหารหลักเป็นเนื้อสด ๆ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อแมวน้ำ สิงโตทะเล หรือเพนกวิน หรืออะไรก็ตามที่เจ้าของหามาได้ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมีปริมาณไขมันสูงมาก ผู้คนในแถบขั้วโลกจะออกล่าโดยจะล่าเนื้อทีละมาก ๆ แล้วนำเนื้อที่ล่าได้มาฝังไว้ใต้พื้นหิมะหนาๆ ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นห้องเย็นตามธรรมชาติ เนื้อจะไม่เน่าเปื่อยและเก็บได้นาน โดยสุนัขเหล่านี้จะได้รับอาหาร 3 วัน ต่อ 1มื้อ โดยเจ้าของจะนำสุนัขเทียมเลื่อนออกไปยังที่ที่ใช้ฝังเนื้อที่ล่ามาได้ แล้วขุดออกมาตัดเป็นชิ้น ๆ แล้วโยนให้สุนัขกินทั้งแข็ง ๆ อย่างนั้นเลย โดยจะมีลำดับการกินตั้งแต่ตัวนำฝูงลงไปจนถึงตัวสุดท้ายของฝูงตามลำดับ...

          และด้วยอาหารเพียงเท่านี้ ก็เพียงพอแล้วสำหรับที่จะให้สุนัขใช้เป็นพลังงานในการทำงานไปอีก 2 วัน จนกว่าจะได้กินในมื้อต่อ ๆ ไป

          ด้วยสภาพร่างกายที่สามารถรับอาหารในปริมาณที่น้อย แต่คงสภาพของพลังงานภายในร่างกายไว้ได้เป็นเวลานานกว่าสุนัขในเขตอบอุ่น จึงทำให้ไซบีเรียนตามธรรมชาตินั้น แม้ว่าจะไม่ได้กินอาหารครบถ้วนทุกมื้อ ก็จะไม่หมดเรี่ยวแรง หรือว่าหิวง่ายเหมือนสุนัขอื่น ๆ ทั่วไป เพราะร่างกายของเค้านั้นจะมีระบบย่อยอาหารที่ค่อยเป็นค่อยไป และมีระบบสะสมพลังงานจากสารอาหารเอาไว้ได้มาก เราจึงจะเห็นได้ว่า สุนัขของเราแม้จะกินอาหารน้อยหรือกินไม่หมดทุกมื้อ ก็ยังจะมีแรงวิ่งเล่นหรือมีแรงซนจนหอบได้เหมือนเดิมโดยไม่แสดงอาการว่าหิว หรือต้องการอาหารเลยในสุนัขบางตัว ซึ่งไม่ถือว่าเป็นเรื่องแปลก เพราะนี่คือสภาพร่างกายตามปกติของสุนัขในเขตหนาว

          ปัจจุบันเมื่อ ไซบีเรียน ฮัสกี้ กลายมาเป็นสัตว์เลี้ยง การไม่ยอมกินอาหารที่เจ้าของเฝ้าอุตส่าห์ประคบประหงมเอามาป้อนให้นั้น กลายเป็นปัญหาน่าปวดหัวสำหรับใครหลาย ๆ คน และผู้คนเหล่านั้นก็มักหาสาเหตุไม่ได้ว่าทำไมสุนัขของตนถึงไม่ย๊อมมมมมมมม ไม่ยอมกิน และนี่ล่ะครับคือคำตอบสำหรับปัญหาของท่านทั้งหลาย

   คราวนี้คงจะเข้าใจกันบ้างแล้วนะครับ ว่าทำไมเจ้าไซบีเรียน ฮัสกี้ ของเราถึงดื้อและซนไม่ยอมเชื่อฟัง แถมกินก็ยากอีก






Free TextEditor



Create Date : 22 ธันวาคม 2554
Last Update : 22 ธันวาคม 2554 10:54:41 น.
Counter : 804 Pageviews.

0 comment
ฝึกเจ้าตูบให้ขับถ่ายเป็นที่เป็นทาง
ฝึกเจ้าตูบให้ขับถ่ายเป็นที่เป็นทาง








ฝึกเจ้าตูบให้ขับถ่ายเป็นที่เป็นทาง (โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ)

การฝึกการขับถ่ายในลูกสุนัขสามารถฝึกได้ตั้งแต่อายุ 2 เดือนครึ่งเป็นต้นไป แต่เจ้าของต้องใช้ความอดทนในการฝึก โดยส่วนมากสุนัขจะอุจจาระในช่วงเช้า หลังตื่นนอน และหลังกินอาหาร ส่วนความถี่ของการถ่ายอุจจาระก็ขึ้นกับเฉพาะตัวของลูกสุนัขที่กินอาหารเก่ง กินบ่อย ก็อาจจะถ่ายอุจจาระมากกว่า 2 ครั้งต่อวัน แต่ลักษณะของอุจจาระต้องปกติ สุนัขจะถ่ายอุจจาระต่อเมื่อรู้สึกมีกลิ่นกระตุ้นและในลำไส้มีการเคลื่อนไหว สุนัขจะไม่ถ่ายบนที่นอนตัวเองนอกจากจะทนไม่ไหว

          ฉะนั้น การฝึกควรทำเป็นเวลา โดยเวลาสุนัขจะขับถ่ายจะทำท่าเดินวนบริเวณที่จะถ่าย มีการดมกลิ่นบริเวณพื้น จากนั้นก็นั่งหย่อนก้นเบ่งอุจจาระ โดยจะทำบริเวณที่เดิมที่เคยขัยถ่ายเป็นประจำ เนื่องจากมีกลิ่นอุจจาระกับกลิ่นต่อมข้างก้น ช่วยให้สุนัขจดจำ

ช่วงแรกของการฝึกคือ ทุกเช้าเมื่อตื่นนอนหรือหลังกินอาหาร ให้พาไปบริเวณที่เราต้องการให้ขับถ่าย โดยอาจใช้หนังสือพิมพ์รองอุจจาระเมื่ออุจจาระแล้วก็ทิ้งหนังสือพิมพ์บางส่วน เก็บบางส่วนไว้ให้พอมีกลิ่น จากนั้นพับขนาดหนังสือพิมพ์ลงเรื่อยๆ จนกระทั่งสุนัข จดจำว่าถึงเวลาและสถานที่ที่จะขับถ่าย ก็จะเป็นไปโดยอัตโนมัติ

          ทั้งนี้ หากสุนัขทำไม่ถูกต้อง ไม่ควรทำโทษรุนแรง เพราะสุนัขจะสับสน ควรปรับโดยการฝึกช้า ๆ เมื่อสุนัขทำถูกต้องก็ชมเชย บริเวณที่ขับถ่ายไม่เป็นที่ก็ควรทำความสะอาดให้เรียบร้อยไร้กลิ่น เพื่อที่สุนัขจะได้ไม่สับสน





Free TextEditor



Create Date : 22 ธันวาคม 2554
Last Update : 22 ธันวาคม 2554 10:53:27 น.
Counter : 476 Pageviews.

0 comment
12 ความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับ โรคพิษสุนัขบ้า
12 ความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับ โรคพิษสุนัขบ้า







12 ความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับ โรคพิษสุนัขบ้า (Dogazine)

1. คิดว่า..ลูกสุนัขและแมว ไม่มีเชื่อพิษสุนัขบ้า

          ความจริง : สุนัขและแมว อายุเท่าใดก็สามารถแพร่โรคพิษสุนัขบ้าได้

2. คิดว่า..สุนัขและแมวเป็นโรคพิษสุนัขบ้าเฉพาะในฤดูร้อนเท่านั้o

ความจริง : สุนัขและแมว เป็นโรคพิษสุนัขบ้าได้ทุกฤดูกาล

3. คิดว่า..หากถูกสุนัขหรือแมวที่มีอาการปกติกัด ก็ไม่น่าจะเป็นบ้า

ความจริง : สุนัขและแมวสามารถแพร่เชื้อโรคได้ถึง 10 วัน ก่อนจะแสดงอาการ ดังนั้นหากถูกสุนัขหรือแมวกัด แม้สัตว์จะดูปกติดก็อย่านิ่งนอนใจ ต้องได้รับการฉีดวัคซีนป้องกัน

4. คิดว่า..การฉีดวัคซีนในสุนัขและแมวจะป้องกันการเกิดโรคพิษาสุนัขบ้าได้ 100%

ความจริง : หากสัตว์ติดเชื้อพิษสุนัขบ้าอยู่แล้วและอยู่ในระยะฟักตัว การฉีดวัคซีนจะไม่ได้ผล

5. คิดว่า..การฉีดวัคซีนให้สุนัขหรือแมว 1 ครั้ง จะมีภูมิคุ้มกันไปตลอดชีวิต

ความจริง : การฉีดวัคซีนเพียงเข็มเดียว ยังมีโอกาสเป็นโรคพิษสุนัขบ้าได้ สุนัขและแมวต้องได้รับวัคซีน 2 ครั้งในปีแรก และ 1 เข็มต่อปี

6. คิดว่า..สุนัขและแมวที่เราเลี้ยงและเคยได้รับวัคซีนมาก่อนถูกสุนัขบ้ากัด ไม่เสี่ยงต่อการติดโรค

ความจริง : ถ้าจจะให้มั่นใจเต็มที่จะต้องได้รับการฉีดวัคซีนซ้ำ และกักขังดูอาการอย่างน้อย 45 วัน แต่ถ้าสุนัขหรือแมวตัวนั้น ไม่เคยได้รับวัคซีนมาก่อน เมื่อถูกสุนัขบ้ากัด องค์การอนามัยโลกแนะนำให้ทำลาย เพราะมีโอกาสติดเชื้อสูง แต่ถ้าไม่สามารถปฏิบัติตามได้ ให้ฉีดวัคซีนทันทีและกักขังดูอาการ 6 เดือน และฉีดวัคซีนซ้ำ 1 เดือนก่อนปล่อย

7. คิดว่า..มีเฉพาะสุนัขและแมวเท่านั้นที่สามารถแพร่เชื้อพิษสุนัขบ้าสู่มนุษย์ได้

ความจริง : สัตว์ป่าและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทุกชนิดก็เป็นโรคและแพร่โรคได้เช่นกัน

8. คิดว่า..การถูกกัดเท่านั้นที่สามารถทำให้ติดเชื้อพิษสุนัขบ้าได้

ความจริง : การถูกเลียที่แผล หรือข่วนด้วยเล็บก็ทำให้ติดโรคและตายได้ เนื่องจากสุนัขและแมวเลียอุ้งเท้าและเล็บ อาจมีไวรัสจากน้ำลายติดค้างอยู่ที่เล็บ และแพร่เชื้อได้หากแผลมีเลือดออกแม้เพียงซิบ ๆ

9. คิดว่า..ถ้าถูกสุนัขกัด ให้รีบเอารองเท้าตบ ๆ หรือราดด้วยน้ำปลาจะช่วยฆ่าเชื้อโรคได้

ความจริง : เมื่อถูกกัดต้องล้างแผลด้วยน้ำกับสบู่เป็นเวลา 10 นาที จากนั้นพบแพทย์ทันที เพื่อล้างแผลอีกครั้ง และฆ่าเชื้อโรคด้วยน้ำยาไอโอดีน

10. คิดว่า..เมื่อถูกสุนัขหรือแมวที่มีเชื้อกัดจะมีโอกาสรอด แม้ไม่ได้รับการรักษา

ความจริง : ถ้าคนถูกกัดแล้วมีอาการจะเสียชีวิตทุกราย ภายใน 5-11 วัน แต่คนที่รอด ไม่ได้หมายความว่า คาถาดี ทั้งนี้เพราะในน้ำลายไม่ได้มีไวรัสตลอดเวลา ซึ่งพบได้ 30-80 เปอร์เซ็น หรือเฉลี่ยครึ่งต่อครึ่ง

11. คิดว่า..รอให้สุนัข แมว ที่กัดแสดงอาการ หรือตายก่อน จึงค่อยพาคนที่ถูกกัดไปพบแพทย์

ความจริง : การฉีดยาป้องกันที่ได้ผลสูงสุด อยู่ในช่วง 48 ชั่วโมงหลังถูกัด และถ้าแผลมีเลือดออก ไม่ว่าตำแหน่งใดของร่างกายต้องได้เซรุ่ม (อิมมูโน โกลบูลิน) ชนิดสกัดบริสุทธิ์ ฉีดที่แผล

12. คิดว่า..การกัดคน ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ถูกแหย่เป็นเครื่องแสดงว่า สุนัขหรือแมวตัวนั้น ๆ เป็นบ้า

ความจริง : สุนัขหรือแมวที่เป็นบ้า กัดคนโดยที่แหย่หรือไม่ได้ก็ได้ เมื่อถูกกัด ต้องไปรับการรักษาเช่นกัน





Free TextEditor



Create Date : 22 ธันวาคม 2554
Last Update : 22 ธันวาคม 2554 10:52:11 น.
Counter : 1296 Pageviews.

0 comment
10 คำถาม ท้าดวล แฟนพันธุ์แท้ สุนัข
10 คำถาม ท้าดวล แฟนพันธุ์แท้ สุนัข








10 คำถาม ท้าดวลแฟนพันธุ์แท้ สุนัข (Dogazine)

1. เมื่อสุนัขของคุณกระดิกหาง หรือกวัดแแกว่งหางไปมา คุณรู้ไหมว่า เขาต้องการสื่ออะไรกับคุณ

a. โอ๊ย! ดีใจสุด ๆ ไปเลย

b. อย่าเข้ามาใกล้นะ เดี๋ยวพ่อกัดให้ขาเดี้ยงเลย

c. อาหารหมดแล้ว หิวมากมายอ่ะ

2. ท่าทางแบบใดของสุนัข ที่สื่อถึงการยอมแพ้เพื่อไม่ให้ถูกทำร้าย

a. วิ่งหนีสุดชีวิต

b. นอนหงายลงบนพื้น

c. สุนัขจนตรอก ขอสู้ตาย

3. ประเทศจีนมีประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ สุนัขกลุ่มใดที่มีถิ่นกำเนิน ณ แดนมังกรแห่งนี้

a. ชิวาวา, ยอร์คเชียร์ เทอร์เรียร์, ซามอยด์

b. ชิสุ, ปั๊ก, เชา เชา

c. บีเกิ้ล, ไซบีเรียน, บาเซนจิ

4. ปอมเมอเรเนียน เป็นสุนัขที่สืบเชื้อสายมาจากสุนัขพันธุ์ใด

a. สปิตซ์

b. เชา เชา

c. ชิวาวา

5. การแสดงออกเพื่อประกาศอาณาเขตที่ตนเครอบครองอยู่ของสุนัข จะกระทำโดยวิธีการใด

a. คุณเข้ามา ผมกัดคุณแน่ ออกไปห่าง ๆ เลยนะ

b. ที่นี่มันที่ส่วนตัวของฉันนะ นี่แน่ะ! ฉี่ใส่ซะเลย

c. อย่าเพิ่งเข้ามานะ ฉันไปเอากิ่งไม้มากั้นก่อน

6. หากสุนัขมีข้อข้องใจ เขาจะแสดงอาการอย่างไรออกมาให้คุณเห็น

a. นอนหมอบลงกับพื้น หน้าตั้งตรงเชิดขึ้น

b. เห่าเสียงดังฟังชัด

c. ยกหางตั้งตรงชี้ฟ้า

7. คุณคิดว่า การทำหมันสุนัข ส่งผลให้สุนัขอ้วนจริงหรือไม่

a. จริง เพราะทำให้สุนัขขาดความกระตือรือร้น

b. จริง เพราะทำให้สุนัขอยากอาหารมากขึ้น

c. ไม่จริง เพราะโรคอ้วนเกิดจาการขาดการออกกำลังกายและกินมากเกินไป

8. หากคุณได้รับสุนัขตัวใมห่มาจากเพื่อนบ้าน คุณพาสุนัขตัวนั้นไปทำวัคซีน สัตวแพทย์แนะนำให้ทำวัคซีนรวมสำหรับสุนัข อยากทราบว่า โรคใดต่อไปนี้ ที่สุนัขตัวใหม่ของคุณ จะไม่ได้รับการป้องกันจากวัคซีนรวมดังกล่าว

a. พยาธิหนอนหัวใจ

b. หัดสุนัข

c. ตับอักเสบ

9. ปัจจุบัน ประชาชนมีความตื่นตัวกับโรคพิษสุนัขบ้า คุณทราบหรือไม่ว่า สุนัขจะเป็นโรคพิษสุนัขบ้าได้ในฤดูกาลใด

a. ฤดูร้อน

b. ฤดูหนาว

c. ทุกฤดูกาล

10. สุนัขสายพันธุ์ใดต่อไปนี้ ได้ชื่อว่าเป็นสุนัขศักดิ์สิทธิ์ (Holy Dog) ตามความเชื่อของชาวทิเบต

a. ชิสุ

b. เชา เชา

c. ปักกิ่ง






เฉลย : ข้อ 1 – a / 2 - b / 3 – b / 4 – a / 5 – b / 6 – c / 7 – c / 8 – a / 9 – c / 10 – a


สรุปผลแฟนพันธุ์แท้สุนัข

ตอบถูก 1-4 ข้อ :  แม้ว่าท่านจะเป็นผู้ที่ชื่นชอบและมีความรักในสัตว์เลี้ยงชนิดนี้ แต่เชื่อเถอว่า ท่านยังรู้จักพวกเขาไม่มากพอ อย่าลืมหาความรู้เกี่ยวกับพวกเขาเพิ่มเติม เพื่อเป็นแฟนพันธุ์แท้สุนัขต่อไปให้จงได้

ตอบถูก 5-6 ข้อ :  ท่านเป็นผู้ที่มีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับสุนัขในเกณฑ์ใช้ได้ แต่ยังไม่ดีที่สุดสำหรับแฟนพันธุ์แท้สุนัข สู้ต่อไปนะ !!

ตอบถูก 7-8 ข้อ : ท่านเป็นผู้มีความรู้เกี่ยวกับสุนัขดีเยี่ยม ถ้าไปสอบ ก็คงผ่านโดยแทบไม่ต้องอ่านหนังสือเลยล่ะ หากแสวงหาความรู้อีกหน่อย สุดยอดแฟนพันธุ์แท้สุนัขคงไม่ไกลเกินเอื้อมอย่างแน่นอน

ตอบถูก 9-10 ข้อ :  ไม่บอกก็รู้ รอบรู้เกี่ยวกับสุนัขขนาดนี้ คุณคือ "สุดยอดแฟนพันธุ์แท้สุนัข" อย่างไม่ต้องสงสัย สุดยอดจริง ๆ ต้องยกนิ้วให้





Free TextEditor



Create Date : 22 ธันวาคม 2554
Last Update : 22 ธันวาคม 2554 10:49:29 น.
Counter : 755 Pageviews.

0 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  

evezangz
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]





Free Clock
★Rangsit University ★
Engineering วิศวกรรมสิ่งแวดล้อม
หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต
สาขาวิชาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม#1 Rsu Ł° ชิล ชิล งง่ายๆแต่ไม่ได้ใจง่ายนะ สบายๆ ถ่ายรูปคือสิ่งที่ชอบ


MY VIP Friend