All Blog
รู้ไหม สุนัข คิดอะไรอยู่...
รู้ไหม สุนัข คิดอะไรอยู่...
.







รู้ไหม สุนัข คิดอะไรอยู่... (Dogazine)

Quiz Show กับ 10 คำถามที่จะมาถามว่า "ท่าทางของสุนัข บอกอะไรคุณ"

1. หากคุณจูงสุนัขออกไปเดินเล่นนอกบ้าน แล้วสุนัขยกหางตั้งขึ้นเมื่อเห็นสุนัขตัวอื่น ลักษณะท่าทางแบบนี้ของสุนัขหมายถึง

          A. สุนัขกำลังแสดงความเก๋า ไม่กลัวใคร และกำลังข่มสุนัขตัวอื่นอยู่นั่นเอง
          B. สุนัขกำลังมีความสุขกับการได้ออกาเดินเล่นกับเจ้านาย

2. สุนัขชูคอตั้งขึ้น หูตั้ง อ้าปากแยกเขี้ยว ยกหางตั้งสูงดูดุดัน พร้อมพุ่งตรงไปข้างหน้า ท่าทีแบบนี้เขากำลังคิดอะไรกันแน่

          A. สุนัขกำลังบอกว่า ฉันนี่แหละเป็นเจ้าถิ่นของที่นี่
          B. สุนัขกำลังบอกว่า ไม่ว่าหน้าไหนก็อย่าได้เข้ามาใกล้ฉันในตอนนี้ เพราะฉันกำลังอารมณ์ไม่ดีสุด ๆ

3. สุนัขส่งเสียงคำรามขู่ ขนตามตัวพองตั้งอย่างเห็นได้ชัด ลักษณะแบบนี้เขาอยากบอกอะไรหนอ

          A. บอกว่า คุณกำลังทำให้ฉันไม่พอใจ
          B. บอกว่า อย่าเข้ามานะ ฉันขอเตือน

4. สุนัขนอนหมอบแบบก้นโด่ง แกว่งหางไปมา แล้วก็กลิ้งตัวเอียงคอเล็กน้อย สายตาจดจ้องมาที่คุณพร้อมอ้าปาก เขากำลังต้องการบอกอะไรคุณกันแน่

          A. บอกว่า ของรางวัลหน่อยดิเจ้านาย
          B. บอกว่า เจ้านายมาเล่นด้วยกันเถอะ

5. สุนัขหาวหวอด ๆ เขาต้องการบอกอะไรคุณกันนะ

          A. ฉันง่วงนอนแล้วนะ อย่าเพิ่งมากวนฉันตอนนี้
          B. รู้ไหมว่าฉันกำลังเบื่อมาก ๆ เลย

6. สุนัขย่อขาคู่หลังเตี้ยลงถึงพื้น หุบปากสนิท หูหลุบไปข้างหลัง หางตกไม่แกว่ง ส่งเสียงครางเบา ๆ หยุดอยู่กับที่ อาการแบบนี้บ่งบอกว่าสุนัขต้องการอะไร

          A. บ่งบอกว่าน้องหมากำลังยอมจำนนหรือที่เรียกกันง่าย ๆ ว่า “น้องหมาหงอ” นั่นเอง
          B. บ่งบอกว่าสุนัขกำลังกลัวและพร้อมจะต่อสู้

7. สุนัขนอนหงาย หางจุกก้น ยกคอขึ้นแก่ก้มหน้าลง ขาคู่หน้างอ หูยกขึ้นเล็กน้อย เขากำลังจะบอกคุณว่า

          A. ฉันไม่ได้ยอมแพ้ แต่ฉันสู้ไม่ได้
          B. ฉันยอมแพ้แล้ว กลัวแล้วจ้า

8. สุนัขยกหัวตั้งสูง หางทอดตามสบาย สะบัดหางแกว่งไปมา เผยอปากเล็กน้อย อยู่ในท่าทางสบาย ๆ นั่นหมายความว่า

          A. สุนัขกำลังอารมณ์ดี แสดงความเป็นมิตร หรือที่เรียกว่า น้องหมารับแขก นั่นเอง
          B. สุนัขเตรียมพร้อมที่จะเล่นกับเจ้าของแล้ว

9. สุนัขมีลักษณะขนหลังตั้งชัน ย่อตัวเล็กน้อย ลำตัวเกร็ง หางเหยียดตรงหยุดนิ่ง หูหลุบไปข้างหลัง อ้าปากจนเห็นฟัน คอเสมอลำตัวมองพุ่งตรงไปข้างหน้า มีอาการแยกเขี้ยว สุนัขกำลังจะบอกว่า

          A. ฉันนี่แหละคือสุนัขที่ก้าวร้าว
          B. ฉันไม่ใช่สุนัขที่ก้าวร้าว เพียงแต่ฉันกำลังระแวดระวังภัยก็เท่านั้น

10. สุนัขแสดงอาการเลียแขนขาเจ้าของ เขาอยากจะบอกคุณว่าอย่างไร

          A. บอกว่า ฉันหิวแล้วนะ
          B. บอกว่า ฉันกำลังแสดงความรักที่มีต่อคุณ


มาดูกันซิว่าคุณเข้าใจสุนัขมากน้อยแค่ไหน ตอบถูก ตอบผิดกันกี่ข้อ

          ตามมาดูเฉลยกันได้เลยจ้า





เฉลยข้อ 1. A /  2.A /  3.B /  4.B /  5.B /  6.A /  7.B /  8.A /  9.A / 10.B





Free TextEditor



Create Date : 22 ธันวาคม 2554
Last Update : 22 ธันวาคม 2554 11:10:45 น.
Counter : 482 Pageviews.

0 comment
มาตรฐานสายพันธุ์ ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์ แบบขำๆ
มาตรฐานสายพันธุ์ ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์ แบบขำๆ




ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์


มาตรฐานสายพันธุ์ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์ แบบขำๆ (Dogazine)

   สุนัขพันธุ์ใช้งานตัวเก่งของวงการตำรวจ นั่นคือ "ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์" บ่อยครั้งที่เราจะเห็นสุนัขพันธุ์นี้ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยเจ้าหน้าที่ในการตรวจค้นหาวัตถุต้องสงสัยอยู่เสมอ…นั่นเป็นเพราะสุนัขพันธุ์นี้มีความสามารถในการดมกลิ่นดีเยี่ยม อีกทั้งมีนิสัยเชื่อฟังคำสั่ง ทำให้ฝึกได้ง่าย และที่สำคัญ ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์ เป็นมิตรกับคนและสัตว์อื่น จึงเหมาะกับการทำงานท่ามกลางฝูงชน

          ...เพื่อให้ท่านรู้จักลาบราดอร์ ตัวจริงเสียงจริง วันนี้เราขอแนะนำ มาตรฐานสายพันธุ์ ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์ ในแบบฉบับเจ้าตัวแสบ

ชื่อสายพันธุ์ (ไทย) ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์

ชื่อสายพันธุ์ (อังกฤษ) Labrador retriever

การจัดกลุ่ม spollt dog  (- - -แปลว่า สุนัขนิสัยเสีย)

ลักษณะทั่วไป

มีโครงสร้างบึกบึน แต่หุ่นกลับอวบอั๋น หน้าตาใจดี ยิ้มแย้ม แก้มห้อย แม้ดูขัดตากับสีขนเข้ม  แต่โดยรวมก็ทำใหสุนัขพันธุ์นี้ดูน่ากอดมากกว่ากลัว

อุปนิสัย

สงบเงียบเมื่อหลับ พอขยับล่ะเป็นเรื่องทุกที

ซื่อสัตย์ ต่อชามอาหาร จะวิ่งตามชามอาหารเข้ากรงได้เสมอ ไม่ว่ากำลังทำอะไรอยู่

เกลียดถ้วยตวงอาหารมาก (เพราะถ้วยนั้น ตวงอาหาร ได้น้อยกว่า เท) แต่ที่ฉลาดพอที่จะ หลอก ให้เจ้าของหลง เทอาหารลงในชามมากเกินความจำเป็น

เป็นสุนัขเฝ้าบ้านที่ไม่ดี เพราะไม่เห่าใครเลย ยกเว้น เจ้าของบ้าน

ประวัติและต้นกำเนิด

เดิมสุนัขพันธุ์นี้เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย และเหมาะสมกับการใช้ในงานประมงมากกว่าสุนัขสายพันธุ์อื่น เพราะเวลาที่สุนัข ขนยาว ขึ้นจากน้ำ สุนัขมักจะเปียกชุ่มไปทั้งตัว แต่สำหรับลาบราดอร์ ซึ่งมีขนสั้นกว่า เมื่อขึ้นจากน้ำแล้ว เจ้าของและคนรอบข้างจะเปียกชุ่มไปทั้งตัว ในขณะที่ตัวสุนัขเองเกือบจะแห้งในทันทีที่สะบัดขน



ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์

กะโหลก

กะโหลกกว้าง ทำให้มีเนื้อที่สำหรับสมองมาก เช่นเดียวกับเนื้อที่ของกระเพาะอาหาร

หู

ใบหูตกแนบชิดศีรษะ - - - ทำให้ฟังคำสั่งหรือเรียกไม่ค่อยได้ยิน และหากว่าเจ้าของออกคำสั่งไม่ถูกใจ อาจทำเป็น "หูทวนลม" ได้ฉะนั้น เวลาออกคำสั่ง ควรเปิดใบหูมันขึ้นก่อนเสมอ

ตา

ดวงตา มีขนาดปานกลาง สีน้ำตาล เหลืองหรือสีดำ - - - แววตาสดใสมีประกายแห่งความดื้อเงียบ
มักสบตาเจ้าของอย่างมุ่งมั่น เมื่อมีขนอยู่ตรงหน้า แต่เมื่อโดนเจ้าของดุ สุนัขจะหลบตาเสมอ

ปาก

กระบอกปากค่อนข้างยาว กรามแข็งแรง - - - ชอบแทะงับ และคาบสิ่งของเสมอ จนพูดกันว่า สุนัขคาบได้ทุกสิ่งที่ไม่ได้ยึดติดไว้กับพื้น

สันจมูกมีมุมหักเล็กน้อย - - - ทำให้สุนัขกินและหายใจ ไปพร้อมๆกันได้ - - - สุนัขจึงกินเก่งและกินเร็ว

มีความสามารถในการปลดกลอนประตู ตะขอ และพันธนาการบางอย่างได้ด้วยปาก

ไม่มีปัญหาเรื่องการควบคุมน้ำลาย ยกเว้น ตอนได้กลิ่นอาหารจะหลั่งน้ำลายเป็นสายฝน

ฟัน

ฟันขบกรรไกร แต่ “ปากเบา” สามารถคาบของได้กระชับ โดยไม่เสียหาย- - - อย่างไรก็ตาม ตอนอายุ 3 ถึง 4 เดือน จะชอบงับมือของรองเท้าของเจ้าของบ่อยและแรงเกินไป

จมูก

สีน้ำตาล หรือ สีดำ - - - ไวต่อกลิ่น "อาหาร" เป็นที่สุด

เวลาจูงไปเดินเล่น จมูกจะเป็นตัวนำสุนัขและเจ้าของไปเจอของเหม็น ๆ เสมอ

ลำตัว

หากเจ้าของเลี้ยงดีเกิน สะโพกจะหนา เอวจะหายไป แถมสันหลั จะค่อมข้างยาว หาวหวอด ๆ และนอนได้ทั้งวัน

คอ

มีความยาวพอเหมาะและแข็งแรง  - - - ธรรมชาติสร้างมาให้สุนัขก้มลงกินอาหารที่เจ้าของทำตกลงพื้นได้อย่างรวดเร็ว ….ก่อนที่เจ้าของจะห้ามทัน

อก

          อกมีความกว้างและลึกพอเหมาะ  ซี่โครงกางพอทำให้ดู บึกบึน - - - แต่ลาลาบราดอร์ ในประเทศไทย มัก "มองไม่เห็นซี่โครง…ต้องเอานิ้วคลำหรือจิกดู"

อุ้งเท้า

อุ้งเท้า  กลมโต มีความเหมาะสม สำหรับการว่ายน้ำ แต่มักใช้ไปในทางผิด คือใช้ขุดคุ้ยรากต้นไม้ในสวน ซึ่งสุนัขพันธุ์นี้ขุดได้ลึก เร็วและแรง

หาง

หางกลม  แข็งแรง - - - ใช้แสดงอารมณ์ ร่าเริง โดยแกว่งกระพือเวลาเห็นของกิน แต่จะหลุบต่ำเมื่อเจอกระสอบปุ๋ยข้างทาง (จะกลัวอะไรกันนัก)

ขน

ขนสั้น  แน่น เป็นมันเงา - - - แต่โดยส่วนใหญ่ ขนมักโดนทำร้ายจากแชมพูและการอาบน้ำที่บ่อยเกินไป ถ้าอยากให้ขนสวย ต้องอาบน้ำน้อย ๆ หน่อย

น้ำหนัก

สุนัขทั้งสองทั้งสองเพศ มักจะมีน้ำหนักเกินมาตรฐาน หรือมิฉะนั้นการกำหนดมาตรฐานน้ำหนักสุนัขสายพันธุ์นี้ ควรพิจารณากันใหม่

ส่วนสูง

เมื่อต้องการคาบเอาสิ่งของที่เจ้าของไม่อนุญาต  สุนัขจะ ยืนตะกายสองเขา และสูงเพิ่มขึ้นได้ถึง  80%

การเคลื่อนไหว

เมื่อหยุดนิ่ง จะมีความสง่างาม - - - แต่ถึงบทจะวิ่งไล่แมว จะดูไม่สวยอย่างมาก

การเคลื่อนไหวดูคล่องแคล่ว โดยเฉพาะตอนที่สุนัข คาบโทรศัพท์มือถือ กระเป๋าสตางค์ รองเท้า หรือวัตถุอื่นใดที่เจ้าของหวงอยู่ในปาก

และสุนัขเคลื่อนที่ได้รวดเร็วขึ้นกว่า 50 % เมื่อเจ้าของวิ่งตามหลังมาเพื่อแย่งเอาของในปากสุนัขคืน

ข้อบกพร่อง

ความสับสนในการจัดลำดับชั้นในบ้าน  ถือเป็นข้อบกพร่องรุนแรงที่ไม่ควรมองข้าม โดยสุนัขมักคิดว่าตัวเองเป็นเจ้านายใหญ่ เพราะเจ้าของบ้านต้องไปเสิร์ฟอาหารถึงกรง





Free TextEditor



Create Date : 22 ธันวาคม 2554
Last Update : 22 ธันวาคม 2554 11:07:51 น.
Counter : 1053 Pageviews.

2 comment
10 เรื่องที่ ปอมเมอเรเนียน อยากให้คุณรู้
10 เรื่องที่ ปอมเมอเรเนียน อยากให้คุณรู้

.






10 เรื่องที่ปอมฯ อยากให้คุณรู้ (Dogazine)

1. แม้จะไม่มีหลักฐานแน่ชัดเกี่ยวกับต้นกำเนิดสายพันธุ์ แต่เชื่อกันว่า ปอมเมอเรเนียน เป็น สุนัข ที่อยู่ในตระกูลสปิทซ์ (Spitz) ซึ่งสุนัขสายพันธุ์ต่าง ๆ ในกลุ่มนี้ จะมีจุดร่วมที่คล้ายคลึงกันคือ มีเส้นขนที่ยาวและหนา ส่วนหางม้วยเข้าหาแผ่นหลัง

2. ชื่อสายพันธุ์ปอมเมอเรเนียนนั้น ตั้งตามชื่อแคว้นปอมเมอเรเนีย ซึ่งเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของประเทศเยอรมนีและโปแลนด์ในปัจจุบัน ทั้งนี้ แคว้นปอมเมอเรเนีย ไม่ได้เป็นถิ่นกำเนิดของสุนัขสายพันธุ์ ปอมเมอเรเนียน แต่เป็นถิ่นที่นิยมเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์นี้ไว้ใช้งานมาตั้งแต่สมัยโบราณ

3. เห็นตัวเล็กน่ารักแบบนี้ เชื่อไหมว่า ปอมเมอเรเนียน ในอดีตเป็นสายพันธุ์สุนัขใช้งานที่มีน้ำหนักกว่า 15 กิโลกรัม จนเมื่อชาวยุโรปเริ่มนิยมเลี้ยง ปอมเมอเรเนียน ในฐานะสัตว์เลี้ยงประจำบ้านมากขึ้น อดีตหมาใหญ่ก็ถูกพัฒนาให้มีขนาดเล็กลงเหลือ 10 กิโลกรัม และค่อย ๆ ลดลงเรื่อย ๆ จนเหลือประมาณ 3 กิโลกรัม ดังที่เห็นในปัจจุบัน

4. ปอมเมอเรเนียน ได้เข้าสู่สังคมชั้นสูงแห่งเมืองผู้ดีอังกฤษเป็นครั้งแรกโดยการนำเข้าของาชินีชาร์ล็อต มเหสีของพระเจ้าจอร์จที่ 3 ซึ่งสุนัข ปอมเมอเรเนียน ในสมัยนั้นยังคงเป็นสุนัขนาดกลาง หน้าตาไม่ได้น่ารักจิ้มลิ้มอย่างที่เราเห็นกันทุกวันนี้ แต่เมื่อปอมเมอเรเนียน ได้ปรากฎตัวในฐานะสุนัขของพระราชินี กลุ่มคนชนชั้นสูงในประเทศอังกฤษจึงเริ่มให้ความสำคัญกับสุนัขสายพันธ์นี้เพิ่มมากขึ้น

5. Marco เป็นชื่อของปอมเมอเรเนียนตัวน้อยที่เป็นดาวเด่นของราชวงศ์อังกฤษในรัชสมัยของสมเด็จพระราชินีวิกตอเรีย ซึ่งได้มาเมื่อครั้งที่ พระองค์เสด็จไปเยือนนครฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี ในปี 1888 Macro เป็นสุนัขขนาดเล็กกะทัดรัด ขนฟู ความน่ารักของ ปอมปอมตัวน้อยเป็นจุดเริ่มต้นของการเพาะพันธุ์ปอมเมอเรเนียนขนาดเล็กขึ้นอย่างเป็นระบบและสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน

6. เมื่อได้รับเกียติให้เข้าสู่สังคมชั้นสูง ปอมเมอเรเนียนจึงได้รับการพัฒนาสายพันธุ์ทั้งในด้านขนาดร่างกายและกิริยาท่าทาง น้องหมาผู้มีเกียรติที่อยู่เคียงข้างบรรดาสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีชาวอังกฤษนั้นจะเชิดคอสูง ยืนด้วยปลายเท้า ดูมีบุคลิกสมกับเป็นผู้ดีด้วยเช่นกัน

7. ถึงแม้จะเคยเป็นน้องหมาผู้ดีในแวดวงชนชั้นสูง หรือจะเป็นคุณหนูตัวน้อยประจำบ้าน แต่ปอมเมอเรเนียนก็ไม่เคยลืมสัญชาตญาณการเป็นสุนัขใช้งานในเขตหนาว พวกเขายังคงคล่องแคล่ว ว่องไว ปรับตัวได้ดีเยี่ยม กล้าหาญและซื่อสัตย์เป็นอย่างมาก

8. ปอมเมอเรเนียนสามารถเข้ากับเด็กและสุนัขสายพันธุ์อื่นได้เป็นอย่างดี แต่หากครอบครัวไหนมีเจ้าปอมน้อยเป็นเจ้าถิ่น การรับสมาชิกใหม่ก็ควรให้เวลาน้องปอมได้ปรับตัวระยะหนึ่ง ทั้งนี้ ด้วยขนาดร่างกายที่เล็กบางของปอมเมอเรเนียน ก็อาจได้รับบาดเจ็บจากการเล่นกับเพื่อนต่างขนาดได้ง่าย ในระยะแรกที่พบหน้ากันเจ้าของจึงควรเฝ้าดูแลอย่างใกล้ชิด

9. ปอมเมอเรเนียนจะมีการผลัดขนจำนวนมากเป็นประจำทุกปี โดยสุนัขเพศผู้จะผลัดขนปีละครั้ง ส่วนเพศเมียปีละสองครั้งก่อนรอการเป็นสัด ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ต้องพิจารณาก่อนจะเลือกเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์นี้

10. ปัญหาสุขภาพของน้องหมาที่คนรักปอมฯ ควรจำใส่ใจ ได้แก่ ปัญหากระดูกสะบ้าเคลื่อน หลอดลมตีบ ขนร่วงจากสาเหตุต่าง ๆ ภาวะฮอร์โมนไทรอยด์ต่ำ และบางครั้งอาจพบปัญหาฟันร่วงก่อนวัยอันควร

    เพราะความรักจากเพียงแรกพบอาจไม่เพียงพอสำหรับการอยู่ร่วมกัน ยังต้องอาศัยความเข้าใจ ความเอื้ออาทร รวมไปถึงประสบการณ์จากการได้ใช้เวลาร่วมกัน ที่จะช่วยส่งความรู้สึกฝากไปถึงเจ้าปอมเมอเรเนียนตัวน้อย ให้ได้รับรู้ว่าคนที่เขารักมากที่สุดก็รักเขามากเช่นกัน





Free TextEditor



Create Date : 22 ธันวาคม 2554
Last Update : 22 ธันวาคม 2554 11:07:02 น.
Counter : 970 Pageviews.

0 comment
ข้อควรจำสำหรับคนที่รัก และเลี้ยงสุนัข
ข้อควรจำสำหรับคนที่รัก และเลี้ยงสุนัข








ข้อควรจำสำหรับคนที่รักและเลี้ยงสุนัขทุกคน (Dogazine)

ในกรณีของผู้เลี้ยงที่ต้องออกไปทำงาน ไม่ควรทิ้งอาหารไว้ให้สุนัข สำคัญที่สุด คือ น้ำสะอาดสำหรับสุนัข ห้ามเด็ดขาดที่จะทิ้งอาหารไว้ให้สุนัขรับประทานทั้งวัน เพราะสุนัขไม่ได้ออกกำลังกาย ดังนั้น จึงเป็นการสะสมพลังงานและไขมัน ก่อให้เกิดโรคต่าง ๆ และพฤติกรรมไม่ดีต่าง ๆ ได้ง่าย

ของเล่นของสุนัข ไม่ควรทิ้งไว้ให้เล่นเยอะเกินไปและไม่ควรมีเสียงดัง เพราะเสียงของเล่นจะทำให้สุนัขเมามันมากเกินไป อันที่จริงสุนัขจะแทนของเล่นว่าเป็นเหยื่อ เมื่อสุนัขกัดของเล่นและสะบัดจะยิ่งเพิ่มความคึกคะนองทางอารมณ์อย่างมาก ซึ่งถ้าปล่อยให้เล่นมาก ๆ ก็จะทำให้สุนัขเข้าสู่ความลุ่มหลง และเมื่อถูกแย่งของออกจากปาก อาจจะทำให้สุนัขเกิดความหวงเหยื่อ และเกิดความก้าวร้าวได้

วิธีเอาของออกจากปากสุนัขที่ดีที่สุด คือ หาของอย่างอื่น หรือขนมมาแลกเปลี่ยนกับของในปากแทนจะเป็นการเบนความสนใจของสุนัขได้






Free TextEditor



Create Date : 22 ธันวาคม 2554
Last Update : 22 ธันวาคม 2554 11:05:58 น.
Counter : 437 Pageviews.

0 comment
เคล็ดลับในการหัดแปรงฟันให้สุนัข
เคล็ดลับในการหัดแปรงฟันให้สุนัข







เคล็ดลับในการหัดแปรงฟันให้สุนัข (Dogazine)
โดย สพ.ญ.พรวดี ยังสุขสถาพร

การป้องกันโรคช่องปากอักเสบและฟันผุที่ดีที่สุดในสุนัข คือ การแปรงฟันและลิ้นให้เขาเป็นประจำ แนะนำให้ใช้ยาสีฟันสำหรับน้องหมาโดยเฉพาะ ซึ่งจะมีรสชาติที่สุนัขชื่นชอบ และไม่แนะนำให้ใช้ของคน เนื่องจากยาสีฟันของคนนั้นห้ามกลืน ต้องบ้วนออก แต่สุนัขบ้วนทิ้งไม่เป็น นอกจากนี้ ยาสีฟันของคนมักจะมีฟองเยอะ สุนัขจะไม่ชอบ การเลือกยาสีฟันใจเจ้าตูบนั้นให้เลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีน้ำตาลเป็นองค์ประกอบ เพราะอาจทำให้เกิดคราบเกาะที่ฟันเพิ่มขึ้นได้

          ทั้งนี้ ก่อนจะเริ่มแปรงฟันให้สุนัขต้องทำให้เขารู้สึกว่าการแปรงฟันเป็นเรื่องสนุกสนาน เช่น อาจให้รางวัลสุนัขเวลายอมให้แปรงฟัน และอาจฝึกให้สุนัขคุ้นกับยาสีฟันโดยให้สุนัขเลียยาสีฟันเล็กน้อยบนแปรงสีฟันของสุนัขทุกวัน ประมาณ 1 สัปดาห์ เพื่อให้คุ้นกับกลิ่นยาสีฟัน และไม่ต่อต้านการแปรงฟัน

จำไว้เสมอว่าจุดสำคัญที่ต้องเน้นในการแปรงฟันคือ บริเวณรอยต่อระหว่างฟันและเหงือก

  ก่อนแปรงฟันให้เจ้าของนวดบริเวณแก้มของสุนัขเบา ๆ สักพักให้สุนัขรู้สึกผ่อนคลาย แล้วค่อยเริ่มเปิดปากเพื่อแปรงฟัน เริ่มจากฟันบนไปยังฟันล่าง ใวันแรก ๆ แปรงแค่ประมาณ 5-10 วินาที ในฟันแต่ละซี่ หลังจากนั้นค่อย ๆ เพิ่มเวลาการแปรงฟันไปเรื่อย ๆ จนได้ประมาณ 1 นาทีสำหรับฟันบน และอีก 1 นาทีสำหรับฟันล่าง

          นอกจากนี้การเลือกให้อาหารก็มีผล พบว่าอาหารที่ใช้เลี้ยงควรเป็นอาหารแห้งที่สุนัขมีโอกาสได้ขบ เคี้ยว แทะ จะดีกว่าให้อาหารเปียก หรืออาหารกระป๋อง และควรป้องกันไม่ให้สุนัขมีนิสัยคุ้ยเขี่ยกินอาหารสกปรกมากินด้วย






Free TextEditor



Create Date : 22 ธันวาคม 2554
Last Update : 22 ธันวาคม 2554 11:05:10 น.
Counter : 670 Pageviews.

0 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  

evezangz
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]





Free Clock
★Rangsit University ★
Engineering วิศวกรรมสิ่งแวดล้อม
หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต
สาขาวิชาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม#1 Rsu Ł° ชิล ชิล งง่ายๆแต่ไม่ได้ใจง่ายนะ สบายๆ ถ่ายรูปคือสิ่งที่ชอบ


MY VIP Friend