ทาน คือการทำกุศลที่ได้บุญ การให้อภัย คือการทำกุศลที่ได้บุญมากกว่า
Group Blog
 
All blogs
 
แนะนำหนัง A Battle of Wits ที่ทำให้ท่านเข้าใจคนชื่อทักษิณ และคนดีอีกหลายคนมากขึ้น

แนะนำหนัง A Battle of Wits ที่ทำให้ท่านเข้าใจคนชื่อทักษิณ และคนดีอีกหลายคนมากขึ้น

ชื่อไทยอย่างเป็นทางการคือ “มหาบุรุษกู้แผ่นดิน”
หนังมี Tung Wai ทำหน้าที่กำกับคิวบู๊ และได้ Kenji Kawai Composer ชาวญี่ปุ่น (Ghost In The Shell, Seven Sword) มาทำดนตรีประกอบให้ หลิวเต๋อหัว เป็น เก้อหลี่ (Ge Li)

เนื้อเรื่องคร่าวๆคือ..
ในปี 370 ก่อนพุทธศักราช ประเทศจีนถูกแบ่งย่อยเป็นส่วนๆ ประกอบไปด้วย 7 เมือง และเผ่าเล็กๆ มากมาย เมือง "จ้าว" เริ่มทำการขยายอำนาจ โดยการนำของ นายพลเซียงหยางชง (อานซุกกี) ได้เคลื่อนพลนับล้าน ผ่านเข้าสู่เมืองเหลียงเพื่อทำการยึดครองไว้เป็นฐานที่มั่นก่อนจะเข้าตีเมืองใหญ่ที่เป็นเป้าหมายหลักต่อไป

แต่เหลียงเป็นเมืองที่ไม่ใหญ่นัก และไม่ได้มีกองทัพอันทรงอานุภาพ เหล่าอำมาตย์จึงได้แนะฮ่องเต้ขี้เมาให้ยอมแพ้ ทัพจ้าว
แต่ฝ่ายทหารบางส่วนที่ภักดีไม่ยอมแพ้ จึงให้เชิญปราชญ์ผู้หนึ่งมาจากสำนักม้อจื้อ เพื่อมาช่วยวางแผน
จนยอดกุนซือลึกลับที่ชื่อว่า เก้อหลี่ (หลิวเต๋อหัว) เดินทางมาถึงเมืองเหลียงก่อน ที่ทัพหน้าของเมืองจ้าวจะถึงเพียงครู่เดียว
และปราชญ์เก้อหลี่ ได้ไล่ทัพจ้าวด้วยธนูที่ยิงจากการใช้ปัญญาเพียงดอกเดียว ทำให้แม่ทัพจ้าวที่อยู่หน้าเมืองไกลพอที่คิดว่าตนปลอดภัยจากธนู โดนธนูของเก้อกลี่เฉี่ยวจนตกม้า ยกถอยทัพกลับค่ายก่อน

..ในขณะที่ฝ่ายอำมาตย์ต่อต้านเก้อหลี่ และแนะให้ฮ่องเต้จับตัวเก้อหลี่ส่งตัวให้ทัพจ้าว เพื่อความปลอดภัยของเมืองเหลียง
แต่ฮ่องเต้ขี้เมามองเห็นประโยชน์ใช้งานบางอย่างของเก้อกลี่ จึงมอบอำนาจทางทหารให้ทั้งหมด

การต่อสู่ด้วยสติปัญญาจึงเริ่มขึ้นอย่างจริงจัง
เก้อหลี่ทำให้ทัพเล็กต้านและตีกลับทัพใหญ่ของ จ้าว ได้ ด้วยการวางแผนตั้งรับที่แข็งแกร่ง โดยใช้การรบด้วยปัญญา ใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด ทำให้ทัพใหญ่ของจ้าว ไม่สามารถตีเมืองเหลียงแตกได้

..ไคลแมกซ์อยู่ที่ พอเก้อหลี่ได้ชัยชนะจากการต้านรบมาตลอด ประชาชนล้วนนิยมชมชอบกันทั้งเมือง
อำมาตย์จึงได้โอกาสเป่าหูฮ่องเต้ว่าเก้อหลี่คิดการกบฏ ให้จับตัวส่งให้ทัพจ้าวซะ ฮ่องเต้ก็จะได้ความนิยมกลับมา
ด้วยความริษยาที่มีอยู่ในใจฮ่องเต้จึงมีโองการจับเก่อหลี่

แต่ด้วยความดี ทำให้ประชาชนและรัชทายาทแท้ๆ ของฮ่องเต้ พาเก้อหลี่หนีออกนอกเมือง แต่รัชทายาทกลับถูกธนูของทหารพวกเดียวกันยิงตายเสียเอง เพราะทหารยิงปูพรมเพื่อจำกัดเก้อหลี่ เก้อหลี่หนีไปได้แต่ก็บาดเจ็บ

ทัพจ้าวได้ที จึงบุกเข้ายึดเมืองเหลียง จับฮ่องเต้และอำมาตย์ได้ทั้งหมด
ด้วยคุณธรรมที่ไม่ได้สร้างภาพ เก้อหลี่จึงย้อนกลับมาช่วยด้วยกลยุทธ์สุดยอด และทำให้ทัพจ้าวพ่ายแพ้ แม่ทัพจ้าวยอมตายเพราะพ่ายเก้อหลี่หมดรูป
ฮ่องเต้กลับมามีอำนาจอีก จากฝีมือของเก้อหลี่ แต่เก้อหลี่กลับต้องลี้ภัยออกมาเลี้ยงเด็กที่กำพร้าจากสงครามในครั้งนี้

เหตุการณ์แบบนี้ ขงเบ้งยังเคยโดนกับตัวเองมาแล้ว แต่ด้วยความหลักแหลมและมีอำนาจที่จริงใจต่อฮ่องเต้ จึงสั่งประหารขันทีซะเตียน ในไทยเองท่านปรีดีย์ พนมยงค์ และอีกหลายคนก็โดนอย่างนี้จนต้องตายต่างบ้านมาแล้ว

คำถามคือ..ทำไมคนดีไม่เข็ดซะที ว่าทำดี ได้ดี มีที่ไหน
คำตอบคือ..มี แต่ไม่ใช่ที่นี่ ที่ที่ในยุคอำมาตย์ครองเมือง

หนังก็คือหนัง แต่อย่าลืมว่ามันถูกสร้างจากชีวิตจริงที่เคยเกิดขึ้นในอดีต

มีคำกล่าวว่า

"ดูเหมือนสิ่งที่เราเห็นอยู่มันจะความบ้า แต่ก็ยังบ้าไม่ได้ครึ่งของความเป็นจริง"

"ไม่มีอะไรใหม่ภายใต้ดวงตะวันนี้ ทุกอย่างมันเคยเกิดขึ้นมาแล้วทั้งนั้น และมันจะเกิดขึ้นอีก"

“คนดีที่ไหนจะอยู่ในสังคมริษยา หลอกลวงได้ ..คนทำดีอัปรีย์กินหัวครับ เพราะวันนี้อัปรีย์ครองเมือง”

ลองหามาชมและเปรียบเทียบกับเหตุการณ์ในปัจจุบันดูเถิดครับทุกท่าน

ดูปกหนังที่นี่ครับ //www.hi-thaksin.net/forum.php?ParamID=72726แนะนำหนัง A Battle of Wits ที่ทำให้ท่านเข้าใจคนชื่อทักษิณ และคนดีอีกหลายคนมากขึ้น


Create Date : 24 สิงหาคม 2550
Last Update : 24 สิงหาคม 2550 10:03:24 น. 1 comments
Counter : 3686 Pageviews.

 
ไปเที่ยวอีสานมาไม่เห็นเก็บภาพสวยๆมาให้ดูเลยนะ


โดย: กุ๊กกิ วันที่: 25 สิงหาคม 2550 เวลา:16:51:15 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

drunkcat
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




กตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า
เมื่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประสูติจากพระครรภ์พระมารดาแล้ว ในที่สุดองค์สมเด็จพระประทีปแก้วใกล้จะถึงวาระที่จะบรรลุอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณ เพราะองค์สมเด็จพระพิชิตมารทรงบำเพ็ญบารมีมาครบ ๔ อสงไขยกับแสนกัป ควรจะได้เป็นพระพุทธเจ้า

ในวันหนึ่งสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงเสด็จประพาสพระราชอุทยาน ก็ทรงพบเด็กเกิดใหม่ วันต่อมาทรงพบคนแก่ คนป่วย แล้วก็คนตาย วันสุดท้ายทรงพบสมณะ

ความจริงเวลานั้นพระที่แต่งตัวแบบนี้ ไม่มีในโลก แต่ว่าเทวทูตทั้ง ๕ ที่เรียกกว่า เทวทูต คือ เด็กก็ดี คนแก่ก็ดี คนป่วยก็ดี คนตายก็ดี พระก็ดี ที่ปรากฏกับสายพระเนตรขององค์สมเด็จพระชินสีห์ เมื่อยังเป็นสิทธัตถะราชกุมาร ท่านบอกว่า เวลานั้นเทวดาแสดงขึ้นให้ปรากฏ ครั้นเมื่อองค์สมเด็จพระบรมสุคตเห็นคนเกิดยังเด็กเล็ก แล้วต่อมาพบคนแก่ แล้วก็พบคนป่วย แล้วก็พบคนตาย น้ำพระทัยขององค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาตรัสว่า

"โลกนี้ทุกข์หนอ ไม่มีอะไรเป็นสุข หาความเที่ยงแท้แน่นอนไม่ได้"

ต่อมาวันสุดท้าย องค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาทรงเห็นสมณะวิสัยก็เข้าใจว่าทางนิพพานมีอยู่ ทางนี้เป็นทางสิ้นทุกข์ เหตุฉะนั้นองค์สมเด็จพระบรมครูจึงได้ตัดสินพระทัยออกบวช นี่ขอเล่าลัดๆ นะ แต่ความจริงเรื่องนี้ยาวมาก
Friends' blogs
[Add drunkcat's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.