|
ประมวลภาพ คุณฉลาด วรฉัตร ในกรงและโซ่ตรวนของระบอบเผด็จการ
วันอาทิตย์, กันยายน 09, 2007
ถ่ายภาพโดย Crazy BMW บรรยายภาพโดย Crazy BMW ที่มา เว็บบอร์ดราชดำเนิน พันทิพ 9 กันยายน 2550
เวทีคนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการที่สนามหลวงเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (8 ก.ย.) มีการเชิญคุณฉลาด วรฉัตร มาพูดคุยนอกกรงขัง ระหว่างทางไปรับคุณฉลาด ผ่านถนนราชดำเนิน
คุณฉลาดแสดงความจำนงค์ที่จะออกไปพูดคุยกับพี่น้องคนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการที่รออยู่ที่ท้องสนามหลวงได้เมื่อใส่โซ่ตรวนนักโทษเท่านั้น เนื่องจากเสรีภาพในประเทศไทยไม่มี การอยู่ในกรงขังและการใส่โซ่ตรวนจึงไม่แตกต่างกับการอยู่นอกกรงและไม่ถูกล่ามไว้ ถูกจับยัดใส่รถที่มีกรงเหล็ก เพื่อนำไปสู่สนามหลวงคุณฉลาดค่อยๆเดินผ่าน ผู้คนที่มารอ ท่ามกลางเสียงปรบมือกึกก้อง ประชาชนลุกขึ้นยืนปรบมือให้เกียรติแก่คุณฉลาด เป็นเวลายาวนาน
โซ่ตรวน สัญลักษณ์ของการปกครองภายใต้ระบอบอมาตยาธิปไตย ระบอบเผด็จการทรราชย์ สัญลักษณ์ของการขาดเสรีภาพ ขาดประชาธิปไตย ขาดความยุติธรรม ถูกกดขี่ไม่ได้รับความเป็นธรรม รวมถึงอยู่ภายใต้การกักขังของห่วงโซ่อุปาทานและอวิชชาที่มีอยู่อย่างเต็มที่ของคนในชาติ เดินทางกลับไปสู่กรงขังที่บริเวณรัฐสภา ดำเนินการตามวิถีอหิงสา ปราศจากความรุนแรง ทำไปเพื่อประสงค์ให้ประชาชนคนไทยได้ตื่นขึ้น และเพื่อต่อสู่เรียกร้องความชอบธรรม และเสรีภาพ ให้กลับมาสู่ประเทศไทย
Create Date : 10 กันยายน 2550 |
Last Update : 10 กันยายน 2550 21:54:22 น. |
|
5 comments
|
Counter : 1946 Pageviews. |
|
|
|
โดย: goodpeople visit you (goodpeople ) วันที่: 11 กันยายน 2550 เวลา:21:16:39 น. |
|
|
|
โดย: deknaew_ton วันที่: 12 กันยายน 2550 เวลา:11:36:50 น. |
|
|
|
โดย: deknaew_ton วันที่: 12 กันยายน 2550 เวลา:11:39:47 น. |
|
|
|
โดย: dabestone วันที่: 12 กันยายน 2550 เวลา:15:01:44 น. |
|
|
|
โดย: โฉมสมัย วันที่: 13 กันยายน 2550 เวลา:14:47:06 น. |
|
|
|
| |
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]
|
กตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า เมื่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประสูติจากพระครรภ์พระมารดาแล้ว ในที่สุดองค์สมเด็จพระประทีปแก้วใกล้จะถึงวาระที่จะบรรลุอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณ เพราะองค์สมเด็จพระพิชิตมารทรงบำเพ็ญบารมีมาครบ ๔ อสงไขยกับแสนกัป ควรจะได้เป็นพระพุทธเจ้า
ในวันหนึ่งสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงเสด็จประพาสพระราชอุทยาน ก็ทรงพบเด็กเกิดใหม่ วันต่อมาทรงพบคนแก่ คนป่วย แล้วก็คนตาย วันสุดท้ายทรงพบสมณะ
ความจริงเวลานั้นพระที่แต่งตัวแบบนี้ ไม่มีในโลก แต่ว่าเทวทูตทั้ง ๕ ที่เรียกกว่า เทวทูต คือ เด็กก็ดี คนแก่ก็ดี คนป่วยก็ดี คนตายก็ดี พระก็ดี ที่ปรากฏกับสายพระเนตรขององค์สมเด็จพระชินสีห์ เมื่อยังเป็นสิทธัตถะราชกุมาร ท่านบอกว่า เวลานั้นเทวดาแสดงขึ้นให้ปรากฏ ครั้นเมื่อองค์สมเด็จพระบรมสุคตเห็นคนเกิดยังเด็กเล็ก แล้วต่อมาพบคนแก่ แล้วก็พบคนป่วย แล้วก็พบคนตาย น้ำพระทัยขององค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาตรัสว่า
"โลกนี้ทุกข์หนอ ไม่มีอะไรเป็นสุข หาความเที่ยงแท้แน่นอนไม่ได้"
ต่อมาวันสุดท้าย องค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาทรงเห็นสมณะวิสัยก็เข้าใจว่าทางนิพพานมีอยู่ ทางนี้เป็นทางสิ้นทุกข์ เหตุฉะนั้นองค์สมเด็จพระบรมครูจึงได้ตัดสินพระทัยออกบวช นี่ขอเล่าลัดๆ นะ แต่ความจริงเรื่องนี้ยาวมาก
|
|
|
|
|
|
|
มีขึ้นมีลง มันเป็นแบบนี้เองเนอะ