ทาน คือการทำกุศลที่ได้บุญ การให้อภัย คือการทำกุศลที่ได้บุญมากกว่า
Group Blog
 
All blogs
 
หัวข้อ: พ่อค้าเจ๊ง นักวิชาการเทียมลุยเจาะสถาบันการศึกษาเพื่อพร้อมปลุกกระแสหลังเลือกตั้ง

ด่วน แหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือได้แจ้งว่า

ขณะนี้ เนื่องด้วยความได้เปรียบของเผด็จการไม่ได้ตกเข้ามาสู่แผนการเดินสู่อำนาจอย่างมั่นคง ไม่ว่าด้วยปัจจัยใดๆ

ไม่ว่าจะอ้างว่าขอลงจากอำนาจ หรือ อ้างว่าขอกลับไปอยู่บ้าน อยู่ป่าก็ตามที

แต่โดยแผนที่วางไว้ว่าให้พรรคไทยรักไทย "แตก" เป็นเสี่ยงๆ "แตก" เป็นก๊กเป็นเหล่า "แตก" เป็นกลุ่มผลประโยชน์

แต่เนื่องด้วยเผด็จการไม่ได้คำนึงถึงปัจจัยการได้มาซึ่งกระบวนการแห่งระบอบประชาธิปไตยที่ต้องมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร

ชื่อก็บ่งบอกอยู่แล้วว่าต้องมาจากราษฎร แต่กลับลืมคำนึงถึง โดยหวังว่าจะใช้รูปแบบเดิมๆในการสร้างพรรค

แต่หาดูไม่ว่าตัวบุคคล ซึ่งแปลเปลี่ยนไปอยู่ในรูปของตัวแทนของจิตวิญญาณแห่งอุดมการณ์ตัวแทนประชาชน

ทั้งบรรดาสส.ในพื้นที่ ต่างก็รู้ดีว่า หากตนทำตัวเป็นนกสองหัว โอกาสที่โดนพรรคพลังประชาชนโดยกลุ่มไทยรักไทย ที่มีตัวตายตัวแทน "เพียบ" ขี่คอซ้อนสองชั้น "เขี่ย" เป็นเรื่องง่ายและโอกาส "สอบตก" มากกว่า "สอบได้" มองกันเห็นๆ

ทั้งที่ผ่านมา บรรดา สส. ไทยรักไทย ถูกเย้ยหยัน จากบรรดาพ่อค้าเจ๊ง นักวิชาการเทียม ที่กล่าวหาว่าเป็นพวก"ไร้ความสามารถ" "ซื้อเสียง" "ทาสเงิน" "แบมือขอ" ฯลฯ สุดแล้วแต่จะสรรหามากล่าว

โดยลืมไปว่าพวกเขาก็มีความเป็น "คน" และ "รักศักดิ์ศรี" ซึ่งไม่ได้ดูปัจจัยการได้เป็น "สส." ของพวกเขาเหล่านั้นว่า ไม่ได้มาด้วยโชค หรือ เงิน แต่ได้มาด้วยผู้นำ ตัวเขาเองรวมทั้งนโยบายพรรคของเขาเหล่านั้น

มาบัดนี้ "พวกเขา" จึงขอตอกเสาเข็มปักหลักไม่ไปไหน ที่ออกไปขอวิ่งกลับมา และได้รับคำขาดว่าหาก "ยึกยัก" จะจัดคนลงแข่งใหม่ทันที คราวนี้ เผด็จการและบรรดาสมุน เริ่มมองภาพจุดจบของตนเองในอนาคตอย่างเป็นรูปร่างขึ้น

จากความกลัวดังกล่าว บรรดาสมุนเหล่านี้จึงขอส่ง "ทีม" ปลุกกระแสตามสถาบันการศึกษา หวังปลุกกระแส "นักวิชาการ" ผู้ซึ่งไร้เดียงสาทางการเมือง เพื่อการใช้กำลังจูงจมูก "ขับไล่" หากพรรคพลังประชาชนได้เป็นรัฐบาลในเวลาข้างหน้านี้

เรื่องนี้อยากฝากให้บรรดาพลังประชาชน ทั้งหลาย "โปรดอย่า" นิ่งนอนใจ จัด"ทีม" เพื่อการประชาสัมพันธ์เพื่อ "ป้องกัน" แต่มิใช่ "การตอบโต้" การรุกเงียบของเผด็จการในครั้งนี้

ผู้เขียนขอฝากกระซิบว่า วันพฤหัสที่ 13 กย. นี้ จะมีการจัดประชุมเสวนาในหัวข้อ "เศรษฐกิจและการเมืองไทยหลังการใช้รัฐธรรมนูญ" บรรยาโดยนายประชัย เลี่ยวไพรัตน์แห่งทีพีไอ สปอนเซอร์ใหญ่นายสนธิ ลิ้มทองกุล และ นายลิขิต ธีระเวคิณ นักวิชาการ pseudo intellectual แห่งยุค เวลาบ่ายโมง ห้อง LNG101 มหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าธนบุรี จึงเรียนมาให้ท่านทั้งหลาย "ป้องกัน" โดยทั่วกัน
ขณะนี้ เนื่องด้วยความได้เปรียบของเผด็จการไม่ได้ตกเข้ามาสู่แผนการเดินสู่อำนาจอย่างมั่นคง ไม่ว่าด้วยปัจจัยใดๆ


Create Date : 13 กันยายน 2550
Last Update : 13 กันยายน 2550 16:02:38 น. 0 comments
Counter : 390 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

drunkcat
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




กตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า
เมื่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประสูติจากพระครรภ์พระมารดาแล้ว ในที่สุดองค์สมเด็จพระประทีปแก้วใกล้จะถึงวาระที่จะบรรลุอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณ เพราะองค์สมเด็จพระพิชิตมารทรงบำเพ็ญบารมีมาครบ ๔ อสงไขยกับแสนกัป ควรจะได้เป็นพระพุทธเจ้า

ในวันหนึ่งสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงเสด็จประพาสพระราชอุทยาน ก็ทรงพบเด็กเกิดใหม่ วันต่อมาทรงพบคนแก่ คนป่วย แล้วก็คนตาย วันสุดท้ายทรงพบสมณะ

ความจริงเวลานั้นพระที่แต่งตัวแบบนี้ ไม่มีในโลก แต่ว่าเทวทูตทั้ง ๕ ที่เรียกกว่า เทวทูต คือ เด็กก็ดี คนแก่ก็ดี คนป่วยก็ดี คนตายก็ดี พระก็ดี ที่ปรากฏกับสายพระเนตรขององค์สมเด็จพระชินสีห์ เมื่อยังเป็นสิทธัตถะราชกุมาร ท่านบอกว่า เวลานั้นเทวดาแสดงขึ้นให้ปรากฏ ครั้นเมื่อองค์สมเด็จพระบรมสุคตเห็นคนเกิดยังเด็กเล็ก แล้วต่อมาพบคนแก่ แล้วก็พบคนป่วย แล้วก็พบคนตาย น้ำพระทัยขององค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาตรัสว่า

"โลกนี้ทุกข์หนอ ไม่มีอะไรเป็นสุข หาความเที่ยงแท้แน่นอนไม่ได้"

ต่อมาวันสุดท้าย องค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาทรงเห็นสมณะวิสัยก็เข้าใจว่าทางนิพพานมีอยู่ ทางนี้เป็นทางสิ้นทุกข์ เหตุฉะนั้นองค์สมเด็จพระบรมครูจึงได้ตัดสินพระทัยออกบวช นี่ขอเล่าลัดๆ นะ แต่ความจริงเรื่องนี้ยาวมาก
Friends' blogs
[Add drunkcat's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.