เมื่อได้แป้งแล้วก็หันมาทำไข่หวานค่ะ
น้ำเปล่า 4 ถ้วยตวงของเหลว
น้ำตาลทราย 4 ถ้วยตวงของแห้ง
- ตั้งไฟให้น้ำตาลละลาย หยดน้ำส้มสายชูหรือน้ำมะนาวลงไปเล็กน้อย
- จากนั้น หรี่ไฟลงเล็กน้อย ต่อยไข่ใส่ลงไปทีละฟอง เมื่อไข่สุก (มากน้อยตามต้องการ) ก็ตักขึ้น พักไว้
|
ต้มไข่หวานในน้ำเชื่อมหรือน้ำกะทิ |
น้ำเชื่อมที่เหลือนี้หากจะต้มบัวลอยใส่เลยก็ได้นะคะ แต่ควรเติมน้ำลงไปเพื่อลดความหวานลง จากนั้นเทเม็ดแป้งบัวลอยใส่ลงไป เมื่อเม็ดแป้งบัวลอยลอยขึ้นแสดงว่าสุกแล้ว ก็ดับไฟแล้วไปทำส่วนกะทิกันต่อ
แต่ฝันชอบต้มแป้งบัวลอยในน้ำเปล่ามากกว่า เพราะเสียดายน้ำเชื่อมค่ะ ถ้าต้มแป้งบัวลอยในน้ำเชื่อมแล้วจะทำให้น้ำเชื่อมมีสีเข้มขึ้น ดูไม่สวย เพราะว่าบัวลอยของเรามีสีเข้มๆ อย่างสีม่วง สีน้ำเงินด้วย
|
เม็ดบัวลอยเตรียมลงต้ม ร่อนเอาแป้งนวลออกเสียก่อน หรือจะล้างน้ำออกก็ได้แต่ต้องรีบนำลงหม้อน้ำเดือด |
|
เทเม็ดบัวลอยลงหม้อน้ำเดือดจัด เม็ดบัวจะจมลง อาจใช้ตะแกรงหรือทัพพีช่วยเขี่ยให้เม็ดบัวลอยไม่ติดกัน |
|
เม็ดแป้งบัวลอยที่สุกจะค่อยๆ ลอยขึ้นมา |
|
บัวลอยหลากสีสันลอยเต็มหม้อ |
|
ใช้กระชอนหรือตะแกรงช้อนเม็ดบัวลอยขึ้นมาพักในน้ำเย็น แล้วตักขึ้นใส่หม้อน้ำเชื่อมหรือน้ำกะทิที่เตรียมไว้ |
การต้มในน้ำเปล่าก็ง่ายๆ เลยค่ะ ต้มน้ำให้เดือด จากนั้นก็ใส่เม็ดบัวลอยลงไปต้ม เมื่อสุกลอยก็ช้อนออก พักไว้ในน้ำเย็นก่อน จากนั้นค่อยตักใส่น้ำเชื่อมไว้ แล้วหันไปทำน้ำกะทิกัน
|
น้ำกะทิบัวลอยหรือน้ำกะทิไข่หวาน ข้นๆ หวานมันเค็ม |
สูตรน้ำกะทิบัวลอย
เกลือป่น 10-15 กรัม* ทยอยใส่ เพราะเกลือป่นมีความเค็มไม่เท่ากัน
- ตั้งไฟจนน้ำตาลละลาย กะทิเดือด หมั่นคนอย่าให้กะทิแตกมัน ปิดเตา
- หม้ออีกใบใส่หัวกะทิ 500 กรัม ตั้งไฟจนกะทิเดือด หมั่นคนไม่ให้กะทิแตกมัน พอเดือดนำไปเทใส่ส่วนของหางกะทิ คนให้เข้ากัน
การจัดเสิร์ฟ
ตักบัวลอยและไข่หวานโดยใช้ทัพพีแบบมีรู จะได้ติดน้ำเชื่อมไม่มาก แล้วราดด้วยน้ำกะทิ หากใครชอบหวาน จะตักน้ำเชื่อมใส่เพิ่มก็ตามสะดวกเลยค่ะ ใครชอบหวานน้อย ชอบมันๆ เค็มนิดๆ ก็ใส่กะทิเยอะหน่อย หากมีเครื่องอย่างเผือก ข้าวโพด มะพร้าวอ่อน หรือมะพร้าวกะทิ ก็ตักใส่ไปด้วยกัน เพิ่มรสชาติความอร่อยได้อีก
|
บัวลอยไข่หวานเพิ่มเผือกนึ่งหั่นเต๋า |
|
บัวลอยไข่หวานใส่ข้าวโพด สีสันจากธรรมชาติ |
เคล็ดไม่ลับการทำไข่หวาน
- ไข่หวานควรเลือกใช้ไข่ใหม่ ไข่ขาวจะมีลักษณะเป็นวุ้น ไม่กระจายตัว ทำไข่หวานแล้วจะเป็นตัวสวย
- ไข่หวาน หากอยากให้มีสีขาวน่ากิน และไข่ขาวเกาะตัวกันดี เติมน้ำส้มสายชูหรือน้ำมะนาวเล็กน้อยลงในน้ำเชื่อมก่อนใส่ไข่ค่ะ
- ไข่หวาน หากใช้ไข่ไก่สามารถนำไปใส่ในน้ำเชื่อมหรือน้ำกะทิได้เลย แต่หากใช้ไข่เป็ดให้ทำแยกหม้อกับกะทิหรือแป้งบัวลอย และทุบขิงแก่ใส่ไปในน้ำเชื่อมด้วยเพื่อไม่ให้เหม็นคาวไข่
|
ไข่หวานรอเสิร์ฟคู่กับบัวลอย หรือจะราดกะทิกินเดี่ยวก็กินอร่อยเหมือนกัน |
เคล็ดไม่ลับแป้งบัวลอยและน้ำกะทิ
- แป้งบัวลอยที่มีส่วนผสมของแป้งและสีจากธรรมชาติมากจะให้รสชาติและคุณค่าทางโภชนาการที่ดีกว่าแป้งผสมกับสีอย่างเดียว แต่ต้องผสมให้ได้สัดส่วนที่สมดุล เพื่อจะได้สามารถปั้นเป็นก้อนกลมได้ง่าย
- อาจผสมแป้งมันหรือแป้งข้าวเจ้าลงไปเล็กน้อย เพื่อให้ปั้นได้ง่ายขึ้น แต่หากชอบรสของแป้งข้าวเหนียวล้วนๆ ก็ทำได้เช่นกัน โดยอาจเพิ่มน้ำอีกเล็กน้อย
- พืชผักบางชนิดเมื่อนำไปนึ่งจะมีปริมาณน้ำอยู่ในตัว ดังนั้นหากไม่มั่นใจให้นวดกับแป้งไปก่อน ถ้าแห้งไปจึงค่อยๆ เติมน้ำลงไปทีละ 1 ช้อนโต๊ะ
- หากแป้งบัวลอยมีแป้งนวลติดมาก ให้นำไปใส่ตะแกรงหรือกระชอนเพื่อสะบัดแป้งนวลที่ติดออก หรือจะล้างน้ำผ่านก๊อกแล้วรีบเทลงหม้อต้มแล้วคนเร็วๆ ให้แป้งกระจายตัว ไม่ติดกัน
- เมื่อแป้งบัวลอยสุกแล้วแป้งจะลอยขึ้นมา หากต้องการให้แป้งอยู่ตัวดี ไม่ดูดน้ำหวานมากจนเกินไป ให้ตักขึ้นแช่อ่างน้ำเย็นไว้
- หากอยากให้สีของน้ำบัวลอยขาวสวย ใช้น้ำตาลทรายขาวแทนส่วนน้ำตาลปี๊บทั้งหมด แต่ให้ลดปริมาณลงครึ่งหนึ่งก่อนเพราะน้ำตาลทรายมีความหวานที่มากกว่าน้ำตาลปี๊บ จากนั้นจึงชิมรส แล้วค่อยๆ เติมเพิ่มตามชอบ จะได้น้ำกะทิสีขาวสวย แต่อาจขาดกลิ่นและรสเฉพาะที่มีในน้ำตาลปี๊บ
- น้ำตาลปี๊บหรือน้ำตาลปึกก็ใช้ได้เช่นเดียวกัน แต่ควรเลือกสีอ่อนหน่อย เพื่อไม่ให้น้ำกะทิมีสีออกน้ำตาลจนเกินไป ส่วนใหญ่จะใช้น้ำตาลมะพร้าว ซึ่งมีสีอ่อนกว่าน้ำตาลโตนด
- ปัจจุบันมีน้ำตาลโตนดผงขาย ให้กลิ่นรสหอมหวานเฉพาะตัวและมีสีที่อ่อนกว่าน้ำตาลปี๊บ ถ้าเอามาใช้แทนน้ำตาลทรายก็อาจให้รสชาติอร่อยแตกต่างไปอีกแบบ แต่ราคาก็ค่อนข้างสูงพอสมควร
- หากต้องการกลิ่นหอมอ่อนๆ อาจใช้น้ำลอยดอกมะลิหรือน้ำดอกไม้สดคั้นกะทิแทนน้ำเปล่าได้เช่นกัน
- ทำหัวกะทิไว้ราดหน้าขนมจะเพิ่มความหอมมันและความน่ารับประทานได้
- บัวลอยเป็นขนมที่ประยุกต์ทำได้หลายอย่าง จะทำสีเดียว สามสี หรือห้าสี หรือจะเพิ่มเครื่องกลายเป็นบัวลอยทรงเครื่องก็ได้ โดยใส่เผือกหั่นเต๋าต้มสุก ข้าวโพดหวานต้มสุก มะพร้าวอ่อน มะพร้าวกะทิ หรือมะพร้าวเผาก็ได้
|
ขอให้มีความสุขกับการรับประทานบัวลอยไข่หวานฝีมือตัวเองนะคะ
มาอัพบล็อกช่วงเทศกาลกินเจจะผิดไหม แต่เมนูนี้ตัดไข่หวานไปก็เป็นเจได้แล้วนะคะ
ขออภัย...ยังไม่มีเวลาทำลายน้ำรูปใหม่ ขอก๊อปมาจากอีกบล็อกของตัวเองก่อนนะคะ |