|
ยิ่งศึกษาพุทธศาสนายิ่งไม่รู้พระพุทธศาสนา หมายความว่าอย่างไร
หมายความว่า มันยิ่งทำให้เลอะ และหลงใหลในความรู้ ในรสอร่อยของความรู้ ในความนึกความคิดของการใช้เหตุผลตามหลักปรัชญา ตรรกวิทยา หรืออะไรๆ มากขึ้น ศึกษาพระไตรปิฎก ให้หมดทั้ง ฝ่ายเถรวาทและฝ่ายมหายาน ยิ่งไม่มีทางรู้พุทธศาสนา ยิ่งจะวนเวียนอยู่ในป่ารกป่าพงอะไรอันหนึ่งเท่านั้น เว้นไว้แต่จะศึกษาโลกหรือชีวิตหรือความทุกข์คือตัวเองในขอบเขตที่ยาวประมาณวาหนึ่งนี้เท่านั้น เราจึงจะรู้พุทธศาสนาหรือรู้ธรรมะ พระพุทธศาสนาที่แท้นั้น มิได้หมายถึง ความรู้ แต่ หมายถึงตัวธรรมะแท้ที่ทำลายความยึดมั่นถือมั่น ยิ่งศึกษาพระไตรปิฎกก็ยิ่งสนุก จนคนโบราณยุคหนึ่งเรียกพระไตรปิฎกว่านางฟ้า (วาณี) ทั้งสวยอะไรสารพัดอย่าง เป็นที่ลุ่มหลงของนักศึกษาสามารถที่จะผูกรัดจิตใจของนักศึกษานี้ ให้มัวเมาในนางฟ้านี้ได้ พระพุทธเจ้าสอน โดยควบคุมการกระทำของจิตไว้ในขณะที่ตาได้มองเห็นรูป หูได้ฟังเสียง จมูกได้ดมกลิ่น ลิ้นได้ลิ้มรสเหล่านั้นเป็นต้น ให้เป็นไปในทางของสติปัญญา อย่าให้เผลอเอียงไปในทางของกิเลสตัณหาอุปาทาน อย่างนี้ไม่กี่ชั่วโมงหรือไม่กี่วัน ไม่กี่เดือน ก็จะเขาถึงตัวธรรมะหรือตัวพุทธศาสนาที่พระพุทธเจ้าท่านมีให้
Create Date : 22 พฤศจิกายน 2550 |
Last Update : 22 พฤศจิกายน 2550 13:11:36 น. |
|
0 comments
|
Counter : 279 Pageviews. |
|
|
|
| |
|
|
Location :
นนทบุรี Thailand
[Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
ร่างกายนี้ ไม่มีฉัน จิตดวงนี้ ก็ไม่มีฉัน ความรู้สึกนี้ ก็ไม่มีฉัน ความจำนี้ ก็ไม่มีฉัน ความคิดนี้ ก็ไม่มีฉัน ฉัน นั้นก็ไม่มี นักศึกษาปฏิบัติธรรมมือใหม่ กิเลสหนา สมาธิ สติช้า ปัญญาด้อย
|
|
|
|
|
|
|
|
|