Cottony @ Japan : SprinG TiMEs 06 Apr 2009

วันนี้จะเริ่มเดินทางเที่ยวคนเดียวแล้ว โดยวางแผนว่าจะไปเที่ยวที่ Kamakura คุณพ่อและคุณแม่ของเพื่อนเป็นห่วงมากเพราะฝ้ายพูดภาษาญี่ปุ่นได้แบบเด็กอนุบาลกลัวจะไปหลงทาง ทำไงได้ฝ้ายเพิ่งเรียนจบไปเล่มเดียวเอง คุณแม่เพื่อนเลยให้ยืมมือถือพร้อมบันทึกเบอร์โทรศัพท์ เบอร์ที่หนึ่งเป็นของคุณพ่อ เบอร์ที่สองเป็นเบอร์ที่บ้านไว้โทรเวลาถึงสถานีรถไฟเพื่อบอกให้คุณแม่มารับ เบอร์ที่สามเป็นเบอร์ของน้องสาวเผื่อฝ้ายหลงทางจะได้มารับได้เพราะน้องสาวอยู่ Yokohama แต่ทั้งสามคนพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ ถ้าฝ้ายหลงทางคงเลือกที่จะโทรหาเพื่อนมากกว่า แต่ครอบครัวของเพื่อนฝ้ายคงคิดว่าคุณเพื่อนเนี่ยโทรไปหาก็ไร้ประโยชน์ โทรศัพท์ที่ได้มาก็เป็นภาษาญี่ปุ่นกดเลขแล้วโทรออกได้อย่างเดียว มีไว้ให้อุ่นใจ

เริ่มต้นการเดินทางโดยนั่งรถไฟจากสถานีใกล้บ้าน (Ajiki) ไปต่อรถไฟที่ Narita แต่รถไฟที่ฝ้ายปรินท์ตารางไปมันไม่มี เลยไปอ่านตารางรถไฟใหม่ที่ชานชลาแล้วเดินกลับไปขึ้นขบวนเดิมที่นั่งมา โชคดีที่ไม่ผิด

ฝ้ายเลือกลงที่สถานี Kita-Kamakura เพื่อเที่ยววัด Kenchoji และ Engakuji ก่อน แต่เดินหาวัด Kenchoji ไม่เจอค่ะ ไปเจอวัด Meigetsuin แทน ซึ่งเป็นวัดที่มีชื่อเสียงในการชมดอก Ajisai (hydrangea) แต่ดอก Ajisai จะบานในเดือนมิถุนายน อดดูเลย ที่เห็นในรูปเป็น Main Hall สามารถเข้าไปนั่งชมสวนด้านหลังได้แต่ต้องจ่ายเงินเพิ่มฝ้ายเลยไม่ได้เข้าไป




สำหรับฝ้ายวัดนี้เป็นวัดเล็กๆ แต่มีสวนสวยและดอกไม้น่ารักมากมายให้ชมค่ะ




เดินย้อนกลับมาแวะเที่ยววัด Engakuji ที่อยู่ใกล้กับสถานี Kita-Kamakura วัดนี้เป็นวัดเซนที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับสองใน Kamakura สมบัติชิ้นสำคัญที่ถูกค้นพบในวัดแห่งนี้คือระฆังใบใหญ่ แต่ฝ้ายจำไม่ได้ว่าเห็นระฆังรึเปล่าเพราะหารูปไม่เจอ วัดนี้ใหญ่มากๆเดินเหนื่อยเลย






>


หลังจากนั้นก็ต่อรถไฟไป Kamakura เที่ยวศาลเจ้า Tsurugaoka Hachimango ซึ่งเป็นศาลเจ้าที่สำคัญที่สุดใน Kamakura ค่ะ ตอนไปถึงเจอคู่บ่าวสาวมาทำพิธีแต่งงานด้วย




ศาลเจ้านี้มีจุดชมซากุระที่สวยงาม แต่คนเยอะและอากาศร้อนมากประกอบกับยังมีที่อื่นต้องไปอีกเลยต้องบอกลา




ทางเดินจากศาลเจ้ากลับไปสถานีรถไฟก็มีซุ้มดอกซากุระให้เดินชมไปตลอด ระหว่างเดินได้พบกับครอบครัวคนไทยที่พาเด็กๆมาเที่ยวในช่วงปิดเทอมด้วย ฝ้ายอาสาถ่ายรูปให้พี่เค้า พี่เค้าก็ช่วยถ่ายรูปให้ฝ้ายและชวนไปเที่ยว Great Buddha of Kamakura (Daibutsu) ด้วยกัน ฝ้ายตกปากรับคำแบบไม่ต้องคิดเพราะกำลังมึนกับเส้นทางอยู่เลย




สรุปว่าเราไป Great Buddha of Kamakura โดยขึ้นรถเมล์ที่หน้าสถานีรถไฟ Kamakura แต่จำสายไม่ได้แล้วค่ะ ไปสอบถามได้ที่ Information Center หน้าสถานี

Kamakura Daibutsu เป็นรูปปั้น Amida Buddha ที่ตั้งอยู่ในวัด Kotokuin มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองในญี่ปุ่นรองจาก Daibutsu ที่อยู่ในวัด Todaiji ที่ Nara ฝ้ายได้เข้าไปชมข้างในรูปปั้นด้วย ถ้าจำไม่ผิดเสียค่าเข้า 20 เยน




หลังจากนั้นเราเดินย้อนกลับไปเพื่อแวะวัด Hase วัดนี้มีรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม 11 เศียร และเป็นจุดชมวิวเมือง Kamakura ด้วย เราเที่ยววัดนี้กันแบบเร่งด่วนเพราะเย็นแล้ว แถมแบตของกล้องก็ดันหมดอีกเลยมีรูปมาฝากน้อยมากทั้งที่ในวัดนี้สวนสวยที่เดียว




รูปที่เห็นฝ้ายล้างมือเป็นรูปจากวัด Kotokuin นะค่ะ พี่เค้าถ่ายรูปฝ้ายกับเด็กๆ เด็กสองคนนี้น่ารักมาก มาเที่ยวก็ไม่ดื้อไม่ซนเชื่อฟังคุณพ่อคุณแม่ตลอด แถมเฟรนลี่ด้วย น่าเสียดายที่ต้องบอกลาทุกคนในรถไฟ พี่เค้าจะกลับไปฮาโกเน่ ส่วนฝ้ายกลับไปชิบะ ฝ้ายต้องขอบคุณพี่ทั้งสองคนมากๆ ที่ทำให้การเที่ยวคนเดียวในวันแรกของฝ้ายไม่เหงาอย่างที่คิด

ตอนต่อไปจะพาไปชมซากุระที่สวน Ueno และที่ริมแม่น้ำ Sumida ค่ะ





 

Create Date : 15 มิถุนายน 2552    
Last Update : 6 มีนาคม 2553 16:10:55 น.
Counter : 1083 Pageviews.  

Cottony @ Japan : SprinG TiMEs 03-05 Apr 2009

กลับไปญี่ปุ่นอีกครั้งเพื่อเติมเต็มความฝันที่อยากจะเห็นดอกซากุระบาน หลังจากที่ปีที่แล้วเห็นแต่ดอกตูมๆ ทริปนี้เป็นทริปแรกที่ไปเที่ยวคนเดียว วางแผนการเดินทางเองหมดทุกอย่าง ยกเว้นวันที่อยู่กับครอบครัวเพื่อน ตอนแรกอยากจะลงใต้ไปคิวชูแต่ซากุระบานแล้วเลยเปลี่ยนแผนก่อนการเดินทางสองอาทิตย์ขึ้นเหนือไปเซนไดแทน

เดินทางไปกับ United Airline เพราะได้ตั๋วถูกมา อาหารโอเคดีกว่า North West การบริการคิดว่าพอๆกัน แต่ว่าไม่ประทับใจกับการพูดจาที่เป็นแพทเทิร์นของแอร์และพนักงานที่เช็คอิน ไฟล์ขาไปมีคุณแม่คนไทยที่มีลูกเล็กๆ เดินเข้าไปขออาหารให้ลูกจากแอร์ เนื่องจากว่า UA จะแจกอาหารตามแถวหน้าไล่ไปแถวหลังไม่เหมือนการบินไทยที่จะแจกให้เด็กก่อน คุณแอร์เธอก็บอกว่าไม่ได้ เราไม่ทำอย่างนั้น แต่คุณแม่ก็ยังไม่ยอมกลับไปที่นั่ง คุณแอร์เลยบอกว่า We actually don't do this...but today is special. แล้วก็เอาอาหารให้ ฟังแล้วก็รู้สึกไม่ดี แล้วก็ไม่คิดว่าไฟล์ขากลับจะโดนพนักงานที่เช็คอินพูดกับตัวเองแบบนี้เหมือนกัน ขอพักเรื่องนี้ไว้ก่อนค่อยเล่าขากลับนะ เครื่องบินสั่นตลอดการเดินทางค่อนข้างกลัวเหมือนกัน แต่ก็ถึงอย่างปลอดภัยและก่อนเวลาหนึ่งชั่วโมง คุณเพื่อนมารับแต่ออกมาหาคุณเพื่อนไม่เจอ เหรียญก็ไม่มีโทรศัพท์ไม่ได้ เลยยืนรอตรงทางออกแล้วก็มองหาเพื่อน ยืนไปยี่สิบนาทีถึงเห็นคุณเพื่อนเดินตามหาอยู่

ถึงบ้านเพื่อนที่ชิบะ ทักทายทุกคนในบ้าน ทานอาหารเย็น รอคุณพ่อของเพื่อนกลับมา แล้วทุกคนก็ช่วยกันคิดว่าคืนนี้จะพาไปไหนดี สุดท้ายคุณพ่อตัดสินใจพาไปชมซากุระตอนกลางคืน ขับรถจากบ้านไปประมาณครึ่งชั่วโมง ซากุระยังบานไม่เต็มที่แต่บรรยากาศดี ไปกินสตอเบอรีเคลือบน้ำตาลกับเครปแล้วก็ยิงปืนเล่น เป็นวันเดียวที่ได้ไปเที่ยวกับคุณเพื่อน




วันรุ่งขึ้นคุณพ่อพาไปชมดอกซากุระและ Nano Hana ที่ไซตามะ ดอกซากุระยังบานไม่เต็มที่แต่ก็สวยมากเพราะวิวของ Nano Hana ที่บานเหลืองสะพรั่งตัดกับดอกซากุระสีขาวชมพู




ดอกซากุระสวยไหมค่ะ พอดีเป็นวันเสาร์คนเยอะทีเดียว ส่วนใหญ่จะมาปิคนิคกัน บางคนก็พาน้องหมามาเดินเล่น แอบอิจฉาน้องหมาเล็กๆที่ได้ชมซากุระทุกปี




Nano Hana ที่เห็นเนี่ยตอนที่มันเป็นต้นเขียวๆ สามารถนำมาทำอาหารได้ ที่ฝ้ายได้ลองทานคือเท็มปุระ อร่อยดีคล้ายๆกับบล็อคเคอลี่ต้นเล็ก แต่ถ้าปล่อยให้มันออกดอกก็จะสวยงามอย่างที่เห็น ยิ่งถ้าบานที่ริมแม่น้ำด้วยนะสวยกว่านี้อีกแต่ไม่มีรูปมาโชว์ ส่วนใหญ่จะชมผ่านทางหน้าต่างรถ

วันอาทิตย์คุณพ่อก็พาไปดู Naruko Dance ซึ่งเป็นการเต้นเข้าจังหวะกับเสียงเคาะไม้ที่สนุกสนาน




นอกจากนนี้ก็มีการเต้นแบบอื่นให้ชมด้วย คิดว่านักเต้นเหล่านี้มาจากโรงเรียนสอนเต้นมีทั้งรุ่นเล็กรุ่นใหญ่




ดอกซากุระที่นี้บานน้อยกว่าที่ไซตามะและดอกก็เล็กกว่า




ระหว่างกลับบ้านก็แวะดูทะเลที่ชิบะด้วย เป็นทะเลที่คุณพ่อกับคุณแม่ของเพื่อนเคยมาเดทกัน เป็นเดทแรกซะด้วย




ปิดท้ายทริปของวันที่สามด้วยการชมซากุระที่ศาลเจ้านาริตะ คุณแม่บอกว่าที่นี้จะสวยมากในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ใบไม้จะเปลี่ยนสี ต้องกลับไปดูให้ได้




ทริปนี้ฝ้ายใช้เวลาท่องเที่ยวสองอาทิตย์เพิ่งผ่านไปสามวันเองไว้ติดตามตอนต่อไปนะค่ะ





 

Create Date : 13 มิถุนายน 2552    
Last Update : 6 มีนาคม 2553 16:11:22 น.
Counter : 854 Pageviews.  

Cottony @ Japan : 15-22 Mar 2008


เดินทางไปญี่ปุ่นแบบฟลุคๆ เพราะว่าไปตกปากรับคำกับ GM ว่าจะไปทำงานที่ระยองโดยมารู้ที่หลังว่าโปรเจคนี้จะได้ไปญี่ปุ่นหนึ่งอาทิตย์ พอรู้ว่าได้ไปแน่นอนแล้วก็วางแผนไปลงเครื่องบินที่นาริตะเพื่อไปเยี่ยมครอบครัวเพื่อนที่ Chiba ก่อนแล้วค่อยต่อ Shinkansen ไป Osaka เพราะออฟฟิศที่ต้องไปทำงานอยู่นอกเมือง Kobe ไป

เพื่อนมารอรับที่สนามบินนาริตะ จากสนามบินขับรถไปบ้านเพื่อนใช่เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง ช่วงบ่ายคุณพ่อเพื่อนพาไปเที่ยวที่ Chiba Prefectural Boso no Mura Museum ในพิพิธภัณฑ์มีการจำลองวิถีชีวิตแบบเก่าของชาวญี่ปุ่นและมีกิจกรรมหลายอย่างให้เลือกทำ







ตอนค่ำได้ไปทาน Okonomiyaki (พิซซ่าญี่ปุ่น)กับครอบครัวเพื่อน เป็นร้านที่ต้องทำเอง สนุกและอิ่มมากเลย รูปน้องหมาที่แถมท้ายมาเป็นหมาที่บ้านเพื่อนฝ้ายเอง เคยอุ้มเมื่อสามปีก่อนตอนยังเด็กๆ ตอนนี้ตัวใหญ่จำกันไม่ได้เห็นหน้ากันเป็นเห่า





วันรุ่งขึ้นต้องนั่งรถไฟไป Tokyo เพื่อต่อ Shinkansen ไป Osaka คุณเพื่อนไม่ไปส่งแต่คุณพ่อเพื่อนเป็นห่วงเลยนั่งรถไฟไปส่งที่สถานี Tokyo พอแยกกับคุณพ่อเพื่อนก็ไปขึ้น Shinkansen เองระหว่างทางเห็นภูเขาไฟฟูจิด้วย





เนื่องจากว่าอาทิตย์นั้นที่ญี่ปุ่นมีวันหยุดหนึ่งวัน ฝ้ายกับพี่ที่ทำงานเลยตัดสินใจไปเที่ยวปราสาท Himeji กัน ฝ้ายเคยมาแล้วเมื่อสามปีก่อนแต่ว่าไม่ได้เข้าไปข้างใน ระหว่างทางเดินไปปราสาทมีซากุระดอกตูมอยู่เต็มไปหมดเสียดายที่ไม่ได้อยู่ถึงตอนบาน





หลังจากชมปราสาทเสร็จเเล้วก็ไปสวนดอกไม้ที่ Himeji Shokubutsu-en เป็นสวนดอกไม้เล็กๆแต่สวย









วันสุดท้ายแวะเที่ยวปราสาท Osaka ก่อนกลับค่อนข้างผิดหวังเพราะในตัวปราสาทไม่ได้คงโครงร่างเดิมไว้ มีลิฟท์ด้วย ไม่สวยเหมือนที่ Himeji แต่ด้านหน้าปราสาทมีมายากลและโชว์แสดงให้ดู





เมื่อสามปีที่แล้วไปเที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรกได้โยนเหรียญอธิษฐานที่บ่อน้ำในศาลเจ้าที่นาริตะขอให้ได้กลับมาญี่ปุ่นอีก พอได้กลับไปก็ทำแบบเดิมแต่เปลี่ยนบ่อน้ำเป็นที่ Himeji แล้วมาดูกันว่าฝ้ายจะได้กลับไปอีกครั้งเมื่อไร






Publish on 18th July 2008




 

Create Date : 18 กรกฎาคม 2551    
Last Update : 18 กรกฎาคม 2551 23:01:59 น.
Counter : 1099 Pageviews.  

Cottony @ Macau : 2 Mar 2008


วันสุดท้ายมีเวลาเที่ยวแบบสบายๆ ทานอาหารเช้า Check Out แล้วฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรม นั่งรถเมล์ไปตามรอย Princess Hours ที่เกาะโคโลอาน ชมโบสถ์ เซนต์ ฟรานซิส ซาเวียร์ (St. Francis Xavier Chapel) ไห้วพระที่วัดตัมคุง และที่สำคัญไปซื้อทารต์ไข่ของร้าน Lord Stow' s Bakery มานั่งทานที่สวนสาธารณะเล็กๆที่มีรูปปั้นของคิวปิด เสียดายวันที่ไปน้ำพุไม่ได้เปิด เลยนั่งทานทารต์ไข่แบบบรรยากาศแห้งแล้ง








ขอปิดท้ายด้วย Tip & Trick สำหรับการไปเที่ยวมาเก๊าและฮ่องกงที่ฝ้ายได้มานะค่ะ


เข้าไปเว๊ปไซค์ การท่องเที่ยวมาเก๊า เขียนอีเมล์ไปขอหนังสือ มาเก๊ามรดกโลก และ Eat in Macau ซึ่งแจกฟรี

หาข้อมูลไปเที่ยวง่ายๆได้จาก โต๊ะ Blue Planet หรือ Bloggang

เนื่องจากมาเก๊ากับฮ่องกงเป็นประเทศที่ต้องใช้เท้าเดินเยอะ เพราะฉะนั้นนำรองเท้าที่ใส่สบายแต่ไม่แพงไป เตรียมใจรองเท้าอาจจะพลีชีพให้กับถนนที่นั้นได้







Publish on 20th April 2008
















 

Create Date : 20 เมษายน 2551    
Last Update : 17 มิถุนายน 2552 8:44:02 น.
Counter : 568 Pageviews.  

Cottony @ Macau : 1 Mar 2008


เช้าวันที่สามฝ้ายกับพ่อเริ่มต้นการท่องเที่ยวของเราด้วยการเดินจากโรงแรมไปถ่ายรูปองค์รูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม ซึ่งโปรตุเกสสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ให้กับมาเก๊าในโอกาสที่ส่งมอบมาเก๊าคืนให้กับจีน จากนั้นเดินต่อไปอีกไม่ไกลก็ถึง Lotus Square ชมดอกบัวทองคำซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งการส่งมาเก๊ากลับคืนสู่ประเทศจีน แล้วแวะถ่ายรูปสวยๆที่ Fisherman's Wharf






เนื่องจากในวันแรกเรายังเที่ยวตามแผนที่มรดกโลกของมาเก๊าไม่ครบ เลยนำมาเที่ยวต่อในวันนี้ จาก Fisherman's Wharf เราเดินไปนั่งรถเมล์แถวห้างนิวเยาฮัน เพื่อไปจัตุรัส คามอส (Camoes Square), สวนคาซา (Casa Garden) และสุสานโปรเตสแตนต์ ทั้งสามที่นี้อยู่ติดกัน ฝั่งตรงข้ามของจัตุรัส คามอสเป็น โบสถ์ เซนต์ แอนโทนี (St. Anthony's Church)







เมื่อเดินตามแผนที่และป้ายบอกทางจะมาเจอกับส่วนของกำแพงเมืองโบราณ (Section of the Old City Walls) และวัดนาชา (Na Tcha Temple) ซึ่งจะอยู่ติดกับซากประตูโบสถ์ เซนต์ ปอล หลังจากนั้นเราเดินต่อไปป้อมปราการ เมาท์ ฟอร์เทรส (Mount Fortress) ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากซากประตูโบสถ์ เซนต์ ปอล ปัจจุบันป้อมปราการได้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์มาเก๊า ที่นี่เราจะสามารถชมวิวของเมืองมาเก๊าได้ค่ะ

ตอนบ่ายไปตามรอย Princess Hours ที่พิพิธภัณฑ์หมู่บ้านไทปา (Taipa Houses Museum)






เราจะปิดทริปวันนี้ด้วยการไปดูความอลังการของโรงแรม Venetian ไม่มีคำบรรยายดูจากรูปเอาเอง เสาร์อาทิตย์คนจะไปเล่นคาสิโนเยอะมากแต่ว่ามีรถมารับอยู่เรื่อยๆ ฝ้ายขึ้นรถที่ท่าเรือเฟอร์รี่รอไม่นานค่ะ แต่ฝ้ายไปถ่ายรูปอย่างเดียวไม่ได้เข้าคาสิโน






อย่าลืมติดตามทริปวันที่สี่ในบล็อกถัดไปค่ะ






Publish on 20th April 2008







 

Create Date : 20 เมษายน 2551    
Last Update : 17 มิถุนายน 2552 8:44:27 น.
Counter : 689 Pageviews.  

1  2  3  4  

Cottony
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Cottony's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.