Tough Time Never Last ...But Tough People Do
Group Blog
 
All Blogs
 
1>การสืบสันดาน 1

ก่อนอื่นต้องออกตัว หรือทำความเข้าใจกับสิ่งที่กำลังจะเล่าให้ฟังต่อไปนี้ว่า นำไปใช้ได้เพียงแนวคิด ( เอ๊ะ คุ้น ๆ ไหมน่ะคำนี้ อิอิ ) เพราะการบ่มเพาะมนุษย์นี้ ต้องเกี่ยวข้องกับการสืบสันดานเดิม ( ไม่หยาบนะ ไม่หยาบ ) สิ่งแวดล้อม ทั้งผู้คน จังหวะโอกาส สิ่งสุดท้ายคือ กรรมเดิม ที่มีติดตัวกันมา


พื้นฐานเดิมนั้น เป็นครอบครัวคนจีน พ่อแม่เป็นครู ฐานปานกลาง อยู่โรงงิ้วและโรงหนัง ( คือฉายหนังสลับกับเล่นงิ้ว ) ปลายถนนเยาวราช แถววังบูรพา ใกล้โรงหนังคิงส์ โรงหนังควีนส์ และโรงหนังแกรนด์ มีพี่น้อง 7 คนเป็นคนกลาง ( wednesday child นะคะ เห็นไหมเป็นเด็กมีปัญหาแต่เกิดเลย ) คือคนที่ 4 ซึ่งก็เป็นคนผิดแปลก พี่ ๆ น้อง ๆ คือแฮ้วว แต่เล็ก แม่กับพ่อ ก็เอือมระอามาก บ่นอยู่เรื่อย ๆ ว่าไม่รู้เอานิสัยนี้มาจากไหน ญาติพี่น้องก็พูดเข้าหูบ่อย ๆ ว่า สงสัยเก็บมาจากถังขยะ ( สมัยก่อนใช้คำนี้กันมากกับเด็ก ๆ ที่ชอบถามว่า เขาเกิดมาได้อย่างงัย แต่กรณีนี้ ก็ประมาณว่า เขาไม่เลี้ยง ก็เลยมาทิ้งไว้ที่กองขยะ )


เคยถามอาปา (พ่อ) ว่า แล้วจะเอาไปคืนที่กองขยะอย่างเก่าไหม อาปาบอกว่า

“เราตัวใหญ่เกินถังแล้วนี่เรา แต่อย่าซนอีกนะ อาปา จะหาถังขยะใบใหญ่พอใส่ตัวหนูได้ ก็จะเอาไปทิ้งจริง ๆ คราวนี้ ทิ้งไกล ๆ เลย ไม่เอาแล้ว ซนนักเราน่ะ”

วันหนึ่ง รถขยะมาจอดหน้าบ้าน ดญ ช่า หันไปมองอาปา พลางคิดว่า อันนี้ถือว่าเป็นถังขยะอันใหญ่ได้หรือเปล่าหนอ อาปาก็สบตาด้วยทันที แต่ไม่ทันจะพูดอะไร ดญ ก็วิ่งหนีสุดชีวิต จนพ้นสายตาคนเป็นพ่อ ได้ยินเพียงเสียงหัวเราะตามหลังมา..


ได้บทนี้ ดญ ช่า ก็เลิกซนไปพักใหญ่ แต่ด้วยความที่เป็นคนอยู่นิ่งได้ไม่เกิน 2 นาที เห็นเด็กแจกใบปลิวหน้าโรงหนัง ( อย่างที่กล่าวข้างต้น แถวบ้านโรงหนัง โรงงิ้ว เยอะ ) ซึ่งสมัยนั้น เวลาโฆษณา
หนังเรื่องใหม่ ก็จะแจกใบปลิว ซึ่งจะพิมพ์ใส่กระดาษสีหลากหลายประมาณใหญ่กว่า A4 นิดนึง แล้วเดินเร็ว ๆ แจกคนเดินผ่าน หรือไม่ก็โยนเข้าร้านค้า ที่อยู่ริมถนนทั่ว ๆ ไป


ดูแล้วน่าสนุกแฮ่ะ แต่ทำไมคนที่วิ่งแจกใบปลิว ไม่ใส่รองเท้าล่ะ ง่ามนิ้วเท้าดำเพราะเยียบน้ำท่อ และ เล็บยาว สกปรก น่าสงสาร ทันใดนั้น เท้าก็ก้าวยาวไปหา พูดไปโดยลืมว่าแม่ไม่ให้พูดกับคนแปลกหน้าโดยเฉพาะกับคน...

“ เราช่วยแจกด้วยนะ ขอเยอะ ๆ แล้วต้องเดินไปตรงไหนบ้าง”
“ ก็วิ่งและโยนไปเรื่อย ๆ แหละ จะได้หมดเร็ว ๆ”

พูดสะบัด ๆ ไม่มองหน้า โยนใส่มือให้ปึกนึง แล้วก็วิ่งแจกต่อไป...


ดญ ช่า ไม่ประสบความสำเร็จในคราวแรก เพราะหน้าตาอาจจะจิ้มลิ้มเกิน ผู้แกะสองข้าง ใส่เสื้อผ้าเรียบร้อย เวลาแจกก็ยิ้มไปเรื่อย ๆ ( เหมือนนางงาม จริง ๆ แล้วประมาณว่ากลัวชาวบ้านว่าเอา ) คนเขาไม่รับใบปลิวเราเลย เวลาเข้าตามร้านค้า ก็เอาไปวางไว้บนโต๊ะอย่างดี แต่เขาก็ไล่

“ไป ๆ ไอ้หนู ไม่เอา ไม่เอา อย่าเอากระดาษมาทิ้งแถวนี้ เลอะเทอะ”


อืมมม.. เกิดความคิดปิ๊ง และแล้วก็หันหลังกลับเข้าบ้านไปแปลงร่าง เปลี่ยนเสื้อตัวโทรมที่สุดที่มีอยู่ รองเท้าถอดสะบัดทิ้ง เดินไปย่ำท่อน้ำ เหม็น ๆ หลังบ้าน พอให้ง่ามนิ้วมีรอยขี้ท่อสกปรก ฉวยปึกใบปลิว วิ่งออกหน้าบ้านไป ได้ยินเสียงอามาเรียกจากไกลๆ


“ จะไปไหนอีกแล้ว ทำไมไม่ใส่รองเท้า กลับมานี่ ... ดูซิ เฮอออ”


ไปแล้ว ดญ ช่า ไปโน้นแล้ว วิ่ง ไปเอาใบปลิวยัดใส่มือ คนเดินผ่าน โยนใส่ร้านค้า ไม่ต้องสนว่า จะหล่นอยู่แถวไหน ไม่ต้องเก็บให้เขา วิ่งไป....โยนไป อุ้ย สนุก


และแล้วก็เดินไปชน ผู้หญิงคนหนึ่งเข้า

“ อ้าว ช่านี่ ทำไรเนี่ยะแถวนี้ โอ้ยย มานี่ มานี่ แล้ว วิ่งออกนอกถนน แบบนี้เด๋วก็รถชนตาย ha’ หรอก ”


อาอี๊ ที่อยู่ข้างบ้านนั่นเอง ดญ ช่า ตัวบาง โดนหิ้วแขนลอย ย ย ย ..ไปถึงบ้าน อาอี๊เล่าให้อามาฟัง ผลลัพธ์ก็คือ หลังจากโดนไม้ขัดหม้อ เหวี่ยงไปที่น่องเล็ก ๆ 3 ที ทำให้เกิดแนวรับ เอ๊ยย ไม่ใช่ แนวรอยไม้แดง ๆ 3 รอยแล้ว อามายังเอาหินก้อนเล็ก ๆ ขีดใส่พื้นซีเมนต์หน้าบ้านเป็นเส้นวงกลม


“ ยืนคาบไม้บรรทัด ตรงนี้นะ ไม่ให้ไปไหนเกินวงนี้ ถ้าออกไปอีก ที่นี้จะฟ้องให้อาปาตีเอง”
ทุกคนที่บ้านรู้ว่า ถ้าอาปาได้ลงมือตีเองละก้อ โหยย...ขนลุก


แต่ตอนนี้ความเจ็บที่น่อง ไม่เท่าความอายที่เพื่อนบ้านเด็ก ๆ มาล้อ แย้วว ๆ แลบลิ้น ปลิ้นตาใส่ ประมาณว่าสมน้ำหน้า ๆ โดนแม่ตี โถ อามานะ อามา เข้าใจลงโทษให้ได้อายจริง ๆ ให้ยืนหน้าบ้าน นอกจากตากแดดแล้วยังโดนไอ้เพื่อนตัวเล็กข้างบ้านมาเย้ยย ถากถางซะอีก เจ็บใจจริง ๆ


รู้สึกพาเข้ารกเข้าพง งัยไม่รู้จากตอนแรก บังเอิญว่าอยากเล่าอ่ะ
แล้วก็ทำให้คิดว่า ด้วยความเป็นเด็กเว่อร์ ๆ กระมัง ก็เลยทำให้
เป็นแม่คนเว่อร์ ๆ ในเวลาต่อมา

หัวข้อสืบสันดาน คงมีอีก ตอนหนึ่ง แล้วก็ขึ้นหัวใหม่แล้ว
เพราะขืนเอาชีวิตวัยเยาว์มาเล่าจริง ๆ ก็เกรงว่าจะทำให้หัวข้อใหญ่
บิดเบี้ยวไป ตอนนี้ เป็นอะไรที่ไม่เคยลืมเลย อยู่ช่วงเด็กเหมือนกัน
นึกขึ้นมาทีไร ก็อดขำตัวเองไม่ได้เวลาถูกลูกทำอะไรที่คล้าย ๆ กัน
จะคิดในใจว่า ไม่ต้องไปว่าใครเร้ยยย ลูกแม่ นิสัยนี้เป็นของแม่แท้ ๆ
ก็ไม่น่าเชื่อว่า บางสิ่งบางอย่างสามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้
น่าอัศจรรย์จริง ๆ มีเรื่องประมาณนี้เยอะมากค่ะ แล้วจะค่อย ๆ เล่านะคะ...

ด้วยความที่บ้านอยู่ใกล้โรงหนังเยอะ แล้วภาพยนตร์ในตอนนั้นก็จะฮิตหนังฝรั่ง
เวลาจะดูหนัง ก็ขอคนตรวจตั๋วเข้าไป ก็ราคาตั๋วมันตั้ง 3, 7, บาท
ส่วนถ้าเป็นชั้นบนที่มียื่น ๆ ออกมา ( เขาเรียกบันบ๊อก มาจากคำเดิมว่ารัยก็ไม่รู้นะ อย่าถามแล้วกัน )
ก็จะราคา 9 บาท ไปโรงเรียนทีนึง
อาปาให้มา 3 สลึง แล้วจะมีปัญญาที่ไหนมาดูหนัง
วิธีตีซี้กับคนเดินตั๋ว จึง
เป็นกลยุทธที่ ดญ ช่า เอามาใช้บ่อย ๆ

ชื่อหนังจำไม่ได้ แต่มีฉากหนึ่งของหนังที่นางเอกคือ คุณมาราลีน มอนโร ซึ่งมีภาพที่เห็นเจนตา
ก็คือ ผู้หญิงฝรั่ง ผมขาวหยิกเป็นลอนสวย มีไฝที่ริมฝึปากบนซ้าย มือสองข้างปิดด้านหน้าของกระโปรงขาว
ขณะที่กระโปรงด้านหลังถูกลมทะลึ่งพัดเปิดให้คนลุ้นระทึก นึกภาพไปถึงไหนต่อไหน

แต่คราวนี้ฉากที่เล่นคือคุณเธอแช่ตัวในอ่างอาบน้ำสีขาว แล้วมีฟองสบู่เต็มอ่างเลย นึกออกไหม
คือไอ้ฟอง ๆ มันปิด ส่วนโป๊ ๆ เอาไว้ เวลาอาบเธอ ก็ยื่นขาข้างหนึ่งออกมาจากฟองในอ่างน้ำ
แล้วค่อย ๆ ยื่นมืออันเรียวสวย ลูบไล้ ๆ ขายาว ๆ ไปมา เสร็จจากขา ก็เป็นแขน
ช้อนฟองสบู่ขึ้นมาเป่า เห็นลูกโป่งเล็ก ๆ ลอยฟู่ออกไป แล้วก็ลูบไปตามขาและแขนทั้งสองข้าง
สลับกันไปช้า ๆ แล้วก็ร้องเพลงไปเบา ๆ สักพักพระเอก ก็เข้ามาเจอ
( ทำไมไม่ปิดประตูก็ไม่รู้เนอะ เอะ หรือว่าตั้งใจ ) นางเอกตกใจ ฉากต่อไปจำไม่ได้ล่ะ

ที่ชอบมากเลย ก็คือ อ่างอาบน้ำ ดญ ช่า ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย จำได้ตั้งแต่เกิด ก็มีแค่ขัน
กับโอ่ง ตักราด ตักราด ซู่ ๆ เอาสบู่มากลิ้ง ๆ ในมือ แล้วก็ถู ๆ ให้ลื่น ๆ ทั้งตัว
ตักน้ำจากโอ่งราดใส่ตัว หรือไม่ก็ใช้ สายยาง แขวน กับตะปูขอเกียวไว้สูง ๆ
ให้น้ำเป็นสายลงใส่หัว แค่นี้ ก็หนุกหนานมากแล้ว


อยากทำแบบนางเอกในหนังบ้างจังเลยยย ... เอางัยดี

ที่บ้านจะมีโอ่งหลายใบ แต่ละใบ ก็จะมีหน้าที่ต่างกันไป โอ่งดินอยู่ในห้องน้ำ
โอ่งกระเบื้องน้ำไว้กิน และโอ่งมังกรใบโตก็เก็บน้ำไว้ใช้ ( ซักผ้า ถูบ้าน ) ก็ว่ากันไป
ทีนี้ไอ้ใบสวยสุด ก็คือ โอ่งที่เป็นกระเบื้องสีนวล มีลายเล็ก ๆ จำไม่ได้แน่ว่า ลายอะไร
แต่อาปาเคยบอกว่า เอามาจากเมืองจีน ใบนี้เก็บน้ำสำหรับกิน เพราะเคยเห็นอามารองน้ำ
แล้วเอาสารส้มแกว่ง มีฝาไม้ปิด

ฮั่นแน่ ใบนี้แหละ ท่าจะเหมาะ ดูเหมือนอ่างน้ำในหนังมากที่สุด
เพียงแต่เป็นแนวตั้งเหมือนโอ่งทั่ว ๆ ไป ไม่ได้เป็นแนวนอน ไม่เป็นไร ๆ แล้วก็หยิบสบู่สีเขียวก้อนโต
ก็เอามาแกว่ง ๆ ๆ พักใหญ่ ก็เอ๊ะ ..ไม่เห็นเป็นฟองเลย ซ้ำน้ำในอ่าง ก็ไม่ใสแล้ว
เป็นฝ้า ๆ ขาว ๆ เหลือบไปเห็น กล่องแฟ๊บสีฟ้า ตรายี่ห้อสีแดง ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงสะสมชิ้นส่วนด้วย
หนึ่งกล่องมีหนึ่งใบ ใครมีทั้งหมดครบ 4ใบ4 สี ขาว เหลือง ฟ้า และ เขียว จะมีรางวัลเป็น
รถกะบะ หรือยังงัยนี่แหละ ที่บ้านซื้อมาเยอะ เอามาเทใส่กล่องใบใหญ่ เพื่อลุ้นดูว่า
แต่ละกล่องที่ได้มา มีสีที่ขาดไปไหม ฮือฮามาก ช่วงนั้น


ถึงไหนแล้ว มัวแต่แวะเล่าเรื่องอื่น .... อ้อ ถึงตอนว่าทำไม น้ำในโอ่งสวยไม่มีฟอง
ที่นี่พอเห็นผงซักฟอกแฟ๊บ นี่แหละ คือคำตอบสุดท้ายเลย เอามาเลย โฆษณาว่า
ฟองมาก ขาวสะอาด ดี ดีเอามาโรยใส่โอ่งกระเบื้อง โรย แล้วก็เอามือ ตี ๆ สุดแรงมือ
โห ฟองเยอะ เลย เหมือนกันแล้วคราวนี้เหมือนในหนังแล้ว ฮ่า ฮา ดีใจ ๆ ฟองขาว เป่าฟู่ ๆ ได้อีก

เอาฟองมาวางบนมือ บนแขน ลูบไล้ไปมา ๆ
เออ ขาดอะไรหว่า ...
ใช่ ๆ ต้องร้องเพลง ไปด้วย เอ้า ร้องเพลง ร้อง ๆ จำไม่ได้ว่าร้องอะไรไป แต่ต้องช้า ๆ
แต่ แหม มันไม่สะใจเลย แล้วไม่ได้ลูบขา ที่ต้องยื่น ๆ ออกมาจากอ่างน้ำเหมือนในหนัง

มองซ้าย มองขวา แล้ว ก็ขวับมามองซ้ายอีกที....
เอาเก้าอี้ไม้สี่เหลี่ยม มาเทียบข้างโอ่ง ก้าวเท้าเยียบบนเก้าอี้
ส่งตัวเอง เข้าไปในโอ่งกระเบื้องใบสวยนั้น
ขาขวาก้าวลง ปลายเท้าสัมผัสพื้นโอ่งได้นิดหน่อย เพราะยังตัวเล็ก
แต่ก็เก็บขาอีกข้างเข้ามาในโอ่งสวยได้สำเร็จ

ตอนได้สัมผัสฟองแฟ๊บ โอ้ยยย สนุกจริง ๆ
เอาล่ะ น้องช่า ก็ได้เป็น มารารีน สมใจอยาก

เล่นได้สักพัก ก็รู้สึกหนาวและเนื้อหนังเริ่มเหี่ยว เท่านั้นไม่พอ มันรู้สึกคัน ๆ
ทั้งนอกร่มผ้า และในร่มผ้า มันไม่สนุกแล้ว คันยิบ ๆ เลย

โอ้ยย.... คัน ๆ ๆ ๆ เกา ๆ ๆ
“อามา อามา ฮื่อออ แง แง ” ตะโกนลั่น สุดเสียง
จะออกมาจากโอ่ง ก็ทำไม่เป็น เพราะขอบโอ่งสูงประมาณ
หน้าอก พอดี ตอนลง ทำได้ ตอนขึ้นไม่มีแรง แถม ลื่น มาก ๆ
ด้วย ( ก็แหม ใส่ประเคนแฟ๊บลงไป ขนาดนั้น ) ตัดสินใจ
แหกปากร้องไห้ ร้องให้ช่วย พร้อมน้ำตาเต็มหน้า มือไปขยี้ตาเข้า

เอ้า !!!! แสบตา โอ้ยยย อามา มา มา นี่เร็ว แฟ๊บเข้าตาอีก

“ ลื้อเข้าไปทำอะไรในน้านนนน หา !!!! ”

อามาวิ่งมาอย่างเร็ว หลังจากเห็นภาพที่เกิดขึ้น พอถึงโอ่ง ก็ตกใจพลางดึงตัว ดญ ออกมาจากโอ่ง
แล้ว ดญ ก็โดนมืออามาฟาดตามตัวซึ่งเปียก เจ็บก็เจ็บ คันก็คันมาก
ร้องไห้ มือขยี้ตา ก็แสบมาก ก ก ก ถึงมากที่สุด

ที่บ้านต้องเปลี่ยนโอ่งน้ำกินใบใหม่ มันไม่สวยเท่าใบเก่าซึ่งใช้ไม่ได้แล้ว เพราะมีแฟ๊บที่ล้างเท่าไร
ก็ไม่ออก จะใส่น้ำกิน อามาคิดว่าคงอันตราย ก็เลยย้ายไปเป็นโอ่งน้ำใช้

งานนี้ ดญ ต้องไปหาหมอ เพราะว่า ถูกแฟ๊บกัด ทั้งตัว ซ้ำเข้าตา ขยี้จนตาแดง
มีทั้งยากิน ยาทาป่วยไม่ได้ไปโรงเรียนหลายวัน หลังจากเรื่องนี้ พอได้เห็นมาลารีน
ไม่ว่าหนังหรือ โปสเตอร์ ก็จะนึกถึงวีรกรรมของตัวเองทุกครั้งไม่น่าเลย ตรู


เรื่องประมาณนี้มีเยอะ จำได้บ้าง ไม่ได้บ้าง รู้แต่ คนที่บ้านเอือมระอา กับอิฉันมากเลย
พี่น้องคนอื่น ๆ จะเรียบร้อย พูดน้อย เรียนเก่ง ส่วนตัวอิฉันนี่ ตรงข้ามกับเขาทุกอย่าง
พูดได้ทั้งวัน ไม่ยอมเรียนหนังสือ ทำอะไรก็แผลง ๆ จนเดือดร้อนกันบ่อย ๆ

ส่วนสามี ก็สมมติว่า ชื่อ พี่ช้าง แล้วกันนะคะ ( ช่า กับ ช้าง อิอิ )
คุณช้าง เป็นคนผู้ชายที่เรียบร้อยที่บ้านทำธุรกิจครอบครัวประเภทขนส่ง ( พวกที่ต้องรอ 10 โมงอ่ะนะ )
เป็นพี่ชายคนโตของน้อง ๆ รับผิดชอบสูง และมัธยัสถ์ มาก ถึงมากที่สุด อาจเป็นเพราะ
การอบรมจากพ่อแม่ ซึ่ง แต่ลำบากมาก่อนจากเมืองจีน ส่วนเจอกันกับพี่ช้างอย่างไร
เมื่อไร ก็ไว้ค่อย ๆ เล่าไปล่ะกันนะคะ




Create Date : 26 มกราคม 2550
Last Update : 28 มกราคม 2550 19:59:11 น. 0 comments
Counter : 562 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ชราร่า
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




");}
Friends' blogs
[Add ชราร่า's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.