|
23> ผู้ดลใจ ตอนที่ 2
ตอนนั้น ลูกทั้งสามกำลังเปลี่ยนแนวคิดของตัวเอง พอพี่
ปันทำได้แล้ว แม่ช่าก็ยกตัวอย่างใกล้ ๆ ตัวให้ดูว่า เห็น
ไหม ไม่มีอะไรยากเกินความพยายามหรอกลูก
เมื่อเป็นดังนั้น น้องแฝด ก็มุมานะบ้าง แม่ช่าเห็นว่าไฟเริ่ม
ติด แล้วเร่งใส่เชื้อเข้าไป สิ่งแรก ๆ ที่ทำก็คือ พาลูกไป
นั่งฝึกสมาธิ เพราะเห็นว่าลูกไม่ได้โง่ เพียงแต่มีสมาธิกับ
สิ่งที่อยู่ข้างหน้าน้อยไปหน่อย เมื่อปิดเทอม ก็เลยส่งไปที่
ยุวพุทธของคุณแม่สิริ กรินชัย ซะ 7 วัน ทุกทีไปเข้าค่ายมี
แต่การเล่นสนุกสนาน โหวกเหวก
แต่ที่ธรรมสถานแห่งนี้ ห้ามคุยกันเด็ดขาด ฝึกให้มีสติ
และ สมาธิตลอดเวลา นั่งวิปัสสนาและหัดเดินจงกรม โดย
แม่ช่าก็หวังว่าแม้จะไม่ได้อะไรกลับมามากนักถือว่าได้ไป
ทำบุญภาวนาจิต ก็ยังดี
อีกสามวันจะครบกำหนด 7 วันที่ได้ส่งลูกไปที่ยุวพุทธ
อย่างที่เล่า ก็ได้รับใบแจ้งคะแนนสอบของน้องปัน แม่ช่า
ไม่เปิด ตั้งใจว่าจะให้ลูกเป็นคนเปิดเอง ก็รอจนวันที่ไป
รับ ก็ยื่นให้น้องปันเปิดใบคะแนนดู ตัวเลขในกระดาษทำ
ให้ลูกอึ้งไปพักหนึ่ง แล้วตะโกนว่า น้องปันได้ที่หนึ่ง !!
ดังก้องสถานที่ที่ต้องการความเงียบสงบแห่งนั้น ทุกคนใน
ที่นั้นหันมามอง หากเป็นเหตุการณ์ทั่วไปก็คงถูกตำหนิด้วย
สายตาแน่นอน แต่ด้วยคำพูดประโยคนั้น ทุกคนก็ให้อภัย
หลายคนก็กลับมองด้วยสายตาที่ยินดี พร้อมอมยิ้มที่ปาก
แม่ช่า ยื่นมือไปดึงกระดาษแผ่นประวัติศาสตร์นั้นมาดู ดึง
ลูกทั้งสามมากอดด้วยความดีใจสุด ๆ น้ำตาคลอ ตลอด
เวลาที่ขับรถกลับบ้าน ปูนและไปป์ดีใจและตื่นเต้นกับพี่ปัน
มากมาย ขณะที่พี่ปันยังอยู่ในอาการ งง ๆ ถามแล้วถามอีก
ว่า จริงเหรอ ครูพิมพ์ผิดหรือเปล่า เป็นเลข 11 มั่ง ส่งผิด
มั่ง ฯลฯ
ช่วงนั้นอยู่ระหว่างปิดเทอม ตั้งแต่รู้ผลสอบ ปันไม่ได้คุย
กับเพื่อน ๆ ในเรื่องนี้เลย ซึ่งเพื่อน ๆ ก็ไม่ได้ถาม เพราะที่
ผ่านมาหัวข้อผลสอบไม่ได้เป็นเรื่องที่น่าคุยนักสำหรับน้อง
ปัน มีหนึ่งในกลุ่มเพื่อนซึ่งเป็นเด็กเก่ง สอบได้อันดับต้น
ๆ มาตลอด เปรย กับปันในสายโทรศัพท์
ปันรู้ไหมว่า คนได้ที่หนึ่งเทอมที่แล้วเป็นใคร เราได้ที่ 2
ก้อยได้ที่ 4 ยายหล่นไปที่ 6 เนี่ยะถามมาหลายคนแล้วก็
ยังไม่มีใครรู้เลย... ปันเงียบ แล้วแอ๋วคนเก่งก็ถามต่อ
อย่างไม่ค่อยใส่ใจว่า ...
เออ แล้วเทอมนี้เป็นงัย เกรดดีขึ้นไหม ได้เท่าไร ปัน
เราได้ 3.75
3.75 อ้าว 3.75เหรอ ตัวเองนะ ได้ 3.75... ???
เราได้ 3.64..... งั้นปันก็ได้ที่หนึ่งซิ....!!!!!!
จากคุณ : ชราร่า - [ 30 ม.ค. 50 23:01:13 ]
ความคิดเห็นที่ 2
..................
.......เราได้ 3.64 งั้น... งั้น ปันก็ได้ที่หนึ่งซิ.... แอ๋วพูด
มาตามสาย หลังจากเงียบไปอึดใจใหญ่ ๆ ซึ่งนานมาก ๆ
ในความรู้สึกของน้องปัน แอ๋ววางหูไปเมื่อไร ปันจำไม่
ได้ แต่.. หลังจากนั้น เพื่อน ๆในกลุ่มซึ่งเป็นเด็กเก่งทั้ง
หมด ก็ระดมโทรเข้าบ้านเรา แต่ละสาย แต่ละคำพูด ทำ
ให้น้องปันวิ่งร้องไห้เข้ามาที่ห้องของแม่ช่าและพ่อช้าง
ฟูมฟายว่า
ไหนแม่ว่า เรียนเก่ง แล้วดี อย่างงัย.... น้องปันไม่มีเพื่อน
แล้ว ฮือออ ฮืออ....
แอ๋ว โทรมาใหม่ พูดเสียงดังเลยว่า เขาแพ้ใครได้ทุก
คน ยกเว้นปัน เพราะปันเคยเป็นที่โหล่ของชั้น เขาจะแพ้คน
ที่เป็นที่โหล่ได้อย่างงัย..
..ก้อยก็ว่า น้องปันไปเรียนพิเศษที่ไหน ทำไมไม่บอก
แอบซุ่มเงียบคนเดียว มีอะไรดี ๆ ก็ไม่แบ่งปันเพื่อน เสีย
แรงที่ติว เลขให้ แต่แอบไปมีที่เรียนเอง คราวหลังไม่ต้อง
มาพูดด้วยแล้ว พูดพลางสะอื้นไป
ยายก็ว่า น้องปันขโมยเอาหนังสือเข้าห้องสอบ ยายว่า
น้องปันต้องทุจริตแน่ ๆ เขาจะฟ้องคุณครูประจำชั้นพรุ่งนี้
เลย ฮือออ ฮืออ...
น้องปันไม่ไปโรงเรียนแล้วดีกว่า ไปแล้วไม่มีเพื่อนคุย
ไม่มีเพื่อนคบด้วย ไหนว่าเรียนเก่งแล้วมีทุกอย่างงัยแม่
ปันไม่มีอะไรแล้ว ไม่เชื่อแม่แล้ว .....
ใจแม่ช่าแทบขาดรอน ๆ โอ้หนอ เด็กน้อย ฉันไม่โทษ
เพื่อน ๆ ของปันที่จะตกใจแล้วใช้คำพูดที่ไม่ถนอมน้ำใจกัน
ขนาดนั้น ฉันเองยังไม่หายตกใจกับผลสอบที่กลับ ตลปัต
ร ขนาดนั้น นับประสาอะไรกับเด็ก ๆ พวกนี้ เสียงปันวิ่ง
กลับเข้าห้องปิดประตูปังใหญ่ เสียงร้องไห้ตามหลังไป
ปล่อยเขาก่อนให้เขาสงบจิต สงบใจมากกว่านี้ก่อน แล้ว
ค่อยมาพูดคุยกัน แต่สมองฉันตีบและตันไปหมด หา
ทางออกให้ลูกไม่ได้
จากคุณ : ชราร่า - [ 30 ม.ค. 50 23:05:33 ]
ความคิดเห็นที่ 3
หลังจากตั้งสติทั้งแม่และลูกกันพักใหญ่ ก็ไปปลอบใจ
ลูก โอบลูกมากอดไว้ พูดอย่างอ่อนโยนกับลูกที่มีน้ำตา
นองหน้า และยังสะอื้นไม่สะเด็ดน้ำดีว่า
ฟังแม่อีกหน่อยนะ น้องปัน... ฟังแม่ก่อน อย่าเพิ่งตีโพย
ตีพายแบบนี้ แม่เข้าใจลูกกับเพื่อน ๆ ของลูกนะ เพียงแต่
แม่จะบอกว่า การที่น้องปันได้ที่หนึ่ง ไม่ได้แปลว่าทำให้
แอ๋วได้เป็นที่สองนี่นา..... ห้องหนึ่ง ๆ จะมีที่หนึ่งกี่คนก็ได้
นี่ลูก ใช่ไหม แอ๋วเขาทำไม่ได้ที่หนึ่งเอง จะโทษเราไม่
ได้ น้องปันจะยินดีไหม ถ้าแอ๋วได้เป็นที่หนึ่งเหมือนลูก
เป็นที่หนึ่งสองคน... ลูกพยักหน้า
แล้วคิดว่าแอ๋วทำได้ไหม ...ลูกพยักหน้าอีก นั่นงัย แต่
คราวนี้เขาไม่ได้ตั้งใจพอ ถ้าเขาตั้งใจเหมือนที่ผ่านมา เขา
ทำได้แน่นอน...
แล้วที่ผ่านมา น้องปันคิดว่าน้องปันแข่งกับแอ๋วหรือเปล่า
หรือแข่งกับตัวเอง...
ถ้าลูกแข่งกับตัวเอง ก็ไม่ต้องสนใจใครเลย แล้วลูกคิด
ว่าครั้งนี้ลูกชนะตัวเองไหม... แล้วอยากชนะอีกไหม
ที่ผ่านมา ลูกคิดว่าเรื่องเรียนมันยากไหม เห็นไหม มัน
ไม่ยากอย่างที่เราคิดถ้าเราตั้งใจจริง ๆ ใช่ไหมลูก ลูกเริ่ม
นิ่งและคิดตามที่ฉันพูด
ถ้าแม่เป็นน้องปัน สิ่งที่แม่จะทำต่อไปคือ พิสูจน์ตัวเอง
ให้เพื่อนเห็นว่าเราไม่ได้แอบซุ่ม ใครจะให้เราติว น้องปัน
ก็ต้องทำให้เขา เราเองจะได้ทบทวนด้วย อีกอย่างหนึ่งก็
คือ น้องปันต้องพยายามสอบได้คะแนนดีขึ้นไปอีก หรือ
ไม่ต่ำกว่านี้ เพื่อให้ยายเห็นว่าเราไม่ได้แอบลอกข้อสอบ
หรือจดโน๊ตเข้าห้องสอบ น้องปันทำด้วยความสามารถของ
ตัวเองจริง ๆ
เอางี้ แม่อยากให้ลูกคิดว่า ใครไม่เชื่อเราไม่เป็นไร น้อง
ปันรู้ตัวเองว่า ตัวเองเป็นอย่างไร และที่สำคัญที่สุด แม่
คนนี้เชื่อลูกว่าลูกทำได้ และภูมิใจในตัวลูกมากที่สุด แม่
ไม่สนใจว่าใครจะว่าลูกแม่ว่าเป็นคนอย่างไร เพราะแม่เห็น
ลูกมาตลอด เราพยายามกันมามากแค่ไหน แม่รู้ น้องปัน
ก็รู้ แล้วจะทิ้งไปเฉย ๆ ได้อย่างงัยลูก ใช่ไหม...
ตอนเราเดือดร้อน เรียนหนังสือไม่เข้าใจ ใครก็ช่วยไม่
ได้ เราต้องร่วมมือกันช่วยตัวเองขึ้นมา พอเราเริ่มเก่งขึ้น
ทำไมต้องสนใจว่าคนอื่นจะเข้าใจผิดเราอย่างงัย ในเมื่อ
สิ่งที่เราทำอาจจะไม่ได้ดีกับเขา แต่เป็นสิ่งที่ดีกับตัวเราเอง
ในอนาคต...
พยายามต่อไปลูก เพื่อพิสูจน์ตัวเองกันอีกครั้งหนึ่ง
จากคุณ : ชราร่า - [ 30 ม.ค. 50 23:08:13 ]
ความคิดเห็นที่ 4
ในปีถัดไป เมื่อขึ้นชั้นมัธยมปีที่ 5 เราวางแผนเพื่อจะไป
สอบเทียบชั้น และสอบ entrance เลยโดยไม่ต้องผ่านการ
เรียน ม. 6 ในโรงเรียน !!!
อาจหาญไหม คุณว่า ....
ปันเรียนหนักขึ้น มุมานะมากอย่างเห็นได้ชัด โดยมีแม่ช่า
อยู่เคียงข้างตลอดทุกครั้ง เมื่อเว้นว่างจากงาน สิ่งบันเทิง
ในบ้าน เปิดและปิดเป็นเวลา กินข้าวนอกบ้านบ้าง ดูหนัง
ในโรงบ้าง หากมีรายการดี ๆ ทำบุญที่วัดเมื่อมีโอกาส ร่วม
ทั้งทุกข์และสุข อย่างไม่เคยทิ้งกันตลอดระยะเวลากว่า 1
ปี
และแล้วน้องปันก็ทำได้อีกครั้ง คือ สอบ entrance เข้า
คณะนิเทศศาสตร์ จุฬา ได้เพียงคนเดียวในระดับชั้น ม. 5
ทั้งหมดของโรงเรียน !!!
จากนักเรียนที่ทางโรงเรียนไม่รับเรียนต่อในชั้น ม. 4 จน
แทบหาที่เรียนไม่ได้แต่สามารถเรียนข้ามชั้นและสอบเข้า
มหาวิทยาลัยระดับแนวหน้าของรัฐ ในชั้น ม. 5 ขณะที่
แอ๋ว ก้อย ยาย และ ใครอื่น ๆในกลุ่มยังเรียนต่อ ม. 6
ค่อยมาเข้ามหาวิทยาลัยในเวลาต่อมา
ขณะนั้นปันมีอายุเพียง 16 ปีเท่านั้น
ทั้งหมดจึงเป็นแรงบันดาลใจที่ดีเยี่ยม แก่แฝดปูนไปป์ ทั้ง
สองก็สามารถสอบเข้าได้ในอีกสองปีถัดมา อย่างที่แม่ช่า
ได้เล่าไปในตอนที่แล้ว
ด้วยคณะนี้เป็นความใฝ่ฝันของลูก ปันจึงเรียนได้อย่าง
สนุกสนานตลอดเวลา ตอนปีหนึ่งปันก็เข้าร่วมเป็นทีมงาน
ประชาสัมพันธ์ฟุตบอลประเพณีจุฬา ธรรมศาสตร์ ปีสอง
ปันได้เป็นหัวหน้าชั้นปี เมื่อขึ้นปีสาม ก็ได้รับแต่งตั้งเป็นตัว
แทนคณะ ฯ เข้าร่วมประชุมและทำกิจกรรมร่วมกันทุกครั้ง
ที่ทางมหาวิทยาลัยมีงาน หรือโครงการใด ๆ ที่ได้รับมอบ
หมาย
อาจารย์บางคนที่เคยสอนฉันที่นี่เมื่อ 20 กว่า ปีที่แล้ว ก็ได้
มาสอนลูกสาวฉันอีก งานชุมนุมศิษย์เก่าของคณะ ซึ่งจัด
ขึ้นทุกปี ฉันจึงมีตำแหน่งเป็นทั้งแม่และรุ่นพี่คณะในเวลา
เดียวกัน
ใครเคยพูดว่า มีลูกเหมือนมีห่วงมาผูกคอ แต่ฉันว่าหาก
รู้จักดูแล และ จัดวางห่วงนี้ให้ดี ในตำแหน่งที่เหมาะ มันก็
สามารถใส่ได้ดูดี และทำให้เรามีความสุขได้ไม่น้อยเลย
แหละ แม้จะเป็นห่วงที่หนักหน่อยก็เหอะ
จากคุณ : ชราร่า - [ 30 ม.ค. 50 23:16:21 ]
ความคิดเห็นที่ 5
.
จากคุณ : akae - [ 31 ม.ค. 50 07:19:12 ]
ความคิดเห็นที่ 6
..
ชีวิตการแข่งขันของเด็กๆ...
เป็นภูมิคุ้มกันไปถึงการแข่งขันในวัยทำงานได้เช่นกัน...
น้องปันโชคดีที่ได้รับบทเรียน และมีคนคอยประคับประคองอยู่เคียงข้าง
ดีใจกับน้องปันและแฝดคู่ - ปูน -ไปป์ จริง...
ที่มีครอบครัวที่อบอุ่นและเข้าใจ ร่วมก้าวไปเป็นกำลังใจให้กันเสมอๆ
เขียนได้ไม่เท่าที่ใจอยากเขียน..เลยครับ
แล้วต้องบอกจริงๆ ว่าได้สิ่งดีๆ ทุกครั้งที่อ่านเรื่องของพี่ช่า..
ขอบคุณครับ... แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 50 07:24:29
จากคุณ : คนล่าห่าน - [ 31 ม.ค. 50 07:22:24 ]
ความคิดเห็นที่ 7
ไม่ยอม ซุนเอ มาตัดหน้าได้ไง..
ป๋มมาก่อนนะ
จากคุณ : คนล่าห่าน - [ 31 ม.ค. 50 07:23:37 ]
ความคิดเห็นที่ 8
ฮิฮิฮิ...ไม่ได้หรอกครับพี่ห่าน เดี๋ยวคุณแม่ฯไม่ปลื้ม...
จากคุณ : akae - [ 31 ม.ค. 50 07:31:38 ]
ความคิดเห็นที่ 9
ชอบจริง ๆครับเรื่องของพี่ช่าเนี่ย .. ได้อะไร ๆ กลับมาอีกแล้ว
จากคุณ : ozzyii - [ 31 ม.ค. 50 09:31:41 ]
ความคิดเห็นที่ 10
ไม่ต้องแย่งกันนะครับ เดี๋ยวคุณแม่เข้ามาดุเอา
ซุนเอให้คุณปู่ห่านนั่งหน้าแล้วกันนะครับ สายตาำไม่ค่อยดีแล้ว
ส่วนคนที่เหลือเข้ามาก็นั่งให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ได้อ่านกันทุกๆ คน
แบบนี้ดีไหมครับคุณแม่ฯ แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 50 09:41:13
จากคุณ : wasansem - [ 31 ม.ค. 50 09:40:31 ]
ความคิดเห็นที่ 11
ยินดีด้วยครับ ผมเป็นพ่อเด็กๆ ผมทำได้แต่เฝ้ามองเขาเติบโต เหมือนปลูกต้นไม้ เพียงแต่อย่าไปรบกวนความมานะ ความคิดสร้างสรรค์ เขาช่างมหัศจรรย์เกินเรานึกได้
จากคุณ : trakulsom (trakulsom) - [ 31 ม.ค. 50 10:42:51 ]
ความคิดเห็นที่ 12
สวัสดีค่ะ เพื่อน ๆ หน้าเดิม ๆ ยินดีค่ะ ไม่ต้องแย่งกัน
ที่นั่งว่างอยู่แล้วค่ะ
มีเพื่อนหน้าใหม่ ยินดีต้อนรับ trakulsom ( ตระกูลส้ม
เหรอคะ ? ) เด็ก ๆ อายุเท่าไรแล้วกัน การเฝ้าดูเขาเติบโต
มันช่างเป็นความสุขจริง ๆ นะคะ หวังว่าข้อเขียนคงมี
ประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อยค่ะ หากมีข้อแนะนำก็กรุณา
ด้วยนะคะ
จากคุณ : ชราร่า - [ 31 ม.ค. 50 20:43:05 ]
ความคิดเห็นที่ 13
พี่ช่าครับ น้องปันต้องเข้าเรียนมหาวิทยาลัยตั้งแต่อายุ 16
มีปัญหาการปรับตัวบ้างหรือเปล่าครับ
จากคุณ : wasansem - [ 1 ก.พ. 50 10:27:33 ]
ความคิดเห็นที่ 14
คุณวสันเษม ฯ
ตอนเรียนปีหนึ่ง ดูไม่มีปัญหาเรื่องปรับตัวเท่าไร โดย
เฉพาะตอนปีหนึ่งแรก ๆ ต่อมาเริ่มมีปัญหาตอนไปเที่ยว
กลางคืนกับเพื่อน ๆ เพราะอายุไม่ถึง
แต่อันนี้คุณแม่ช่า ชอบ เพราะเป็นห่วง
ปันมีเพื่อนอีกคนชื่อ แท็ด อายุใกล้กัน เป็นสองคน
ในรุ่นที่มีอายุน้อยที่สุดของคณะนิเทศ
มีปัญหาอีกที ตอนไปเรียนที่เมกา น้องปันยังไม่มีสิทธิ์
เช่ารถเวลาจะไปเที่ยว และอีกหลาย ๆ อย่างทำให้ไม่ค่อย
สะดวกเท่าไร เมืองเขากฎก็เข้มงวดด้วย
เร็ว ๆ นี้ ความเป็นคนเรียนเร็ว อายุน้อยในกลุ่มเพื่อนเดียว
กัน ตอนทำงานพอได้ promote เป็นตำแหน่งระดับ senior
ก็มักจะหาลูกน้องไม่ได้ เพราะมักจะเจอคนที่อายุมากกว่า
จะอีหลักอีเหลื่อ กันพอควร นั่งทำงานเหนื่อยอยู่คนเดียว
เพราะไม่มีใครอยากได้ลูกพี่อายุมากกว่า
จากคุณ : ชราร่า - [ 1 ก.พ. 50 23:54:05 ]
Create Date : 03 กุมภาพันธ์ 2550 |
Last Update : 3 กุมภาพันธ์ 2550 20:03:00 น. |
|
4 comments
|
Counter : 356 Pageviews. |
|
|
|
โดย: เด่นศรี น้องกุ้ง และ เฟ-รินด์ (เด่นศรี ) วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:11:10:59 น. |
|
|
|
โดย: พี่ช่า (ชราร่า ) วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:10:17:52 น. |
|
|
|
โดย: เด่นศรี น้องกุ้ง และ หลาน (เด่นศรี ) วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:12:17:42 น. |
|
|
|
โดย: แม่ช่า (ชราร่า ) วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:18:35:03 น. |
|
|
|
| |
|
|
ผมขอมาแจ้ว ๆ กับพี่ช่าที่บล็อกนะครับ
จะมาขอโทษพี่ช่าด้วยครับ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ผมเล่นซนกับคอม ๆ จนข้อมูลเสีย ดิสค์เสีย ข้อมูลหายหมดเลยครับ
หนึ่งในนั้นคือ เมล์ของพี่ช่าอะครับ ( ฮือ ฮือ )
ฮือ ฮือ