Tough Time Never Last ...But Tough People Do
Group Blog
 
All Blogs
 
23> ผู้ดลใจ ตอนที่ 2

ตอนนั้น ลูกทั้งสามกำลังเปลี่ยนแนวคิดของตัวเอง พอพี่

ปันทำได้แล้ว แม่ช่าก็ยกตัวอย่างใกล้ ๆ ตัวให้ดูว่า เห็น

ไหม ไม่มีอะไรยากเกินความพยายามหรอกลูก

เมื่อเป็นดังนั้น น้องแฝด ก็มุมานะบ้าง แม่ช่าเห็นว่าไฟเริ่ม

ติด แล้วเร่งใส่เชื้อเข้าไป สิ่งแรก ๆ ที่ทำก็คือ พาลูกไป

นั่งฝึกสมาธิ เพราะเห็นว่าลูกไม่ได้โง่ เพียงแต่มีสมาธิกับ

สิ่งที่อยู่ข้างหน้าน้อยไปหน่อย เมื่อปิดเทอม ก็เลยส่งไปที่

ยุวพุทธของคุณแม่สิริ กรินชัย ซะ 7 วัน ทุกทีไปเข้าค่ายมี

แต่การเล่นสนุกสนาน โหวกเหวก

แต่ที่ธรรมสถานแห่งนี้ ห้ามคุยกันเด็ดขาด ฝึกให้มีสติ

และ สมาธิตลอดเวลา นั่งวิปัสสนาและหัดเดินจงกรม โดย

แม่ช่าก็หวังว่าแม้จะไม่ได้อะไรกลับมามากนักถือว่าได้ไป

ทำบุญภาวนาจิต ก็ยังดี



อีกสามวันจะครบกำหนด 7 วันที่ได้ส่งลูกไปที่ยุวพุทธ

อย่างที่เล่า ก็ได้รับใบแจ้งคะแนนสอบของน้องปัน แม่ช่า

ไม่เปิด ตั้งใจว่าจะให้ลูกเป็นคนเปิดเอง ก็รอจนวันที่ไป

รับ ก็ยื่นให้น้องปันเปิดใบคะแนนดู ตัวเลขในกระดาษทำ

ให้ลูกอึ้งไปพักหนึ่ง แล้วตะโกนว่า “น้องปันได้ที่หนึ่ง !!”

ดังก้องสถานที่ที่ต้องการความเงียบสงบแห่งนั้น ทุกคนใน

ที่นั้นหันมามอง หากเป็นเหตุการณ์ทั่วไปก็คงถูกตำหนิด้วย

สายตาแน่นอน แต่ด้วยคำพูดประโยคนั้น ทุกคนก็ให้อภัย

หลายคนก็กลับมองด้วยสายตาที่ยินดี พร้อมอมยิ้มที่ปาก



แม่ช่า ยื่นมือไปดึงกระดาษแผ่นประวัติศาสตร์นั้นมาดู ดึง

ลูกทั้งสามมากอดด้วยความดีใจสุด ๆ น้ำตาคลอ ตลอด

เวลาที่ขับรถกลับบ้าน ปูนและไปป์ดีใจและตื่นเต้นกับพี่ปัน

มากมาย ขณะที่พี่ปันยังอยู่ในอาการ งง ๆ ถามแล้วถามอีก

ว่า จริงเหรอ ครูพิมพ์ผิดหรือเปล่า เป็นเลข 11 มั่ง ส่งผิด

มั่ง ฯลฯ



ช่วงนั้นอยู่ระหว่างปิดเทอม ตั้งแต่รู้ผลสอบ ปันไม่ได้คุย

กับเพื่อน ๆ ในเรื่องนี้เลย ซึ่งเพื่อน ๆ ก็ไม่ได้ถาม เพราะที่

ผ่านมาหัวข้อผลสอบไม่ได้เป็นเรื่องที่น่าคุยนักสำหรับน้อง

ปัน มีหนึ่งในกลุ่มเพื่อนซึ่งเป็นเด็กเก่ง สอบได้อันดับต้น

ๆ มาตลอด เปรย กับปันในสายโทรศัพท์



“ ปันรู้ไหมว่า คนได้ที่หนึ่งเทอมที่แล้วเป็นใคร เราได้ที่ 2

ก้อยได้ที่ 4 ยายหล่นไปที่ 6 เนี่ยะถามมาหลายคนแล้วก็

ยังไม่มีใครรู้เลย...” ปันเงียบ แล้วแอ๋วคนเก่งก็ถามต่อ

อย่างไม่ค่อยใส่ใจว่า ...


“ เออ แล้วเทอมนี้เป็นงัย เกรดดีขึ้นไหม ได้เท่าไร ปัน”


“เราได้ 3.75 ”


“ 3.75 อ้าว 3.75เหรอ ตัวเองนะ ได้ 3.75... ???”


“เราได้ 3.64..... งั้นปันก็ได้ที่หนึ่งซิ....”!!!!!!



จากคุณ : ชราร่า - [ 30 ม.ค. 50 23:01:13 ]






ความคิดเห็นที่ 2

..................

“.......เราได้ 3.64 งั้น... งั้น ปันก็ได้ที่หนึ่งซิ....” แอ๋วพูด

มาตามสาย หลังจากเงียบไปอึดใจใหญ่ ๆ ซึ่งนานมาก ๆ

ในความรู้สึกของน้องปัน แอ๋ววางหูไปเมื่อไร ปันจำไม่

ได้ แต่.. หลังจากนั้น เพื่อน ๆในกลุ่มซึ่งเป็นเด็กเก่งทั้ง

หมด ก็ระดมโทรเข้าบ้านเรา แต่ละสาย แต่ละคำพูด ทำ

ให้น้องปันวิ่งร้องไห้เข้ามาที่ห้องของแม่ช่าและพ่อช้าง

ฟูมฟายว่า



“ ไหนแม่ว่า เรียนเก่ง แล้วดี อย่างงัย.... น้องปันไม่มีเพื่อน

แล้ว ฮือออ ฮืออ....”



“… แอ๋ว โทรมาใหม่ พูดเสียงดังเลยว่า เขาแพ้ใครได้ทุก

คน ยกเว้นปัน เพราะปันเคยเป็นที่โหล่ของชั้น เขาจะแพ้คน

ที่เป็นที่โหล่ได้อย่างงัย..”


“..ก้อยก็ว่า น้องปันไปเรียนพิเศษที่ไหน ทำไมไม่บอก

แอบซุ่มเงียบคนเดียว มีอะไรดี ๆ ก็ไม่แบ่งปันเพื่อน เสีย

แรงที่ติว เลขให้ แต่แอบไปมีที่เรียนเอง คราวหลังไม่ต้อง

มาพูดด้วยแล้ว” พูดพลางสะอื้นไป



“ยายก็ว่า น้องปันขโมยเอาหนังสือเข้าห้องสอบ ยายว่า

น้องปันต้องทุจริตแน่ ๆ เขาจะฟ้องคุณครูประจำชั้นพรุ่งนี้

เลย ฮือออ ฮืออ...”



“น้องปันไม่ไปโรงเรียนแล้วดีกว่า ไปแล้วไม่มีเพื่อนคุย

ไม่มีเพื่อนคบด้วย ไหนว่าเรียนเก่งแล้วมีทุกอย่างงัยแม่

ปันไม่มีอะไรแล้ว ไม่เชื่อแม่แล้ว .....”


ใจแม่ช่าแทบขาดรอน ๆ โอ้หนอ เด็กน้อย ฉันไม่โทษ

เพื่อน ๆ ของปันที่จะตกใจแล้วใช้คำพูดที่ไม่ถนอมน้ำใจกัน

ขนาดนั้น ฉันเองยังไม่หายตกใจกับผลสอบที่กลับ ตลปัต

ร ขนาดนั้น นับประสาอะไรกับเด็ก ๆ พวกนี้ เสียงปันวิ่ง

กลับเข้าห้องปิดประตูปังใหญ่ เสียงร้องไห้ตามหลังไป

ปล่อยเขาก่อนให้เขาสงบจิต สงบใจมากกว่านี้ก่อน แล้ว

ค่อยมาพูดคุยกัน แต่สมองฉันตีบและตันไปหมด หา

ทางออกให้ลูกไม่ได้

จากคุณ : ชราร่า - [ 30 ม.ค. 50 23:05:33 ]






ความคิดเห็นที่ 3

หลังจากตั้งสติทั้งแม่และลูกกันพักใหญ่ ก็ไปปลอบใจ

ลูก โอบลูกมากอดไว้ พูดอย่างอ่อนโยนกับลูกที่มีน้ำตา

นองหน้า และยังสะอื้นไม่สะเด็ดน้ำดีว่า



“ฟังแม่อีกหน่อยนะ น้องปัน... ฟังแม่ก่อน อย่าเพิ่งตีโพย

ตีพายแบบนี้ แม่เข้าใจลูกกับเพื่อน ๆ ของลูกนะ เพียงแต่

แม่จะบอกว่า การที่น้องปันได้ที่หนึ่ง ไม่ได้แปลว่าทำให้

แอ๋วได้เป็นที่สองนี่นา..... ห้องหนึ่ง ๆ จะมีที่หนึ่งกี่คนก็ได้

นี่ลูก ใช่ไหม แอ๋วเขาทำไม่ได้ที่หนึ่งเอง จะโทษเราไม่

ได้ น้องปันจะยินดีไหม ถ้าแอ๋วได้เป็นที่หนึ่งเหมือนลูก

เป็นที่หนึ่งสองคน... ” ลูกพยักหน้า



“แล้วคิดว่าแอ๋วทำได้ไหม ...”ลูกพยักหน้าอีก “นั่นงัย แต่

คราวนี้เขาไม่ได้ตั้งใจพอ ถ้าเขาตั้งใจเหมือนที่ผ่านมา เขา

ทำได้แน่นอน...”



“แล้วที่ผ่านมา น้องปันคิดว่าน้องปันแข่งกับแอ๋วหรือเปล่า

หรือแข่งกับตัวเอง...”


“ถ้าลูกแข่งกับตัวเอง ก็ไม่ต้องสนใจใครเลย แล้วลูกคิด

ว่าครั้งนี้ลูกชนะตัวเองไหม... แล้วอยากชนะอีกไหม”



“…ที่ผ่านมา ลูกคิดว่าเรื่องเรียนมันยากไหม เห็นไหม มัน

ไม่ยากอย่างที่เราคิดถ้าเราตั้งใจจริง ๆ ใช่ไหมลูก” ลูกเริ่ม

นิ่งและคิดตามที่ฉันพูด



“ ถ้าแม่เป็นน้องปัน สิ่งที่แม่จะทำต่อไปคือ พิสูจน์ตัวเอง

ให้เพื่อนเห็นว่าเราไม่ได้แอบซุ่ม ใครจะให้เราติว น้องปัน

ก็ต้องทำให้เขา เราเองจะได้ทบทวนด้วย อีกอย่างหนึ่งก็

คือ น้องปันต้องพยายามสอบได้คะแนนดีขึ้นไปอีก หรือ

ไม่ต่ำกว่านี้ เพื่อให้ยายเห็นว่าเราไม่ได้แอบลอกข้อสอบ

หรือจดโน๊ตเข้าห้องสอบ น้องปันทำด้วยความสามารถของ

ตัวเองจริง ๆ ”


“เอางี้ แม่อยากให้ลูกคิดว่า ใครไม่เชื่อเราไม่เป็นไร น้อง

ปันรู้ตัวเองว่า ตัวเองเป็นอย่างไร และที่สำคัญที่สุด แม่

คนนี้เชื่อลูกว่าลูกทำได้ และภูมิใจในตัวลูกมากที่สุด แม่

ไม่สนใจว่าใครจะว่าลูกแม่ว่าเป็นคนอย่างไร เพราะแม่เห็น

ลูกมาตลอด เราพยายามกันมามากแค่ไหน แม่รู้ น้องปัน

ก็รู้ แล้วจะทิ้งไปเฉย ๆ ได้อย่างงัยลูก ใช่ไหม...”


“ตอนเราเดือดร้อน เรียนหนังสือไม่เข้าใจ ใครก็ช่วยไม่

ได้ เราต้องร่วมมือกันช่วยตัวเองขึ้นมา พอเราเริ่มเก่งขึ้น

ทำไมต้องสนใจว่าคนอื่นจะเข้าใจผิดเราอย่างงัย ในเมื่อ

สิ่งที่เราทำอาจจะไม่ได้ดีกับเขา แต่เป็นสิ่งที่ดีกับตัวเราเอง

ในอนาคต... ”



“ พยายามต่อไปลูก เพื่อพิสูจน์ตัวเองกันอีกครั้งหนึ่ง”

จากคุณ : ชราร่า - [ 30 ม.ค. 50 23:08:13 ]






ความคิดเห็นที่ 4

ในปีถัดไป เมื่อขึ้นชั้นมัธยมปีที่ 5 เราวางแผนเพื่อจะไป

สอบเทียบชั้น และสอบ entrance เลยโดยไม่ต้องผ่านการ

เรียน ม. 6 ในโรงเรียน !!!


อาจหาญไหม คุณว่า ....

ปันเรียนหนักขึ้น มุมานะมากอย่างเห็นได้ชัด โดยมีแม่ช่า

อยู่เคียงข้างตลอดทุกครั้ง เมื่อเว้นว่างจากงาน สิ่งบันเทิง

ในบ้าน เปิดและปิดเป็นเวลา กินข้าวนอกบ้านบ้าง ดูหนัง

ในโรงบ้าง หากมีรายการดี ๆ ทำบุญที่วัดเมื่อมีโอกาส ร่วม

ทั้งทุกข์และสุข อย่างไม่เคยทิ้งกันตลอดระยะเวลากว่า 1

ปี



และแล้วน้องปันก็ทำได้อีกครั้ง คือ สอบ entrance เข้า

คณะนิเทศศาสตร์ จุฬา ได้เพียงคนเดียวในระดับชั้น ม. 5

ทั้งหมดของโรงเรียน !!!



จากนักเรียนที่ทางโรงเรียนไม่รับเรียนต่อในชั้น ม. 4 จน

แทบหาที่เรียนไม่ได้แต่สามารถเรียนข้ามชั้นและสอบเข้า

มหาวิทยาลัยระดับแนวหน้าของรัฐ ในชั้น ม. 5 ขณะที่

แอ๋ว ก้อย ยาย และ ใครอื่น ๆในกลุ่มยังเรียนต่อ ม. 6

ค่อยมาเข้ามหาวิทยาลัยในเวลาต่อมา


ขณะนั้นปันมีอายุเพียง 16 ปีเท่านั้น


ทั้งหมดจึงเป็นแรงบันดาลใจที่ดีเยี่ยม แก่แฝดปูนไปป์ ทั้ง

สองก็สามารถสอบเข้าได้ในอีกสองปีถัดมา อย่างที่แม่ช่า

ได้เล่าไปในตอนที่แล้ว



ด้วยคณะนี้เป็นความใฝ่ฝันของลูก ปันจึงเรียนได้อย่าง

สนุกสนานตลอดเวลา ตอนปีหนึ่งปันก็เข้าร่วมเป็นทีมงาน

ประชาสัมพันธ์ฟุตบอลประเพณีจุฬา ธรรมศาสตร์ ปีสอง

ปันได้เป็นหัวหน้าชั้นปี เมื่อขึ้นปีสาม ก็ได้รับแต่งตั้งเป็นตัว

แทนคณะ ฯ เข้าร่วมประชุมและทำกิจกรรมร่วมกันทุกครั้ง

ที่ทางมหาวิทยาลัยมีงาน หรือโครงการใด ๆ ที่ได้รับมอบ

หมาย


อาจารย์บางคนที่เคยสอนฉันที่นี่เมื่อ 20 กว่า ปีที่แล้ว ก็ได้

มาสอนลูกสาวฉันอีก งานชุมนุมศิษย์เก่าของคณะ ซึ่งจัด

ขึ้นทุกปี ฉันจึงมีตำแหน่งเป็นทั้งแม่และรุ่นพี่คณะในเวลา

เดียวกัน



ใครเคยพูดว่า มีลูกเหมือนมีห่วงมาผูกคอ แต่ฉันว่าหาก

รู้จักดูแล และ จัดวางห่วงนี้ให้ดี ในตำแหน่งที่เหมาะ มันก็

สามารถใส่ได้ดูดี และทำให้เรามีความสุขได้ไม่น้อยเลย

แหละ แม้จะเป็นห่วงที่หนักหน่อยก็เหอะ



จากคุณ : ชราร่า - [ 30 ม.ค. 50 23:16:21 ]






ความคิดเห็นที่ 5

.









จากคุณ : akae - [ 31 ม.ค. 50 07:19:12 ]






ความคิดเห็นที่ 6

..


ชีวิตการแข่งขันของเด็กๆ...


เป็นภูมิคุ้มกันไปถึงการแข่งขันในวัยทำงานได้เช่นกัน...


น้องปันโชคดีที่ได้รับบทเรียน และมีคนคอยประคับประคองอยู่เคียงข้าง


ดีใจกับน้องปันและแฝดคู่ - ปูน -ไปป์ จริง...


ที่มีครอบครัวที่อบอุ่นและเข้าใจ ร่วมก้าวไปเป็นกำลังใจให้กันเสมอๆ


เขียนได้ไม่เท่าที่ใจอยากเขียน..เลยครับ



แล้วต้องบอกจริงๆ ว่าได้สิ่งดีๆ ทุกครั้งที่อ่านเรื่องของพี่ช่า..



ขอบคุณครับ...
แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 50 07:24:29

จากคุณ : คนล่าห่าน - [ 31 ม.ค. 50 07:22:24 ]







ความคิดเห็นที่ 7

ไม่ยอม ซุนเอ มาตัดหน้าได้ไง..

ป๋มมาก่อนนะ









จากคุณ : คนล่าห่าน - [ 31 ม.ค. 50 07:23:37 ]






ความคิดเห็นที่ 8

ฮิฮิฮิ...ไม่ได้หรอกครับพี่ห่าน เดี๋ยวคุณแม่ฯไม่ปลื้ม...









จากคุณ : akae - [ 31 ม.ค. 50 07:31:38 ]






ความคิดเห็นที่ 9

ชอบจริง ๆครับเรื่องของพี่ช่าเนี่ย .. ได้อะไร ๆ กลับมาอีกแล้ว









จากคุณ : ozzyii - [ 31 ม.ค. 50 09:31:41 ]






ความคิดเห็นที่ 10

ไม่ต้องแย่งกันนะครับ เดี๋ยวคุณแม่เข้ามาดุเอา


ซุนเอให้คุณปู่ห่านนั่งหน้าแล้วกันนะครับ สายตาำไม่ค่อยดีแล้ว


ส่วนคนที่เหลือเข้ามาก็นั่งให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ได้อ่านกันทุกๆ คน


แบบนี้ดีไหมครับคุณแม่ฯ
แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 50 09:41:13










จากคุณ : wasansem - [ 31 ม.ค. 50 09:40:31 ]






ความคิดเห็นที่ 11

ยินดีด้วยครับ
ผมเป็นพ่อเด็กๆ
ผมทำได้แต่เฝ้ามองเขาเติบโต เหมือนปลูกต้นไม้
เพียงแต่อย่าไปรบกวนความมานะ ความคิดสร้างสรรค์ เขาช่างมหัศจรรย์เกินเรานึกได้

จากคุณ : trakulsom (trakulsom) - [ 31 ม.ค. 50 10:42:51 ]






ความคิดเห็นที่ 12

สวัสดีค่ะ เพื่อน ๆ หน้าเดิม ๆ ยินดีค่ะ ไม่ต้องแย่งกัน

ที่นั่งว่างอยู่แล้วค่ะ


มีเพื่อนหน้าใหม่ ยินดีต้อนรับ trakulsom ( ตระกูลส้ม

เหรอคะ ? ) เด็ก ๆ อายุเท่าไรแล้วกัน การเฝ้าดูเขาเติบโต

มันช่างเป็นความสุขจริง ๆ นะคะ หวังว่าข้อเขียนคงมี

ประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อยค่ะ หากมีข้อแนะนำก็กรุณา

ด้วยนะคะ

จากคุณ : ชราร่า - [ 31 ม.ค. 50 20:43:05 ]






ความคิดเห็นที่ 13

พี่ช่าครับ น้องปันต้องเข้าเรียนมหาวิทยาลัยตั้งแต่อายุ 16


มีปัญหาการปรับตัวบ้างหรือเปล่าครับ

จากคุณ : wasansem - [ 1 ก.พ. 50 10:27:33 ]






ความคิดเห็นที่ 14

คุณวสันเษม ฯ

ตอนเรียนปีหนึ่ง ดูไม่มีปัญหาเรื่องปรับตัวเท่าไร โดย

เฉพาะตอนปีหนึ่งแรก ๆ ต่อมาเริ่มมีปัญหาตอนไปเที่ยว

กลางคืนกับเพื่อน ๆ เพราะอายุไม่ถึง


แต่อันนี้คุณแม่ช่า ชอบ เพราะเป็นห่วง


ปันมีเพื่อนอีกคนชื่อ แท็ด อายุใกล้กัน เป็นสองคน

ในรุ่นที่มีอายุน้อยที่สุดของคณะนิเทศ


มีปัญหาอีกที ตอนไปเรียนที่เมกา น้องปันยังไม่มีสิทธิ์

เช่ารถเวลาจะไปเที่ยว และอีกหลาย ๆ อย่างทำให้ไม่ค่อย

สะดวกเท่าไร เมืองเขากฎก็เข้มงวดด้วย


เร็ว ๆ นี้ ความเป็นคนเรียนเร็ว อายุน้อยในกลุ่มเพื่อนเดียว

กัน ตอนทำงานพอได้ promote เป็นตำแหน่งระดับ senior

ก็มักจะหาลูกน้องไม่ได้ เพราะมักจะเจอคนที่อายุมากกว่า

จะอีหลักอีเหลื่อ กันพอควร นั่งทำงานเหนื่อยอยู่คนเดียว

เพราะไม่มีใครอยากได้ลูกพี่อายุมากกว่า



จากคุณ : ชราร่า - [ 1 ก.พ. 50 23:54:05 ]









Create Date : 03 กุมภาพันธ์ 2550
Last Update : 3 กุมภาพันธ์ 2550 20:03:00 น. 4 comments
Counter : 356 Pageviews.

 
หวัดดีครับพี่ช่า

ผมขอมาแจ้ว ๆ กับพี่ช่าที่บล็อกนะครับ

จะมาขอโทษพี่ช่าด้วยครับ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ผมเล่นซนกับคอม ๆ จนข้อมูลเสีย ดิสค์เสีย ข้อมูลหายหมดเลยครับ


หนึ่งในนั้นคือ เมล์ของพี่ช่าอะครับ ( ฮือ ฮือ )


ฮือ ฮือ




โดย: เด่นศรี น้องกุ้ง และ เฟ-รินด์ (เด่นศรี ) วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:11:10:59 น.  

 

ว้า... กำลังจะข้อ file ที่คุณเด่นศรี save ไว้เลยค่ะ

คือตอน Some good things come in pair

ไม่เป็นไร จะลองถามคนอื่น ๆ ดู



ขอให้ข้อมูลในคอม ฯ คุณเด่นศรี กู้กลับคืนมาได้ในเร็ววัน

นะคะ พี่ไม่ชำนาญด้วยซิ เลยไม่รู้ช่วยงัย อิอิ


โดย: พี่ช่า (ชราร่า ) วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:10:17:52 น.  

 

หวัดดีครับพี่ช่า ( คุณแม่ที่น่ารัก )


ผมเอาไฟล์ Some good things come in pair ไปแปะไว้ให้แล้วนะครับพี่ช่า


( ตอนแรกส่งทางหลังไมค์ แต่ว่า ยาวมากเลยครับ ต้องตัดเป็นท่อน ๆ ทานไม่อร่อย เอ้ย ไม่ใช่ครับ )


( ยิ้มแย้มมมมมม )





โดย: เด่นศรี น้องกุ้ง และ หลาน (เด่นศรี ) วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:12:17:42 น.  

 


ขอบคุณค่ะ ในที่สุด Blog นี้ก็สมบูรณ์แบบแล้ว

ขอบคุณอีกครั้งค่ะ


โดย: แม่ช่า (ชราร่า ) วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:18:35:03 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ชราร่า
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




");}
Friends' blogs
[Add ชราร่า's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.