Tough Time Never Last ...But Tough People Do
Group Blog
 
All Blogs
 
24> โลกกว้าง

คุณเด่นศรี

พี่เขียนมาถึง 25 ตอนแล้วนะคะ เริ่มเล่าถึงเด็ก ๆ ช่วงโต

แล้ว อีกหน่อยก็คงเป็นเรื่องราวเฉพาะเรื่อง ๆ ไป ไม่ได้

ไล่ตามอายุ หรือวันเวลาเหมือนที่ผ่าน ๆ มา


หวังว่าจุดประสงค์ของพี่ ที่เขียนให้ครอบครัวคุณเด่นศรี

ประกอบด้วย พ่อเทพ แม่กุ้ง และ หลาน ได้นำไปเป็นแนว

คิดในการเลี้ยงดูทายาทได้บ้าง ไม่มากก็น้อย



พี่เข้าใจว่า คุณเด่นศรี ได้เข้ามาเซฟข้อเขียนพี่บ่อย ๆ ก็

อยากรบกวนมาทักทายกันหน้าไมค์บ้างนะคะ เพราะเพื่อน

ๆ หลายคน ยังกล่าวถึงคุณด้วยความระลึกถึง ไม่ต้อง

ไปกระทู้ที่เขียนเกี่ยวกับ DSM ไม่ต้องไม่กระทู้เฮ ฮา

( เพราะน้องคนจนเยอะ โหลดช้า ) มาทักทายที่กระทู้

ถึงแม่มือใหม่ ฯนี่แหละ พี่ว่าก็น่าจะปลอดจากความขัด

แย้งใด ๆ และพอเป็นช่องทางให้พวกเราได้เข้าถึงคุณได้

บ้าง


แต่หากไม่สะดวกก็ไม่เป็นไร ไม่ว่ากันอยู่แล้วค่ะ

แก้ไขเมื่อ 04 ก.พ. 50 14:44:34

จากคุณ : ชราร่า - [ 4 ก.พ. 50 14:44:19 ]




--------------------------------------------------------------------------------

หน้าหลัก แจ้งลบ bookmark ส่งต่อกระทู้ พิมพ์ โหวตกระทู้ เก็บเข้าคลังกระทู้ กระทู้ก่อนหน้า กระทู้ถัดไป








--------------------------------------------------------------------------------

ความคิดเห็นที่ 1

มันเป็นสิ่งที่ฝังจิตฝังใจแม่ช่าอย่างหนึ่ง คือหลังจากหลง

คารมพ่อช้างจนไม่ได้ไปเรียนต่างประเทศอย่างใจหวัง

แล้ว ตลอดเวลาที่มีอาชีพเป็นหนูถีบจักร หรือที่เรียกว่า มือ

ปืนรับจ้างนั้น จะต้องอยู่ในแวดวงของคนหัวแดงในบาง

สถานะ และบางโอกาส เคยรู้สึกว่า ถ้าเราพูดได้ดีอย่าง

เขา ถ้าเรานำเสนอได้ฉะฉานในต่างภาษาย่างเขา เราก็ไม่

ได้ด้อยกว่าเขาเท่าไรเลย หลายครั้งที่โต้ตอบไม่ได้อย่าง

ใจนึก ค้านไม่ได้เท่าที่ปากคัน เลยรู้ซึ้งถึงความสำคัญ

ของการรู้เขา รู้เรา ยิ่งรู้มาก รู้ลึกเท่าไร ยิ่งได้เปรียบมาก

เท่านั้น



อาจมีเพื่อน ๆ บางคนไม่เห็นด้วย อยู่เมืองไทย จบเมือง

ไทย ก็ได้ จะได้ไม่ต้องเป็นขี้ข้าฝรั่ง เราเป็นเอกราชมา

นาน ไม่เห็นต้องเห็นฝรั่งดีกว่าคนไทยเลย ไม่ใช่ภาษา

พ่อ ภาษาแม่ ทำไมต้องไปสนใจ อันนี้ก็ต้องขออนุญาต ว่า

ไม่ว่ากันนะคะ แต่แม่ช่าเชื่อของแม่ช่าแบบนี้ แล้วจะ

บอกว่าพิสูจน์กับตัวเองแล้วก็ยิ่งเชื่อหนักเข้าไปอีก แต่ก็

ขอบอกอีกครั้งค่ะ ว่า สิ่งที่แม่ช่าได้สอน ได้วางแผนตาม

แนวทางนี้กับลูก ๆ ไม่ได้เป็นสูตรสำเร็จนะคะ อาจจะต้องมี

ปัจจัยอื่น ๆ อีกร่วมด้วย ที่นำมากล่าวในที่นี้ ก็เพียงเล่าสู่

กันฟังเฉย ๆ ค่ะ



ถูกผิดห้ามว่ากันนะคะ


หากได้อ่านแต่ต้น จะรู้ว่าครอบครัวเราเมื่อมีเวลาว่าง จะ

เน้นเรื่องเที่ยวเป็นหลัก และเด็ก ๆ ก็ได้เรียนรู้การเตรียม

ตัว การแก้ปัญหา การจัดการกับภาระหน้าที่ที่ต้องทำ ซึ่ง

บางครั้งก็มีการสอนตรง ไป ตรงมา แต่หลายครั้งก็ต้องใช้

กุศโลบายบ้าง เพื่อลด หรือเพิ่มความกดดันก็แล้วแต่

เหตุการณ์ แต่ส่วนใหญ่เป็นอย่างหลังซะมากกว่า เพราะ

ว่าแม่ช่านอกจากเป็นแม่ใจยักษ์แล้ว ยังเป็นแม่ซาดิสก์ อีก

ด้วย ฮ่า ฮา


อันนี้ลูก ๆ เขา confirm มานาน ว่าแม่ช่าน่ะ โหดดด....



หลังจากเที่ยว(เกือบ ) ทั่วไทยแล้ว แม่ช่าก็มุ่งหน้าไป

ประเทศใกล้เคียง พอดีช่วงนั้น ต้องเดินทางไปตัดต่อหนัง

โฆษณาที่สิงคโปร์และฮ่องกงบ่อย ๆ ด้วยความที่

เทคโนโลยีด้าน animation เรายังล้าหลังมาก ( ตอนนี้ล้ำ

หน้าเขาไปแล้ว ดีจัง ) ก็คุ้นเคยประเทศเขาทุกซอกซอย

พอควร ประกอบกับได้ตั๋วเครื่องบินลดราคาสำหรับครอบ

ครัวและลูก ๆ อายุอยู่ช่วง 9-10 ขวบ ดังนั้น ซื้อตั๋วได้ครึ่ง

ราคาสำหรับเด็กด้วย ก็เลยวางแผนกับพ่อช้าง พาลูก ๆ

ทั้งหมดไปเที่ยว โดยติดต่อได้ที่พักของคนฮ่องกงซึ่งอยู่

ชานเมืองมา จึงเป็นโปรแกรมเที่ยวที่ประหยัดและสุดคุ้ม

มากเลย ที่แน่ ๆ ก็คือลูกได้เรียนรู้หลายเรื่องราวมากมาย

ซึ่งจะเล่าต่อไปค่ะ

จากคุณ : ชราร่า - [ 4 ก.พ. 50 14:48:00 ]






ความคิดเห็นที่ 2

เราแจ้งข่าวนี้กับลูก ๆ ล่วงหน้าถึง 6 เดือน และได้บอกสิ่ง

ที่เด็ก ๆ ต้องเตรียมตัวแต่เนิ่น ๆ

“ … ลูกต้องหัดพูดภาษาอังกฤษนะคะ ส่วนใหญ่คนฮ่องกง

จะพูดจีนกวางตุ้ง แต่หลายคนก็จะสื่อสารด้วยภาษา

อังกฤษได้ ฉะนั้นจะเที่ยวให้สนุกก็ต้องรู้ภาษาด้วย...”



“ 1 เหรียญฮ่องกง เท่ากับ 3 บาทไทย เวลาเห็นราคาของ

ลูกก็ต้องคูณ 3 ด้วยทุกครั้ง ฉะนั้นท่องสูตรคูณแม่ 3 ให้

แม่นนะคะ..”



เรื่องประวัติศาสตร์และภูมิศาสตร์ของประเทศ ก็หน้าที่ของ

พ่อช้างตามเคย แผนที่และหนังสือเกี่ยวกับฮ่องกง ก็ถูก

ยืมมาจากห้องสมุด กทม. มาล้อมวงนั่งและเล่าให้ลูกฟัง

ช่วงเวลาไหนที่มีรายการทีวีเกี่ยวกับประเทศนี้ เราก็จะนัด

กันหน้าจอ รู้และรับข้อมูลไปพร้อม ๆ กับเล่าในสิ่งที่ฉัน

เห็นและรู้เกี่ยวกับที่นี่ เช่นรถใต้ดิน โอเชี่ยนปาร์ค และ

รถเมลล์สองชั้น ห้างของเด็กเล่น Toy R Us เป็นต้น



“ พ่อกับแม่ต้องบอกก่อนนะคะ คราวนี้เราไปเที่ยวกัน พ่อ

กับแม่ก็เที่ยวด้วย เราจะไม่มาช่วยลูกเรื่องเป็นล่าม หรือ

ว่าคอยเป็นห่วงเด็ก ๆ ในทุกเรื่องดังนั้น ทุกคนต้องช่วยตัว

เองให้มากที่สุด หากอยากให้แม่กับพ่อ เที่ยวสนุก เด็ก

ๆ ยิ่งต้องรู้เรื่องมาก และทำตัวให้เป็นห่วงน้อยที่สุด ได้

ไหมครับลูก...”



ฉันบอกพวกเขาว่า ตอนอยู่บนเครื่อง เขาจะต้องสั่งเครื่อง

ดื่ม หรือสิ่งที่เขาต้องการจากแอร์โฮสเตทเอง แม่คงไม่

ช่วยนะ ถึงประเทศฮ่องกงก็เช่นกัน หากเป็นอาหารที่เขา

สั่งเองได้ ก็คงจะต้องดูแลและรับผิดชอบกันเอง แม่จะ

ช่วยเท่าที่เห็นว่าจำเป็นเท่านั้น



ทุกคนพยักหน้ารับปากอย่างขันแข็ง และพากันอ้าปาก

ค้าง เมื่อแม่ช่า ได้บัน ระ ยาย ความใหญ่โตของห้างขาย

ของเด็กเล่น ที่ชื่อ Toy R Us ที่มีขายแต่ของเล่นทุ๊กก

ชนิดที่ลูกยังไม่เห็นในเมืองไทย ตัวห้างใหญ่เหมือนโกดัง

ซื้อเดินไม่ทั่วภายในหนึ่งวัน ดังนั้นเด็ก ๆ หมายหมั้นปั้นมือ

ที่จะไปซื้อของเล่นที่ห้างนี้ ( แต่ก่อนยังไม่มีแมคโคร หรือ

โลตัส เด็ก ๆนึกภาพความใหญ่โตจากจินตนาการเอง )



“ ตั้งแต่วันนี้ไปถ้าใครเก็บเงินได้ก่อนไปเที่ยวได้เท่าไร

พ่อก็จะให้อีกเท่าตัวนะ เช่นถ้าลูกเก็บได้ 400 บาท พ่อก็

จะให้อีก 400 บาท ใครสะสมได้มาก ก็ได้มาก น้อยก็ได้

น้อยนะคะ ...” ลูก ๆ หันมายิ้มด้วยชอบใจโปรโมชั่นจาก

พ่อช้างรายการนี้ โดยเฉพาะกับปูน เพราะปูนเป็นคนใช้

เงินน้อย มีเงินสะสมเยอะกว่าใคร ๆ



ส่วนแม่ช่า ก็เริ่มมีรายการ ลูกจ้างทำงานชั่วคราว เพื่อเป็น

ช่องทางช่วยเพิ่มเงินสะสมให้ลูก อีกทางหนึ่งนอกจากค่า

ขนมรายวัน เช่น ล้างรถ เก็บหนังสือพิมพ์เก่า ขวดแก้ว

เปล่าไปขาย ขัดมุ้งลวด จัดห้องเก็บของ หรืออ่านหนังสือ

ให้อาม่าฟัง ฯลฯ



จากคุณ : ชราร่า - [ 4 ก.พ. 50 14:50:38 ]






ความคิดเห็นที่ 3

วันเดินทาง แน่นอนเด็ก ๆ ก็ตื่นเต้นมาก เป็นครั้งแรกที่เดิน

ทางออกนอกประเทศ ตอนแม่ช่า check in


“ ขอที่นั่งริมหน้าต่างด้วยนะคะ เพราะเด็ก ๆ เดินทางครั้ง

แรกค่ะ ” พูดพร้อมกับยิ้มหวานที่สุดเท่าที่ หน้าโหด เ-ว ดี

ของฉันจะทำได้ แต่ปรากฏว่าพวกเราได้ up grade ไปนั่ง

ขั้น business class เก้าอี้กว้างใหญ่ อาหารที่เสริฟ ก็ดี

การบริการก็เยี่ยม


และแล้ววินาทีที่น่าตื่นเต้นก็มาถึง เมื่อนางฟ้าประจำ

เครื่อง เดินเข้ามาเสริฟน้ำ และถามแต่ละที่นั่งว่าต้องการ

ดื่มน้ำอะไร เด็ก ๆ เริ่มหน้าตื่น ตัวแข็ง รู้ตัวว่าแม่ช่าไม่ช่วย

แน่ ไปป์หันมาถามฉันว่า


“ แม่ครับ คำว่า สไปร์ท เป็นภาษาอังกฤษหรือเปล่าครับ”

เมื่อฉันพยักหน้าว่าใช่ ไปป์มีสีหน้าผ่อนคลาย แต่แล้วฉัน

ก็ต้องกลั้นหัวเราะสุดฤทธิ์ เมื่อได้ยินเด็ก ๆ สั่งน้ำ


“ ออเร้นจ์ จูยซ์ พลีส” นี่เป็นเสียงน้องปัน

“ สไปร์ท จูยซ์ พลีส ” “ โค๊ก จูยซ์ พลีส” เสียงไปป์ และปูน ตาม มา

แม่นางฟ้า รับคำสั่งพร้อมอมยิ้ม พลางทวนคำส่ง “ วัน ออ

เร้นจ์ จูยซ์ วันสไปร์ท แอนด์ วันโค๊ก ...” “ เยส

มาดาม..” เด็กตอบเกือบพร้อม ๆ กัน อืมม ไม่เลว ไปฝึก

จากไหนมานี่ แล้วฉันก็เห็นน้องปัน กระซิบกระซาบกับ

น้องแฝดว่า

“ สไปร์ท กับ โค๊ก เฉย ๆ ไม่ต้องจุยซ์นะ ” ดูเหมือนน้อง

สองคนเริ่มขาดความมั่นใจ ฉันสังเกตได้เพราะหลังจากนั้น

ทั้งสองจะสั่งทุกอย่างตามพี่ปันหมดเลย ไม่ว่าจะเป็น

อาหารหรือน้ำดื่มเพิ่มเติม



“ ชิคเก้น นูเดิ้ล พลีส”

“ ชิคเก้น นูเดิ้ล พลีส”

“ ชิคเก้น นูเดิ้ล พลีส” เอะ ไปป์ สั่งไก่ด้วยเหรอ ลูกคนนี้

ไม่เคยชอบไก่เลยนี่นา เอาแล้ว...บททดสอบด่านแรก

ต้องกินอย่างเลือกไม่ได้ แม่ช่าชอบนักเชียวแบบนี้ ก็

บอกแล้วงัย ชอบแกล้งลูก :P


ฉันกำกับให้ลูกกรอกใบเข้าเมืองด้วยลายมือเอง พร้อม

อธิบายถึงความจำเป็นที่ต้องมีใบผ่านด่าน ใบตรวจโรค

และ ใบสำแดงสัมภาระต่างๆ ซึ่งก็เป็นความรู้ใหม่ของพวก

เขา เพราะหากมากับบริษัททัวร์ก็อาจไม่รู้ขั้นตอนต่าง ๆ

เหล่านั้น เพราะว่าทางทัวร์จะให้บริการทั้งหมด


ทุกอย่างในประเทศนี้ล้วนแต่เป็นสิ่งใหม่สำหรับลูก ๆ เรา

เข้าแถวซื้อตั๋วรถไฟใต้ดินเอง เราศึกษาเส้นทางต่าง ๆ

จากแผนที่ ซึ่งมีที่ให้หยิบตามสบายอยู่หลายจุด ภายใน

สนามบินก่อนออกนอกอาคาร มีการวางแผนและเลือกที่

จะไปที่ไหนก่อนหลังโดยการอาศัยเส้นทางรถไฟฟ้าที่ทาง

เดียวกัน ซึ่งเด็ก ๆ คุ้นเคยกับการดูแผนที่อย่างเชียวชาญ

อยู่แล้วตั้งแต่เที่ยวภายในประเทศ ดังนั้น การหันทิศ หรือ

แม้แต่สังเกตชื่อถนน จุดสนใจหรืออาคารที่เป็น land

mark ก็เป็นจุดอ้างอิงในการท่องเที่ยวในแต่ละพื้นที่ได้

เป็นอย่างดี


รถเมล์ และรถไฟที่คุ้นเคยในเมืองไทย ( ตอนนั้น ) เทียบ

ไม่ได้กับรถไฟใต้ดินที่เมืองนี้ มันช่างสะอาดและเดินทาง

ได้รวดเร็วอย่างมาก การซื้อตั๋วด้วยเครื่องหยอดเหรียญ

เครื่องหมายขีดเป็นตารางบนชานชลาที่แสดงถึง การเข้า

ออกเป็นแถวทั้งตอนเข้าและออกจากรถไฟฟ้า การสังเกต

สีของสายรถไฟฟ้าต่าง ๆ ต้นทางและปลายทางรวมถึง

inter section ในแต่ละจุด

-----------------------

จากคุณ : ชราร่า - [ 4 ก.พ. 50 14:53:02 ]






ความคิดเห็นที่ 4

ชั้นสองของรถเมล์ของฮ่องกงเป็นที่นั่งประจำของพวกเรา

ก็แหม มันสูงกว่า มองวิวสวยได้ไกล เด็ก ๆ จะร้องกรี๊ด

กร๊าดด เมื่อรถขับไปใกล้ป้ายโฆษณาที่ใหญ่ บี๊กบี้ม ตาม

ถนนที่ห้อยลงมาต่ำเฉียดหลังคารถด้วยความหวาดเสียว

และสงสัยกันถ้วนหน้าว่าทำไมไม่ต้องมีกระเป๋ารถเมล์ แค่

หยอดเหรียญตามราคาที่ข้างรถกำหนดก็ผ่านเข้าไปในรถ

ได้ ไม่ต้องมีใครมาตรวจว่า จ่ายหรือไม่ จ่ายครบหรือเปล่า


“ ถ้าเราให้เกินราคาที่เขากำหนดล่ะแม่..”

“เขาไม่มีระบบทอนหรอกลูก ทุกคนรู้หน้าที่และรับผิด

ชอบตัวเองในการเตรียมเงินให้ครบจำนวนค่ะ”


“ ดีเนอะ ทำไมเมืองไทยเราไม่มีแบบนี้..”

“ ก็คงมี..แต่คนให้ไม่ครบ หรือไม่ก็ไม่จ่ายเงินเลย...” คำ

พูดของลูกสะท้อนให้เห็นว่าเขารู้จักสังคมที่เขาอยู่ดีเพียง

ไร แต่คราวนี้ล่ะ ลูก ๆ ก็จะได้เห็นว่า คนบ้านอื่นเมืองอื่น

ก็มีวินัยและต้องรับผิดชอบได้ โดยไม่ต้องมีใครมาคุม

ทุกอย่างต้องมีสำนึก โดยเฉพาะจิตสำนึกของแต่ละบุคคล



นอกจากระบบการจ่ายค่ารถเมลล์ แล้ว ลูกยังเห็นการขาย

หนังสือพิมพ์โดยไม่มีเด็กเล็ก ๆ ตามสี่แยก หนังสือพิมพ์

กองอยู่ในกล่องพลาสติกใส ใครหยิบก็จ่าย โดยวางเงินใน

กระป๋องที่อยู่ข้าง ๆ ตู้หยอดเหรียญสำหรับน้ำดื่ม สำหรับ

ขนม และ สำหรับอื่น ๆ ซึ่งไม่ต้องมีคนยืนเฝ้าเหมือนบ้าน

เรา ก็แปลกใจว่าแล้วต้องเปลืองเงินซื้อตู้ที่มีระบบนี้มา

ทำไม ถ้าต้องจ้างคนอีก แม่ช่าชี้ให้เห็นประเด็นต่าง ๆ

เหล่านี้ และปล่อยให้ลูกถกกันเอง ก็ได้รู้แนวคิดของลูก

ๆ มากขึ้น ก็สนุกดี



หลายมื้ออาหารที่ให้ลูกเลือกว่าจะกินแบบไหน ส่วนใหญ่ก็

เลือกที่จะไปกินอาหารจานด่วนแบบ McDonald ซึ่งช่วง

เวลานั้นถือเป็นของใหม่สำหรับลูก ๆ คงอยากลองดูว่ารส

ชาติเหมือนกันไหม


“.. ไปยืนดูที่ป้ายหน้าเคาน์เตอร์นะว่า ลูกจะกินอะไรบ้าง

ทั้งหมดราคาเท่าไร กลับมาเอาตังค์กับแม่ แล้วไปยืนรอ

คิวซื้อเองทุกคน...”


บางคนก็กลับมาเอาเงินในจำนวนที่แตกต่างกันไป แม่ช่า

กับพ่อช้างก็มักจะฝากซื้อในเมนูเดียวกันเพียงเพิ่มจาก

จำนวน one เป็น two


“… ตกลงจะกินอะไรปูน..” “ บิ๊กแมคครับ..”


“ งั้นพ่อฝากด้วยนะปูน เอ้า นี่เงิน ดูนะว่าต้องทอนด้วย

หรือเปล่า..”


“ ไหน ปูนลองพูดให้แม่ฟังซิ เดี๊ยวจะสั่งเขาอย่างงัย...”


ปูนทำหน้าอย่างตั้งใจเหมือนกำลังจะท่องศัพท์หน้าชั้น


“ two big mac and two coke please”


“ ดีมากลูก ไปเลย ...”

“ เอ้า ปันล่ะ ว่างัย กินอะไร” “ ปันจะกินชีสเบอร์เกอร์”

“ สั่งเผื่อแม่ด้วย แต่ไม่เอาโค๊ก นะจะแบ่งกินกับพ่อ ไหนพูดซิ..”

“ two cheese burger and one coke please..”

“ โห เยี่ยมเลย ไป ลองดูลูก พูดดัง ๆ นะ” กำชับด้วย

กลัวว่าลูกจะพูดไม่มั่นใจ แล้วถ้าเขาย้อนถามกลับก็จะทำ

ให้ความมั่นใจหายไปได้ง่าย ๆ



จากคุณ : ชราร่า - [ 4 ก.พ. 50 14:56:26 ]






ความคิดเห็นที่ 5

ความสูงของลูกทั้งสาม สูงกว่าเคาน์เตอร์นิดเดียว แม่ช่า

และพ่อช้างนั่งที่โต๊ะและกลั้นใจดูความเป็นไปของลูก โดย

ไม่ได้ลุกไปด้วย เหมือนส่งลูกไปออกศึกอย่างงัยอย่าง

งั้น ไม่เป็นไร อย่างมากก็ไม่ได้กิน หรือไม่ก็กินของแพง

หน่อย ถ้าได้เงินทอนไม่ครบ คิดแบบนี้


ก็ถือว่าเป็นการเรียนรู้ที่ถูกมากไม่ใช่หรือ



ลูกเดินยิ้มกลับมา คนที่หนึ่ง... คนที่สอง... แล้วก็คนที่

สาม... เย้ ... ได้ของกลับมาตามสั่งด้วยเงินทอนครบเรียบ

ร้อย



“ ตื่นเต้นมากเลยแม่ นึกได้ว่าแม่บอกให้พูดดัง ๆ ก็พูด

ออกไปเลย หัวใจเต้นเร็วมาก เมื่อกี้..” ลูกอวด ด้วยความ

ภูมิใจ


คราวต่อมา ไปกิน food court น้องปันสั่ง


“ one เปาะเปี๊ยะ …” “ what ? !!! ”


ปันวิ่งหน้าตื่นกลับมาที่โต๊ะ ถามว่าทำไมคนจีนไม่รู้จัก

เปาะเปี๊ยะ ล่ะ

“ spring roll ลูก ไม่ใช่เปาะเปี๊ยะ” ลูกก็สงสัยว่า ทำไม

เปาะเปี๊ยะไม่ใช่ภาษาจีน


แม่ก็ไม่รู้เหมือนกัน เรื่องนี้ก็ทำให้ยัยปันเสีย self นิด

หน่อย ต่อมาก็รู้กันอีกว่า เกาลัด ที่คั่วร้อน ๆ อยู่ข้างทาง

มากมาย ก๋วยเตี๊ยวเส้น ก็ไม่ใช่ภาษาจีน ดังนั้นมื้ออาหาร

ส่วนใหญ่ ก็มักจะผูกกับ McDonald เพราะลูกจะมั่นใจใน

การสั่งมากกว่าอาหารชนิด


อื่น ๆ วันหลัง ๆ ก็เริ่มบ่นว่าเบื่อ


“ ก็แล้วทำไมลูกไม่กินอย่างอื่นบ้างล่ะ..” ลูก ๆ ก็เงียบ

แต่ฉันก็ไม่ทันสังเกต


หนึ่งในโปรแกรมก็คือไปส่วนสนุก โอเชี่ยนปาร์ค พ่อช้าง

ให้เด็ก ๆ ทุกคนถือแผนที่ของสวนสนุก คนละแผ่น ก่อน

จะเดินเที่ยว ก็ต้องวางแผนกันว่า มีการแสดงของสัตว์ชนิด

ต่าง ๆ ที่ไหน เวลาใดบ้าง จะได้ไปครบให้ได้มากที่สุด

และการเดินเที่ยวอย่างไรที่ใช้เวลาน้อยที่สุด การแสดง

แบบไหนที่เด็ก ๆ อยากดูมากที่สุดจนถึงน้อยที่สุด เขียน

เลขกำกับไว้ 1, 2, 3 ตามลำดับ

ห้าคนเอาหัวชนกันวางแผนกันพักใหญ่ ก่อนจะออกเดิน

เที่ยวตามแผนที่วางไว้


และตามเคย ทุกคนมีภาระในการรับผิดชอบเป้ของตัวเอง

ประเภทแม่กับพ่อถือสัมภาระให้ตัวเอียง แล้วลูก ๆ เดินกัน

ตัวปลิว คงไม่ใช่สิ่งที่แม่ช่าจะทำเด็ดขาด


คือไม่อยากรังแกลูกอ่ะนะ


ทริปฮ่องกงเป็นทริปที่สนุกมาก เด็ก ๆ มีความทรงจำที่ดี

จนถึงปัจจุบัน แม้ว่าบางคร้งแม่กับพ่อจะใจดำกับลูกบ้างก็

เหอะ

จากคุณ : ชราร่า - [ 4 ก.พ. 50 14:59:18 ]






ความคิดเห็นที่ 6

ปีถัดมา ฉันมีประชุมที่ประเทศสิงคโปร์ งานเสร็จวันศุกร์

ก็อยากพาลูกเที่ยวเสาร์และอาทิตย์ ครั้งนี้พ่อช้างต้องมี

งานที่ต่างจังหวัด ทำงัยล่ะ ง่ายมากเลย เด็กอายุ 10

และ 11 ขวบเดินทางโดยลำพัง พ่อช้างส่งต้นทาง แม่ช่า

รับปลายทาง ระหว่างทางก็ดูแลกันเอง มีโทรไปใช้บริการ

กับทางสายการบินให้ช่วยดูแลให้ ประกอบกับเวลาบินสั้น

มาก ก็เป็นประสบการ์ณที่ดีมากสำหรับเด็ก ๆ


ตอนเด็ก ๆ อยู่มัธยมต้น ฉันเริ่มส่งให้ลูกได้ฝึกอยู่กับตัว

เอง และเพื่อน ๆ ให้ไกลออกไปอีกหน่อย กับโครงการ

summer camp ที่ออสเตรเลีย เพื่ออยากให้เปลี่ยนแปลง

ทั้งด้านชีวิตความเป็นอยู่ อากาศ อาหาร และภาษา ด้วย

ทุนทรัพย์ที่ค่อนข้างจำกัด


เราจึงส่งเด็ก ๆ ไปกันปีละ 1 คนเท่านั้น



ปันถูกส่งไปเป็นคนแรก เป็นงี้แหละสำหรับลูกคนโต ก็

ต้องไปศึกษาและดูลู่ทางให้น้อง ๆ ต่อไป แล้วก็มีเย็นวัน

หนึ่งซึ่งยังเป็นอาทิตย์แรกที่ลูกไปถึงประเทศออสเตรเลีย

ปันโทรเข้ามาที่มือถือ ซึ่งถือเป็นเรื่องแปลก เพราะทุก

ครั้งที่ไปเข้าค่ายหรือใด ๆ ที่ออกห่างบ้าน ลูก ๆ จะไม่

ค่อยโทรเข้าบ้าน แม่ช่าเองก็โทรไปหาน้อยครั้งมาก ดัง

นั้นขณะที่รับสายลูก ก็ใจเต้นไม่ค่อยเป็นจังหวะ ด้วยเกรง

ว่าจะเป็นเรื่องร้าย มากกว่าเรื่องดี


“ แม่ ๆ ปันนะคะ..”


“ เป็นงัยลูก สนุกไหมค่ะ ทุกอย่างเรียบร้อยดีหรือเปล่า..”


“ เรียบร้อยค่ะ แม่ แต่ปันอยากมีเรื่องหนึ่งจะบอก...”



เอาแล้ว... อะไรหว่า ใจตึ๊กตั๊ก ยิ่งอยากรู้ แต่ก็ต้องทำใจดี

ๆ ไว้


“ มีรัยเหรอคะ ลูก บอกแม่ได้นะ ไม่ต้องห่วง...”

“ แม่จำตอนเราไปฮ่องกงได้ไหม เมื่อสองปีที่แล้ว.... ตอน

นั้น แม่ให้เราทำทุกอย่างเอง ..ถือกระเป๋าเป้ ซื้อตั๋ว

รถไฟฟ้าเอง พูดซื้อของเอง สั่งข้าวกินเอง...” แล้วเสียงก็

เงียบไป ฟังคล้ายลูกกำลังสะอื้นอยู่


“ จำได๊ ซิ พวกเราสนุกกันมากเลยใช่ไหม ทริปนั้น...” แม่ช่าแกล้งเถลไถล

“ ก็สนุกนะแม่ แต่แม่รู้ไหม คราวนั้น ปันโกรธแม่มาก

เลย ปันรู้สึกว่าจริง ๆ แล้ว แม่ช่วยลูก ๆ ได้ เพราะแม่พูด

ภาษาได้ พ่อก็พูดจีนได้ แต่ปันกับน้องก็ต้องกิน Mac ทุก

วัน จนเบื่อ ไม่ใช่ว่าชอบนะช่วงหลัง แต่ไม่กล้าสั่งอย่าง

อื่น แม่ก็ไม่คิดจะช่วยเลย..”


“ ปันเคยคิดว่าทำไมแม่ไม่ช่วย หรือว่าแม่ไม่เห็น หรือไม่

รู้สึกว่าลูกลำบาก ปันกับน้องก็โกรธนะ...”

ก็ยังไม่ทันจะพูดอะไรต่อ ปันก็บอกว่า


“ แต่ว่าวันนี้ ครูปล่อยพวกเราเข้าเมืองที่ Melbourne ให้

เที่ยวตามอิสระ และนัดว่า ตอนบ่ายสองโมง รถจะไป

รับ...”


“ ถึงประมาณเที่ยง พี่เลี้ยงที่ไปด้วยบอกว่าให้รอที่คล้าย ๆ

ห้าง เพราะพี่ต้องไปซื้อยา รอถึงบ่ายโมงกว่า ๆ พี่ก็ยังไม่

มา เพื่อน ๆ ปันก็บอกว่าหิวข้าวมาก เพราะวันนี้ไม่ได้เตรียม

กล่องข้าวมากัน น้องคนหนึ่งหิวและกลัวว่าพี่จะไม่มารับจน

ร้องไห้ คนหนึ่งร้อง อีกคนเห็นก็ร้องอีก”

จากคุณ : ชราร่า - [ 4 ก.พ. 50 15:03:41 ]






ความคิดเห็นที่ 7

“ ปันเห็นมีร้าน McDonald ก็บอกให้เพื่อนไปกินที่นี่กัน

แต่เพื่อน ๆ ก็กลัวเพราะสั่งไม่เป็น ปันก็เลยเป็นสั่งให้

เพื่อน ๆ ทั้งหมด 14 คนกิน...ตอนสั่งก็ต่อกันเป็นแถวยาว

ปันอยู่คนแรก แล้วสั่งทีละคน ๆ ”


“ ปันจะโทรมาบอกแม่ว่า ปันรู้แล้วว่าทำไมแม่ถึงปันกับ

น้อง ๆ ทำกันเองจัดการกันเอง ตอนที่สั่ง ปันพูดเสียงดัง

ๆ... และพูดชัด ๆ... และพูดทีละคำ... อย่างที่แม่สอนว่า

ไม่ต้องกลัว..


ปันโทรมาเพื่อบอกแม่ว่าน้องปันขอโทษที่

โกรธแม่อยู่ตั้งนาน.. จริง ๆ แล้ว แม่สอนให้ปันรู้จักช่วยตัว

เอง...”



“ น้องปันดีใจมากเลยวันนี้ ที่ทำให้เพื่อนและพี่บางคน ที่

เข้าเคยเที่ยวต่างประเทศมากกว่าเราด้วยซ้ำ ก็ไม่กล้าพูด

ไม่กล้าสั่ง ต้องให้น้องปันทำให้ วันนี้น้องปันสั่งให้ทุกคน

จนเกือบสั่งให้ตัวเองไม่ทัน เพราะรถโรงเรียนมาพอดี..

ของน้องปันก็เลยบอกเขาว่า take home พี่คนขายเขายัง

หลิวตาให้น้องปันเลยบอกว่า you are super girl… ”



แม่ช่าฟังไปแรก ๆ ก็ตกใจว่า ปล่อยให้ลูกโกรธอยู่ตั้งนาน

ได้งัย ไม่รู้ตัว ต่อ ๆ มาก็น้ำตาไหลด้วยความปลื้มใจ ปลื้ม

ใจว่าในที่สุดเมล็ดพันธุ์เม็ดนี้ ก็เริ่มแตกหน่อ ชูช่อ และแผ่

กิ่งก้าน แตกใบ ให้ได้ชื่นใจกับความพยายามบ่มและเพาะ

เลี้ยงด้วยความอดทนและอดกลั้น


เราต้องยอมให้กิ่งไม้เหล่านั้น ตากลมโดนแดดบ้างเพื่อให้

แกร่ง และ อดทนกับสภาวะที่คาดไม่ได้ เดาไม่ออก เพื่อ

เขาจะได้มีภูมิคุ้มกันที่กล้าแกร่งต่อไป


ก่อนวางหู ปันบอกให้ฉันตัวลอยว่า

“ แม่ You are my super Mom นะแม่”

จากคุณ : ชราร่า - [ 4 ก.พ. 50 15:06:59 ]






ความคิดเห็นที่ 8

มาปาดหรือเปล่า?

สวัสดี พี่ช่า ครับ

ลูกชายคนโตผมตอนนี้ สิบเอ็ด

อยากส่งไปซัมเมอร์ ญี่ปุ่นจัง อิอิ

คงต้องไปอยู่กับคุณตา อายุ 95

ผมนึกภาพไม่ออกเลย อิอิ

จากคุณ : กุ้งไร้สาร - [ 4 ก.พ. 50 16:58:55 ]






ความคิดเห็นที่ 9

.









จากคุณ : akae - [ 5 ก.พ. 50 07:29:17 ]






ความคิดเห็นที่ 10




เหนือคำบรรยายแล้วครับ จะชมดี ก็ดูน้อยเกินไป จะบอกว่าซึ้ง ก็ยังไม่เท่ากับที่ใจรู้สึก


น้องปันพูดถูกแล้วครับ แต่ลืมชมพ่อช้างไปอีกคนนะ









จากคุณ : wasansem - [ 5 ก.พ. 50 09:22:13 ]






ความคิดเห็นที่ 11

You are super Mom.




จากคุณ : คนล่าห่าน - [ 5 ก.พ. 50 09:34:29 ]






ความคิดเห็นที่ 12

You are super Mom. ด้วยคนครับ

ยกนิ้วกี่นิ้วก็ไม่พอครับ ได้อะไร ๆ เยอะอีกแล้วครับ

ขอบคุณแม่ช่ามาก ๆ ครับ









จากคุณ : ozzyii - [ 5 ก.พ. 50 10:41:21 ]






ความคิดเห็นที่ 13

แม่ผมครับ แม่ผม............




จากคุณ : Vprawat - [ 5 ก.พ. 50 10:55:37 ]






ความคิดเห็นที่ 14

ยินดีด้วยครับ กับลูกๆที่มีแม่น่ารัก สำหรับแม่ที่มีลูกน่ารัก

จากคุณ : trakulsom (trakulsom) - [ 5 ก.พ. 50 15:01:44 ]






ความคิดเห็นที่ 15

คุณวรงค์ :- น้องวศิน 11 ขวบแล้วเหรอ เร็วเนอะ คงตัวโตและสูงขึ้นมากแล้ว ตอนนั้นที่เจอ มีแววหล่อเหมือนพระเอกญี่ปุ่น ตอนนี้ก็คงหล่อไม่แพ้พ่อ เรื่องส่งไปที่ญี่ปุ่น
ตอน summer ขอสนับสนุนค่ะ เพราะอย่างน้อย ๆ ก็ไปฝึกภาษา และมีคุณตาคอยดูให้ด้วย ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงมั่งคะ อิจฉาจัง

----------------

คุณเอเก๋:- มาส่งกำลังใจให้ทุกเที่ยวเลยนะคะ ขอบคุณมาก ๆ แม้ ไม่พูดอะไร แต่ก็ปลื้มมาก ๆ ค่ะ ขอบอก

--------------------

คุณวสันเษม ฯ:- เรื่องพ่อช้าง น้องปันไม่ได้ลืมค่ะ เพราะหลังจากนั้น ก็ส่ง postcard มาให้พ่อ แล้วก็ขอบคุณพ่อที่
เอาใจช่วยมาตลอด ตอนกลางคืน พ่อกับลูก ๆ ชอบแอบ
แม่ช่า ไปบอกศัพท์ลูก ๆ ค่ะ แอบรู้ค่ะ แต่ก็ทำไม่รู้เรื่องซะงั้น

--------------

คุณห่าน :- YOU ARE SUPER DAD ค่ะ

--------------

คุณออสซี่ :- ขอบคุณสำหรับนิ้วที่ยกให้ค่ะ หวังว่ามีประโยชน์บ้างนะคะ

---------------

หมอวัติ:- จะให้เป็นแม่จริงเหรอ โหดนะ บอกก่อน อิอิ

------------------

คุณtrakulsom ;- ขอบคุณค่ะ คุณก็เช่นกัน คงเป็น Super Dad ของลูกแน่ ๆ เลย

-------------------

จากคุณ : ชราร่า - [ 5 ก.พ. 50 22:43:33 ]






ความคิดเห็นที่ 16

หมอวัติ:- จะให้เป็นแม่จริงเหรอ โหดนะ บอกก่อน อิอิ


ผมชอบ ซาดิสซ์ ครับ

จากคุณ : Vprawat - [ 6 ก.พ. 50 11:30:31 ]






ความคิดเห็นที่ 17

แอบมาอ่านครับ อ่านแล้วน้ำตาคลอเลยครับ ดีใจแทนลูกๆที่มีแม่น่ารักครับ You are super Mom.

จากคุณ : w.tesla - [ 7 ก.พ. 50 13:23:46 ]






ความคิดเห็นที่ 18



จากคุณ : ชราร่า - [ 7 ก.พ. 50 19:59:29 ]









Create Date : 09 กุมภาพันธ์ 2550
Last Update : 9 กุมภาพันธ์ 2550 19:03:14 น. 1 comments
Counter : 367 Pageviews.

 
สวัสดีครับ...คุณแม่ฯ....


ทุกๆคนคิดถึงนะครับ....ว่างๆ เข้าไปทักทายบ้างนะครับ..



โดย: akae วันที่: 26 พฤษภาคม 2550 เวลา:12:38:28 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ชราร่า
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




");}
Friends' blogs
[Add ชราร่า's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.