Anorexia : เมื่อความผอมเป็นที่น่ารังเกียจ


            
หลายเดือนที่แล้ว ชาวมิลาน โรม และเมืองอื่นๆในอิตาลี ต่างตกตะลึงกับป้ายโฆษณาสยองขวัญ ของหญิงสาวเปลือยกายทั้งร่าง แต่เป็นร่างที่เหลือแต่หนังหุ้มกระดูก และแววตาชวนสยองปนสลด ราวกับผีดิบไม่ยอมตาย ซึ่งมองมาทางผู้ชมด้วยสายตาที่ยากจะบรรยายหรือตีความ ช่างขัดต่อตัวอักษรน่ารักสีชมพูขาวที่พาดผ่านเสียจริงๆ นี่ถ้าคำเปรียบเปรยถึงความผอมในภาษาไทยเราจะใช้ว่า “ผอมเป็นไม้เสียบผี” นี่ก็อาจจะเรียกได้ว่าเป็น “นู้ดผีเสียบไม้” ก็ได้

เปล่าครับ นี่ไม่ใช่โฆษณาภาพยนตร์เรื่อง Resident Evil ภาคใหม่ แต่ว่าเป็นโฆษณาของเสื้อผ้ายี่ห้อหนึ่งของอิตาลี คือ Nolita ในนโยบายโฆษณา “No Anorexia, Nolita”

ผลงานภาพถ่ายโดย โอลิเวียโร ทอสกานี (Oliviero Toscani) ช่างภาพผู้มีชื่อเสียงผู้เคยมีผลงานสร้างชื่อกับเบเนตตอง ส่วนนางแบบเป็นสาวฝรั่งเศสนาม อิสซาเบล กาโฅร (Isabelle Caro) อายุ 27 ปี ผู้มีน้ำหนักเพียง 32 กิโลกรัม เมื่อเทียบกับส่วนสูง 165 เซนติเมตรของเธอ

อิซซาเบลป่วยด้วยอาการอโนเร็กเซียมาตั้งแต่อายุ 13 ปีแล้ว เธออุทิศตนยอมถ่ายแฟชั่นนู้ดสยองขวัญนี้ เพื่อเตือนใจบรรดาสาวๆนักอยากผอมว่า อาการปฏิเสธอาหารนี้ เป็นเรื่องที่ “ผิด” และมีอันตรายอย่างแรงถึงชีวิต ไม่ควรทำตามเป็นเยี่ยงอย่าง

อาการอโนเร็กเซีย หรือ Anorexia มีที่มาจากภาษากรีก คือ คำว่า A หรือ An ที่แปลว่าปราศจาก กับ orexe ที่แปลว่า ความอยากอาหารอาหาร ในภาษาอังกฤษชื่ออาการนี้มีชื่อสามัญว่า Decreased Appetite อันที่จริงชื่ออาการอโนเร็กเซียนี้ ไม่ได้หมายความถึงการปฏิเสธอาหารด้วยเหตุผลทางจิตเสียทีเดียวนัก

ในทางการแพทย์ อาการ Anorexia (รหัสอาการในระบบ CDI-10 คือ R63.0) สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น ความเครียด เอดส์ มะเร็ง หรืออาการทางสมองอื่นๆ แต่อาการอโนเร็กเซียที่กำลังเป็นที่กล่าวถึงมากในโลกปัจจุบัน คืออาการปฏิเสธอาหารอันเนื่องมาจากสภาพทางจิต หรือ Anorexia nervosa ซึ่งเป็นอาการปฏิเสธอาหารอันเนื่องมาจากสภาพทางจิตใจ และการลดความอ้วนที่ไม่ถูกวิธี เช่น การอดอาหารอย่างรุนแรง การบังคับให้อาเจียน การรับยาบางอย่างเข้าไป ซึ่งในที่สุด เมื่อเกิดอาการปฏิเสธอาหารแล้ว ร่างกายจะปรับตัวให้ตัวใจเต้นช้าลง และไม่รับอาหาร ซึ่งก็จะประกอบกับอาการทางจิต ที่จะหวาดกลัวต่อการที่มีน้ำหนักตัวเพิ่ม หรือการที่น้ำหนักไม่ลดลง

อโนเร็กเซีย เป็นปัญหาสุขภาพที่เกิดมาจากจิต และเป็นปัญหาทางจิต ที่เกิดเนื่องมาจากสังคม โดยเฉพาะค่านิยมความงามในยุคหลัง ที่มาจากตะวันตกเอง คือ “ยิ่งผอม ยิ่งสวย” โดยสะท้อนผ่านออกมายังนางแบบระดับโลก ที่จะถือว่า สวยงามระดับโลกได้ ก็ต้องมีเรือนร่างอันผอมบางราวกับโครงกระดูกที่มีหน้าที่เอาไว้เพียงแค่แขวนเสื้อผ้า

ค่านิยมนี้ถูกสลักฝังลงในสัญชาติญาณเบื้องต้นของหญิงสาวตั้งแต่ยังเด็ก ดังเช่นที่นางแบบในข่าว เธอให้สัมภาษณ์ว่า เธอป่วยเป็นโรคนี้มาตั้งแต่อายุ 13 ปี ซึ่งนับว่าอยู่ในวัยแรกสาว

ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องน่ากลัว เพราะค่านิยมเช่นนี้ยังถูกปลุกฝังกันอยู่ เพิ่งจะเริ่มมาต่อต้านกันจริงจังไม่เกินสองปีมานี้เอง เชื่อว่าอาการนี้น่าจะเป็นปัญหาใหญ่เชิงสุขภาพของประชาคมโลกได้ เมื่อเด็กหญิงที่เกิดในช่วงก่อนหน้า และหลังจากเธอจำนวนหนึ่ง จะแสดงอาการของโรคนี้ในวัยสาว

ราวกับรู้ว่า ต้นกำเนิดของค่านิยมที่ทำให้เกิดโรคภัยชนิดใหม่ต่อมวลมนุษยชาติ มีกำเนิดมาจากแฟชั่นทางฝั่งยุโรป เริ่มมีการตื่นตัวในการพยายาม “แก้ไข” ค่านิยมนี้

เช่นกรณีของเสปน ที่เป็นประเทศแรก มีกฎหมายห้ามนางแบบที่ผอมเกินกว่าค่ามาตรฐาน มิให้เดินแบบบนแคทวอล์ก รวมทั้งการห้ามแสดงหุ่นลองเสื้อขนาดเล็กเกินไปในร้านขายเสื้อผ้า และปรับขนาดเสื้อผ้าจากเสื้อผ้าเบอร์ 46 ยุโรป ที่เดิมถือว่า เป็นเสื้อผ้าขนาด “ใหญ่” ให้ถือว่าเป็นเสื้อผ้าขนาด “ปกติ"”ไปแล้ว

แองเจลา เออราส (Angela Heras) ผู้อำนวยการองค์กรคุ้มครองผู้บริโภค กล่าวว่า “แฟชั่นนั้นต้องยอมรับให้ผู้หญิงสามารถรู้สึกดี ในสิ่งที่ตัวเองเป็นอยู่ได้”
          
ปัจจุบันผู้หญิงชาวเสปนหนึ่งแสนคน ได้ป่วย หรือมีแนวโน้มว่าจะป่วย ด้วยโรคปฏิเสธอาหารนี้ นี่อาจจะเป็นสาเหตุให้เสปน เป็นประเทศแรกในยุโรป ที่มีกฎหมายมาควบคุมเรื่องแฟชั่นที่สร้างค่านิยมอันตรายเช่นว่านี้

ส่วนในประเทศไทยเรา หลายคนที่ชอบอ่านข่าวหรือซื้อหนังสือพิมพ์ นิตยสารแนวซุบซิบดารา หรือได้รับฟอร์เวิร์ดเมล์หรืออ่านกระทู้ในเวบบอร์ด คงตกตะลึงกับภาพของนางแบบสาวอดีตท๊อปโมเดลของประเทศ ผู้ที่เคยโฆษณากาแฟเย็นยี่ห้อหนึ่งจนเล่นเอารถชนกันบนทางด่วนมาแล้ว

ปัจจุบันนี้นอกจากชื่อเสียงเธอที่หายไปจากวงการแล้ว การกลับมาของเธอก็สร้างความน่าสะพรึง ด้วยรูปร่างที่ซูบผอมจนเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก ตาโรย แก้มเป็นโหนก ผมกระเซิงดูขาดสารอาหาร แทบไม่เหลือร่องรอยของสาวเซ็กซี่ในอดีต

แม้เธอจะแก้ตัวว่ามาจากการโหมเล่นกีฬาอย่างหนัก แต่ก็ยากที่ใครจะเชื่อ และสงสัยว่า เธอกำลังทุกข์ทรมานด้วยโรคภัยจากอาการอโนเร็กเซียนี่หรือไม่

แม้สถานการณ์ของประเทศไทย ยังไม่แย่ หรือจัดว่าน่าเป็นห่วงเท่าในยุโรป กระนั้น ค่านิยมในสังคมไทยก็มีการบีบสร้างค่านิยมอื่นนอกเหนือจากความ “ผอม” คือ “ความขาว” จากในโฆษณาเครื่องสำอางฟอกสีหลายต่อหลายชนิด หลายยี่ห้อ หลายเกรด มีเรื่องตลกคือ มีเครื่องสำอางของฝรั่งเศสบางแบรนด์ ที่ทำสูตรไวท์เทนนิ่ง เพื่อขายในโซนเอเชียเท่านั้น ! มาซื้อในฝรั่งเศสนี้ก็ไม่มีขาย

อาจจะอีกสักพัก ที่สังคมของเราอาจจะเห็นปัญหา คงต้องจับตาและเริ่มดำเนินการอย่างจริงจังบ้าง อย่างน้อยก็ควรจะปรามค่านิยมเรื่อง “ผอมสวย” หรือ “ขาวแบบคนกรุงเทพฯ” เพื่อป้องกันไม่ให้สาวไทยเรากลายเป็นผีเสียบไม้ฟอกสี เดินลากขาไปทั่วสยามสแควร์เหมือนในหนังสยองขวัญ.



Create Date : 09 พฤศจิกายน 2550
Last Update : 9 พฤศจิกายน 2550 3:49:12 น. 5 comments
Counter : 1922 Pageviews.  

 
ดูรูปแล้ว น่ากลัวมากค่ะ


โดย: น้ำเงี้ยว วันที่: 9 พฤศจิกายน 2550 เวลา:17:21:35 น.  

 
ตอนนี้เริ่มภูมิใจกับความอวบระยะสุดท้ายของตัวเองแล้วค่าาาาา


โดย: Sensitive's girl blog วันที่: 9 พฤศจิกายน 2550 เวลา:18:32:55 น.  

 
ผอมไปก็ไม่สวย อิอิ จะอดอาหารไปไย มีความสุขกับการกินดีกว่าค่ะ ฮี่ๆๆ


โดย: Complicatedgirl วันที่: 9 พฤศจิกายน 2550 เวลา:20:27:11 น.  

 
เรื่องนี่ดีจังเลยยย

เอาไปทำงานนะคะ


โดย: 3429 IP: 210.86.142.38 วันที่: 29 พฤษภาคม 2551 เวลา:0:59:33 น.  

 
เปนค่ะ
ทรมานมากมาย

ฝากเพื่อนๆเลยค่ะอย่ากังวลเรื่องนี้เลยนะ
ดูแลสุขภาพดีที่สุดค่ะ


โดย: เยเย่ IP: 58.8.2.33 วันที่: 24 ตุลาคม 2552 เวลา:14:31:53 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Players
Location :
Aix-en-Provence France

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add Players's blog to your web]