BlessBox

เจ็บคอ ใช้อะไรพ่นดี


อาการที่พบได้เยอะสุด ของคนที่ติดโอมิครอนคือ เจ็บคอ เจ็บหนัก ๆ แบบแสบคอ แล้วก็จะไอ ยิ่งถ้าเด็ก ๆ จะเจ็บคอม ทานข้าวไม่ได้ ร้องไห้หนัก เห็นแล้วก็น่าสงสาร
.
โพสนี้แชร์ประสบการณ์ติดโควิดทั้งบ้าน บ้านแอดมินใช้ตัวไหนบ้างมาดูกันเลย เริ่มที่ตัวแรก
.
1 Difflam Forte
ตัวนี้คุณหมอที่พญาไทจัดมาให้เลย • แก้ต่อมทอนซิลอักเสบ • ลดการเจ็บคอ ฉีดแล้วเย็นสบาย รสเหมือนยาอมมายบาซิน ตัวนี้เขาว่ามันฆ่าเชื้อได้ ลดการอักเสบได้ด้วย แต่บางคนอาจจะไม่ชอบรสเหมือนยาไปหน่อย
.
2 Eureko Mouth Spray
อันนี้จริง ๆ เป็นตัวที่ใช้สำหรับเด็ก เด็กเล็ก สามเดือน ขวบหนึ่งก็ใช้ได้ ใช้ในกรณี ปาก คอ อักเสบ มือเท้าปาก หายเจ็บภายใน 1 นาที เรียกว่า บรรเทาละกัน เหมาะสำหรับบ้านที่มีเด็ก ต้องมีติดเอาไว้เลย อย่างน้อยเจ้าตัวเล็กก็หายเจ็บ ทานข้าวทานน้ำได้ ผู้ใหญ่ที่เจ็บมาก ๆ ก็ใช้ได้เช่นกัน
.
3 Beepolis ตัวนี้เหมือนกับ คามิโลซาน
ช่วงหนึ่งมีข่าวออกมาว่า สองตัวนี้มีความสามารถในการฆ่าเชื้อที่คอได้ เพราะงั้นจึงนิยมหามาฉีดพ่นคอกัน แอดมินใช้ตัวนี้มาตลอด แต่พอติดโควิด ก่อนไปหาหมอ ฉีดแล้วรู้สึกว่า เจ็บมากกว่าเดิม อาจจะเป็นเพราะช่วงนั้นคือช่วงพีคของอาการ พอได้ตัวอื่นมาก็หยุดตัวนี้
.
4 Betadine Throat Spray
ตัวนี้ก็ชอบขาดตลาด นิยมใช้เหมือนตัวที่สาม แต่เขาว่าดีกว่า ชื่อเบตาดีนเหมือนยาใส่แผลเลย แต่อันนี้เป็นตัวใช้สำหรับช่องปากและลำคอ มีส่วนผสมของโพวิโดน-ไอโอดีน เป็นแอนตี้เซพติค มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ลดการอักเสบได้
.
ส่วนตัวชอบ เบตาดีน มากที่สุด แต่อยากแนะนำสำหรับบ้านที่มีเด็กติดโควิด หรือ คนที่เจ็บแบบทรมาน ใช้ตัว ยูเรโกะ เม้าท์สเปรย์ อันนี้ช่วยได้เลย ถ้าสนใจตัวนี้จะหาซื้อยากหน่อย ลองทักไปที่นี่ได้เลย https://line.me/R/ti/p/%40608rcxqn
.
ตอนนี้แอดมินหายดีละ
ทุกคนในบ้านปลอดภัย
ขอให้เพื่อน ๆ ทุกคนแข็งแรง
ปลอดภัย ไกลโรคกันทุกคนนะคะ




 

Create Date : 01 เมษายน 2565   
Last Update : 1 เมษายน 2565 21:46:48 น.   
Counter : 3116 Pageviews.  

ชีวิตก็แค่นี้แหล่ะ

6927e7a5jw1dj4yjztoshg

ศาสนาพุทธสอนให้เรารู้ว่าไม่มีสิ่งใดแน่นอน แต่มีความแน่นอนว่าคนเราเกิดมาแล้วต้องตาย ไม่มีใครหนีพ้น ชีวิตของทุกคนเริ่มต้น เหมือนกัน มีแนวทางเดินคล้ายกันแต่ต่างกันที่รายละเอียดและคุณภาพการใช้ชีวิต แต่ถ้าคิดๆดูดแล้วก็ไม่ต่างกันมาก เกิด เรียน ทำงาน แก่ชรา ตาย ชีวิตก็แค่นี้เอง

ทำอย่างไรให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น ทำอย่างไรให้มีความสุขกับชีวิตในทุกๆวันได้ ทำอย่างไรให้มีรูปแบบชีวิตเหมือนกับทุกคนได้แต่มีความสุขมากกว่า ไม่ว่าคุณจะมีมากมีน้อย ไม่ว่าจะเกิดมาในครอบครัวที่ร่ำรวย หรือยากจน สุดท้ายก็ต้องผ่านวงจรชีวิตเช่นนี้เหมือนกัน

ที่มา Just Freelance




 

Create Date : 13 กรกฎาคม 2557   
Last Update : 13 กรกฎาคม 2557 9:54:38 น.   
Counter : 1630 Pageviews.  

10 คำคม 10 ภาษา

10 คำคม  10 ภาษา


ภาษาจีน 每个人有自己的路要走
(เม่ยเกอะเริ่น โย่วจื้อจี๋เตอะลู้เย้าโจ่ว)
ความหมาย ทุกคนมีทางเดินเป็นของตัวเอง



ภาษาอังกฤษ Life is what we make of it
(ไลฟ์ อิส วอท วี เมค ออฟ อิท)
ความหมาย ชีวิตคือสิ่งที่เราสร้างเอง



ภาษาญี่ปุ่น 天は人の上に人をつくらず 人の下に人をつくらず
(เทน วะ ฮิโตะโนอูเอะ นิ ฮิโตะโวะ ซึคุราซึ ฮิโตะโนะชิตะ นิ ฮิโตะโวะ ซึคุราซึ)
ความหมาย ฟ้ามิได้สร้างคนให้อยู่เหนือคน และมิได้สร้างคนให้อยู่ใต้คน



ภาษาฝรั่งเศส Le génie est une longue patience
(เลอ เจนี เอ อูน ลง ปาซิยองซ์)
ความหมาย อัจฉริยภาพคือความอดทนอันยาวนาน



ภาษาเกาหลี 하늘에 별 따기
(ฮานึลเล พยอล ตากี)
ความหมาย เด็ดดาวบนท้องฟ้า



ภาษาเยอรมัน Das Leben ist eine Reise
(ดาส เลเบน อิส อายเนอ ไรเซอ)
ความหมาย ชีวิตคือการเดินทาง



ภาษาสเปน Cuando una puerta se cierra, otra se abre
(ก๊วนโด้ อู๊น่า ปูเอรฺต้า เซ เซียร่า โอ๊ตร้า เซ อาเบร่)
ความหมาย เมื่อประตูบานนึงถูกปิดลง อีกประตูก็จะเปิดขึ้น



ภาษาเวียดนาม Ai cũng phải chết một lần
(อาย กุ๊ง ฝาย เจ๊ท โหมด เหลิ่น)
ความหมาย คน เราตายได้แค่ครั้งเดียว


ภาษาอิตาเลียน Non fare il passo più lungo della gamba
(นน ฟาเร่ อิล ปั๊สโซ่ ปิ๊ว ลุงโก้ เดลลา กัมบ้า)
ความหมาย อย่าก้าวเท้ายาวกว่าความยาวของขา



ภาษาดัทช์ Waar een wil is, is een weg
(วาร์ เอิ่นวิลอีส อีสเอิ่นเว็ก)
ความหมาย ถ้า ไม่ท้อถอยซะก่อน หนทางสำเร็จก็ไม่ไปไหน




 

Create Date : 07 กันยายน 2556   
Last Update : 7 กันยายน 2556 21:12:56 น.   
Counter : 1630 Pageviews.  

8 x 3 = 23

3 x 8 = ?

เอี๋ยนหุยใฝ่ศึกษา มีคุณธรรมงดงาม เป็นศิษย์รักของขงจื้อ มีอยู่วันหนึ่ง
เอี๋ยนหุยออกไปทำธุระที่ตลาด
เห็นผู้คนจำนวนมากห้อมล้อมอยู่ที่หน้าร้านขายผ้า


จึงเข้าไปสอบถามดู จึงรู้ว่าเกิดการพิพาทระหว่างคนขายผ้ากับลูกค้า
ได้ยินลุกค้าตะโกนเสียงดังโหวกเหวกว่า “3x8ได้ 23 ทำไมท่านถึงให้ข้าจ่าย24เหรียญล่ะ!”
เอี๋ยนหุยจึงเดินเข้าไปที่ร้าน หลังจากทำความเคารพแล้ว ก็กล่าวว่า
“พี่ชาย 3x8 ได้ 24 จะเป็น 23 ได้ยังไง?
พี่ชายคิดผิดแล้ว ไม่ต้องทะเลาะกันหรอก”
คนซื้อผ้าไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง ชี้หน้าเอี๋ยนหุยและกล่าวว่า
“ใครให้เจ้าเข้ามายุ่ง! เจ้าอายุเท่าไหร่กัน! จะตัดสินก็มีเพียงท่านขงจื้อเท่านั้น
ผิดหรือถูกมีท่านผู้เดียวที่ข้าจะยอมรับ
ไป ไปหาท่านขงจื้อกัน ”



เอี่ยนหุยกล่าวว่า “ก็ดี หากท่านขงจื้อบอกว่าท่านผิด ท่านจะทำอย่างไร?”
คนซื้อผ้ากล่าวว่า“หากท่านวินิจฉัยว่าข้าผิด ข้ายอมให้หัวหลุดจากบ่า! แล้วหากเจ้าผิดล่ะ?”
เอี๋ยนหุยกล่าวว่า “หากท่านวินิจฉัยว่าข้าผิด ข้ายอมถูกปลดหมวก(ตำแหน่ง)”
ทั้งสองจึงเกิดการเดิมพันขึ้น
เมื่อขงจื้อสอบถามจนเกิดความกระจ่าง ก็ยิ้มให้กับเอี๋ยนหุยและกล่าวว่า
 “3x8ได้ 23 ถูกต้องแล้วเอี๋ยนหุย เธอแพ้แล้ว ถอดหมวกของเธอให้พี่ชายท่านนี้เสีย”
เอี๋ยนหุย ไม่โต้แย้ง ยอมรับในการวินิจฉัยของท่านอาจารย์ จึงถอดหมวกที่สวมให้แก่ชายคนนั้น
ชายผู้นั้นเมื่อได้รับหมวกก็ยิ้มสมหวังกลับไป


ต่อคำวินิจฉัยของขงจื้อ ต่อหน้าแม้เอี๋ยนหุยจะยอมรับ แต่ในใจกลับไม่ได้คิดเช่นนั้น
เอี๋ยนหุยคิดว่าท่านอาจารย์ชรามากแล้ว ความคิดคงเลอะเลือน จึงไม่อยากอยู่ศึกษากับขงจื้ออีกต่อไป
พอรุ่งขึ้น เอี๋ยนหุยจึงเข้าไปขอลาอาจารย์กลับบ้าน ด้วยเหตุผลที่ว่าที่บ้านเกิดเรื่องราว ต้องรีบกลับไปจัดการ
ขงจื้อรู้ว่าเอี๋ยนหุยคิดอะไรอยู่ ก็ไม่ได้สอบถามมากความ อนุญาตให้เอี๋ยนหุยกลับบ้านได้
ก่อนที่เอี๋ยนหุยจะออกเดินทาง ได้เข้าไปกราบลาขงจื้อ ขงจื้อกล่าวอวยพรและให้รีบกลับมาหากเสร็จกิจธุระแล้ว
พร้อมกันนั้นก็ได้กำชับว่า “อย่าแฝงเร้นกายใต้ต้นไม้ใหญ่ อย่าฆ่าผู้ใดหากไม่ชัดแจ้ง”
เอี๋ยนหุยคำนับพร้อมกล่าวว่า “ศิษย์จะจำใส่ใจ” แล้วลาอาจารย์ออกเดินทาง



เมื่อออกเดินทางไปได้ระยะหนึ่ง เกิดพายุลมแรงสายฟ้าแลบแปลบ เอี๋ยนหุยคิดว่าต้องเกิดพายุลมฝนเป็นแน่
จึงเร่งฝีเท้าเพื่อจะเข้าไปอาศัยอยู่ไต้ต้นไม้ใหญ่ แต่ก็ฉุกคิดถึงคำกำชับของท่านอาจารย์ที่ว่า
“อย่าแฝงเร้นกายใต้ต้นไม้ใหญ่ อย่าฆ่าผู้ใดหากไม่ชัดแจ้ง”
เราเองก็ติดตามท่านอาจารย์มาเป็นเวลานาน ลองเชื่ออาจารย์ดูอีกสักครั้ง คิดได้ดังนั้น จึงเดินออกจากต้นไม้ใหญ่
ในขณะที่เอี๋ยนหุยเดินไปได้ไม่ไกลนัก บัดดล สายฟ้าก็ผ่าต้นไม้ใหญ่นั้นล้มลงมาให้เห็นต่อหน้าต่อตา


เอี๋ยนหุยตะลึงพรึงเพริด
คำกล่าวของพระอาจารย์ประโยคแรกเป็นจริงแล้ว หรือตัวเราจะฆ่าใครโดยไม่รู้สาเหตุ?

เอี๋ยนหุยจึงรีบเดินทางกลับ กว่าจะถึงบ้านก็ดึกแล้ว แต่ไม่กล้าปลุกคนในบ้าน
เลยใช้ดาบที่นำติดตัวมาค่อยๆเดาะดาลประตูห้องของภรรยา
เมื่อเอี๋ยนหุยคลำไปที่เตียงนอน ก็ต้องตกใจ ทำไมมีคนนอนอยู่บนเตียงสองคน!
เอี๋ยนหุยโมโหเป็นอย่างยิ่ง จึงหยิบดาบขึ้นมาหมายปลิดชีพผู้ที่นอนอยู่บนเตียง
เสียงกำชับของอาจารย์ก็ดังขึ้นมา “อย่าฆ่าผู้ใดหากไม่ชัดแจ้ง”


เมื่อเขาจุดตะเกียง จึงได้เห็นว่า คนหนึ่งคือภรรยา อีกคนหนึ่งคือน้องสาวของเขาเอง
พอฟ้าส่าง เอี๋ยนหุยก็รีบกลับสำนัก
เมื่อพบหน้าขงจื้อจึงรีบคุกเข่ากราบอาจารย์และกล่าวว่า
“ท่านอาจารย์ คำกำชับของท่านได้ช่วยชีวิตของศิษย์ ภรรยาและน้องสาวไว้
ทำไมท่านจึงรู้เหมือนตาเห็นว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับศิษย์บ้าง?”
ขงจื้อพยุงเอี๋ยนหุยให้ลุกขึ้น และกล่าวว่า “เมื่อวานอากาศไม่ค่อยสู้ดีนัก น่าจะมีฟ้าร้องฟ้าแลบเป็นแน่
จึงเตือนเธอว่า อย่าแฝงเร้นกายใต้ต้นไม้ใหญ่
และเมื่อวาน เธอจากไปด้วยโทสะ แถมยังพกดาบติดตัวไปด้วย
อาจารย์จึ้งเตือนเธอว่า อย่าฆ่าผู้ใดหากไม่ชัดแจ้ง ”



เอี๋ยนหุยโค้งคำนับ “ท่านอาจารย์คาดการดังเทวดา ศิษย์รู้สึกเคารพเลื่อมใสท่านเหลือเกิน”
ขงจื้อจึงตักเดือนเอี๋ยนหุยว่า “อาจารย์ว่าที่เธอขอลากลับบ้านนั้นเป็นการโกหก ที่จริงแล้วเธอคิดว่าอาจารย์แก่แล้ว ความคิดเลอะเลือนไม่อยากศึกษากับอาจารย์อีกแล้ว


เธอลองคิดดูสิ อาจารย์บอกว่า 3x8ได้ 23 เธอแพ้ ก็เพียงแค่ถอดหมวก
หากอาจารย์บอกว่า 3x8ได้ 24 เขาแพ้ นั่นหมายถึงชีวิตของคนๆหนึ่ง เธอคิดว่าหมวกหรือชีวิตสำคัญล่ะ? ”

เอี๋ยนหุยกระจ่างในฉับพลัน คุกเข่าต่อหน้าขงจื้อ แล้วกล่าวว่า
“ท่านอาจารย์เห็นคุณธรรมเป็นสำคัญ โดยไม่เห็นแก่เรื่องถูกผิดเล็กๆน้อยๆ
ศิษย์คิดว่าอาจารย์แก่ชราจึงเลอะเลือน ศิษย์เสียใจเป็นที่สุด
”

จากนั้นเป็นต้นไป ไม่ว่าขงจื้อจะเดินทางไปยังแห่งหนตำบลใด เอี๋ยนหุยติดตามไม่เคยห่างกาย
จากตำนานเรื่องเล่านี้ ทำให้ข้าพเจ้านึกถึงเพลงๆหนึ่งของอิวเค่อหลี่หลิน(นักร้องดูโอของไต้หวัน)
ที่ร้องว่า “หากสูญเสียเธอไป ต่อให้เอาชนะทั้งโลกได้แล้วจะยังไง? เช่นกัน
บางครั้งคุณอาจเอาชนะคนอื่นด้วยเหตุผลของคุณ แต่อาจจะสูญเสียสิ่งที่สำคัญที่สุดไป ”
เรื่องราวต่างๆ แบ่งเป็นหนักเบารีบช้า อย่าเป็นเพราะต้องการเอาชนะให้ได้ แล้วทำให้เสียใจไปตลอดชีวิต
เรื่องราวมากมายที่ไม่ควรทะเลาะกัน ถอยหนึ่งก้าวทะเลกว้างฟ้างาม


ทะเลาะกับลูกค้า ต่อให้ชนะ ก็แพ้อยู่ดี (วันที่ส่งตัวอย่างผลิตภัณฑ์ใหม่ คุณก็จะรู้สึก)
ทะเลาะกับเถ้าแก่ ต่อให้ชนะ ก็แพ้อยู่ดี (วันที่ตรวจผลงานปลายปีมาถึง คุณก็จะรู้สึก)
ทะเลาะกับภรรยา ต่อให้ชนะ ก็แพ้อยู่ดี (เธอไม่สนใจคุณ คุณก็หากับข้าวกินเองละกัน)
ทะเลาะกับเพื่อน ต่อให้ชนะ ก็แพ้อยู่ดี (เคลียร์ไม่ได้ คุณอาจจะเสียเพื่อนไปเลย)
ใบชา เกิดสีสวยและกลิ่นหอมน่าลิ้มลองได้ ก็เพราะโดนน้ำร้อนลวก
ชีวิตของคนเราก็เช่นเดียวกัน เพราะเผชิญกับอุปสรรคครั้งแล้วครั้งเล่า
จึงเหลือไว้ซึ่งเรื่องราวเป็นตำนานให้ได้เล่าขานน่าตามติด
ผู้ที่รู้สำนึกคุณอยู่เสมอ จึงเป็นผู้มีวาสนามากที่สุด



คัดลอกมา ไม่มีที่ไปที่มาแน่นอน 






Free TextEditor




 

Create Date : 12 พฤษภาคม 2554   
Last Update : 12 พฤษภาคม 2554 11:27:30 น.   
Counter : 633 Pageviews.  

กระจกสามบาน

เรื่องเล่าเรื่องนี้มีอยู่ว่า


กระจกมีสามบาน
1. กระจกที่ทำด้วยทองเหลือง ส่องเห็นหน้าตาและอาภรณ์
2. กระจกที่ทำด้วยประวัติศาสตร์ ส่องเห็นความรุ่งเรืองและความเสื่อมโทรม
3. กระจกที่เป็นคนรอบข้าง ส่องให้เห็นความสำเร็จและความล้มเหลวของตัวเรา


ทุกคนควรมีกระจกสามบาน สามแบบนี้ เอาไว้ตรวจสอบตัวเองอยู่เสมอๆ


อ่านเจอจากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ขอบคุณครับ 






Free TextEditor




 

Create Date : 26 กรกฎาคม 2553   
Last Update : 26 กรกฎาคม 2553 23:31:06 น.   
Counter : 643 Pageviews.  

1  2  3  

DD MAN
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เชื่อเสมอว่าโชคดี
แท้จริงแล้วคือผลของการตัดสินใจที่ดีเท่านั้นเอง
[Add DD MAN's blog to your web]