My Diary
Group Blog
 
All blogs
 
เที่ยว 3 คน บนเกาะฮ่องกง ... วันที่ 2

หวังว่า Bloggang ของพันธ์ทิพย์จะอยู่ยั้ง ยืนยง ตลอดไปนะจ๊ะ เพราะไม่ได้บันทึกไว้ในไดอารีเลย เนื่องจากตอนอยู่ฮ่องกงนั้น ขี้เกียจและเหนื่อยมาก ไม่มีอารมณ์จะบันทึกอะไรเลย เลยต้องมาเค้นออกจากความทรงจำ และหวังว่า จะยังคงอยู่ไปนานๆ (จนแก่ .. .. แต่นี้ก็แก่แล้วน๊า...)

วันที่สอง เป็นวันที่นัดกับทัวร์ เพื่อจะพาเราไป city tour ก็คงหมายถึง ทัวร์เมืองฮ่องกงนั่นแหละ เค้ามีไกด์มาให้เราด้วย 1 คน

7.20 เราลงมารอพี่ไกด์ ที่ Lobby โรงแรม เห็นในโปรแกรมทัวร์แล้ว ว่าจะพาเราไปชมวิวของเกาะฮ่องกง ไปไหว้เจ้าแม่กวนอิม ไปโรงงานจิวเวอรี่ (ใครอยากไปฟะ ไม่มีตังเฟ้ยยย..) แล้วตอนบ่าย ก็ไปขึ้นกระเช้านองปิง และไปไหว้พระใหญ่หลินโป ... จากนั้น ก็กลับมาดู Symphony of light ที่ริมฝั่งฮ่องกง ..

7.30 พี่ไกด์มาแว๊ว เป็นสาว(ใหญ่)ไทย ใจกล้าหาญ ที่คุยเก่งมัก มัก ... เห็นว่าช่วงโรคซาร์ระบาด แล้วธุรกิจทัวร์ซบเซา แต่เจ๊แกบอกว่า แกไม่มีปัญหา แถมเล่าว่าแกได้ลงหนังสือคู่สร้างคู่สมด้วย เป็นเรื่องประมาณไกด์ไทย หัวใจทรนง อะไรประมาณนั้นอ่ะ ... 555 เห็นเจ๊แกเล่าให้ฟังว่า ลูกแกได้เป็นนายแบบถ่ยหนังสือขวัญเรือน หรือไงด้วยน่ะ แต่ปัจจุบัน อีมาเป็นมาเฟียอยู่ที่ฮ่องกงง่ะ ... เง้อ ... ชีวิตพลิกผัน

8.00 เจ๊แกพานั่งรถมา breakfast อาหารเช้าแบบฮ่องกง (รถที่พาเราทัวร์ เป็นบัสเล็ก คล้ายๆ รถ เมล์เล็กสีเขียวๆ ที่ประเทศอะไรน๊า ที่มันซิ่งๆ แล้วก็คว่ำบ่อยๆ ง่า ...... ) เราต้องจ่ายต่างหากอีกคนละ 55 เหรียญ ภัตตาคารที่เรามากิน ชื่อ Fuu Lum Fisherman's Wharf Resaurant อยู่แถวๆ อาคาร Tsimshatsui Center เป็นพวกติ่มซำ และโจ๊กฮ่องกง สำหรับเราแล้ว ไม่อร่อย และไม่คุ้มอ่ะ อาจเป็นเพราะ พวกเราชินกับการไม่กินอาหารเช้า อาหารเช้าของเราก็เป็น กาแฟ + ขนมปัง นิดหน่อย ไม่ได้อยากจะกินแบบเต็มที่อย่างนี้ แต่ก็นั่นแหละ มาถึงแล้ว ต้องจ่ายค่าโง่ ให้เค้าสักหน่อย ...



ออกจากภัตตาคาร พร้อมกล่องโฟมใส่ของกินที่เหลือจากชุด buffet ที่เรากินไม่หมด ฮึ่ม แบบว่าตอนกำลังกิน อาหารก็ไม่มา พอไม่อยากกินแล้วยกมาเป็นเข่งๆ เลย เลยต้องขอกล่องโฟม เอาไว้ไปกินต่อ .. ก็งกนี่นา

จากนั้น เจ๊ไกด์ ก็พาเราไปที่ Victoria Peak เพื่อไปชมวิว บนยอดเขาของเกาะฮ่องกง รถก็พาเราลอดอุโมงค์ใต้น้ำ ข้ามจากฝั่งเกาลูน ที่เราพักอยู่ ไปยังฝั่งฮ่องกง (เพิ่งรู้นะเนี่ย..) รถวิ่งลอดอุโมงค์ เจ๊ไกด์ ก็บรรยายให้เราฟังว่า อุโมงค์นี้มีความหนา 2 เมตร และลึกจากผิวน้ำกว่า 21 เมตร (มั่วป่าวไม่รู้นะ.. 55) และเจ๊แกก็เล่าให้ฟังว่า ในอุโมงค์จะติดกล้องวงจรปิดตลอดทาง หากมีรถคันไหน เปลี่ยนเลนในอุโมงค์ เมื่อโผล่ขึ้นไปเมื่อไร จะโดนพี่ตำรวจเรียกทันที .. เป็นการป้องกันอุบัติเหตุที่ดีทางหนึ่งทีเดียว ไม่เหมือนประเทศสารขันธ์เนอะ ที่อุโมงค์ใต้ดิน เปลี่ยนเลนกันมัน จนชนกันไปหลายแระ ...

เมื่อโผล่ขึ้นมา ก็มาอยู่ฝั่งฮ่องกง และรถก็พาเราชมวิวตึก ( ??? ) ย่านธุรกิจของฝั่งฮ่องกง เห็นเจ๊แกบอกว่า ฝั่งเกาลูน จะเป็นฝั่งที่อยู่อาศัย ส่วนฝั่งฮ่องกงจะเป็นฝั่งธุรกิจ ชมวิวจนไม่รู้ตึกไหนเป็นตึกไหนแล้ว รถก็พาเราวิ่งขึ้นเขา เจ๊แกก็ชี้ให้ดูตึกต่างๆ ที่สร้างขึ้นตามหลักฮวงจุ้ย และแกก็บอกว่า ฮ่องกงนี่เป็นเมืองแห่งฮวงจุ้ยอย่างแท้จริง ตึกต่างๆ จะถูกสร้างขึ้นตามหลักศาสตร์ของฮวงจุ้ย มีการแก้เคล็ด แก้อาถรรพ์ กันแทบจะทุกตึก โดยเฉพาะตึกของบริษัท AIA ซึ่งรู้กันอยู่ว่าเป็นบริษัทประกันฯ ตึกนี้จะทำช่องหน้าต่างเป็นรูปโลงศพแบบฝรั่ง เห็นเจ๊แกบอกว่า ฮวงจุ้ยแบบนี้ ทำให้บริษัทนี้ได้กำไรมหาศาล เนื่องจากหน้าต่างที่สร้างเป็นรูปลักษณ์ของโลงศพฝรั่งนั้น มันทำให้ไม่มีคนตาย และทำให้บริษัทได้กำไรอย่างมหาศาล... จริงดิ..

รถไต่ขึ้นเขาไปเรื่อยๆ เจ๊ไกด์ก็ชี้ชวนให้ดูบ้านของคนรวยอันดับหนึ่ง อันดับสอง อันดับต้นๆ ของฮ่องกง ซึ่งบ้านจะอยู่เนินเขาทั้งนั้น ด้านหน้าจะเป็นทะเล ด้านหลังก็จะติดภูเขา .. ตรงตามหลักฮวงจุ้ยจริงๆ มิน่า ถึงรวยเอา รวยเอา



รถไปจอดที่จุดชมวิว Victoria Point ถ่ายรูปวิวของเกาะฮ่องกงมาเยอะแยะ แต่ถ่ายคนไม่สวยเลย เนื่องจากย้อนแสง ทำให้ถ่ายออกมากลายเป็นน้องมืดไปหมด ...

จากนั้นรถก็พาเราไปที่ Repulse Bays เพือ่ไปสักการะเจ้าแม่กวนอิม (เค้าว่าใครมาฮ่องกงไม่มาที่นี่ ก็เหมือนมาไม่ถึง จริงหรือเปล่าคะ..) ระหว่างทางก็ผ่านตรงตัวอ่าว มีหาดทราย (เทียม) ที่ประดิษฐ์ขึ้นมา มันดูหลอกๆ อ่ะค่ะ เทียบกับหาดทรายบ้านเราแล้วคนละเรื่องเลย ก็ฮ่องกง มันไม่มีหาดทราบนี่คะ เลยต้องไปหาทรายมาถมๆ เอามะพร้าวประดิษฐ์มาปักๆ ... เลยจากตรงชายหาด ก็ไปที่จุดสักการะเจ้าแม่กวนอิม และสิ่งศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ ที่มีชื่อเสียงก็คงเป็นสะพานต่ออายุนี่ล่ะค่ะ





หลังจากไหว้เจ้าแม่กวนอิมแล้ว เจ๊ไกด์แกก็พาเราไปเชือดซะที 555 ก็พาไปโรงงานจิวเวอรี่ยังไงล่ะ ก่อนเข้าไปเราก็ตั้งเป้าแล้วว่า ไม่ซื้อ ไม่ดู ไม่เอา .... แต่ไหง เข้าไปแล้ว หลงมนต์ใครสะกดก็ไม่รู้ รูดการ์ดซื้อแหวนเพชรกังหัน มาวงนึง ยังไม่พอ อยู่ไปอยู่มา ดันซื้อจี้มาอีกอันซะงั้น ... แง่มๆ ถ้าไม่คิดถึงตอนจ่ายเงินนะ จะซื้อตุ้มหูอีกคู่มาให้มันครบเซ็ตซะเลย

รูดการ์ดไปจนตัวเบาแล้ว ... เจ๊แกก็พามากินข้าวที่แถวย่านทจิมซาโจ่ยยย (พยายามออกเสียงให้เหมือน) เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวที่คนเยอะมาก ... แล้วก็ อร่อยมากด้วยอ่ะ...



เสียดายรูปเล็กไป ไม่งั้นจะสังเกตเห็นว่า อิชั้นเปลี่ยนจี้ จากเดิม (รูปที่สนามบิน) มาเป็นจี้อันใหม่แย๊วววว .....

ปล. ข้าวหมูแดงอร่อย แต่ไม่ค่อยกล้ากิน ฮิ้ววววววว

กินอาหารเสร็จ ก็ถ่ายรูปกันแถวๆ ... เอิ่ม .... อยากเรียกว่า Center Point จัง เพราะมันคล้ายๆ กันอ่ะ ...



แล้วก็ไปนั่งรอรถที่จะมารับไปกระเช้านองปิง ณ จุดนี้ เจ๊ไกด์ แกจะทิ้งเราแล้ว ให้เราเปลี่ยนรถไปนั่งกับกรุ๊ปที่มาจากฟิลิปปินส์ ซึ่งเค้าจะไปที่เดียวกันกับเรา ... พูดให้ถูก คือเราเกาะเค้าไปนั่นเอง ... ระหว่างรอ พี่ไกด์อีกคนก็มาคุยกับเจ๊แก อาเฮียแกหล่อมากเลยอ่ะ (สำหรับเรานะ) เหมือนพระเอกหนังฮ่องกง แต่ผมหงอกนะ ... หล่อจนเคลิ้ม ดูไปดูมา ทำไมท่าแกออกสาวจังว๊า ... 555 ชักสงสัย นั่งรอและคุยกันสักพัก รถทัวร์ก็มารับ เราก็ขึ้นไปแหมะบนรถเค้า

บนรถทัวร์คันนี้ น้องไกด์เป็นคนไทย ซะงั้น ตามมาอยู่กับแม่ตั้งแต่เด็ก เลยหางานพิเศษทำด้วยการเป็นไกด์ เราก็เลยถามว่า City Gate ที่ขายของ Brand name Outlet น่ะ อยู่ตรงไหน เค้าก็บอกว่า อยู่ใกล้ๆ กับตรงจุดที่เราขึ้นกระเช้านั่นแหละ ... พวกเรา 3 คน ก็เลยวางแผนกันใหญ่ ว่าจะรีบไป รีบกลับ กลับมา shopping ไงล่ะ ...

ตอนไปถึงจุดขึ้นกระเช้า ก็เฉยๆ ชิลๆ เออ ขึ้นกระเช้า ก็ขึ้นกระเช้า (คิดว่าเหมือนกระเช้าที่พระนครคีรี เขาวัง ง่ะ ตอนขึ้นบนกระเช้า ก็ยังเฉยๆ อีก แต่พอกระเช้าเริ่มออกเดินทางสิ ... ช็อตแรก ข้ามเขา 1 ลูก เพื่อนเริ่มหน้าซีดแล้ว ยิ่งกระเช้าเจอลม เจอฝน แกว่งไปแกว่งมา เธอยิ่งเหวอค่ะ ดูหน้าเธอสิคะ 5555 กร๊ากกกกกก.... สำหรับอิชั้น มันสุดๆ และคิดว่าคุ้มสุดๆ สำหรับการมาครั้งนี้แล้วล่ะค่ะ ข้ามเขาลูกแล้ว ลูกเล่า มองเห็นวิวของสนามบิน อาคารบ้านเรือน แม่น้ำ ภูเขา ... หวิวเลยอ่ะ .. แต่คิดว่า เออ คุ้มดีนะ แบบข้ามเขาหลายลูกเลย ระยะทางไกลมาก เจอฝน เจอลม มันส์ดีอ่ะ





ข้ามไปถึงฝั่งโน้น เหมือนอยู่อีกเมืองนึงเลย หมอกเยอะมาก ... เสียดายว่า พวกเราห่วงการ shopping ที่ city gate มากกว่า เลยไม่สนใจจะเดินดูหมู่บ้าน และไปไหว้พระใหญ่หลินโป ได้แต่ยกมือไหว้ ตรงปากทางเข้า ถ่ายรูปกันสักพัก ก็นั่งกระเช้ากลับ ... 555 ตื่นเต้นกันอีกรอบนึง ... คุ้มจริงๆ

ลงจากกระเช้า เราก็ดิ่งไปที่ City Gate ทันที เดินๆ ดูของ ซื้อก็ไม่ทันอ่ะ ขนาดนั้น น้องยังซื้อรองเท้าได้คู่นึง อย่างอื่นได้แต่มองๆ ไว้ แล้วเราก็คิดว่า พรุ่งนี้จะกลับมากันอีก ...

6 โมงเย็น ก็ต้องรีบแจ้นกลับมาที่รถ เพราะรถจะพาเราไปดู Avenue of Star และ Symphony of Light ที่ริมฝั่งเกาลูน แถวๆ Tsimshatsui รูปถ่ายมืดๆ มัวๆ แต่ก็ถ่ายกันไป ไหนๆ ก็มาแล้ว ฮา...... ถ่ายรูปเสร็จ ก็เดินมาจองที่นั่งสำหรับดูการแสดงแสงสีเสียง โดยฉายสปอตไลท์ และเลเซอร์ ไปยังตึกสูงทางฝั่งฮ่องกง พร้อมเปิดเพลงซิมโฟนี ออเครสตร้า ประกอบการแสดง ... ดูๆ ไปก็เบื่อง่ะ แอบกินติ่มซำ ซาละเปา และอะไรนะ ที่เป็นข้าวเหนียวใส่พวกกุนเชียง เม็ดบัว แปะก๊วย ห่อด้วยใบตองง่ะ นึกชื่อไม่ออกซะงั้น อ๋อ บ๊ะจ่าง นั่นเอง .. เฮ้อ นึกออกจนได้ ...

ดูจบแล้ว เราเพิ่งนึกออกถึงชะตากรรมของเราว่าเราต้องกลับโรงแรมเองนี่หว่า ไม่เป็นไร ศึกษาเส้นทางมาเป็นอย่างดี ฮา...... เลยกะว่าจะไปเดินเล่นถนน นาธาน และย่านต่างๆ ของ Tsimshatsui ซะหน่อย

เอาแล้วไง เริ่มงงตั้งแต่จะไปแล้วไง ว่าเราจะข้ามถนนไปฝั่งโน้น ยังไงหว่า .... มองหาทางข้ามไม่มี สะพานลอยไม่เจอ ...ระลึกชาติได้ว่า ตอนไปปักกิ่ง เราต้องมุดใต้ดินข้ามถนนไปนี่นา .. ก็เลยมองหา subway จนเจอ แต่ปัญหาของเราคือ เราไม่รู้ว่าต้องเดินเลี้ยวซ้าย หรือเลี้ยวขวา มันถึงจะไปโผล่ง่ะ ก็ต้องถามเค้าอีกตามระเบียบ .. พูดถึงการถามทางนี่ ดีนะที่ไปหลายคน เพราะอิชั้น น่ะ เป็นแผนกถาม .. ส่วนแผนกฟังง่ะ ต้องให้ช่วยๆ กัน เพราะอิชั้น ฟังไม่ทันเจ้าค่ะ แล้วสำเนียงก็ฟังไม่ค่อยออกเง้อ ...



เดินไปเดินมา เพื่อนอิชั้นก็ตั้งข้อสังเกตว่า ทำไมมันมีแต่แขกอ่ะ นึกว่าเดินอยู่แถวซอยนานา นะเนี่ย .. 555 พอเห็นชื่อถนน ก็อ๋อ ว่า มันชื่อถนนนาธานไง เลยมีแต่แขกๆ ... 555 เดินจนขาลาก เพื่อหาซื้อเสื้อให้คุณเพื่อน เธอสั่งซื้อเสื้อเชิ๊ต bossini รุ่นของผู้หญิงอ่ะ แต่หาจนขาลากก็หาร้านมันไม่เจอ หาแล้วหาอีก ตอนไป city gate ก็หาทีนึงแล้วไม่เจอ เดินวนไปวนมาที่นี่ก็หาไม่เจอเหมือนกัน ไม่อยากเชื่อเลยว่า ร้านแค่นี้มองไม่เห็นอ่ะ จนแบบว่า ถอดใจแล้ว มองไปรอบๆ ตัว ดันเจอซะงั้น แล้วมันก็อยู่ตรงแถวที่เราหยุดยืนคุยกันซะด้วยสิ อะไรมาบังตาว๊า ... แต่หาเจอร้านแล้ว หามีเสื้อไม่ ... ไม่มีเสื้อรุ่นที่คุณเพื่อนต้องการเลย ไม่เป็นไร เดินวกกลับไป Shopping Mall ที่เดินผ่านมา (ประมาณ 3 ช่วงตึก) เผื่อในห้างจะมี ... แป่ววว เดินไปถึง ห้างปิดพอดีง่ะ ไม่เป็นไรไว้พรุ่งนี้ เราไปหาต่อที่ Lady Market ละกัน ...

เดิน เดิน เดินและเดิน เดินจนหมดสภาพแล้ว คงได้เวลากลับกันสักที จริงๆ กะจะบ้า เดินไปให้ถึงโรงแรม เพราะมันอยู่ถนนเส้นเดียวกันน่ะ แต่คิดๆ แล้ว คงบ้ามากกว่าดีที่จะเดิน เลยนั่งรถไฟฟ้ากลับดีกว่า



มองหาจุดลงไปรถไฟฟ้าใต้ดิน (เออ ที่นี่ไม่เห็นมีรถไฟฟ้าแบบลอยฟ้าเลย มีแต่ใต้ดินทั้งนั้น) ก็ไปซื้อตั๋ว ตอนซื้อตั๋วก็ต้องเล็ง แล้วก็คุยกันว่าให้นับให้ดี ว่าเราจะนั่งไปกี่สถานี ฟังให้ดีว่า next station เป็นสถานีที่เราต้องการอ๊ะเปล่า ... ประเดี๋ยวจะนั่งเลย 55555 กระเหรี่ยงเยี่ยงเรา ไม่มีทางหลงร๊อก....

นั่งไปขึ้นที่สถานีอะไรก็จำไม่ได้ รู้แต่ว่า มันอยู่ใกล้โรงแรม Y.M.C.A. ซึ่งโรงแรมนี้เป็นโรงแรมที่เราเล็งว่า ถ้ามีโอกาสมาฮ่องกงคราวหน้า จะพักที่โรงแรมนี้ เพราะมันใกล้รถไฟฟ้า ... จากสถานีรถไฟฟ้า ก็เดินกลับมาโรงแรม ถึงจุดนี้ คุณน้องและคุณเพื่อน มันเริ่มบ่นแล้ว ว่าทำไมเราถึงเดินเก่งนัก พาเดินจนขาลากแล้วเนี่ย ... 555 ก็เดินมันไม่หลงไง ถ้าขึ้นรถไม่รู้ว่ามันจะพาเราไปไหน ไปถูกทางที่เราต้องการจะไปหรือเปล่า เดินนี่แหละ ชัวร์สุดแล้ว .... กร๊ากกกกกก.....

เดินจนขาจะลาก เจอร้าน Mc Donald เลยรีบเข้าไปนั่งพัก กินน้ำดำเพิ่งพลังซะหน่อย อิอิ... เด็กๆ ที่ขายหน้าเคาท์เตอร์ เดากะเพื่อนกันใหญ่ ว่าพวกเราเป็นคนไทยใช่ป่ะ ... เราก็เลยบอกว่า ไม่ต้องเดาหรอกน้อง ที่เข้าใจนั่นน่ะ ถูกแย๊ว ... อิอิ ..

ออกจาก Mc Donald ก็แวะ 7-11 ซื้อน้ำเปล่าไปกิน (น้ำที่นี่แพงนะ คงเพราะมันเป็นเกาะ น้ำดื่มเลยค่อนข้างแพง) ไปถึงโรงแรม ทุกคนแทบจะสลบ เราชวนน้องๆ ให้เปิดน้ำอุ่นในอ่างอาบน้ำ แล้วแช่เท้ากัน แต่ไม่มีใครสนใจเลย สลบเหมือดกันหมด

เราก็เหมือนกันล่ะ


พรุ่งนี้จะกลับแล้ว ไว้เล่าต่อ blog หน้าจ้า


Create Date : 07 พฤศจิกายน 2551
Last Update : 7 พฤศจิกายน 2551 2:32:09 น. 9 comments
Counter : 840 Pageviews.

 
สวัสดีครับตามไปเที่ยวด้วยคนครับ....

ยังไม่เคยไปกับเค้าเลย...ใครๆเค้าก็ไปกันเนอะ...มีแต่คนบอกว่าที่นั่นมีแต่ของอร่อยๆให้ได้กินกัน...


โดย: pompier วันที่: 7 พฤศจิกายน 2551 เวลา:4:21:08 น.  

 
ตามมาเที่ยวด้วยคนคะ

กำลังแพลนว่าจะพาคุณแม่ไปเที่ยวเหมือนกัน

งั้นขอเข้ามาเก็บข้อมูลนะคะ


โดย: mook (haiti ) วันที่: 7 พฤศจิกายน 2551 เวลา:4:41:48 น.  

 


โดย: CrackyDong วันที่: 7 พฤศจิกายน 2551 เวลา:5:30:44 น.  

 
ซื้อจี้รูปกังหันใช่ป่ะ ทริปนี้คล้ายๆที่เราไปฮ่องกงครั้งแรกเลย ..


โดย: ม่อนข้าว (ultra_aih ) วันที่: 7 พฤศจิกายน 2551 เวลา:7:31:57 น.  

 
ตามไปเที่ยวด้วย อาหารน่ากินมากๆ


โดย: Molly_Nanny วันที่: 7 พฤศจิกายน 2551 เวลา:17:09:39 น.  

 
อยากไปเที่ยวด้วยยย

น่าหนุกๆ


โดย: NuAeaw วันที่: 7 พฤศจิกายน 2551 เวลา:20:50:14 น.  

 
ใช่แล้วค่ะ น้ำที่นี่แพงมา ตอนนั้นเราเอาขวดน้ำจากโรงแรมติดกระเป๋าตอนออกมาเที่ยวด้วยแหล
แล้วไปช๊อปปิ้งที่ เลดี้มาเก็ตรึยังคะ ของเยอะดีนะ สวยๆทั้งนั้น เที่ยวให้สนุกนะคะ


โดย: ใครหล่ะ...จะอยากขึ้นคาน วันที่: 8 พฤศจิกายน 2551 เวลา:0:36:05 น.  

 
กรี๊ด! ตามไปเที่ยวด้วยคนค่ะ

มีคนพาเที่ยวก่อนล่วงหน้า ดีใจจัง
จะไปต้นเดือนหน้านี้เหมือนกัน
จะไปตามรอยทัวร์นี้บ้างดีกว่า




ขอ add เป็น friends' blog ด้วยคนนะคะ



โดย: แพท ภัทรียา วันที่: 12 พฤศจิกายน 2551 เวลา:11:20:45 น.  

 
ดีใจค่ะที่คุณนึกชอบท่นี่เหมือนกัน
ว่าแล้วก็ได้ใจขอแอบมาต่อด้วยเรื่อง Africa อีกหน่อยค่ะ
เพราะหลายคนจะเข้าใจผิดไปนิดค่ะ
(ถ้าเบื่อก็ข้ามไปได้เลยค่ะ )
ไม่อยากให้เข้าใจผิดว่ามาที่นี่แล้วต้องลุย เพราะมีหลายคนก็คิดแบบนั้น
แล้วเดี๋ยวจะไม่มาเที่ยวที่นี่ น่าเสียดายแย่
การท่องเที่ยวใน Kruger National Park หรือที่south Africa
ไม่ได้สมบุกสมบัน ลุย(เละ)อย่างที่เห็นค่ะ
คนมักจะคิดว่าเที่ยวแบบนี้ต้องลุยมากๆ เลย
(เพราะตัวเองก็ไม่ลุยมากค่ะ ต้องมีระดับหนึ่งที่เป็นมาตรฐานของความสะบายเหมือนกัน)

เลยมาขอบอกว่า ไม่จริงๆ ค่ะ ยังคิดอยู่เลยว่าวันๆ ที่ไปไม่นั่งบนรถติดแอร์เย็นฉ่ำ
ก็นั่งบนเก้าอี้กับเคื่องดื่มเย็นๆ และenjoy กับอาหารการกิน
เวลาจะเดินจริงๆ จังๆ แทบไม่มี เพราะไม่ค่อยจะมีที่ให้เดิน นอกจากบริเวณที่พัก

บางวัน ยังใส่กระโปรงเลยค่ะ ถ้าอินๆ หน่อยก็ใส่แบบsafari
(มีรูปมายืนยันข้างล่างเลยค่ะ)
ที่พักก็สะดวกสบาย และระดับการเที่ยวที่นี่มีหลายแบบค่ะ
ตั้งแต่camp ไปถึงโรงแรม และlodge หรูห้าดาวค่ะ
พร้อมด้วย สปา สระว่ายน้ำ และสิ่งอำนวยความสะดวกเพียบค่ะ
เราเลือกบริการได้ มีทุกระดับ ตามแต่เราต้องการว่าเราอยากได้แบบไหนค่ะ
แล้วถ้าเกิดว่าวันไหนคุณสนใจsouth africa อยากได้ข้อมูลก็บอกมาได้นะค่ะ
ทั้งเรื่องเวลา และที่พัก และอื่นๆ ยินดีเลยค่ะเท่าที่จะรู้น่ะคะ

Photobucket




โดย: Sweety-around-the-world วันที่: 13 พฤศจิกายน 2551 เวลา:5:07:01 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

คุณอาผู้น่ารัก
Location :
เพชรบูรณ์ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add คุณอาผู้น่ารัก's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friends


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.