The wall is just the wall. It can't be taller than heaven.
Group Blog
 
All blogs
 
ดูแล้วเอามาเล่า: Harry Potter 5 (OOP) เท่ ......อีกนิดน่า....



ไม่ใช่บทวิจารณ์นะ ขอบอก

ด้วยเพราะความเป็นแฟนหนังสือตั้งแต่เล่มแรก หนมปังกรอบเลยตั้งตารอหนังแฮรี่ภาคห้าอย่างใจจดใจจ่อ โดยไม่ค่อยคำนึงถึงความเป็นตัวหนังว่าจะน่าสนใจมั้ย ผกก. เป็นใคร แค่คิดว่าตัวละครโปรดในหนังสือจะออกมามีหน้าตาเสียงพูดจริงๆก็ตื่นเต้นแล้ว

หนมปังกรอบไม่ลังเลที่จะตีตั๋วรอแฮรี่ล่วงหน้าและจัดเวลาฉายวันแรกของแฮรี่เป็นวันว่างของตัวเอง ทางสะดวกโยธินเช่นนั้นแล้ว เมื่อแฮรี่เข้าฉายปุ๊บ หนมปังกรอบก็ไปดูทันที

คนเต็มโรงสมกับที่ฉายวันแรก หนมปังกรอบได้นั่งหลังริมๆ หัวคนผลุบๆโผล่ๆเป็นระยะ แต่เงียบใช้ได้

โฆษณาผ่านไปเป็นเวลา 50 นาที แง่ง....

จะสปอยละเด๋อ

หนมปังกรอบเลือกที่จะไม่อ่านหนังสือมาก่อนเพราะอยากดื่มด่ำกับจินตนาการสดในโรงหนัง มากกว่าจะจับความแตกต่างระหว่างหนังสือกับภาพยนตร์ ซึ่งมันใช้ได้ดีในแฮรี่หลายๆภาค

หนังเปิดเรื่องด้วยสนามเด็กเล่นกับแฮรี่และดัดลีห์ และด้วยมุมกล้องและการวางภาพตั้งแต่เด็กๆกลับบ้านจนถึงตอนทั้งคู่ถูกไล่โดยผู้คุมวิญญาณต้องทำให้หนมปังกรอบร้อง ว้าว ในใจ มันเท่จิงๆจ๊อด แต่เมื่อผู้คุมวิญญาณปรากฏโฉม ความน่าขนลุกของผู้คุมกลับทำได้ไม่น่าประทับใจเท่าภาคสาม(อันนั้นฉากเปิดประตูในรถไฟยังติดตาอยู่เลย) เลยลดความเท่ของมุมกล้องไปเย้อ น่าเฉียดาย



หนังดำเนินเรื่องต่อมาในลักษณะการเล่าเรื่อง มีมุมมองเจ๋งๆออกมาเป็นระยะๆ แต่ไม่โดนใจหนมปังนักเพราะไม่เด่นเท่าอันแรก หนมปังชอบฉากที่ซีเรียสพยายามเล่าเรื่องภาคีให้แฮรี่ฟัง เป็นการขมวดเอาภาวะทั้งหมดมาอธิบายด้วยปฏิกิริยาของตัวละครหลายๆตัวได้ในไม่กี่นาที เราสามารถสังเกตได้ทันทีว่าใครเกาเหลากะใครอยู่ ใครอึดอัด ใครทำงานในจุดไหน ใครเป็นวงในแค่ไหน

เรื่องดำเนินด้วยการเล่าปูพื้นต่อ จนถึงฉากในศาล ที่ทำได้ชัดเจนดี แต่พลังน้อยไป


มาเริ่มเอาตอนที่เจ๊ชมพูเข้ามามีบทบาทแทรกแซงฮอกวอต สีชมพูของเจ๊ไม่ได้ทำให้หนังสดใสแต่อย่างใด แต่กลับทำให้รู้สึกคลื่นเหียน เป็นความฉลาดของคอสตูมและแสงที่สะท้อนออกมาได้ดีง่ะ ชอบ และนักแสดงที่หลายๆคนชมเป็นเสียงเดียวกัน ว่าได้ใจจิงๆพับเผื่อย แต่เพราะความเจนเวที และรอบจัดทางการแสดงของเจ๊ เมื่อเข้าฉากกับพ่อหนุ่มแฮรี่ ก็เกือบทำให้แฮรี่ตายคาจอหลายครั้งเพราะความรอบจัดของเจ๊ เข้าใจนะแดเนียล เพราะเจอเข้าแบบนี้ถ้าไม่ทำการบ้านมาดีจริงๆก็รอดยาก แต่ก็เห็นความพยายามของแดเนียลดีมากประกอบมือเขียนบทและผู้กำกับประคับประคอง จึงทำให้รอดมาได้อย่างไม่น่าเกลียดนัก



ส่วนคู่หูรอนและเฮอร์ไม่โอนี่ถูกลดความโดดเด่นลงจากภาคก่อนๆพอสมควรทีเดียว บางคนที่ดู(เราด้วย)จึงรู้สึกเหมือนขาดๆอะไรสักอย่างไปเมื่อไม่มีรอนมาคอยโวยวายอยู่ข้างๆมากนัก

และที่จะอดพูดถึงไม่ได้คือแม่หนูลูน่า ที่น่ารักเข้าตาจนอยากเชียร์ให้เป็นนางเอก เธอลอยๆ ฝันๆ ชัดเจนดีมั่ก แต่เพราะเธอเด่นมากไปเลยเป็นผลกระทบกับเนื้อเรื่องอย่างที่เจเคตั้งใจให้เป็น คือเธอชิงหน้าที่ที่ปรึกษาแฮรี่ไปจากจินนี่ ทั้งยังชิงหน้าที่ปลอบประโลมใจเป็นพักๆไปจากเฮอร์มี่ ก็ดูต่อไปว่าเดวิด เยต จะแก้เกมยังไงในภาคหก

มาถึงช่วงฟอร์มทีม DA ซึ่งทำได้ดีในระดับนึง ทั้งมุขที่เพิ่มเข้ามาและเนื้อเรื่อง ดูเพลินๆตลกๆ และตื่นตากับคาถางามๆ รวมๆแล้วเป็นฉากโชว์คาถาที่ให้ความรู้สึกไม่ตื่นเต้น แต่ก็ไม่กระจิริดจนเกินไป กลางๆ

และ ต่าแล้นๆๆ มาถึงชอตครึ่งชั่วโมงสุดท้ายที่รอคอย ไม่ว่าจะอ่านหนังสือมารึเปล่า ก็จะรู้สึกคล้ายกันว่า ขออีกนิดได้มะ ครือเข้าใจว่ามันคือฉากโชว์คาถาอลัง แต่ความเร้าใจในฐานะฉากแอ็คชั่นมันยังไม่กริ๊ก ยังมีความเป็นละครอยู่มากจนอินไม่ลง ถ้าเพิ่มเอาความธรรมชาติใส่ลงไป เพิ่มความตื่นเต้นในฐานะแอ็คชั่น ให้เด็กๆเอย ผู้ใหญ่เอยได้ออกกำลังกายกันหน่อย คิดว่าภาพรวมของหนังจะเท่ขึ้นทันตาเห็นทีเดียว

อยากจะพูดปลีกย่อยในครึ่งชั่วโมงสุดท้ายอีกสองสามซีน อันแรกคือตอนซีเรียสตาย รีบไปหน่อย แต่บรรยากาศนี่เท่นะ เพลงประกอบที่เงียบวูบลงไปเลย สโลวโมชั่นที่แฮรี่ สี แสง แม้จะยังไม่ถึงแต่เท่ ถ้าไม่รีบลงก่อนคาดว่าจะติดตากว่านี้ ซีนที่สองที่ดูขัดๆคือฉากเปิดดัมบี้ตอนที่มาถึงกระทรวง แบบว่า ธรรมดาเกิ๊น มุมมองเท่ๆหายไปไหนหมดไม่รู้ อยู่ๆก็มากับผงฟลูตรงๆเลยไม่มีอ้อม ถ้าเอาความเท่ของการตัดภาพมุมภาพไสตล์ตอนแรกๆมาเล่นก็คงเป็นอีกซีนที่เท่คอดๆชัวร์ อีกอันคือตอนแฮรี่โดนสิง อันนี้ชอบแฮะ รู้สึกเหมือนสรุปรวบยอดแนวคิดของทั้งหนังไว้ตรงนั้น และออกมาเป็นคำพูดไม่กี่คำ ลึกซึ้งทีเดียว

รวมๆแล้วภาคนี้เป็นหนังแฮรี่ที่เล่าเรื่องเท่ รวบรัดได้ดี เสียดสี(การเมือง)ลึกซึ้ง และคาถาสวย แต่องค์ประกอบโดยรวมยังดึงความเด่นของจุดดีของหนังออกมาได้ไม่เต็มที่นัก ส่วนตัวหนมปังคิดว่าหนังเรื่องนี้ซ่อนอะไรดีๆเท่ๆไว้เยอะทีเดียว แต่ที่ไม่ติดตาติดใจเพราะมันไม่เด่น

อย่างนี้จะรอดูภาคหกอย่างใจจดใจจ่อ

ดูแล้วเอามาเล่าดังนี้แล




Create Date : 02 สิงหาคม 2550
Last Update : 2 สิงหาคม 2550 14:50:29 น. 5 comments
Counter : 802 Pageviews.

 
ยังไม่ได้ดู เข้ามาอ่านแล้วก็จริงนะ ไม่สปอยล์
หลายคนที่ดูแล้วก็บอกว่าไม่ค่อยถึงใจเหมือนในหนังสือ

เม้นท์เรื่องบล็อกหน่อยนะ
อันแรก โค้ดแปะรูปมี error นะ ต้องเติม ตัวอักษรกับเว้นวรรค ยังไม่ดีนะ
ลีลาโอเค ปรับปรุงอีกนิดจะเลิศ


โดย: angy_11 วันที่: 2 สิงหาคม 2550 เวลา:14:47:40 น.  

 
ขอบคุณก๊าบบบ มาเม้นเยอะๆนะ จาปรับปรุงให้เร็วทันใจเรย


โดย: รถขนมปังกรอบ (รถขนมปังกรอบ ) วันที่: 2 สิงหาคม 2550 เวลา:14:58:42 น.  

 
ดูแล้วเหมือนกัน ภาคนี้ก็o.k นะ ถ้าจะมองโดยไม่เปรียบเทียบกับในหนังสือ และภาคที่แล้วมันก็ยากนะ แต่ที่เห็นชัดจากเรื่องนี้สองจุดคือ


จุดเด่น เจ๊ชมพูที่ดูแล้วน่าอึดอัดดี(แสดงได้ดี)

จุดด้อย ฉากต่อสู้อ่ะ มันรีบๆ ดนตรีประกอบไม่โอ

ถ้าไม่ได้อ่านหนังสือก็จะ ไม่เข้าใจหลายประเด็นเลยล่ะ


โดย: rubyEE วันที่: 2 สิงหาคม 2550 เวลา:15:33:38 น.  

 
กำลังคิดอยู่ว่าถาคนไม่อ่านหนังสือจะเข้าใจไหม ก็เห็น คห ข้างบนซะก่อน
ที่สงสัยอย่างนั้นก็เพราะหนังตัดรายละเอียดไปหลายอย่าง อ่างแพนซิฟ งี้ ซึ่งคิดว่าสำคัญนะ เอลฟ์ก็ไม่มี อืม แล้วจะไปเล่าต่อในภาคหลังๆ ได้ไง จะรอดู


โดย: อั๊งอังอา วันที่: 7 สิงหาคม 2550 เวลา:11:29:21 น.  

 
ชอบมากเรื่องนี้


โดย: อัศวินม้าไม้ (กล่องความทรงจำ ) วันที่: 18 สิงหาคม 2550 เวลา:10:05:55 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

รถขนมปังกรอบ
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add รถขนมปังกรอบ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.