W H I T E A M U L E T
Group Blog
 
All blogs
 
สิงหาคม : มาญี่ปุ่น(โตเกียว)เดือนไหนแต่งตัวยังไงดี มีอะไรให้เที่ยวบ้าง

==========================================

ปล. เนื่องจากบล็อคยาวมากเปิดอ่านในไอโฟนแล้วโหลดแทบไม่ขึ้นเลย เลยจัดการแยกเป็นหลายๆบล็อค บล็อคนึงเขียนแค่ 1-2 เดือนก็พอ ถ้าอยากไปดูของเดือนอื่นๆเลือกคลิกตามลิงค์ด้านล่างนี้เลยนะคะ

1. มกราคม : มาญี่ปุ่น(โตเกียว)เดือนไหนแต่งตัวยังไงดี มีอะไรให้เที่ยวบ้าง
2. กุมภาพันธ์ : มาญี่ปุ่น(โตเกียว)เดือนไหนแต่งตัวยังไงดี มีอะไรให้เที่ยวบ้าง
3. มีนาคม : มาญี่ปุ่น(โตเกียว)เดือนไหนแต่งตัวยังไงดี มีอะไรให้เที่ยวบ้าง
4. ปลายมีนาคมถึงกลางเมษายน : มาญี่ปุ่น(โตเกียว)เดือนไหนแต่งตัวยังไงดี มีอะไรให้เที่ยวบ้าง
5. ปลายเมษายนถึงพฤษภาคม : มาญี่ปุ่น(โตเกียว)เดือนไหนแต่งตัวยังไงดี มีอะไรให้เที่ยวบ้าง
6. มิถุนายน : มาญี่ปุ่น(โตเกียว)เดือนไหนแต่งตัวยังไงดี มีอะไรให้เที่ยวบ้าง
7. กรกฏาคม : มาญี่ปุ่น(โตเกียว)เดือนไหนแต่งตัวยังไงดี มีอะไรให้เที่ยวบ้าง
8. สิงหาคม : มาญี่ปุ่น(โตเกียว)เดือนไหนแต่งตัวยังไงดี มีอะไรให้เที่ยวบ้าง
9. กันยายน : มาญี่ปุ่น(โตเกียว)เดือนไหนแต่งตัวยังไงดี มีอะไรให้เที่ยวบ้าง
10. ตุลาคม : มาญี่ปุ่น(โตเกียว)เดือนไหนแต่งตัวยังไงดี มีอะไรให้เที่ยวบ้าง
11. พฤศจิกายน : มาญี่ปุ่น(โตเกียว)เดือนไหนแต่งตัวยังไงดี มีอะไรให้เที่ยวบ้าง
12. ธันวาคม : มาญี่ปุ่น(โตเกียว)เดือนไหนแต่งตัวยังไงดี มีอะไรให้เที่ยวบ้าง

-------------------------------------

เท่าที่อ่านบอร์ดมาจนบัดนี้ ปัญหาที่สาวๆหนุ่มๆที่ไม่อยากล้าสมัยแม้เวลามาเที่ยวกังวลกันมาก จนมาตั้งกระทู้ถามกันบ่อยๆก็คือว่า "จะมาเที่ยวญี่ปุ่นวันที่ XX อากาศเป็นยังไงบ้าง แต่งตัวยังไงดี"

จริงๆอุตส่าห์มาเที่ยวก็อยากแนะนำให้แต่งสบายๆ รองเท้าผ้าใบมานะคะเพราะที่นี่เดินเยอะจริงๆ ถ้ารองเท้าเดินลำบากหรือปล่อยให้หนาวเกินไปจะพลอยไม่สบาย เที่ยวไม่สนุกเอาได้ เพราะเวลาหนาวมันหนาวทรมานจริงๆ แต่ก่อนไม่เคยเข้าใจว่าหนาวตายมันจะเป็นไปได้ยังไง มาอยู่ประเทศหนาวแล้วถึงเข้าใจว่า หนาวตายนี่มันเป็นไปได้จริงๆ

และเรายังยืนยันคำเดิมว่า ถ้าอยากอินให้มาซื้อเอาที่นี่ดีที่สุดค่ะ เราเคยเอามาจากไทย ไม่ว่ามันจะดูกิ๊บเก๋ที่ไหนตอนอยู่ไทยพอมาอยู่นี่มันเอ้าท์ทันทีเลย ยิ่งโดยเฉพาะเสื้อผ้าผู้หญิงด้วยแล้ว

แต่ก็นะ เรื่องความสวยความงาม เข้าใครออกใครที่ไหนกัน บล็อคนี้ก็จะรวมๆ เทรนด์หลักๆทั่วไปในแต่ละช่วงเดือนไว้ให้นะคะ แต่ที่บอกคงไม่เป๊ะๆนะคะ เพราะที่นี่แฟชั่นเปลี่ยนนิดเปลี่ยนหน่อยอยู่ตลอด ปีก่อนฮิต trench coat ลูกฟูกกระดุมทองๆใหญ่ๆ มาปีนี้ก็เปลี่ยนไปเป็นแบบอื่นๆอีก แต่ก็พอมีแบบหลักๆคลาสสิคที่ใช้ได้เรื่อยๆทุกปีเหมือนกัน

ก่อนอื่นอยากให้ไปอ่านบล็อค แรกเริ่มควรรู้ก่อนเตรียมเสื้อผ้ามาญี่ปุ่น ก่อนนะคะ บางอย่างก็เขียนรวมๆไว้ในส่วนนั้นแล้ว

ถ้าอยากรู้ที่อินๆเป๊ะๆก็ลองดูได้ที่เว็บ //www.style-arena.jp/ จะเป็นภาพอัพเดตของ street fashion ตามย่านแฟชั่นปัจจุบันเลย อาจดูว่าเว่อร์ แต่คนที่นี่แต่งอย่างนี้จริงๆค่ะ ชุดเดรสเดินช้อปปิ้งที่นี่ เอาไปใส่ไปงานแต่งงานที่ไทยได้เลย

อีกอย่างที่อยากบอกคือ ที่เราเขียนนี้เราอิงจากคนที่เน้นว่าตามแฟชั่นนะคะ แต่เอาเข้าจริงที่ญี่ปุ่นก็มีทั้งคนที่แต่งตามแฟชั่นเป็นหลัก และคนที่แต่งตามอากาศเป็นหลักค่ะ สาวที่ตามแฟชั่น ก็มักแต่งตามเดือนและฤดู เข้าเดือนไหนปุ๊บก็เปลี่ยนทันที แม้ว่าจริงๆจะยังร้อนหรือหนาวอยู่ ก็ทนๆไปค่ะ

แต่คนที่แต่งตัวตามอากาศจริงก็ไม่ใช่ไม่มีนะคะ ช่วงไหนหนาวก็ใส่ตามนั้น ช่วงไหนร้อนก็ใส่ตามนั้นค่ะ ถ้าอยู่ญี่ปุ่นจนชินอากาศ สองแบบที่ว่าก็จะไม่ได้โดดกันมากนักค่ะ ส่วนใหญ่ที่เห็นการแต่งตัวโดดแยกออกมาเลย มักเป็นนักท่องเที่ยวมากกว่า

อ้อ เน้นก่อนนะคะว่า ข้อมูลทั้งหมดในนี้อ้างอิงจากอากาศของโตเกียวค่ะ เป็นประสบการณ์ของเราล้วนๆที่สังเกตสังกามาได้ อาจผิดหรือไม่ตรงใจใครบ้างก็อย่าว่ากันเลยนะคะ ที่เขียนไว้เป็นอากาศและอุณหภูมิที่ควรจะเป็นแต่เอาเข้าจริงแต่ละปีก็มีอากาศแปรปรวนไม่เหมือนกัน อาจไม่หนาวเท่าที่ควร หรือหนาวกว่าปกติก็ได้ค่ะ (แต่ถ้าเน้นแต่งตามแฟชั่นสาวญี่ปุ่นล่ะก็ อากาศไม่เกี่ยวค่ะ ดูกันที่เดือนเป็นหลัก)



สิงหาคม


++++ อากาศ ++++

สำหรับสิงหานี้เบื้องต้นให้คาดเดาไว้เลยว่าจะเจออากาศที่ร้อนมากๆค่ะ โดยทั่วไปคนญี่ปุ่นจะพูดกันว่าสิงหาคือเดือนที่ร้อนที่สุดของปี แต่เนื่องจากแต่ละปีไม่เหมือนกันบางปีเราก็ว่า กค ออกจะร้อนกว่า สค อีกค่ะ แต่ขอสรุปตามคนญี่ปุ่นไว้ก่อนว่า สิงหา = ร้อนสุดๆ สถิติวันที่ร้อนพีคที่สุดของปีส่วนใหญ่มักวัดได้ในเดือน สค นี้ล่ะค่ะ ช่วงไหนร้อนๆอุณหภูมิต่ำสุดของวันก็เกือบ 30 องศาเข้าไปแล้ว ส่วนสูงสุดก็ 3X องศาค่ะ (อันนี้คืออุณหภูมิตามพยากรณ์อากาศ แต่ถ้าเอาเทอโมมิเตอร์มือถือไปวัดเองกลางแดด เห็นวัดกันได้ 4X องศาแน่ะค่ะ )

ถึงพวกเราจะมาจากประเทศร้อนแบบไทยก็อย่าย่ามใจไปนะคะ อย่าลืมว่าที่ญี่ปุ่นใช้ชีวิตกับการเดินกันเยอะ แค่เดินไปกลับสถานีรถไฟก็เหงื่อโชกได้ทั้งตัวแล้วล่ะค่ะ ร้อนแบบญี่ปุ่นนี่ร้อนแทบละลาย แดดแรงแจ๋มากๆ ผิวตรงไหนไม่ทากันแดดไม่กี่วันก็ดำขึ้นแบบมองเห็นได้เลยค่ะ(บางทีไม่ทากันแดดวันเดียวมือก็ดำกลับมาแล้ว)

ที่สำคัญที่ญี่ปุ่นไม่ใช่ร้อนแห้ง แต่เป็นร้อนชื้นค่ะ ความชื้นในอากาศจะสูงมากทำให้เหงื่อเรา(ที่บางทีไหลออกมาทั่วทั้งตัวหยั่งกะน้ำตก)ระเหยไปไหนไม่ได้ ไหลมาแล้วก็ติดหนึบเหนียวอยู่ทั่วตัวเรานี่ล่ะค่ะ(หน้าร้อนญี่ปุ่นนี่อยากอาบน้ำวันละสามหน) ที่แย่กว่าคือร้อนชื้นนี่แปลว่าต่อให้เรายืนในร่มหลบแดด กางร่มบังแดด ก็ไม่ช่วยให้เราหนีร้อนได้ค่ะ ยังร้อนอีดอัดเหนียวตัวอยู่ดี (ร้อนที่ไทยส่วนใหญ่จะเป็นร้อนแห้ง ถ้าหลบแดดออกมาใต้ร่มซะก็รู้สึกโปร่งๆสบายตัวกว่านะคะในความคิดของเรา)

ช่วงเดือนนี้นอกจากค่าตั๋วเครื่องบินจะราคาแพง ที่เที่ยวที่ไหนในญี่ปุ่นก็คนเยอะเด็กเยอะ เหตุเพราะเดือนนี้เป็นปิดเทอมฤดูร้อนค่ะ ตั้งแต่เด็กเล็กถึงเด็กโตโรงเรียนปิดเทอมกันหมด(อาจยกเว้นนักเรียนวิจัย) โดยเฉพาะช่วงวันที่ 13-15 เป็นวันหยุด Obon (กลับไปเยี่ยมญาติและไหว้บรรพบุรุษที่บ้านเกิด)ของญี่ปุ่นค่ะ วันหยุดนี้ไม่มีเขียนในปฏิทินญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ แต่รู้กันว่าเป็นหนึ่งในวันหยุดสำคัญของที่นี่ ... ระยะเวลาหยุดต่างกันไปตามแต่โรงเรียนและหน่วยงาน อย่างที่มหาลัยเราเห็นคนหายกลายเป็นมหาลัยร้างไปตั้งแต่ก่อน 13-15 เหมือนกับหยุดยาวทีเดียวไปเป็นอาทิตย์เลยน่ะค่ะ แต่บางบริษัทก็เห็นว่าหยุดเฉพาะ 13-15 หรือบางที่ไม่หยุดก็มี(ไปชดเชยให้ทีหลังแทน) ... ให้ประมาณๆว่าช่วงอาทิตย์ที่สองของ สค นั่นล่ะค่ะที่เป็นช่วงหยุดยาว high season ของที่นี่

Obon เป็นหนึ่งในช่วงพีค High season ของการเดินทางในญี่ปุ่นไม่แพ้ช่วง Golden week (ปลาย เมย ถึงต้น พค)เลยค่ะ การคมนาคมทุกอย่างทั้งที่วิ่งในประเทศและออกนอกประเทศแน่นเต็มเอี๊ยดหมด(ยาวเลยไปถึงประมาณสักวันที่ 17-18 แล้วแต่แต่ละปีด้วยนะคะ) ไม่ว่าจะรถยนต์ รถไฟ ชินคันเซน เครื่องบิน แม้แต่การเดินทางทางเรือก็แน่นค่ะ ถ้าใครคิดจะมาเที่ยวญี่ปุ่นช่วงนี้ไม่แนะนำนะคะ นอกจากที่พักจะแพงและหายาก(อากาศก็ร้อนเกือบทั่วประเทศ) ยังต้องไปยื้อแย่งที่นั่งตั๋วรถไฟและเครื่องบินกับคนญี่ปุ่นเค้าอีก ดูในข่าวรถติดยาวเฟื้อย ชินคันเซนตั๋ว reserved seat เต็มหมดทุกที่นั่ง ส่วนแบบ unreserved seat ปริมาณคนใช้ก็พุ่งไปเกิน 100%(ที่เกิน 100% ก็ต้องยืนในชินคันเซนไป)

นอกจากนั้นช่วงเดือนร้อนๆอย่างนี้ให้ระวัง 熱重症 ねつじゅうしょう (Netsujusho) ด้วยนะคะ ไม่แน่ใจว่าเรียกว่าอะไรดี แต่ประมาณพวกเป็นลมแดด หรืออาการอื่นๆที่เกิดจากการเจออากาศที่ร้อนเกินไปน่ะค่ะ ... ทุกปีที่ญี่ปุ่นมีรายงานคนโดนหามเข้า รพ หรือ เสียชีวิตจากอากาศร้อน ยิ่งตั้งแต่ มีค 2011 ที่เกิดเหตุโรงไฟฟ้าขึ้นต้องช่วยกันประหยัดไฟด้วย ... รณรงค์ใช้พัดลมแทนแอร์หรือเปิดแอร์ไม่ต่ำกว่า 28 องศา ดูข่าวคนญี่ปุ่นบางคนก็ร่วมมืออย่างดีไม่เปิดแอร์จนโดนหามส่ง รพ ไปก็หลายคนค่ะ(โดยเฉพาะผู้สูงอายุ)

อากาศร้อนชื้นมากๆ อีกสิ่งที่ต้องระวังคือฝนตกหนักกะทันหันนะคะ อันนี้ไม่ใช่ฝนจากพายุหรืออะไร แต่เพราะอากาศร้อนมากและชื้นมาก น้ำระเหยกลายเป็นไอเยอะมากๆเข้า บางทีเดินๆอยู่ทั้งที่แดดก็ออกเปรี้ยงแต่ฝนก็ตกได้เฉยเลยค่ะ(คล้ายๆฝนไล่ช้าง ตกซู่มาไม่ใช่เบาๆ แต่ไม่นานนักก็หยุดค่ะ) ถือร่มกันแดดก็ดีอย่างว่ากันได้ทั้งแดดและฝนในคราวเดียวกันนะคะ ^^

เดือนร้อนๆแถมปิดเทอมอย่างนี้ คนญี่ปุ่นหนีร้อนไปเที่ยวต่างประเทศกันเยอะค่ะ หรือ ถ้าเที่ยวในประเทศ(ซึ่งบางทีก็แพงกว่าไปเที่ยวต่างประเทศอีก)ที่ฮิตๆก็ขึ้นเหนือไปหาที่เย็นกว่าแถบฮอกไกโด ไม่ก็ลงใต้ไปทางโอกินาว่าให้ร้อนกันสุดๆไปเลยค่ะ อีกสถานที่ที่ควรเลี่ยงในหน้าร้อนถ้าไม่อยากเจอคนมหาศาลคือพวกสวนน้ำ สระว่ายน้ำ หรือ ทะเลต่างๆค่ะ ที่เคยอ่านในโดราเอมอนว่าหน้าร้อนคนเต็มสระเหมือนหนอนยังไง ของจริงก็ยังงั้นเลยค่ะ คนเขียนเค้าไม่ได้โม้เกินจริงเลย

++++ เดือนนี้มีอะไรน่าสนใจ ++++

ในปีก่อนๆ(ก่อนปี 2011)เดือน สค นี้ 花火(ฮานาบิ-เทศกาลชมดอกไม้ไฟ) ก็ยังพอมีเหลือค่ะ (รายละเอียดดูในเดือน กค นะคะ) แต่สักกลางเดือนมาแถบคันโต (แถบๆโตเกียวและใกล้เคียง) ก็แทบไม่เหลืองานดอกไม้ไฟแล้ว แต่มาปี 2011 หลังเหตุแผ่นดินไหวและมาตรการประหยัดไฟ งานดอกไม้ไฟหลายงานก็ยกเลิกไป ที่เหลือจัดอยู่เราก็เห็นเลื่อนมาเดือนนึงจัดกันเดือน สค เป็นส่วนใหญ่แทนค่ะ ถามคนญี่ปุ่นเค้าเดาว่าอาจเพราะเตรียมตัวไม่ทันเลยเลื่อนมาเดือนนึง เพราะตอนแรกที่เกิดเรื่องใหม่ๆคิดกันว่าจะยกเลิกพวกงานรื่นเริงพวกนี้ไปค่ะ เพิ่งมาเปลี่ยนจัดทีหลังอีกที (แต่พอเข้าปี 2012 อะไรๆเริ่มอยู่ตัวแล้ว ก็เห็นงานดอกไม้ไฟต่างๆกลับมาจัดกันเป็นปกติเหมือนเดิมแล้วนะคะ)

แต่ที่เห็นยังเหมือนๆกันทุกปีคือช่วงเดือน สค นี้ยูกาตะลดราคากันเป็นว่าเล่นเลยค่ะ ไปห้างไหนร้านไหนก็เห็นขายยูกาตะและเครื่องประดับชุดยูกาตะลดราคา ถ้าอยากลองใส่สักครั้งซื้อตอนช่วงนี้ก็ดีนะคะลดเยอะดี วันไหนมีงานดอกไม้ไฟใส่ได้เลยเพราะจะเจอเพื่อนใส่ด้วยกันทั่วไปตามท้องถนนเลยค่ะ

เสื้อผ้าหน้าร้อน(ที่เหลือๆจากเดือนก่อน)ก็ยังเซลต่อไปค่ะ แต่ซาลงเยอะแล้ว มีแต่แบบที่เหลือๆเห็นจนเบื่อ เริ่มแขวนหลบมุมร้านเอาพื้นที่ไปลงให้เสื้อผ้าใบไม้ร่วงออกใหม่ๆ(ไม่ลดราคา)แทน ป้ายเซลตามห้างร้านก็จะพยายามตอกย้ำว่าเป็นเซลสุดท้ายท้ายสุดแล้วนะ จะ Final sale, Last sale, Clearance sale หรืออะไรก็ว่าไปค่ะ

++++ การแต่งตัว ++++

ส่วนใหญ่ก็ยังคล้ายๆกับที่เขียนไว้ในเดือน กค นะคะ เพราะยังร้อนอยู่(แถมร้อนกว่าเดิมด้วย) เสื้อผ้าหน้าร้อนก็ยังเซลอยู่ แต่สักกลางๆเดือนก็แบบว่าจวนไปเต็มที ไอ้แบบที่สวยๆดีๆก็มักหมดๆไปแล้วตั้งแต่เดือนก่อน(ลงปุ๊ปหมดเลย) ที่ยังเหลือก็ยังเซลต่อไปได้เรื่อยๆล่ะค่ะ แต่ถ้าคนที่ดูมาตั้งแต่เดือนก่อนก็จะเบื่อแล้ว เพราะไม่ค่อยมีแบบใหม่มาเซลล์มีแต่แบบเดิมเดิ๊มเดิม

แต่ถ้าไปดูตามห้าง เสื้อผ้าจะผลัดเข้าแฟชั่นใบไม้ร่วงตั้งแต่ต้นเดือนแล้วนะคะ แต่พวกนี้คือไม่เซลล์อ่ะค่ะ สังเกตง่ายๆว่าเข้าใบไม้ร่วงแล้วคือ
- หนึ่ง รองเท้าใหม่ๆที่ออกมาเป็นรองเท้าบู๊ตทั้งแถบมาเลย ไม่ก็พวกรองเท้าที่หุ้มปิดเท้ามิดชิด
- สอง คือ อะไรขนๆนี่จะเยอะค่ะ ตั้งแต่รองเท้าขนๆบุนวมๆ เสื้อแจ๊กเก็ตขนๆ บลาๆๆ
- สาม คือ พวกเสื้อผ้าลายสก๊อต จะเกลื่อนกลาดมากๆเห็นสก๊อตทุกปี พอเข้าใบไม้ร่วงและหน้าหนาว แต่คนไทยระวังนิดนะคะ เพราะเราเคยชินกับลายผ้าขาวม้าอยู่แล้ว เลือกลายสก๊อตไม่ดี ไปใส่ที่ไทยอาจโดนสงสัยว่าเอาผ้าขาวม้ามาตัดเสื้อได้

เอ้อ แต่ไอ้คอลเลคชั่นใบไม้ร่วงที่ว่ามาด้านบนนี่ ยังไม่(ค่อย)ใส่กันเดือนนี้นะคะ รออีกนิดค่ะ เดือนหน้าถึงจะเริ่มใส่ได้ (จริงๆเดือนหน้าก็ยังร้อน แต่ถ้าอยากใส่ก็ยังใส่ได้ค่ะ ถือว่าปลายหน้าร้อนแล้ว)

สรุปว่าเดือนนี้ร้อนมากๆค่ะ กันแดดเอา SPF50 แบบแรงสุดมาเลยนะคะ(ร่มด้วยจะดีมาก) แต่งตัวแบบหน้าร้อนตามที่บอกไว้เดือน กค เลยหรือถ้ากลัวดำก็ใส่แขนยาวขายาวปิดให้หมดค่ะ(ที่ญี่ปุ่นมีขายปลอกแขนไว้ใส่กันแขนดำ) เรื่องเซลเสื้อผ้าหน้าร้อนผ่านกลางๆเดือนนี้ไป ก็ใกล้หมดแล้วล่ะค่ะ เตรียมตัวรับแฟชั่นใบไม้ร่วงเต็มที่ได้เลย(แต่ราคาเต็มไม่มีลดนะคะ)





Create Date : 07 ตุลาคม 2555
Last Update : 7 ตุลาคม 2555 12:53:15 น. 0 comments
Counter : 50645 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

White Amulet
Location :
Bangkok Thailand / Tokyo Japan

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 35 คน [?]




บล็อคนี้ถึงไม่ค่อยมีอะไรแต่ถ้าจะก๊อปปี้ข้อความหรือรูปอะไรไปโพสที่อื่น ก็รบกวนช่วยใส่เครดิตลิงค์บล็อคนี้ไว้ด้วยนะคะ

เราไม่สงวนลิขสิทธิ์การนำภาพและข้อความในบล็อคไปเผยแพร่(ในแบบที่ไม่ใช่เชิงพาณิชย์)แต่สงวนลิขสิทธิ์ความเป็นเจ้าของภาพถ่ายและเนื้อหาค่ะ

ค้นหาทุกสิ่งอย่างในบล็อคนี้

New Comments
Friends' blogs
[Add White Amulet's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.