งาน :: สัมภาษณ์งานรีเซฟชั่น..เดือนมีนาคม 2010 ดวงดี แต่กรรมบัง
สัมภาษณ์งานเมืองผู้ดี รอบที่เท่าไหร่ไม่ได้จำแล้ว 
เมื่อวานนี้ไปสัมภาษณ์งานมาอีกแล้วค่ะ ตำแหน่ง RECEPTIONIST อีกแล้ว.. แต่คราวนี้เป็นในส่วนของ Leisure Club โรงแรมไม่ใช่แบบ City Hotel แต่เท่าที่ดูเหมือนเป็นรีสอร์ต เพราะมีสระว่ายน้ำสองสระ เทนนิสคอร์ตแปดคอร์ต สปา ฟิสเนส ห้องโยคะและอื่นๆอีกมากมายก่ายกอง เหมาะกับการไปพักผ่อนประเภทเช็คอินแล้วก็ใช้ facilities โรงแรมอย่างคุ้มค่า โรงแรมนี้อยู่ในเมืองน่ารักๆชื่อ Basingstoke และเหตุที่ได้ไปสัมภาษณ์ก็เพราะความสะระแน (สมัคร)ของ จขบ.อีกนั่นเอง..
เรื่องของเรื่องคือโทรไปหาตามเบอร์ที่ได้มาจากเวพไซต์หางานเวพไซต์หนึ่งค่ะ โทรไปหลังจากที่ส่ง CV ไปได้สามสิบนาที ก็ได้คุยกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลเลย จริงๆไม่ต้องโทรก็ได้ แต่ด้วยชื่อตัวดูไม่อังกฤษ คิดไปเองว่าเค้าอาจจะเข้าใจว่าเราเป็นกระเหรี่ยง ไม่พูดอังกฤษ ก็เลย (แกล้ง) โทรไปถามว่าได้รับซีวีหรือไม่ และพอจะบอกภาพรวมของงานนี้ได้หรือไม่ เจ้าหน้าที่ใจดีก็ดีค่ะ เธอบอกว่าดูจาก qualification ไอจะส่งซีวียูไปที่ Leisure Manager ว่ายูสมัครตำแหน่ง Head Receptionist นะ (เอางั้นเลยเร๊อะ ) เพราะดูว่าเคยเป็นตำแหน่งคล้ายๆกันนี่มาก่อนที่ไทย.. จขบ.ก็ตอบรับไป ชั่วโมงนี้ยังไงก็ได้อ่ะค่ะ สรุปว่าผ่านไปสองวันผู้จัดการก็โทรไปเรียกสัมภาษณ์เมื่อวานนี้ตอนเที่ยงตรง
อกสถานีก็นั่งรถเมลล์ต่อไปอีกสิบห้านาที แล้วเดินจากป้ายรถเมลล์อีกเจ็ดนาที ก็ถึงโรงแรมที่ว่า แฟนอุตส่าห์ไปเป็นกำลังใจให้ เลยไปด้อมๆรอๆแถวๆเทสโก้ ตัวเองก็ได้เข้าไปสัมภาษณ์กับผู้จัดการที่หน้าตาประมาณ Julia Robert เธอดูดีมากๆ และเป็นกันเองมากๆๆๆๆๆ การสัมภาษณ์เป็นไปด้วยดีมากๆ เธอแทบไม่ถามอะไรที่เป็น Technique เลย ส่วนใหญ่ถามเรื่องเกี่ยวกับจขบ. ถามว่าทำไมมาอยู่อังกฤษ ก็เล่าชีวิตที่เข้มข้นหวานมันส์ให้เธอฟัง และเธอก็ถามถึงงานที่เคยทำ ถามว่าอยากเป็นผู้นำหรือผู้ตาม และพาเดินทัวร์ในส่วนของสปา สระว่ายน้ำ ฟิตเนส ห้องโยคะที่เล่าให้ฟัง และมาจบที่ระบบส่วนหน้า ซึ่งเธอก็สาธิตวิธีเช็คประวัติลูกค้า การบุ๊คคิวลูกค้า และการทำบิลต่างๆให้ฟัง เป็นประสบการณ์ที่ดีทีเดียว เพราะที่เคยไปสัมภาษณ์มา ไม่มีใครที่น่ารักแบบเธอคนนี้ ที่พาเข้าไปดูข้างใน แถมยังให้ดูหน้าจอคอมพิวเตอร์อีก ยังไงก็ตาม เธอบอกว่าวันศุกร์นี้เธอจะโทรมาบอกผล ส่วนเรื่องให้เป็น Head Receptionist นั้นคงไม่เหมาะสมเพราะเธอคิดว่าแม้จขบ.จะมีประสบการณ์มาก่อน แต่ว่าเธออยากโปรโมตคนจากภายในขึ้นไปตรงนั้น เพราะฉะนั้นเธอเลยขีดคำว่า 'HEAD'ทิ้งซะเหลือแต่ Receptionist ตัวเดียว ฮ่าๆๆๆๆ เรื่องเศร้าก็คือว่า จขบ.ไม่มีรถ ไม่มีใบขับขี่อีกตะหาก รถเมลล์ที่จะไปก็เริ่มคันแรกหกโมงเช้า แต่กะเช้าเริ่มหกโมงเช้า ส่วนรถเมลล์กลับนั้นก็หมดสี่ทุ่ม กะบ่ายเลิกสี่ทุ่ม กว่าจะเปลี่ยนเสื้อผ้าและปิดรอบ (นับเงิน) ก็ไม่ทันแล้ว...
บล็อกนี้ไม่ฮานะคะ ปกติโดยธรรมชาติเป็นคนฮาค่ะ แต่ตกงานนานๆเข้าก็ชักจะฮาไม่ออกเหมือนกัน รอบนี้ร้องไห้อีกตุ่มเพราะเสียดาย (เค้ายังไม่ได้โทรมาเล้ยว่าได้งาน) เสียดายอะไรหลายๆอย่างอ่ะ ทำไม๊ ทำไม จขบ. กะฝาชี (สามี) ต้องเป้นกระเหรี่ยงจนๆด้วยน้า นี่ถ้ามีรถ มีใบขับขี่ก็คงสบายไปแล้ว... เฮ้อ .. แต่ยังไง จขบ.จะไม่ท้อ จะหางานที่ไม่ต้องเดินผ่านป่ารกๆตอนดึกๆคนเดียวหลังเลิกงานให้ได้ (พูดเหมือนหน้าตาดี กลัวโดนทำมิดีมิร้าย..แต่ที่กลัวคือโดนฆ่ากรีดคออ่ะ ) ถ้าเป็นไปได้ เดี๋ยวว่าจะลองสมัครงานกับโรงแรมเล็กๆแถวบ้านดูเร็วๆนี้ซักทีนะเออ ลืมเล่าสู่กันฟังค่ะ เรื่องเงินเดือนรีเซฟชั่นที่นี่ไม่ต้องพูดถึง น้อยนักซะนี่กระไรถ้าเป็นตำแหน่งนี้ (เทียบตามค่าแรงขั้นต่ำประเทศนี้นะคะ) แต่ว่า Benefits นี้เยอะแยะนัก อาหารฟรี (อันนี้ของตาย) ยูนิฟอร์มฟรี (อันนี้ก็แน่นอน) วันหยุดประมาณสี่สัปดาห์ต่อปี พักโรงแรมที่ไหนก็ได้ในเครือคืนละ 25 ปอนด์เท่านั่น และที่สำคัญใช้ฟิสเนสกับสระว่ายน้ำได้เมื่อไม่ได้อยู่ใน duty เริ่ดมากๆๆๆๆ แต่ก็อย่างว่า... พูดได้คำเดียวว่า "เสียดาย" ค่ะ ส่วนเรื่องงาน (ที่ได้ทำในอังกฤษ) ในเวลาสั้นๆ ที่สัญญาว่าจะเล่าให้ฟัง เลยต้องเลื่อนไปก่อน เพราะมีเรื่องเศร้าเคล้าเรื่องดีเรื่องนี้มาฝากค่ะ ยังไง จขบ.ก็ว่ามันเป็นประสพการณ์ที่ดีทีเดียว   Sorrow's Sucker 
Free TextEditor
Create Date : 25 มีนาคม 2553 |
Last Update : 26 มีนาคม 2553 23:18:22 น. |
|
5 comments
|
Counter : 3950 Pageviews. |
 |
|