ขีดเขียนเวียนอ่าน
space
space
space
space

ความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับการกินเจ
        ประวัติการกินเจนั้น มีตำนานเรื่องเล่าหลายที่มา แต่พอจะมีหลักฐานปรากฏอยู่บ้างว่าเป็นประเพณีท้องถิ่นของกลุ่มคนบางกลุ่ม บางลัทธิ บางนิกาย ในบางประเทศเท่านั้น ซึ่งประวัติที่ได้รับการยอมรับเป็นสากล คือ ประเพณีกินเจของชาวจีน โดยมีที่มาจากความเลื่อมใสศรัทธาในพุทธศาสนา นิกายมหายาน ร่วมกับลัทธิขงจื๊อ จึงเกิดการถือศีลกินเจขึ้นเพื่อสักการบูชาพระพุทธเจ้าในอดีต 7 พระองค์กับพระโพธิสัตว์ 2 พระองค์ และเรียกเทศกาลนี้ว่า “เทศกาลเฉลิมฉลองของพระราชาธิราชทั้ง 9” (Nine Emperor Gods Festival)
        ในประเทศจีน การกินเจ นิยมปฏิบัติกันแค่ในกลุ่มผู้ศรัทธากลุ่มเล็ก ๆ เท่านั้น แต่กลับได้รับความนิยมแพร่หลายในประเทศไทย ซึ่งนับถือพุทธ เถรวาทเป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะภาคใต้ของไทยและในกรุงเทพฯ  
        “เทศกาลกินเจ” มีในประเทศไทยเท่านั้น จัดระหว่างวันขึ้น 1 ค่ำ ถึง 9 ค่ำ เดือน 9 ตามปฏิทินจีน (9 วัน ตามจำนวนพระราชาธิราช 9 พระองค์)


 

     ปัจจุบันจะเห็นว่าพอถึงเทศกาลกินเจ ไม่ว่าจะไปย่านไหนในไทย บางร้านอาหารก็จะปรับเปลี่ยนเมนูจากปกติที่มีเนื้อสัตว์ มาทำอาหารเจขาย ปักธงเหลืองตาม ๆ กัน บางคนถึงกับเปิดร้านอาหารเจชั่วคราวขึ้น เพื่อขายเฉพาะในเทศกาลเท่านั้น พอหมดช่วงเวลา ก็จะกลับไปทำธุรกิจหลักของตัวเองตามเดิม เพราะ
     1. รายได้ดี ขายได้ คนนิยมกินเจในช่วงเทศกาลมากขึ้น 
     2. เชื่อว่าได้บุญ เพราะเหมือนเป็นการต่อบุญให้คนกินได้ทำบุญ




     จากแต่ก่อนที่นิยมกินเจกันเฉพาะในหมู่คนไทยเชื้อสายจีน ก็แพร่หลายมาสู่คนไทยที่ไม่ได้มีเชื้อสายจีนมากขึ้น ซึ่งหลายคนก็มีความเชื่อที่ผิด ๆ 

ยกตัวอย่าง 
เชื่อผิดว่า การถือศีลกินเจสามารถชำระบาปหรือชำระจิตใจได้
        ตามหลักศาสนาพุทธ กรรมใดเกิดขึ้นแล้ว มีผลทันที ไม่มีอะไรลบล้างได้ แก้กรรมไม่ได้ ชำระให้สะอาดเหมือนใหม่ไม่ได้ เราสามารถทำได้เพียงยอมรับ ให้อภัยตัวเอง ให้อภัยผู้อื่น และพัฒนาตัวเองให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไป ไม่ทำผิด ทำบาปซ้ำอีก ซึ่งจะเท่ากับเป็นการคอยชำระล้างความคิดและการกระทำให้สะอาดอยู่เสมอ ค่อย ๆ ฝึกพัฒนาไปเรื่อย ๆ สิ่งดี ๆ ก็จะเกิดขึ้นกับตัวเอง โดยไม่จำเป็นต้องรอเวลาให้ถึงเทศกาลเลย
 
เชื่อผิดว่า การกินเนื้อสัตว์เป็นบาป การกินเจเป็นการทำบุญ  
       ความจริงตามหลักพุทธศาสนา มีศีลข้อ 1 ปาณาติปาตาเวรมณี เว้นจากการฆ่าสัตว์ แต่ไม่มีข้อห้ามกินเนื้อสัตว์ และพระพุทธเจ้าเองก็ฉันเนื้อสัตว์ปกติ ตามแต่จะมีคนปรุงถวาย
       หากถือว่า “บุญ คือ ความสบายใจ” การกินเจย่อมเป็นบุญ เพราะทำแล้วสบายใจ แต่การกินเจไม่จัดอยู่ใน “บุญกิริยาวัตถุ 10” อันได้แก่ การให้ทาน, การรักษาศีล, การเจริญภาวนา, การอ่อนน้อมถ่อมตน, การขวนขวายในกิจที่ชอบ,  การให้โอกาสผู้อื่นได้ทำบุญ และอุทิศส่วนบุญ, การอนุโมทนาบุญ, การฟังธรรม, การแสดงธรรมหรือสอน แนะนำข้อคิดดี ๆ  และการทำความเห็นให้ตรง โดยพัฒนาความคิด-ปรับพฤติกรรมตนเองให้ถูกต้อง
      การงดกินเนื้อสัตว์ในระยะเวลาหนึ่ง ทำให้เราได้บุญ ได้ความสบายใจ ในโอกาสที่เราไม่ได้เบียดเบียนชีวิตสัตว์อื่น เท่ากับว่าได้ต่อลมหายใจให้เหล่าสัตว์ทั้งหลายได้ใช้ชีวิตต่อไป

 
เชื่อผิดว่า อาหารเจเป็นอาหารสุขภาพ
       “อาหารเจ” เป็นอาหารมังสวิรัติชนิดหนึ่ง มีข้อห้าม ดังนี้
       - งดการบริโภคเนื้อสัตว์ทุกชนิด รวมถึงผลิตภัณฑ์จากสัตว์ เช่น ไข่ นม เนย น้ำมันจากสัตว์ น้ำปลา ผงปรุงรสที่มีส่วนผสมของเนื้อสัตว์ ฯลฯ
      - งดอาหารรสจัด
      - งดผักกลิ่นฉุน ได้แก่ กระเทียม หัวหอมและต้นหอม หลักเกียวหรือกระเทียมโทนจีน  กุยช่าย (บางแห่งรวมผักชีด้วย) และใบยาสูบ โดยแพทย์แผนจีนโบราณเชื่อว่าผักทั้ง 5 ชนิดนี้ทำลายพลังธาตุทั้ง 5 ของร่างกาย (ธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ และโลหะ)
       ความจริงวงการแพทย์แผนปัจจุบันยอมรับว่า พืชตระกูลกระเทียมและหัวหอมมีประโยชน์สูง ในแง่ที่ช่วยล้างหลอดเลือด ลดไขมัน และมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยป้องกันมะเร็ง อีกทั้งปริมาณผักต้องห้าม 4 ชนิด (ยกเว้นยาสูบ) ที่ใส่ในอาหารต่อมื้อไม่ได้มีปริมาณสูงจนสามารถทำลายพลังธาตุในร่างกายได้
      นอกจากนี้ อาหารเจที่ขายตามร้านทั่วไปนั้น ไม่ได้มีคุณสมบัติที่จะช่วยล้างพิษให้ร่างกายได้ ทั้งยังให้สารอาหารหรือคุณค่าทางโภชนาการไม่สมดุล เพราะอาหารเจส่วนใหญ่มักใช้คาร์โบไฮเดรตเป็นหลัก โปรตีนน้อย ไฟเบอร์ วิตามิน และเกลือแร่จากผักน้อย ไขมันสูง (เป็นตัวการทำให้อ้วน) ซ้ำยังใช้ส่วนผสมที่เป็นอาหารแปรรูป เช่น โปรตีนเกษตร เนื้อสัตว์เทียมที่ทำเลียนแบบเนื้อสัตว์จริง ส่วนใหญ่ทำจากถั่วเหลืองผสมแป้งและเครื่องปรุงรส ผู้ผลิตบางรายอาจเพิ่มสารปรุงแต่งสังเคราะห์และสารกันบูดเพื่อให้อาหารอยู่ได้นานอีกด้วย



           
      ยกตัวอย่าง ผัดหมี่ซั่วเจ 1 จาน ส่วนผสมหลักมีเส้นหมี่ซั่ว ผักหลากชนิด อาจจะเป็นกะหล่ำปลี แคร์รอต ถั่วงอก ใช้โปรตีนเป็นโปรตีนเกษตรกับเห็ดหรือเต้าหู้ เครื่องปรุงรส และน้ำมันพืช ซึ่งปกติเทศกาลเจ ราคาผักจะแพงขึ้นมาก ตามร้านจึงลดปริมาณผัก เน้นเส้นหรือคาร์โบไฮเดรตกับโปรตีนเกษตร 

       จากการประสบการณ์ของผู้เขียนที่เคยเป็นมังสวิรัติมา 8 ปี พบว่าหากเราไม่มีความรู้เรื่องโภชนาการ และไม่รู้วิธีเลือกกินอาหารให้สมดุล มักมีปัญหาโลหิตจาง จากการบริโภคโปรตีนไม่เพียงพอ (อาจรวมถึงธาตุเหล็กและวิตามินบี 12 ด้วย) โดยเฉพาะขณะมีประจำเดือน และผู้สูงอายุบางคนที่เป็นมังสวิรัติมายาวนานกว่า 30 ปี มีปัญหาไขมันสูง เป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ จากการกินอาหารไม่สมดุลและเลือกใช้น้ำมันในการทำอาหารผิดประเภท

       อาหารมังสวิรัตินั้น เป็นอาหารที่ดีต่อร่างกาย ดีต่อจิตใจ และดีต่อสิ่งแวดล้อม แต่เราต้องมีความรู้ในการพิจารณาเลือกเมนูอาหาร



        อันที่จริงแล้ว อาหารไทยประเภทแกงที่ใช้เครื่องแกงเป็นสมุนไพร เครื่องเทศต่าง ๆ หรือน้ำพริกบางชนิด ที่ใช้กระเทียม หอมแดง เป็นส่วนผสม กินกับผักลวก ผักสด ก็ได้รับการยอมรับว่าเป็นอาหารต้านโรค มีคุณค่าทางโภชนาการ
        ดังนั้น หากจะกินอาหารเจ ผู้บริโภคควรพิจารณาเลือกเมนูอาหารให้สมดุล อาจเพิ่มกับประเภทแกงจืดผักรวม ผัดผักรวมที่ใส่เห็ดหรือถั่วต่าง ๆ เพื่อให้ได้สารอาหารที่เพียงพอต่อมื้อ หรือไม่ก็ทำอาหารเอง จะได้มั่นใจได้ว่าสะอาด ปลอดภัย และไม่มีสิ่งแปลกปลอมจริง ๆ



 (ลดแป้งจากเส้นหมี่ซั่ว เพิ่มผัดบร็อกโคลี เพิ่มโปรตีนจากเต้าหู้พะโล้)

       เหล่านี้เป็นเพียงตัวอย่างที่ผู้เขียนเห็นจากคนรู้จัก ซึ่งไม่ใช่คนไทยเชื้อสายจีน แต่พอถึงเทศกาลกินเจ ก็พูดโอ้อวดว่าตัวเองกินเจ ชักชวนคนอื่นกินเจตาม ด้วยความเชื่อเพียงแค่ว่า การกินเจเป็นเรื่องที่คนดี คนใจบุญ หรือคนปฏิบัติธรรมทำ แถมภูมิใจมากจนต้องป่าวประกาศให้ใคร ๆ รับรู้ (คนดี = ไม่โอ้อวด)
 
      การถือศีลกินเจนั้น ถือเป็นการทำกุศลอย่างหนึ่งก็จริง แต่ผู้ปฏิบัติควรทราบวัตถุประสงค์จริง ๆ ของการถือศีลกินเจนี้ มีศรัทธาที่ถูกต้อง และตั้งใจปฏิบัติจริงด้วยใจบริสุทธิ์ ก็จะเกิดความสบายใจ มีความสุข อิ่มเอมตลอดเทศกาล.

 


Create Date : 08 ตุลาคม 2567
Last Update : 8 ตุลาคม 2567 11:08:40 น. 0 comments
Counter : 350 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณhaiku, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณสมาชิกหมายเลข 3902534, คุณดอยสะเก็ด, คุณ**mp5**


ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
space

skywriter
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ผู้หญิงธรรมดาๆ ที่ขี้เล่า ^^

space
space
space
space
[Add skywriter's blog to your web]
space
space
space
space
space