ขีดเขียนเวียนอ่าน
ซีรีส์ที่อยากเขียนถึง
ภาพยนตร์โปรด
การสื่อสาร
เรื่องเล่าจากประสบการณ์
โรคภัยไข้เจ็บ
รายการบันเทิ้งบันเทิง
หนังสือ
เพลง
D-Day (2015) / ฝ่าวิกฤตกู้ชีพ
Murder Mindfully SS1 (2024)
Melo Movie (2025)
Doubt (2024)
Beyond Evil / ปมปีศาจ
The Auditors
The Killing Vote
Voice SS2 - SS3 : ชีวิตแสนเศร้าของโดคังอู
Partners for Justice SS 1 + 2
The Road : The Tragedy of One
Brain / ศึกสมอง ประลองหัวใจ
When the Devil Calls Your Name / สัญญาปีศาจ
Move to Heaven
D-Day (2015) / ฝ่าวิกฤตกู้ชีพ
ภาพตึกถล่มจากแผ่นดินไหวใน กทม. เมื่อบ่ายวันที่ 28 มีนาคม 2568 ทำให้ฉันนึกถึงซีรีส์เรื่องนี้ขึ้นมา...
D-Day
ซีรีส์เกาหลี แนวดราม่า ระทึกขวัญ การแพทย์ (ฉุกเฉิน)
ความยาว 20 EP
นักแสดงหลัก
Kim Young-Kwang เป็น หมออีแฮซอง
Jung So-Min เป็น หมอจองโดลมี
Ha Seok-Jin เป็น หมอฮันอูจิน
Lee Kyoung-Young เป็น ผอ.รพ.มีแร
เนื้อหาหลักของเรื่องพูดถึงปัญหาภัยพิบัติ – แผ่นดินไหวในเกาหลีใต้
เริ่มตั้งแต่การมีนักวิชาการ นักการเมืองเตือนให้รัฐบาลให้ความสำคัญกับการเตรียมพร้อมรับมือเหตุแผ่นดินไหว เกิดหลุมยุบขนาดใหญ่เกิดถี่มากขึ้น แต่ไม่มีใครสนใจ
จนกระทั่งเกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.5 ริกเตอร์ในโซล ตึกถล่ม แผ่นดินแยก เส้นทางการเดินทางถูกปิด ไฟดับ ท่อน้ำแตก ใช้เครื่องปั่นไฟไม่ได้ กู้ภัย ดับเพลิง และเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ฉุกเฉิน ระดมสรรพกำลังช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บ ทั้งภายนอกและที่ติดอยู่ในซากอาคารที่ถล่ม
ขณะเดียวกันก็มีประเด็นเกี่ยวกับกฎหมายการแพทย์ ธุรกิจโรงพยาบาล ปมดราม่าในครอบครัวพระเอก มีซีนซึ้ง เศร้า สะเทือนใจ แต่ก็มีคอมเมดี้นิดๆ มีโหมดกุ๊กกิ๊กหน่อยๆ แทรกอยู่
และมาจบที่บทสรุป การเรียกร้องให้แก้กฎหมายการก่อสร้างอาคารให้รองรับแรงแผ่นดินไหวได้ จากเดิมที่รับได้แค่ 4.0 ริกเตอร์ เป็น 7.0 ริกเตอร์
การสร้างฉากอุบัติเหตุและภัยพิบัติต่างๆ ไม่ว่าจะระเบิด ไฟไหม้ ตึกถล่ม แผ่นดินแยก สะพานข้ามแม่น้ำถล่ม รถตกสะพาน ฯลฯ เอฟเฟ็กต์ CG สมจริง ทำได้ยิ่งใหญ่รุนแรง ระทึก น่ากลัว ภาพการบาดเจ็บต่างๆ บาดแผลฉกรรจ์ เหล็กเสียบ ก็น่าเสียวไส้มาก
เราจะได้เห็นวิธีการจัดการ การตัดสินใจ และการแก้ไขปัญหาในสถานการณ์ฉุกเฉินที่เต็มไปด้วยอุปสรรคอันยากลำบาก ในรูปแบบของละคร แถมเกร็ดความรู้บางอย่างเรื่องการแพทย์ การกู้ชีพ การใช้อุปกรณ์ในการช่วยเหลือบางอย่างด้วย
เสน่ห์ของซีรีส์เรื่องนี้ ยกให้คิมยองกวัง หมอฉุกเฉินมาดเซอร์ สูง เท่ กวนประสาท บ้าระห่ำ แต่จิตใจอ่อนโยน ทุ่มเทและเสียสละเพื่อช่วยชีวิตคนเจ็บอย่างเต็มกำลังความสามารถ
“การเสียชีวิตคือการที่หมอยอมแพ้ ถ้าไม่ยอมแพ้คนไข้ก็ยังมีชีวิตอยู่”
หมออีแฮซอง
[ช่องอัมรินทร์เคยนำมาฉายและยังหาดูในยูทูบได้อยู่นะ]
____
Cr. ภาพจาก mydramalist.com
Create Date : 30 มีนาคม 2568
0 comment
Last Update : 6 เมษายน 2568 11:12:55 น.
Counter : 109 Pageviews.
(โหวต blog นี้)
Share
Tweet
Murder Mindfully SS1 (2024)
Murder Mindfully
ซีซั่น 1 เป็นซีรีส์สัญชาติเยอรมันของ Netflix
ฉายครั้งแรกช่วงฮาโลวีน ปี 2024
แนว ฆาตกรรม ระทึกขวัญ ดาร์กคอมเมดี้ ความยาว 8 EP
สร้างจากนิยายของ Karsten Dusse
cr. bookstation.ie/product/murder-mindfully
ชื่อเรื่องภาษาไทย
ถ้าใครเคยอ่านงานของฉัน จะเห็นว่าฉันไม่ค่อยใส่ชื่อเรื่องภาษาไทย เพราะหลายเรื่องไม่สอดคล้องกับเนื้อเรื่อง
เรื่องนี้ก็เช่นกัน เขาใช้ชื่อ “จงใจฆ่า” ทั้ง ๆ ที่ถ้าแปลตรงตัวว่า “ฆ่าอย่างมีสติ” จะตรงและเหมาะกับเนื้อเรื่องมากกว่า
เรื่องย่อ
บียอร์น เป็นทนายความทำงานในสำนักงานกฎหมายแห่งหนึ่ง โดยต้องทำงานรับใช้ดรากัน หัวหน้ามาเฟียที่ทำแต่เรื่องชั่ว ๆ ซึ่งก็ทำให้บียอร์นมีชื่อเสียง เพราะสามารถว่าความให้มาเฟียชนะคดีสำเร็จหลายครั้ง เขาจึงมีงานที่ต้องทำยุ่งเหยิงตลอดเวลา จนไม่มีเวลาให้ครอบครัว แคทริน่า-ภรรยาจึงแนะนำให้เขาอ่านบทสัมภาษณ์เรื่องการบำบัดจิตเพื่อจัดการชีวิตให้สมดุล ด้วยสมาธิและสติ
บียอร์นไปพบนักบำบัดคนนั้น เขาได้เรียนรู้เรื่องการจัดการกับอารมณ์ ความคิดเมื่อเผชิญกับปัญหาในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้รับการฝึกสมาธิและฝึกสติ บียอร์นจริงจังกับการฝึกและนำมาใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งหลังปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ความสัมพันธ์ในครอบครัวของบียอร์นก็ดีขึ้น แม้เขาจะแยกกันอยู่กับภรรยาและลูกตามคำแนะนำของนักบำบัด แต่เขาก็จัดสรรเวลาให้ทั้งคู่ได้ดีขึ้น
ในวันหยุดสุดสัปดาห์วันหนึ่ง ขณะที่บียอร์นกำลังขับรถพาเอมิลี่-ลูกสาวไปเล่นน้ำที่ทะเลสาบ วิลล่าตากอากาศของดรากัน ดรากันก็สร้างเรื่องเลวร้ายให้เขาต้องขับรถย้อนไปหาที่สำนักงานเพื่อแก้ปัญหา
บียอร์นใช้สมาธิเลือกจัดการกับสิ่งที่ต้องทำตามลำดับ ตามคำสอนของนักบำบัดอย่างใจเย็นและมีสติทุกขั้นตอน แต่กลายเป็นว่าการจัดการนั้น เป็นการฆาตกรรมอันแสนเลือดเย็น และทำให้เขาถลำตัวไปไกลกับการไล่กำจัดตัวปัญหาทีละคน ๆ โดยมีคำสอนของนักบำบัดรีมายด์ขึ้นมาในความคิดของบียอร์นอยู่เสมอ
(สปอยล์น้อยมาก)
ความคิดเห็นผู้เขียน
ซีรีส์เรื่อง
Murder Mindfully
จัดอยู่ในประเภทละครแนวระทึกขวัญ ฆาตกรรมก็จริง แต่กลับไม่ระทึกสักเท่าไหร่ ดูได้ต่อเนื่องเพลิน ๆ ขำ ๆ เพราะใส่ความเป็นดาร์กคอมเมดี้อยู่ด้วย
จุดเด่นของเรื่องนี้ อยู่ที่ “การเล่าเรื่อง” ที่แตกต่างจากเรื่องฆาตกรรมทั่วไป มีการนำเอาคำสอนเรื่องการจัดการอารมณ์และความคิดด้วยการฝึกสมาธิ ฝึกสติ มาใช้ในชีวิตส่วนตัว การทำงาน และการฆาตกรรมของตัวละครหลัก โดยรีมายด์ผ่านคำสอนของนักบำบัดที่ฝึกสอนเขา แล้วยังให้ตัวละครหลักเล่าความคิดของตัวเองแบบติดตลกหรือบ่น ด้วยการหันมาพูดกับกล้องเสมือนพูดกับคนดูด้วย
ตอนจบของเรื่องมีการเผยหลักฐานสำคัญทิ้งไว้แล้ว เราก็ต้องมาลุ้นต่อว่าซีซั่น 2 บียอร์นจะยังใช้ความฉลาดแกมกะล่อนเอาตัวรอดได้ต่อไปหรือเปล่า หรือจะพลิกเรื่องไปทางอื่นไปเลย ?
Cr. รูป
https://about.netflix.com/en/news/murder-mindfully-launch-date-announced-and-first-look-pictures-available
https://www.heavenofhorror.com/reviews/murder-mindfully-netflix-series/
Create Date : 15 มีนาคม 2568
0 comment
Last Update : 16 มีนาคม 2568 12:13:03 น.
Counter : 101 Pageviews.
(โหวต blog นี้)
Share
Tweet
Melo Movie (2025)
Melo Movie
ขอเขียนถึงซีรีส์เรื่องนี้สั้น ๆ
ปกติฉันไม่ชอบดูละครหรือหนังรักโรแมนติก แต่เรื่องนี้มีนักแสดงที่ฉันชอบอย่าง คิมแจอุค ฉันก็เลยดู
แล้วบทโกจุน ที่คิมแจอุคแสดง (พี่ชายของโกกยอม) ก็ทำให้ฉันเสียน้ำตาหนักมาก เพราะฉันเองเพิ่งผ่านการเสียน้องชายไป หลังจากที่เราใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันแค่สองชีวิต หลังจากแม่เสียมาเกือบ 10 ปี
...ยิ่งตอนพระเอกเข้าบ้านไม่ได้ ฉันยิ่งเข้าใจ เพราะเมื่อมองไปทางไหน จะเห็นภาพความทรงจำเก่า ๆ ปรากฏอยู่ทั่วบ้าน และเรียกน้ำตาได้ตลอดเวลาเช่นกัน
นอกจากนักแสดงที่ชอบ ละครยังมีโทนสีสวยมาก ออกไปทางวินเทจที่เติมสีพาสเทลฟุ้ง ๆ ลงไปด้วย โดยเฉพาะฉากทุ่งดอกไม้สีเหลืองกับท้องฟ้าสีชมพูแกมโอลด์โรสเรื่อ ๆ
พัคโบยอง (นางเอก) เรื่องนี้ก็สวยน่ารักกว่าเรื่องก่อน ๆ
ส่วนชเวอูซิก (พระเอก) ก่อนหน้านี้ฉันเฉย ๆ แต่ทำไมพอมาแสดงเป็นโกกยอม ผู้ร่าเริงสนุกสนาน ทะเล้น ๆ ... ฉันก็มองเห็นหน้า เอ๊าะ กีรติ ซ้อนขึ้นมาซะงั้น
Cr. รูปจาก mydramalist.com
Create Date : 04 มีนาคม 2568
0 comment
Last Update : 4 มีนาคม 2568 10:59:47 น.
Counter : 166 Pageviews.
(โหวต blog นี้)
Share
Tweet
Doubt (2024)
Doubt
ซีรีส์เกาหลี แนวสืบสวน ฆาตกรรม จิตวิทยา ยาว 10 EP
เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างพ่อ-ลูก จางแทซู (Han Sok-Kyu) กับจางฮาบิน (Chae Won-Bin) โดยพ่อเป็นตำรวจ-โปรไฟเลอร์ (นักวิเคราะห์อาชญากรรม) ที่มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับในความสามารถระดับประเทศ แต่ไม่สุงสิงกับใคร ส่วนลูกเป็นเด็กสาวมัธยมปลาย ผู้มีพฤติกรรมไม่แสดงอารมณ์ และเคยมีประวัติน่าสงสัยในวัยเด็ก กระทั่งจางแทซูเริ่มรู้ว่าลูกไม่ไปกวดวิชา ไม่รับโทรศัพท์พ่อ แต่กลับมีตำรวจโทรบอกว่าลูกสาวมีเรื่องทะเลาะวิวาท
วันหนึ่งจางแทซูไปดูที่เกิดเหตุที่คาดว่าน่าจะเป็นฆาตกรรมในโรงเก็บของบนภูเขา ขณะเดียวกันจางแทซูก็พยายามติดต่อลูกสาวเป็นระยะ ๆ แต่เธอไม่ยอมรับโทรศัพท์ จางแทซูจึงให้คนเช็คสัญญาณมือถือ และพบว่าสัญญาณอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุที่เขากำลังทำงานอยู่
ระหว่างการสืบสวน จางแทซูก็เห็นร่องรอยของฮาบินเข้าไปเกี่ยวข้องอยู่ในคดีตรงนั้นตรงนี้ จนเรื่องราวบานปลายใหญ่โต
คำเตือน : มีสปอยล์ (เท่าที่จำเป็น)
พล็อต
– เอาคดีฆาตกรรมต่อเนื่องมาเชื่อมโยงกับความเคลือบแคลงสงสัยในตัวละครสำคัญ คือ จางแทซูสงสัยว่าลูกตัวเองเป็นฆาตกร
- ผูกเรื่องซับซ้อน พลิกความคาดหมายคนดูเป็นระยะ ๆ แต่ไม่ถึงกับนุงนัง
- ดำเนินเรื่องกระชับ แต่โคตรอึดอัดกับการเก็บความรู้สึกและไม่สื่อสารกันระหว่างพ่อลูก
- แทรกความรู้เรื่องการทำงานของโปรไฟเลอร์
- มีการสร้างปมความขัดแย้งระหว่างตัวละครเป็นคู่ ๆ ทำให้ได้มุมมองของคนที่แตกต่างกันระหว่างความสัมพันธ์ต่างรูปแบบ นอกจากความสัมพันธ์ของพ่อลูก จางแทซูกับจางฮาบินแล้ว ที่เด่น ๆ ยังมีคู่พ่อลูก จองดูชอลกับครูพัคจุนแท ที่ดูเป็นปริศนา คู่หมู่กูแดฮงกับหมู่อีโอจิน ที่มีทัศนคติ นิสัย วิธีการการทำงานที่ต่างกันมาก และความสัมพันธ์ระหว่างหัวหน้าทีมสืบสวนอาชญากรรมรุนแรง โอจองฮวานกับจางแทซู ที่มักขัดแย้งกันตลอด แต่โอจองฮวานก็แมนมาก ใจกว้าง ตรงไปตรงมา
- สงสัยตอนจบนิดนึง ลุงมอบตัวแล้ว รู้ตัวฆาตกรแล้ว แต่ทำไมตำรวจยังไม่ปล่อยตัวครูพัคจุนแท ?
การสร้างตัวละครและบทบาทการแสดง
- ความจริงก็ดูขัดแย้งไปหน่อย ตรงที่พ่อเป็นนักวิเคราะห์พฤติกรรมคนร้าย แต่มีเวลาตั้งน้านนานหลายปีตั้งแต่ตอนที่ลูกชายคนเล็กตาย ทำไมพ่อถึงวิเคราะห์พฤติกรรมลูกสาวตัวเองไม่ได้ ? เคลือบแคลงสงสัยมาเรื่อย ๆ
- คนเขียนสร้างฮาบินให้มีพฤติกรรมคล้ายไซโคพาธ ไร้อารมณ์ความรู้สึก แต่กลับไม่ได้เปิดเผยปัญหาทางพฤติกรรมด้านการรักษาหรือรับคำปรึกษาเลย (หรือต้องการปล่อยให้คนดูสงสัย ?) แต่กลับเปิดเผยเรื่องการรักษาอาการซึมเศร้าของแม่
- ตัวละครลุงหมวกกันน็อคดำ เป็นตัวที่โผล่มาแบบไม่สมเหตุสมผล เป็นตัวเชื่อมแหละ แต่พอนึกย้อนไปถึงฉากที่ซงมินอาถูกฆ่า นี่จินตนาการไม่ถูกว่าลุงอยู่ส่วนไหนของบ้าน ? ลุงเข้ามารู้เรื่องได้ยังไง ?
นักแสดง
- ฮันซ็อกกยู ไม่ต้องพูดถึง ฉันหลงรักตั้งแต่แกรับบท อ.คิม ใน Dr.Romantic แล้ว
- แชวอนบิน ก็ถือว่าเป็นนักแสดงใหม่ ที่แสดงบุคลิกสีหน้านิ่ง ๆ แต่พยายามฝืนยิ้มให้คนอื่น
- มีคนเดียวที่ฉันรู้สึกขัดตา คือ โรแจวอน ผู้รับบทหมู่กูแดฮง บางจังหวะฉันรู้สึกว่าเขายังติดบุคลิกคนไข้จิตเวชในเรื่อง Daily Dose of Sunshine อยู่
โปรดักชั่น
- ภาพ มุมกล้อง แสง เงา มืดแต่สวยแบบลึกลับ ชวนอึดอัด
มีการใช้ความหมายทางสัญลักษณ์ในฉาก ซึ่งดีเลิศมาก
ดูแล้วได้ตีความหมายทุกมิติ...
ไม่ว่าจะเป็นประตูห้องฮาบินที่ปิดอยู่เสมอ,
โต๊ะกินข้าวกับระยะห่างของการนั่งของพ่อลูก ที่มีการเปลี่ยนแปลง,
แผ่นหลังของจางแทซู,
ฉากภายนอกบ้านของจางแทซูและในบ้าน ที่มักเกิดขึ้นกลางคืน ในบ้านมืดทึม แล้วมาเปิดม่าน สว่างทั้งภายใน ภายนอก ตอนจบ,
แม้กระทั่งฉากที่โฟกัสไปที่นาฬิกาข้อมือ ของขวัญวันเกิดที่พ่อให้ฮาบิน แล้วเข็มนาฬิกาเริ่มเดิน
... มีความหมายซ่อนเร้นทั้งนั้น
ความจริงฉันชอบซีรีส์เรื่องนี้มากนะ แต่อยากให้คะแนนเฉพาะโปรดักชั่นเต็มสิบ ส่วนอื่นยังรั่ว ยังมีแผลเล็ก ๆ น้อย ๆ
.....
Cr. ภาพจาก
https://program.imbc.com/Photo/Doubt?bbs_id=Doubt_photo
mydramalist.com
----
x กรุณาอย่าคัดลอกงาน x
Create Date : 20 กุมภาพันธ์ 2568
0 comment
Last Update : 20 กุมภาพันธ์ 2568 12:19:15 น.
Counter : 154 Pageviews.
(โหวต blog นี้)
Share
Tweet
Beyond Evil / ปมปีศาจ
Beyond Evil
เป็นซีรีส์เกาหลี แนวสืบสวน ดราม่า ความยาว 16 EP ออกอากาศปี 2021
นักแสดงนำ
Shin Ha-Kyun เป็น อีดงชิก
Yeo Jin-Goo เป็น ฮันจูวอน
3 รางวัล จาก BaekSang Arts Awards 2021
:
Best Drama, Best Screenplay, Best Actor
=
Shin Ha-Kyun
(มีสปอยล์)
เรื่องย่อ
Beyond Evil
เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในเมืองเล็ก ๆ ชื่อ “มันยาง” ที่มีคดีคนหายและฆาตกรรมต่อเนื่องมาตั้งแต่ 20 ปีก่อน ซึ่งอีดงชิก ตำรวจสายสืบมือหนึ่งของ สน.มันยาง ผู้เคยตกเป็นจำเลยฆ่าน้องสาวฝาแฝดของตัวเอง กลับมาประจำการที่นี่เพื่อตามหาน้องสาว และในเวลาไม่นาน ฮันจูวอน สารวัตรหนุ่มจากโซล ก็ย้ายมาเพื่อสืบเรื่องของอีดงชิก ทั้งคู่ไม่ชอบหน้ากันตั้งแต่แรกพบ จึงถูกผู้กำกับจับให้ทำงานเป็นคู่หูกัน และทั้งคู่ก็ได้ช่วยกันคลี่คลายคดีที่เชื่อมโยงกันซับซ้อนได้สำเร็จ.
ความรู้สึกหลังดู
แรกเริ่มเดิมทีฉันไม่ใช่คอซีรีส์เกาหลี แต่เป็นคนชอบอ่านเรื่องสืบสวนสอบสวน ฆาตกรรมซ่อนเงื่อนมาตั้งแต่เด็ก
ปี 2564 มีจังหวะว่างหลังจากลองดูซีรีส์แนวดราม่าตามที่มีคนรีวิวไป 1 เรื่อง ฉันก็ลองเสิร์ชหาซีรีส์แนวสืบสวนสอบสวนอย่างที่ชอบของเกาหลีดูบ้าง...
Beyond Evil
เป็นเรื่องแรกที่ฉันดูแล้วประทับใจในทันที โดยเฉพาะบทและการแสดงของชินฮาคยุน ซึ่งทำให้ฉันต้องไปไล่หาผลงานทุกเรื่องทั้งหนัง ทั้งละคร ที่เขาแสดงมานั่งดู บอกเลยว่า การแสดงของชินฮาคยุนนั้น “ไม่ธรรมดา”
ผ่านมา 3 ปี ฉันกลับมาดูซีรีส์เรื่องนี้อีกรอบ
Beyond Evil
ก็ยังเป็นเดอะเบสต์ในใจฉัน สำหรับซีรีส์แนวสืบสวนฯ
1
. พล็อตเรื่อง
ฉันชอบความซับซ้อนของเรื่อง ที่ไม่ได้จบแค่การรู้ตัวฆาตกรต่อเนื่อง แต่ยังมีการหักมุมแล้ว หักมุมอีก เป็นคดีซ้ำซ้อน มีเจ้าหน้าที่รัฐตั้งแต่ระดับสูงลงมาถึงระดับล่างเกี่ยวข้อง ซึ่งตัวละครก็เกี่ยวพันกันหมดโดยตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจ การคลายปมดำเนินไปเป็นลำดับ ไม่ได้สลับเหตุการณ์ไปมาจนคนดูงง
2. บทบาทการแสดง
บท “อีดงชิก” นั้น น่าจะเป็นบทบาทที่ดีที่สุดเรื่องหนึ่งของชินฮาคยุน เขาสามารถแสดงซีนอารมณ์หนัก ๆ ได้สมจริงเป็นธรรมชาติมาก ซึ่งคนเขียนบทก็ใช้ความแยบยลในบทสนทนา แล้วตัวละครก็แสดงออกมาด้วยภาษากาย การใช้สายตา รอยยิ้ม การหัวเราะ ซึ่งคนดูต้องสังเกตและตีความ จะรู้ว่าอีดงชิกฉลาด เป็นคนดี แต่มีความกวนประสาทแสดงออกมาสม่ำเสมอ ตั้งแต่ต้นเรื่องจนท้ายเรื่อง (ถ้าเป็นละครไทย ฉันก็ต้องนึกถึงพงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง สไตล์นั้นเลย)
อย่างซีนหลังการชันสูตรศพคังมินจอง พอรู้ว่าตอนมินจองถูกตัดนิ้ว ยังไม่ตายทันที อีดงชิกร้องไห้จนตาบวมช้ำเหมือนจริงมาก (ทำได้ยังไง)
ฉากน่ารัก ๆ ก็มี เช่นตอนที่อีชางจินถามเรื่องขาของอีดงชิก อีดงชิกตอบว่า “มาสนใจอะไรผมนักหนา เขินนะเนี่ย” แล้วก็ทำหน้ายิ้มเขินแบบยั่วอารมณ์
3. บทละคร
ฉันชอบเรื่องสืบสวนที่มีอะไรให้คนอ่านหรือคนดูได้ใช้ความคิดไปด้วย ส่วนใหญ่เรื่องฆาตกรรม ก็มักจะวางพล็อตให้คนดูเดาคนร้ายไม่ออก หรือมีอุปสรรคที่ทำให้จับตัวคนร้ายไม่ได้ แต่สำหรับบทเรื่อง Beyond Evil นอกจากเรื่องการสืบสวน การทุจริตในองค์กรแล้ว ยังมีเรื่องความขัดแย้งระหว่างตัวละครหลัก อีดงชิกกับฮันจูวอน ที่ค่อย ๆ พัฒนาจนกระทั่งเป็นความสัมพันธ์ที่ดี
หลายซีนที่อีดงชิกกับฮันจูวอนต้องปะทะคารมกัน ความคิดและเจตนาของอีดงชิกมักไม่โพล่งออกมาด้วยคำพูดตรง ๆ แต่จะถูกซ่อนอยู่ในบริบทต่าง ๆ ทำให้คนดูรู้ว่า นี่คือการปกป้องคู่หู ซึ่งต้องยกความเก่งให้คนเขียนบท มันเป็นข้อความระหว่างบรรทัดที่ซ่อนไว้อย่างแนบเนียนกลมกลืน
โดยเฉพาะฉากก่อนจบ ที่อีดงชิกขอให้ฮันจูวอนใส่กุญแจมือเขา แล้วฮันจูวอนประคองมือเขา ก้มหน้าลงร้องไห้ มันเป็นภาพที่ซาบซึ้ง อบอุ่น และสวยงาม (ทำคนดูน้ำตาแตกเหมือนกัน)
...ดูซ้ำอีกรอบ ก็ยังประทับใจ...
ขอปิดท้ายด้วยคำพูดของแม่อีดงชิก ที่อีดงชิกนำมาพูด (แสดงความห่วงใย) กับฮันจูวอนก่อนแยกจากกันในตอนจบ
“
เรื่องความสำเร็จไม่ได้สำคัญขนาดนั้น แค่ขับถ่ายคล่อง กินข้าวอิ่ม นอนหลับสนิท และไม่ไปทำร้ายคนอื่น คือปัจจัยที่ทำให้ชีวิตดี
”
--------
cr. ภาพจาก mydramalist.com
**กรุณาอย่าคัดลอกงานเขียน**
Create Date : 26 มกราคม 2568
0 comment
Last Update : 26 มกราคม 2568 15:36:03 น.
Counter : 255 Pageviews.
(โหวต blog นี้)
Share
Tweet
1
2
3
skywriter
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
ผู้หญิงธรรมดาๆ ที่ขี้เล่า ^^
ขอรบกวนทั้งชุดนอน
Webmaster - BlogGang
[Add skywriter's blog to your web]
Bloggang.com