Bloggang.com : แมวเซาผู้น่าสงสาร : ย้อนเวลาหาความรู้ @ osaka museum of history

ก่อนไปเยือนโอซาก้าด้วยตัวเองยอมรับว่าทำการบ้านน้อยมาก พอเริ่มอ่านข้อมูลเจอเรื่อง pass ที่มีตัวเลือกเยอะเกิน รวมถึงวิธีการเดินทางจากเว็บ Hyperdia ทำเอามึน ยอมรับว่าญี่ปุ่นทันสมัยมีตัวเลือกในการสัญจรหลายรูปแบบ แต่คนโบราณอย่างผมเวียนหัว ชอบแนวบังคับอย่างสิงคโปร์ใช้บัตร EZ Link หรือฮ่องกงใช้บัตร Octopus เพียงใบเดียวใช้ได้ทุกอย่างพอ ส่วนเว็บ Hyperdia ผมดูแล้วเครียดจนคิดว่าการขึ้นรถไฟฟ้าในญี่ปุ่นช่างยุ่งยาก หยุดเสพย์ข้อมูลดีกว่า ผมจึงเที่ยวแบบไร้ plan ขอไปตายเอาดาบหน้า สุดท้ายตัดสินใจซื้อบัตร Osaka Amazing Pass 1 วัน และ Kansai Thru Pass 2 วัน ใช้งานคุ้มค่าหรือไม่ อย่าไปคิดให้ปวดสมอง

เอาง่าย ๆ โปรแกรมของผมเน้นเที่ยวเฉพาะสถานที่ซึ่งได้รับอภินันทนาการจาก Osaka Amazing Pass แค่นี้ก็เที่ยวไม่หมดแล้ว (ออนเซ็นเข้าฟรีหลายแห่ง เสียดายไม่มีเวลา) เช้าวันแรกเริ่มจากปราสาทโอซาก้า landmark ของเมือง (ต.ค.2559) จุดหมายสถานี Tanimachi 4-Chome (สายสีเขียว) แค่รู้ชื่อสถานีกับสีของรถไฟฟ้าก็เดินทางได้แล้ว (แต่ละสายมีชื่อเรียก ถ้าจำไม่ได้รู้แค่สีพอ) ให้ใช้สามัญสำนึก ไม่มีอะไรซับซ้อน เจอสถานีรถไฟฟ้าที่ใกล้สุดลงไปได้เลย หากเป็นคนละสีกับสถานีจุดหมาย ดูแผนผังตรงสถานีว่าจากสายที่เราใช้อยู่ไปเชื่อมต่อสายตามสีที่ต้องการ ณ สถานนีใด นั่งไปตามนั้นแล้วเปลี่ยนสายให้ถูกสี ไม่ต้องดูเว็บให้วุ่นวายใจหรอก ความจริงง่ายกว่าการเปลี่ยนสายรถไฟฟ้า BTS ที่สถานีสยามด้วยซ้ำ

ก่อนถึงปราสาทโอซาก้าต้องเดินผ่าน Osaka Museum of History ควรแวะทัศนศึกษาก่อน อาคารพิพิธภัณฑ์รูปทรงทันสมัยสูง 10 ชั้นอยู่ติดกับสถานีโทรทัศน์ NHK ปกติเสียค่าเข้า 600 เยน (200 บาท) ผมมีบัตรเบ่งผ่านขึ้นลิฟท์ไปยังชั้น 10 ได้ทันที จากนั้นลงบันไดเลื่อนตระเวณไปทีละชั้น

พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์โอซาก้าสร้างขึ้นเมื่อปี 2001 สำหรับจัดแสดงนิทรรศการความเป็นมาของเมือง รวมทั้งเก็บรวบรวมสมบัติที่ค้นพบในตัวปราสาทโอซาก้า เวลาจำกัดผมเยี่ยมชมแค่ชั้น 10 จนถึงชั้น 7 ซึ่งเป็นห้องแสดงถาวรเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ 4 ยุคของโอซาก้า โดยอาศัยกราฟฟิก ภาพยนตร์ คอมพิวเตอร์ และโมเดล

จากชั้นสูงสุดบนพิพิธภัณฑ์สามารถชมวิวมุมสูงสวยงามมาก blog หน้าข้ามถนนเดินไปปราสาทโอซาก้ากันครับ