joyka
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add joyka's blog to your web]
Links
 

 
Red Tear of Lilim ตอนที่ 4

Back to Chapter 1

Back to Chapter 2

Back to Chapter 3

----------------------------------
Chapter4
ลิลิธและไอเซ็ทหยุดอยู่ที่ทุ่งดอกไม้ที่มีชีวิต หลังการสาธิตโดยไอเซ็ท ลิลิธได้แต่เพียงแสดงสีหน้าหวาดหวั่นต่อสิ่งที่เห็น
มันช่างเป็นสิ่งมีชีวิตที่แปลกประหลาดจริง ๆ ยิ่งพอไอเซ็ทกล่าวว่ามันคือสิ่งที่นามาฮ์สร้างขึ้น นางยิ่งหวั่นใจต่อมันมากขึ้น

“เจ้ากลัวมันรึ” ไอเซ็ทถามออกมาตรง ๆ จากที่เห็นทีท่าของลิลิธ
“อืม จะว่าเช่นนั้นก็ได้ ข้าไม่เคยพบสิ่งใดมีลักษณะการดำรงชีวิตเช่นนี้ แม้ว่าจะมีการประหัตประหารอีกฝ่ายบ้าง แต่มันก็หาใช่เช่นนี้ไม่” ลิลิธกล่าวตอบด้วยความประหวั่น แม้ว่านางจะกล่าวเช่นนั้นแต่นางกลับเอากิ่งไม้ไปนั่งแหย่มัน

“อืม มันก็น่ากลัวอยู่หรอก เจ้าพวกนี้น่ะ เท่าที่ข้าเคยมาทดสอบ มันโจมตีได้ไม่เลือกจริง ๆ ขอแค่เป็นสิ่งที่เคลื่อนไหวเข้าไปในระยะโจมตีของพวกมัน แม้มันจะกินไม่ได้มันก็โจมตีเช่นที่เจ้าเห็นวิหคจำลองของข้านั่นไง” ไอเซ็ทกล่าวถึงสรรพคุณของดอกไม้พวกนี้จากที่นางเคยเก็บข้อมูลและศึกษาอย่าง ลับ ๆ

“เอ มันมีของเหลว มีกลิ่นคล้ายโลหิตเลย” ลิลิธทำจมูกฟุตฟิตเหมือนนางได้กลิ่นจริง ๆ
“เจ้านี่นะ เป็นสุนัข หรือแมวรึเปล่า จมูกดีจริง ๆ” ไอเซ็ทหยอก ลิลิธที่ฟังอยู่ก็หันมามองไอเซ็ทพร้อมพยายามทำปากแบบแมวใส่ไอเซ็ท
“อืม จริง ๆ ข้าเป็นแมวล่ะ” ลิลิธลองกวนใส่ไอเซ็ทบ้าง ทำเอาไอเซ็ทหัวเราะออกมาด้วยไม่คิดว่าจะมีใครที่หยอกเล่นกับนางได้เช่นนี้

“ว่าแต่เจ้าต้นไม้พวกนี้ มันเป็นสิ่งมีชีวิตที่นามาฮ์สร้างขึ้นรึ? สร้างขึ้นเพื่อการใดล่ะ?” ลิลิธพูดพลางเอากิ่งไม้มานั่งเขี่ยเจ้าต้นไม้ประหลาดนั่น ให้มันไล่งับกิ่งไม้ของนาง รู้สึกว่านางกำลังสนุกสนานที่ได้แหย่พวกมัน ไอเซ็ทที่เห็นเช่นนั้นก็อดแปลกใจกับนิสัยของลิลิธไม่ได้จริง ๆ

“เจ้านี่นะ บอกว่ากลัวอยู่เมื่อสักครู่แท้ ๆ ตอนนี้กลับเล่นกับมันซะแล้ว”
ลิลิธยังคงเล่นกับพวกมันอย่างสนุกสนาน เหมือนเด็กที่ได้ของเล่นที่ถูกใจ ไอเซ็ทได้แต่ยิ้มระคนหนักใจ รู้สึกว่าตัวเองเป็นพี่เลี้ยงเด็กจริง ๆ

“นามาฮ์เป็นผู้สร้างเจ้าพวกนี้จริง ๆ หากแต่ข้าคงตอบไม่ได้หรอกว่านางสร้างมันมาเพื่อการใด ผู้ที่จะตอบได้คงมีเพียงซามาเอลเท่านั้นกระมัง ข้ารู้เพียงว่า เจ้าพวกนี้เป็นพวกที่น่ารำคาญมาก ๆ เพราะมันทำให้ข้าไม่สามารถสร้างสิ่งมีชีวิตที่ปล่อยให้พวกมันใช้ชีวิตอิสระ ได้ เพราะถ้ามายังบริเวณนี้ ก็ได้มีอันโดนจัดการไปหมด” ไอเซ็ทอธิบายด้วยสีหน้าเบื่อหน่ายพอควร
ลิลิธเขี่ยพวกมันไปมา ดูเหมือนนางรับฟัง แต่ไม่ได้คิดเรื่องนี้จริงจังเท่าไหร่

“ว่าแต่ ทำไมเหมือนเจ้าจะไม่ชอบนามาฮ์เอาซะเลย ทั้ง ๆ ที่นางเพียงแค่มองเจ้าด้วยสายตาแปลก ๆ และเจ้ายังพบนางเพียงครั้งเดียวเท่านั้นเอง” ไอเซ็ทถามกลับไปบ้าง
ลิลิธหยุดเขี่ยพวกต้นไม้ นางลุกขึ้นปัดฝุ่นที่เกาะกระโปรงนางออก นางหันไปมองไอเซ็ทนิดหน่อย ก่อนเงยขึ้นมองท้องฟ้าสีครามแล้วกล่าวขึ้น

“ข้าก็ตอบไม่ได้หรอก หากแต่ข้ารู้สึกถึงบางสิ่งที่นางส่งมันออกมาจากตัว มันดูน่ากลัว ไม่ใช่ว่ามันน่ากลัวจนทำให้ข้ากลัว แต่มันรู้สึกถึงความไม่เป็นมิตร แม้ว่านางจะอยู่เฉย ๆ ก็ตามที”

“ไม่เหมือนเจ้าไง แม้จะดูทะลึ่ง และยียวนกวนประสาทแต่ข้ากลับรู้สึกว่า เจ้ามีความเป็นมิตรมากมายกว่านามาฮ์ซะอีก”
ลิลิธกล่าวพร้อมกับหันมายิ้มให้ไอเซ็ท คำพูดของลิลิธทำให้ไอเซ็ทเขินจนหน้าแดงอย่างเห็นได้ชัด เนื่องเพราะไอเซ็ทเองก็ไม่เคยได้รับการตอบรับอย่างฉันท์มิตรจากผู้อื่น เฉกเช่นที่ได้จากลิลิธ

“เอ้า ไปที่อื่นกันเถอะ ยังมีอีกหลายที่ ๆ ที่เจ้าน่ารู้จักไว้” ไอเซ็ทหันหลังเดินออกจากที่นั่นทันทีโดยมีลิลิธเดินยิ้มตามไป
ไอเซ็ทพาออกจากทุ่งดอกไม้ประหลาดนั่น แล้วขึ้นไปทางทิศตะวันตก ซึ่งเป็นจุดที่ใกล้ห้องของอาแกรท พื้นที่แถบนี้เป็นทุ่งหญ้า มีรั้มล้อมไว้เป็นวงกว้าง มีสัตว์ต่าง ๆ หลายชนิดอยู่ ซึ่งมันเป็นสัตว์จริง ๆ ที่อยู่ในอีเดน ลิลิธค่อนข้างแปลกใจพอควร นางหันมามองไอเซ็ททันที แม้ไม่ได้กล่าวอะไรแต่ไอเซ็ทก็คาดเดาได้จึงชิงตอบไปก่อน

“จุดนี้เป็นพื้นที่ของอาแกรทน่ะ นางค่อนข้างชอบพวกสัตว์ต่าง ๆ ที่พระผู้เป็นเจ้าสร้างทีเดียวล่ะ ที่นี่จึงมีสัตว์นานาชนิดเฉกเช่นเดียวกับอีเดน และนางก็ลงมาดูแลด้วยตัวเองบ่อย ๆ ด้วยล่ะ”

“ใช่แล้ว ข้าเลยต้องมาเจอพวกเจ้าที่นี่ไง” เสียง ๆ หนึ่งดังออกมาจากด้านหลัง

ไอเซ็ทและลิลิธหันไปมองเป็นตาเดียวกัน และได้พบกับ อาแกรทที่ยืนเท้าเอวจังก้าอยู่ ดูท่าทางนางเหมือนจะไม่ค่อยสบอารมณ์ซักเท่าไหร่กับการพบกับลิลิธและไอเซ็ทใน ที่ทางของนาง

“พวกเจ้ามาทำอะไรกันมิทราบ” อาแกรทถามเสียงแข็ง ด้วยสีหน้าที่แสดงความไม่พอใจอย่างมาก
ลิลิธก้าวออกมาด้านหน้าไอเซ็ททันที ด้วยนางต้องการรับผิดชอบในเรื่องนี้ไม่ให้ไอเซ็ทเดือดร้อนไปด้วย

“ข้าขอให้ไอเซ็ทช่วยแนะนำสถานที่ต่าง ๆ ในเขตคฤหาสน์แห่งนี้ให้น่ะ”
อาแกรทมองลิลิธด้วยหางตา นางดูไม่ค่อยเป็นมิตรกับลิลิธสักเท่าใด ในขณะเดียวกันลิลิธก็จ้องเขม็งที่อาแกรทแบบไม่ยอมวางตา ราวกับนางกำลังแสดงตัวว่า หาเกรงในอาแกรทไม่

“ให้ตายสิ ข้าไม่ชอบสายตาของเจ้าเลยซัดนิด” อาแกรทกล่าวด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดอย่างที่สุด นางก้าวเข้าหาลิลิธ

“ข้าจะทำให้เจ้ามองข้าด้วยสายตาเช่นนั้นมิได้อีก” อาแกรทเงื้อมมือขึ้น หมายจะตบลิลิธ
ฝ่ามือของนางฝาดลงตรงไปที่หน้าของลิลิธทันที

เปรี๊ยะ!!!!

แรงตบของอาแกรทปะทะเข้ากับอะไรสักอย่างเข้าอย่างจัง มันเป็นเหมือนกำแพงใส ๆ ปรากฏอยู่ไม่ห่างจากตัวลิลิธนัก

“ข้าไม่เห็นว่าการกระทำซึ่งใช้เพียงอารมณ์ และกำลังของเจ้าจะเป็นผลดีนะ อาแกรท” เสียงอันเยือกเย็นของไอเซ็ทดังขึ้น
นางคว้าตัวลิลิธไปทางด้านหลัง แล้วขึ้นมาอยู่เบื้องหน้าอาแกรทแทน

“และข้าก็ไม่คิดว่า การที่เจ้าทำเช่นนี้จะทำให้ซามาเอลรู้สึกพอใจเจ้านะ” ไอเซ็ทมองอาแกรทด้วยสายตาที่เย็นชา แฝงความเย้ยหยั่นไว้

“จ...เจ้า” อาแกรทถึงกับพูดอะไรไม่ออก นางไม่คิดว่าไอเซ็ทจะออกหน้ามาขวางนางด้วยตัวเอง

ทั้งสองจ้องหน้ากันอยู่ครู่หนึ่ง

“ข้าเห็นตามที่ไอเซ็ทกล่าวนะ อาแกรท”

เสียง ๆ หนึ่งดังมาจากอีกด้าน ผู้เป็นเจ้าของเสียงค่อย ๆ เดินมาอย่างช้า ๆ รอบ ๆ ตัวมีผู้ติดตาม 4 ตน
ผู้เป็นเจ้าของเสียงคือ นามาฮ์ นั่นเอง

“การมาทะเลาะในที่เช่นนี้มันดูไม่เหมาะไม่ควรแต่อย่างใดเลยนะ” นางพูดพลางใช้พัดของนางปิดที่ปาก สายตามองกวาดไปยังภรรยาของซามาเอลทั้ง 3 อย่างช้า ๆ

“ข้าว่าควรเลิกราต่อกันจะดีกว่านะจริงรึไม่...ไอเซ็ท” ไอเซ็ทยิ้มที่มุมปาก ก่อนพยักหน้าเป็นเชิงตอบรับสิ่งที่นามาฮ์กล่าว

“เจ้าเองก็ไม่ควรใช้กำลังนะอาแกรท มือของเจ้าจะเปื้อนเศษดินของโกเลมซะเปล่า ๆ” คำพูดของนามาฮ์ที่กล่าวเตือน
อาแกรท แต่กระทบกระเทียบไปถึงลิลิธ

ลิลิธไม่พอใจนามาฮ์อย่างมาก ยิ่งสายตาของนางส่อแววเหยียดหยามนางราวกับเป็นเพียงเศษขยะที่นึกจะเขี่ยทิ้ง เมื่อใดก็ได้ มันยิ่งทำให้นางอยากจะเข้าไปโต้ตอบอะไรบ้างเสียจริง ๆ

หากแต่ไอเซ็ทนั้นจับมือของลิลิธ และบีบไว้แน่นเป็นการห้ามไม่ให้ลิลิธทำสิ่งใดซึ่งอาจจะไม่เหมาะสมออกไป
ลิลิธจึงพยายามระงับอารมณ์ แต่นั่นก็ไม่อาจห้ามไม่ให้นางมองนามาฮ์ด้วยสายตาที่ดุดันและแข็งกร้าวกลับไปได้
นามาฮ์ยิ้มออกมาเล็กน้อย สายตานางดูเหมือนพอใจที่ได้ยั่วโมโหลิลิธ นางหันหลังกลับไป

“ข้าว่า ข้ากลับเข้าข้างในดีกว่า วันนี้คงไม่เหมาะมาดื่มชาแล้วรับอากาศดี ๆ เป็นแน่” นางกล่าวด้วยน้ำเสียงค่อนขอด
อาแกรทเดินแยกไปอีกทาง ดูเหมือนนางเองก็ไม่ค่อยพอใจนามาฮ์ซักเท่าไหร่ แต่เพราะไม่อยากมีเรื่องเลยต้องทำตามไป
ลิลิธและไอเซ็ทยืนมองอาแกรท กับนามาฮ์เดินจนลับตาไป

“งื่อ~~~” ไอเซ็ทครางออกมา ดูนางมีเหงื่อออกมาเล็กน้อย
ลิลิธที่เห็นเช่นนั้นถึงกับตกใจ ด้วยไม่คิดว่าไอเซ็ทจะถึงกับเหงื่อตก

“อ...ไอเซ็ท เจ้าเป็นเช่นไรบ้าง?” ลิลิธถามไอเซ็ทด้วยความเป็นห่วง

“ข้าไม่เป็นอะไรหรอก อาแกรทน่ะไม่ใช่ปัญหาข้ารับมือนางได้สบาย ๆ แต่กับนามาฮ์ข้าไม่อยากปะทะกันตรง ๆ เพราะความสามารถของข้าค่อนข้างแพ้ทางนางอยู่มากทีเดียว” ไอเซ็ทกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักใจอยู่

ลิลิธรู้สึกผิดที่เหมือนตัวเองเป็นสาเหตุให้ไอเซ็ทต้องมายุ่งยากกับเรื่อง เช่นนี้ ความรู้สึกอยากรู้จักสถานที่ต่าง ๆ แทบมลายหายไปสิ้นมีเพียงความว้าวุ่นใจต่อสิ่งที่เกิดขึ้น หากแต่ไอเซ็ทยังคงเดินต่อไป โดยกล่าวเพียงว่า

“เจ้าควรรู้อะไรเกี่ยวกับที่นี้อีกซักอย่าง”
ไอเซ็ทเดินไปทางเหนือซึ่งเป็นจุดที่ใกล้กับห้องของลิลิธ

ณ ที่แห่งนั้นมันยังเป็นที่โล่ง ยังไม่มีการสร้างสิ่งใด ๆ เนื่องจากซามาเอลนั้นจัดแบ่งที่ว่าง ๆ ให้ภรรยาแต่ละคนดูแลกันเอง ที่นี่จึงเป็นที่ว่างให้ลิลิธจัดการเองว่าจะใช้ทำอะไร

ลิลิธยืนมองที่ว่างเปล่า มันมีต้นไม้ใบหญ้าขึ้นอยู่ไม่มากนัก พื้นที่มีมากเฉกเช่นเดียวกับที่ไอเซ็ทได้รับ
หากแต่ลิลิธมิได้คิดว่าจะทำสิ่งใดบนที่แห่งนี้ไม่ นางยังคงสนใจเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่มากกว่า

“ที่ตรงนี้ เป็นที่ ๆ ส่วนของเจ้านะลิลิธ” ไอเซ็ทกล่าว

“มันจะมีประโยชน์อะไร ปลูกดอกไม้ เลี้ยงสัตว์ แต่ต้องมาอยู่ภายใต้การกดดันเช่นนี้!!” ลิลิธกล่าวด้วยน้ำเสียงเจ็บแค้น
ไอเซ็ทเดินไปรอบ ๆ ตัวลิลิธ นางยิ้มนิด ๆ ก่อนเอ่ยออกมา

“มันมีประโยชน์ ถ้าเจ้าใช้ที่นี่เป็นเหมือนสวนสำหรับฝึกเวทย์มนต์ หรือ วิชาต่าง ๆ ไงล่ะ”
ลิลิธถึงกับหันมามองไอเซ็ทอย่างรวเร็ว นางไม่ค่อยเข้าใจคำแนะนำของไอเซ็ทเท่าไหร่

“เจ้าน่ะนะ ไม่ได้ไร้ความสามารถแน่นอน ข้ารับรองได้เลย เพียงแต่เจ้าจะก้าวไปถึงขั้นที่จะเทียบชั้นกับนามาฮ์ได้รึเปล่า
คงต้องขึ้นอยู่กับตัวเจ้าแล้วล่ะ” ไอเซ็ทกล่าวพร้อมรอยยิ้มที่แฝงเลศนัยบางอย่างไว้

นางยกมือทั้ง 2 ข้างแล้วผายออก
“และข้าก็ไม่คิดว่าเจ้าจะศึกษาเวทย์มนต์ แล้วไปทดลองกับของในห้องตัวเองหรอกนะ”
“อีกอย่าง ข้าว่าอย่างเจ้านี่น่าจะเรียนรู้อะไรได้หลาย ๆ อย่าง กว่าพวกข้าที่เหมือนถูกกำหนดมาว่าควรจะชำนาญเรื่องอะไร
มาตั้งแต่เกิด” ไอเซ็ทอธิบาย

“เอ๋! ถูกกำหนดมา?” ลิลิธค่อนข้างงุนงงกับสิ่งที่ไอเซ็ทกล่าว

“ใช่ เหล่าเทวทูตน่ะ ถูกกำหนดมาให้มีความสามารถด้านใดด้านหนึ่งตายตัว แม้จะมีความสามารถในการเรียนรู้เรื่องต่าง ๆ แต่ไม่อาจเป็นได้เกินกว่าสิ่งที่ถูกกำหนดมา” ไอเซ็ทอธิบาย

ลิลิธก้มมองดูตัวเอง จริง ๆ นางไม่ได้คิดที่จะศึกษาเวทย์มนต์ต่าง ๆ เพื่อไปรบรากับผู้ใด หากแต่ถ้ามันจำเป็นอย่างน้อยเพื่อป้องกันตนเอง นางก็อาจจะต้องกระทำ นั่นทำให้นางถึงกับถอนหายใจออกมาด้วยความหนักใจ

“เช่นนั้น ข้าเองก็คงไม่มีทางเลือกสินะ”

“อืม คงจะอย่างนั้น” ไอเซ็ทตอบโดนที่หันไปมองทางอื่น

ลิลิธเงยหน้ามามองไอเซ็ท สวยตามุ่มมั่นอย่างมาก
“เช่นนั้น ข้าจะให้เจ้าเป็นผู้สอนข้าได้หรือไม่?”

ลิลิธถามในสิ่งที่ไอเซ็ทไม่คาดคิด นางชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง ด้วยความรู้สึกอึ้งกับสิ่งที่ถูกถาม
“ข้าเนี้ยนะ” ไอเซ็ทกล่าวย้ำ

“ใช่ เจ้านั่นล่ะ” ลิลิธเองก็ตอบย้ำไป

ไอเซ็ทแสดงสีหน้าหนักใจทันที เพราะนางเองไม่เคยเป็นอาจารย์ไปสอนอะไรใครมาก่อน ไม่ใช่ว่านางทำไม่ได้ เพียงแต่นางไม่มั่นใจในตัวเองนัก

“ข้าคิดว่า การเริ่มต้นจากศูนย์ แล้วตัวเองศึกษาเอง มันอาจจะไปได้ช้ากว่าการมีผู้ชี้แนะแนวทางน่ะ” ลิลิธกล่าว
ซึ่งมันก็ไม่ผิดซะทีเดียว การมีผู้สอนมันทำให้การเรียนรู้เป็นไปได้โดยง่ายกว่า

ไอเซ็ทเอานิ้วแตะริมฝีปากตัวเอง ยืนนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง
“ได้น่ะได้ แต่ข้าคงสอนเจ้าได้เพียงพื้นฐาน เพราะลึก ๆ มันคงแตกออกไปตามถนัดของเจ้าเอง”
ไอเซ็ทตอบรับโดยมีข้อแม้

ลิลิธพยักหน้ารับทันที แม้เพียงพื้นฐาน มันก็ดีกว่าไปนั่งงมเอาเอง
“งั้น ข้าว่าตอนนี้เจ้าไปทานอะไรให้เรียบร้อยก่อนดีกว่า เพราะนี่ก็เที่ยงวันแล้ว ช่วงบ่ายข้าจะรอเจ้าที่ห้องสมุด ก็แล้วกัน”
ไอเซ็ทกล่าวต่อลิลิธ เพราะเวลานี้ก็ควรเป็นเวลาที่ต้องรัปประทานอะไรบ้างแล้วด้วยนางเองในตอนเช้าก็ไม่ได้ทานอะไรเลย

ทั้งสองกลับห้องของตนเองไป
ที่ห้องของลิลิธ สาวใช้นำสำรับอาหารมารอแล้ว ราวกับรู้ว่าลิลิธนั้นกำลังกลับมา
ภายในห้องสะอาดหมดจด สาวใช้ทั้งสองทำงานตามที่นางสั่งอย่างเรียบร้อยจริง ๆ
จะว่าไปลิลิธไม่รู้ชื่อของสาวใช้ทั้งสองเลย ระหว่างทานอาหารนางจึงถามสาวใช้ไป
“ว่าแต่พวกเจ้าชื่ออะไรบ้างล่ะ?”

สาวใช้ทั้งสองมองหน้ากัน คงเพราะมันออกเป็นเรื่องแปลกที่ผู้เป็นนายสนใจจะถามชื่อของ โกเลมที่สร้างจากดิน
“พวกข้าเป็นเพียงโกเลมที่เกิดจากเวทย์มนต์ของท่านซามาเอล ข้าทั้งสองจึงไม่มีนามหรอกเจ้าค่ะ”

“...” ลิลิธนิ่งเงียบไป แต่นางกลับคิดว่าควรจะตั้งชื่อให้สาวใช้ดีกว่า อย่างน้อยเวลาเรียกใช้ มันจะง่ายกว่าเรียกห้วน ๆ
นางชี้นิ้วไปยังสาวใช้ที่มีผมสีทอง

“เจ้าชื่อโซฟิอา”

จากนั้นนางก็เลื่อนมือ ชี้ไปยังสาวใช้ผมสีเงิน
“ส่วนเจ้าชื่อ เชดิม”

“ตามนี้ละกัน” ลิลิธกล่าว
สาวใช้ทั้งสองมองหน้ากัน ทั้งสองคงไม่อาจปฎิเสธได้เพราะพวกนางถูกสร้างมาให้เชื่อฟังในสิ่งที่ผู้เป็นนายสั่ง

ลิลิธมองหน้าทั้งสองก่อนถามขึ้น
“เจ้าทั้งสองทำงานอะไรได้ขนาดใหนน่ะ”

“พวกข้าทำได้แทบทุกสิ่งที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องทางเวทย์มนต์เจ้าค่ะ” โซฟิอากล่าว

“ไม่จำกัดเวลาเจ้าค่ะ เพราะพวกเรานั้นไม่ได้สร้างมาให้มีความรู้สึกเหนื่อย” เชดิมเสริม
ลิลิธครุ่นคิดอยู่ครู่ใหญ่

“ถ้าเช่นนั้น ที่ตรงบริเวณพื้นที่สวนตรงส่วนของข้า ข้าคงต้องให้พวกเจ้าช่วยสร้างอะไรให้ซักอย่างแล้ว”
ลิลิธกล่าวพร้อมรอยยิ้มกับแผนการที่นางวางไว้

หลังจากทานอาหารเสร็จสิ้น นางให้โซฟิอาและเชดิมไปจัดการวัดพื้นที่ และวาดภาพที่ดินในส่วนของนางมา
ส่วนลิลิธนั้นนางมุ่งตรงไปยังห้องสมุดทันที

ณ ห้องสมุด ลิลิธพบกับไอเซ็ทที่นั่งไขว่ห้างอ่านหนังสือรออยู่แล้ว

“โฮ้~ มาไวกว่าที่ข้าคิดซะอีก” ไอเซ็ทกล่าวชมลิลิธเล็กน้อย ก่อนจะวางหนังสือแล้วลุกขึ้นยืน

“ข้าก็มาตามเวลาที่เจ้านัดนั่นล่ะ” ลิลิธกล่าวตอบ

“งั้นก็มานั่งนี่” ไอเซ็ทเดินไปยังโต๊ะเล็ก เพราะโต๊ะที่นางนั่งนั้นมันค่อนข้างใหญ่เกินไปสำหรับสิ่งที่นางจะทำ

“โต๊ะใหญ่ ๆ ก็วางหนังสือได้ดีนี่นา” ลิลิธกล่าว

“ก่อนที่จะเรียนอะไร ข้าคิดว่าควรรู้ก่อนว่าเจ้านั้นเหมาะจะเรียนเวทย์สายใหนน่ะ”
“ฉะนั้น ข้าคิดว่าโต๊ะเล็ก ๆ นี่ล่ะทดสอบง่ายดี” ไอเซ็ทตอบ

ลิลิธไปนั่งตรงข้ามกับไอเซ็ท นางดูงงเล็กน้อย

“ลิลิธยื่นมือของเจ้าออกมาสิ” ไอเซ็ทสั่งลิลิธที่ยังดูงง ๆ ต่อสิ่งที่ไอเซ็ทจะทำ
ลิลิธยื่นมาซ้ายไปให้ ไอเซ็ทใช้มือทั้งของข้างของนางเองจับมือลิลิธไว้
นางลูบมือของลิลิธไปมานิดหน่อยก่อนกล่าวขึ้น

“มือเจ้านี่นุ่มดีนะ น่าเอามาลูบแก้มดีจัง” นางพูดด้วยน้ำเสียงและสีหน้าทะเล้น
ลิลิธขมวดคิ้วใส่ไอเซ็ททันที

“เจ้านี่นะ ขยันเล่นจริง ๆ เชียว”

“งื่อ~~ ก็มือเจ้านุ่มจริง ๆ นะ” ไอเซ็ทกล่าวทั้งรอยยิ้ม

แต่ลิลิธยังนั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่ดี
“อ่ะ อ่ะ จริงจังก็ได้” ไอเซ็ทยิ้มแหย่ เพราะผิดหวังนิด ๆ ที่ลิลิธไม่เล่นด้วยกับนาง
ไอเซ็ทจับมือลิลิธนิ่งเงียบ นางค่อย ๆ หลับตาลง เพ่งสมาธิไปยังลิลิธ

ไอเซ็ทล่องลอยไปในมโนคติของลิลิธ สิ่งที่นางพบในนั้นราวกับว่าจำลองออกมาเหมือนกับใต้มหาสมุทรลึก
นิ่ง เงียบ และมืดสนิท……..
ทุกสิ่งดูมืดมน และเงียบมาก ๆ
ไอเซ็ทรู้สึกประหลาดใจอย่างมาก ปกติการเข้าไปดูส่วนลึกของจิตใจนั้น แม้จะเป็นเทวทูตที่มีอำนาจมากเพียงใด นางไม่เคยเจออะไรเช่นนี้มาก่อน
ราวกับว่า
ส่วนลึกในใจของลิลิธนั้น ไม่มีสิ่งใดนอกจากความมืดมิด
ไอเซ็ทที่อยู่ในมโนคตินั้น หยุดนิ่งคิดพิเคราะห์อยู่นาน จนเริ่มรู้สึกแปลกใจกับบางอย่าง
สติของนางเริ่มเลือนลาง
ทำไมล่ะ?
เพราะภายในนี้มันมืดงั้นรึ

ไม่ใช่! นี่มันเหมือนกับว่าพลังของนางกำลังถูกดูดกลืนเข้าไป
ความมืดของลิลิธกำลังดูดกลืนพลังของนางไปเรื่อย ๆ

ตึง!!

ไอเซ็ทสะบัดมือออกจากลิลิธ จนนางเผลอผลักตัวเองจากโต๊ะ มันก็เลยทำให้นางตกจากเก้าอี้ลงมา
ลิลิธที่เห็นเช่นนั้น จึงรีบเข้าไปดูไอเซ็ททันที

“เจ้าเป็นอะไรรึไม่ไอเซ็ท” ลิลิธถามด้วยน้ำเสียงห่วงใย
ไอเซ็ทนั้นยังคงนิ่งเงียบ สีหน้าซีดเผือดจนเห็นได้ชัด นางค่อย ๆ กลืนน้ำลายลงคอ ก่อนจะยกมือขึ้นมาปาดเหงื่อบนใบหน้า

‘พระผู้เป็นเจ้า สิ่งที่ท่านสร้างมันเหนือกว่าสิ่งที่ผู้ใดจะดาดเดาได้จริง ๆ’

ไอเซ็ทคิดในใจ ด้วยความรู้สึกตื่นตะหนกต่อสิ่งที่นางเพิ่งประสพมา

ลิลิธยื่นมือไปจับไอเซ็ทแล้วพยุงนางขึ้นอย่างช้า ๆ

“ขอบใจเจ้ามาก ข้าไม่เป็นไรหรอก แรงผลักในใจของเจ้ามันแรงไปหน่อยก็เท่านั้นเอง” ไอเซ็ทขอบคุณลิลิธพลางลุกขึ้น
ทั้งสองไปนั่งบนโต๊ะที่เดิม ลิลิธรอคำตอบในสิ่งที่ไอเซ็ททำอยู่

หากแต่ไอเซ็ทยังคงนิ่งเงียบ ด้วยพยายามใช้ความคิดวิเคราะห์สิ่งที่นางเพิ่งพบเป็นครั้งแรก

ไอเซ็ทเอามือมาประสานกันที่หน้าคางของนาง พร้อมทั้งมองไปยังลิลิธก่อนจะค่อย ๆ หลับตาลง
“พลังที่เจ้ามีน่ะ เป็นพลังที่ข้าไม่เคยเจอมาก่อน...” ไอเซ็ทตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย ทั้ง ๆ ที่ยังคงหลับตาอยู่

“ไม่เคยเจอ?” ลิลิธสงสัยขึ้นมาทันที นางมีอะไรต่างจากผู้อื่นขนาดนั้นเชียว ด้านไอเซ็ทนั้นก็ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมองลิลิธอีกครั้ง

“ใช่ ข้าไม่เคยเจอเทวทูตองค์ใดมีพลังแบบนี้ พลังที่มืดมิด เป็นพลังที่พร้อมจะดูดกลืนสิ่งต่าง ๆ เข้าไปสู่ใจกลางของมัน
ราวกับ...” ไอเซ็ทค้างคำพูด พร้อมกับใบหน้าที่สงสัยของลิลิธ

“หลุมดำ ณ ใจกลางดาราจักรอันกว้างใหญ่ไพศาล”

“หลุมดำ... งั้นรึ?” ลิลิธไม่รู้จักสิ่งนี้มาก่อน
ไอเซ็ทถอนหายใจเฮือกใหญ่ นางนั่งเท้าคาง สีหน้าแสดงความหนักใจ

“อืม จะว่ายังไงดีล่ะ เทวทูตแต่ละองค์กำเนิดจากสิ่งที่มีอยู่ในธรรมชาติ โดยมากมักเป็นธรรมชาติที่แสดงเป็นธาตุในรูปแบบต่าง ๆ ดิน น้ำ ลม ไฟ อะไรพวกนี้ หากแต่เจ้าไม่ใช่ สิ่งที่เจ้ามีกลับเป็นสิ่งที่ไม่น่ามีอยู่บนโลกนี้ ราวกลับว่าพระผู้เป็นเจ้าไม่ได้สร้างเจ้าจากธุลีดินจริง ๆ แต่จุดเริ่มต้นของเจ้าเริ่มจากสิ่งอื่นมาก่อน”

“หืม? แล้วหลุมดำคือ?” ลิลิธกล่าวถามเพราะคำตอบของไอเซ็ทไม่ค่อยจะอธิบายสิ่งที่นางต้องการซักเท่าไหร่

“ข้าให้เจ้าไปอ่านเป็นการบ้านวันนี้ก็แล้วกัน”

“เอาเป็นว่า รูปแบบพลังของเจ้าเป็นสิ่งที่หาไม่ได้ง่าย ๆ หากแต่มันไม่มีตำราใดกล่าวไว้ตรง ๆ เนี้ยสิ” ไอเซ็ทตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉย จริง ๆ แล้วนางรู้สึกขี้เกียจที่จะอธิบาย เพราะนางคิดว่าน่าเอาเวลามาหาคำตอบเรื่องพลังของลิลิธมากกว่า

ลิลิธขมวดคิ้วหนักขึ้น ในขณะที่ไอเซ็ทเดินไปที่ชั้นหนังสือ นางหยิบหนังสืออกมาจากชั้นเพียงสองเล่ม
“เจ้าอ่านซะ เล่มนี้จะช่วยเจ้าคลายสงสัยเรื่องหลุมดำ ส่วนอีกเล่มข้าอยากให้เจ้าลองฝึกปฎิบัติดูก่อน” ไอเซ็ทแจกแจงสิ่วที่นางหยิบออกมา

“สงสัยวันนี้จะได้แค่นี้แน่จริง ๆ” ไอเซ็ทบ่นออกมา ด้วยเพราะนางเจอสิ่งที่ไม่คาดฝัน ทำให้ตารางที่นางคิดไว้มีอันล้มเหลว

“ทำไมล่ะ?” ลิลิธกล่าวถาม

“ข้าคิดว่า ข้าคงต้องใช้เวลารู้จักสิ่งที่เจ้ามีให้มากขึ้นกว่านี้น่ะ ข้าเองก็คงต้องไปศึกษาเพิ่มเติมแล้ว”
ไอเซ็ทกล่าวพลางเอาหนังสือที่ตัวเองอ่านก่อนหน้าไปวางไว้ที่ชั้นพัก เพื่อให้พวกข้ารับใช้มาจัดการเก็บเข้าที่

“เจ้านั่งอ่านศึกษาเรื่องต่าง ๆ ก่อนก็ได้ แล้วพรุ่งนี้ลองมาเริ่มต้นกันใหม่อีกครั้ง” ไอเซ็ทกล่าวก่อนที่จะเดินออกจากห้องไป

ในห้องสมุดเหลือเพียงลิลิธที่นั่งงงอยู่ นางไม่ค่อยเข้าใจถึงสิ่งที่ไอเซ็ทพูดเท่าไหร่
นางปั้นหน้างงอยู่พักใหญ่ นางจึงนึกขึ้นได้

‘ลองถามลูซิเฟอร์ดีกว่า’

นางจึงควักจี้ห้อยคอที่ลูซิเฟอร์ให้ออกมา แล้วตั้งสมาธิเรียกหาลูซิเฟอร์ทันที

ภาพจากจี้ลอยขึ้นมา เป็นภาพลูซิเฟอร์ที่ดูอิดโรยเหมือนเจออะไรน่าปวดเศียรเวียนเกล้ามา

“อือ~ สวัสดียามบ่ายลิลิธ” ลูซิเฟอร์ยกมือเป็นเชิงทักทาย แต่ท่าทางของนางนั้นดูเพลียซะจนเหมือนจะโบกมือลาซะมากกว่า

“เจ้าเป็นอะไรน่ะลูซิเฟอร์?” ลิลิธถามด้วยสงสัยในสภาพที่ดูอิดโรยของลูซิเฟอร์

“ข้าเพิ่งจัดการปัญหาบางอย่างในที่นี่เสร็จน่ะ ว่าแต่เจ้าเถอะ มีสิ่งใดรึ?” ลูซิเฟอร์อธิบายและถามความต้องการจากลิลิธ นางไม่ได้รู้สึกรำคาญหรือเหนื่อยหน่าที่จะต้องตอบคำถามอะไรจากลิลิธ แต่ถ้ามันเสร็จสิ้นไว ๆ ก็คงดี

“ข้ากำลังศึกษาเรื่องเวทย์มนต์ แต่ข้ามีข้อสงสัยบางประการน่ะ” ลิลิธกล่าวตอบ

“อะไรรึ!?” ลูซิเฟอร์เปลี่ยนสีหน้าเป็นสนใจในสิ่งที่ลิลิธพูดทันที แน่ล่ะ สิ่งที่พระผู้เป็นเจ้าทรงสร้างจะลองเล่นของที่มีแต่เทวทูตใช้กันทั้งที

“เมื่อซักครู่ ข้าให้ไอเซ็ทลองดูน่ะว่าข้าจะเรียนอะไรดี นางดูแล้วบอกว่าพลังของข้ามันเหมือนหลุมดำอะไรนี่ล่ะ มันคือสิ่งใดกันรึ” ลิลิธอธิบายด้วยสีหน้าและน้ำเสียงที่งุนงง

ดวงตาของลูซิเฟอร์เบิกกว้าง ท่าทางที่ดูอิดโรยเมื่อครู่แทบหายไปหมดสิ้น
สีหน้าของนางเต็มได้ด้วยความประหลาดใจ ระคนความตกตะลึง

‘หลุมดำงั้นรึ บ้านา เรื่องเช่นนี้ไม่น่าเป็นไปได้’

ลูซิเฟอร์ปั้นหน้ายุ่ง และลูบปอยผมตัวเองหลายครั้ง

‘ทำไม ‘สิ่งที่ไม่น่ามีในผู้ใด’ นางผู้นี้จึงมีมัน’

ลูซิเฟอร์ครุ่นคิดอย่างหนัก ลิลิธได้แต่เฝ้ามองลูซิเฟอร์โดยไม่ได้กล่าวสิ่งใด พลางแปลกใจในปฎิกิริยาของทั้งลูซิเฟอร์และไอเซ็ท ที่แสดงออกมาแทบไม่แตกต่างกันสักเท่าใด

‘ข้ามีอะไรแปลกประหลาดเช่นนั้นหรือ?’

คำถามผุดขึ้นในใจนาง
---------------------------------------------

“ว่าแต่เจ้าสนิทกับไอเซ็ทแล้วรึ” ลูซิเฟอร์ถามสีหน้าดูตื่น ๆ เล็กน้อย
“อืม นางน่ารักดีนะ ท่านรู้จักนางด้วยรึ?” ลิลิธถามกลับด้วยไม่คิดว่าลูซิเฟอร์จะรู้จักไอเซ็ท
หากแต่ลูซิเฟอร์กลับตีหน้าเศร้า ลงไปนั่งพับเพียบกับพื้น
“น...นี่เจ้าเสียความบริสุทธิ์ให้ไอเซ็ทแล้วรึ เหตุใดเจ้าจึงทิ้งซามาเอล หันไปมีอะไร อะไรกับสตรีด้วยกันได้ลงคอ”
แม้จะแสดงกิริยาเหมือนเสียใจแต่ก็มีเสียงหัวเราะเล็ดลอดออกมาให้ลิลิธได้ยิน
“....” ลิลิธนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง
“ไม่ใช่ซักหน่อย เจ้าอย่ามาพูดเองเออเองสิ” ลิลิธกล่าวทั้งใบหน้าเอือมระอาต่อมุกตลกของลูซิเฟอร์

--------------------------------------Next to Chapter 5




Create Date : 27 มกราคม 2553
Last Update : 27 มกราคม 2553 9:54:35 น. 0 comments
Counter : 776 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.