Location :
Great Yarmouth United Kingdom
[Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [? ]
แม่ของลูก 3 เมฯ เมธัส เมฑิรา เมษวีร์ ...รวบรวมบันทึกรูปภาพและเรื่องราว ของวันดีๆในช่วงชีวิตที่ประทับใจ... ชีวิตครอบครัว...มิตรภาพ-เพื่อนฝูง... อาหารการกิน...เรื่องราวท่องเที่ยว... สิ่งแปลกใหม่ในสถานที่แปลกตา และสิ่งจรรโลงใจทั้งหลายทั้งมวล... ...ไม่มาก-ไม่น้อย แต่ไม่พอดี??? ...ไม่ขาด-แต่ไม่เกิน ไม่เต็ม-แต่ไม่ล้น... Enjoy your life while you can.
จากเกาะ-ถึงเกาะ Ibiza
กลับมาเป็นเดือนแล้วแต่เพิ่งมีเวลามาเขียนบล๊อกนี้ซะที... นี่ถ้าเป็นของหมักของดองอาจจะเน่าไปแล้วล่ะมั๊ง... เอาล่ะ...มาเริ่มเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า... เราเริ่มต้นเดินทางกันแต่เช้าตรู่ของวันที่ 8 กันยายน คุณปู้จายเป็นคนเลือกจองวันนี้เพราะเป็นวันเกิดเขาพอดี ตั้งใจจะไปเที่ยวและฉลองวันเกิดด้วยว่างั้นเหอะ... ปาหินก้อนเดียวได้เค๊ก 2 ก้อน (สุภาษิตแม้วอังกิด...) ออกจากบ้านไปถึงสนามบิน Norwich ใช้เวลาแค่ครึ่งชั่วโมง บินตรงไปถึงเกาะ ไอบีซ่าก็แค่ 2 ชั่วโมงเท่านั้น การเดินทางแบบนี้ทำให้ไม่รู้สึกเหนื่อยล้ามากมายนัก ยอมจ่ายค่าตั๋วแพงขึ้นอีกนิดหน่อย แต่ไม่ต้องลากกระเป๋าทุลักทุเลกันไปถึงลอนดอน... การไปเที่ยวเกาะ ไอบีซ่าครั้งนี้เป็นรอบที่ 3 ของเรา ส่วนคุณปู้จายน่ะ รอบที่ 10 ได้แล้วมั๊ง... เกาะ Ibiza นี้อยู่ในหมู่เกาะ Balearic ทางใต้ของสเปน เกาะนี้ขึ้นชื่อทางด้านทัศนียภาพที่สวยงามรอบเกาะ และสถานที่เริงรมย์ยามค่ำคืนจึงมีนักท่องเที่ยวทุกเพศ และทุกวัยจากยุโรปและรอบโลกมาเยี่ยมเยียนไม่ขาดสาย อากาศช่วงเดือนพฤษภาคมถึงเดือนกันยายนจะเป็นช่วง ฤดูร้อนที่มีแดดจัด และอากาศร้อน กับลมทะเลเย็นๆเหมาะแก่การพักผ่อนยิ่งนัก...***ถ้าภาพสไลด์ขึ้นเป็นจอสีเทาเข้ม กรุณาคลิกที่เครื่องหมายกากบาทบนมุมขวาสุดของสไลด์นะคะ เรามาถึงที่พักกันก่อนเที่ยงวันนิดหน่อย ที่พักก็ที่เดิมเหมือนทุกๆครั้งที่เรามาพักกันCarmen 8, Urbanization Siesta, Santa Eulalia อพาร์ทเม้นท์นี้เจ้าของเป็นเพื่อนเก่าแก่ของคุณปู้จายเขา เราจึงเช่าได้ในราคาถู๊ก ถูก... (ไม่ใช่ถูกหลอกนะตัวเอ๊ง...) (ใครสนใจติดต่อได้ตามเบอร์โทรท้ายบล๊อกนะจ๊ะ) ฮี่ ฮี่...ไม่ได้ค่าโฆษณาหรอกจ้ะ ช่วยๆกันไปเน๊อะ... ที่พักนี้อยู่ไม่ห่างจากตัวเมือง Santa Eularia เท่าไหร่ พอจัดข้าว-ของออกจากระเป๋าเสร็จแล้วเราก็เดินไปหา อาหารเที่ยงมานั่งกินกันหน้าอพาร์ทเม้นท์ งานนี้เราเตรียมข้าวสาร อาหารแห้ง (ก็มาม่าน่ะแหละ) มาด้วยพร้อม เพราะเราติดกินแบบไทยๆมากกว่าอ่ะ... ตอนบ่ายก็เดินเข้าเมืองเพื่อไปหาแลกเงินกัน เชื่อป่ะ... มาถึงวันแรกก็เจอดีซะแล้วล่ะ... ช่วงที่เราออกไปหาแลกเงินกันนั้นเป็นช่วงพักตอนบ่าย ของคนพื้นเมืองเขา (Siesta Time) ธนาคารและร้านค้าส่วนใหญ่จะปิดทำการและเปิดอีกครั้ง หลังบ่ายสี่โมงครึ่งจนถึงเที่ยงคืน เราว่านโยบายนี้ดีสำหรับประเทศเมืองร้อนนะ เพราะช่วงกลางวันร้อนๆอย่างนี้ได้กลับบ้าน ไปกินอาหารมื้อเที่ยงและนอนพักซักตื่น หรือไปว่ายน้ำให้คลายร้อนนั้นน่าจะดีมากๆเลย... เอ...หรือจะเป็นการชวนกันให้ขี้เกียจหนักข้อกันมากขึ้นไปกว่าเดิมอีกก็ไม่รู้สิ... เอ้า...ว่าจะเล่าเรื่องหาที่แลกเงินก็ดันชักชวนกันเข้าป่า-เข้าพง ไปซะนี่...มาๆ กลับมาทางนี้จ้ะ... ...เราเดินตากแดดกันไปหาร้านแลกเงินในตัวเมือง แล้วก็หันไปเจอร้านที่รับแลกเงินโดยเฉพาะตั้งอยู่ข้าง ร้านอาหารที่พลุกพล่านมากสุดของเมือง ใกล้สี่แยกไฟแดงนั่นเอง... นาทีนั้นยังอยู่ในอารมณ์ของนักท่องเที่ยวไง... เลยไม่ได้คิดหน้าคิดหลัง ระวังซ้าย-ระวังขวา เดินหน้าเข้าไปให้ป้าแกฟันซะเละเทะออกมาเลยค่ะ.. เราเข้าไปขอแลกเงินแค่ 100 ปอนด์ซึ่งควรจะได้เป็นเงินยูโร กลับมา 145 ยูโรตามเรทที่คุณป้าแกเขี่ย เอ๊ย เขียนไว้หน้าร้าน แต่คุณเธอเล่นหักค่าธรรมเนียม ในการทำหน้า เครียดๆใส่เราไปซะ ร้อยละ 15 เซ็นต์ เท่ากับว่าเราแลกเงิน 100 บาท แต่ได้คืนมา 90 บาทอ่ะ... น่าเศร้าใจในความโง่ของตัวเองยิ่งนักเชียว... เพราะปกติเราจะแลกเงินกันจากร้านขายของชำร่วย ซึ่งให้ราคาดีกว่าธนาคารและร้านแลกเงินหน้าเลือดพวกนี้ เพียงเพราะเราลืมไปสนิทไม่ได้คิดถึงเรื่องปลีกย่อยพวกนี้ไว้เลย โดนฟันซะตั้งแต่วันแรก...จ๋มน้ำหน้า...บักง่าว...เอิ๊ก แล้วคืนนั้นเราก็ไปฉลอง Birthday Dinner ของคุณปู้จายกัน 2 คน เราสั่ง Sangria เหยือกเล็กมาดวดคนเดียวแก้เจ็บใจ หลังอาหารก็สั่ง Whisky Tart มาปักเทียนจุดไฟให้คุณปู้จาย ดั๊นลืมไปอีกว่าเหล้ากะไฟใกล้กันไม่ได้นะตัวเอง... ดีที่มันไม่ติดไฟขึ้นมา... ไม่งั้นจะกลายเป็นวันประชุมเพลิงแทนวันเกิดไปซะแล่ว... วันรุ่งขึ้นตื่นมาด้วยพลังเต็มร้อย แต่ไปได้แค่สิบ... ก็มันตรงกะวันอาทิตย์ร้านไหนๆก็ปิด...งดช๊อปปิ้งไว้ก่อน ไปหาอาหารเช้ากินกัน แล้วก็เดินเล่นหน้าชายหาด กลับถึงที่พัก ดันเป็นลมแดด!!! เพราะกระแดะไปเดิน ตากแดดมาซะทั้งวัน... เย็นวันนั้นเลยต้องนอนหยอดน้ำข้าวต้มอยู่ในอพาร์ทเม้นท์ วันต่อมา...แรงดี ลิโพช่วย กลับฟื้นคืนชีพ ดี๊ด๊าได้ต่อ ก็พากันเดินขึ้นไปบนโบสถ์ใหญ่กลางเมือง ที่ตั้งอยู่บนหุบเขา Puig d'en Missa Church มาที่นี่ทีไร คุณปู้จายเธอก็จะแวะไปเยี่ยมญาติ (ข้างไหนไม่รู้?) ที่นอนเรียงกันอยู่บนมรณะคอนโดที่นี่ทุกครั้งไป... ดีนะที่ชวนไปเดินตอนกลางวัน ไม่งั้นไม่ไปด้วยหรอก... หลังจากนั้นเราก็เดินลงจากเขา แวะเลยไปถึงหน้าหาดแถวที่คนรวยเขาจอดเรือยอร์ช เก๊ะถ่ายแสร้งว่าเป็นคนล้างเรือกัน 2-3 แชะก็เข้าตลาด... หาของกินต่อสิคะ...ตลาดสดที่นี่คล้ายๆบ้านเราเลย แถมมีพริก-ผักให้เลือกซื้อได้เยอะแยะถูกใจโก๋ เลยซื้อไส้กรอกอิสานสเปน (Chorizo Mini Picante) กับน้องหมึกอวบอ้วนมาผัดพริกกินเป็นอาหารเย็นหลังจาก กลับมาว่ายน้ำเล่นและนอนพักกลางวันกันไปหนึ่งตื่น... วันที่ 4 ชวนกันนั่งรถเมล์เข้าตัวเมือง หรือที่คนพื้นเมืองเรียกกันว่า Eivissa งานนนี้ตั้งใจจะไปกินอาหารจานเด็ดในดวงใจ ที่ใฝ่ฝันถึงมาตลอด...ลูกปลาหมึกตัวจิ๋วหลิวชุบแป้งทอดกรอบ แต่งวดนี้ไม่ยักอร่อยแถมน้อยลงกว่าเดิมด้วย... เจ็บใจ(อีกแล้ว)เล็กน้อย... เลยพากันเดินชมเมืองกันแค่นิดหน่อย ก็กลับที่พักมาฝันถึงมื้อต่อไป...แหะ แหะ วันรุ่งขึ้น อากาศร้อนจนทำให้รู้สึกขี้เกียจขยับตัว (นิสัยเดิมกำเริบ) เลยนอนให้พัดลมเป่าตูดเล่นจนถึงบ่าย ตอนเย็นเดินเข้าเมืองไปส่งแฟกซ์ใบเงินเดือนพนักงาน แวะตลาดซื้อพริกและผักเพิ่มมาทอด ไส้กรอกอิสานสเปนกินกันอีกรอบ... ...วันต่อมาก็เดินเข้าเมืองกันอีก... ไม่รู้ไปทำไม? จำไม่ได้แร๊ะ... แต่ตอนบ่ายเรายื่นคำขาดกะคุณปู้จายไปว่า เดินไม่ไหวแล้วว๊อย...ทัวร์ทรมานแบบนี้ รู้งี้ตูอยู่บ้านดีก่า... ตอนเย็นคุณเธอถึงยอมไปเช่ารถซะที... ทีนี้จะได้ตระเวณรอบๆเกาะกันซะหน่อย พอได้รถมาปุ๊ปก็บึ่งไปหาร้านอาหารตาม หนังสือแนะนำสถานที่สำคัญและร้านเด็ดของเกาะ ที่หน้าหาด Sant Vincenc พอไปถึงพนักงานสาวบอกปิดร้านเฉยเลย... แป่ว...เห็นเราเป็นอะไรไปเนี่ย... เลยต้องระเห็จไปหาร้านอื่นกินกันที่ Es Canar อีกวันหนึ่งเราเลยขับรถไปหาข้าวเช้ากินกันถึงSant Antonio ซึ่งอยู่อีกฟากของเกาะ แต่เกาะนี้มันก็ไม่ได้ใหญ่โตอะไรนักหนา ขับรถวน 2-3 วันก็ทั่วเกาะแล้ว เราถึงไม่ได้เช่ารถกันตั้งแต่แรกไง... ตอนบ่ายก็แวะเยี่ยมร้านขายเครื่องปั้นดินเผา และงานฝีมือพื้นเมืองรายทางก่อนกลับที่พัก... Sant Antonio เป็นอีกเมืองใหญ่ของเกาะ ที่หนาแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยววัยหนุ่มสาว เพราะที่นี่เป็นแหล่งรวมของคลับและบาร์ อีกทั้งชายหาดกว้างสำหรับนอนอาบแดด และศิลปินก่อกองทรายให้เป็นรูปตามจินตนาการตามชายหาดที่มาของอนุสาวรีย์ไข่ The Egg ตามประวัติดั้งเดิมเล่าสู่ต่อกันมาว่า นายChristopher Columbus หยิบไข่ใบหนึ่งขึ้นมาตั้งปัญหาเชาว์ "มีใครสามารถตั้งไข่ให้ไม่ล้มได้บ้าง?" หลังจากหลายคนพยายามแก้ปัญหาเชาว์นี้ แต่ก็ไม่มีใครทำได้สักคน... นายคริสโตเฟอร์ผู้ชาญฉลาดจึง เฉลยด้วยการตัดส่วนป้านที่สุดของไข่ออกและตั้งมันขึ้นมา และเขายังกล่าวด้วยความภาคภูมิใจว่า "ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้..." ...ชาวพื้นเมืองดั้งเดิมของเกาะนี้มีความสามารถในเรื่อง เครื่องปั้นดินเผาและงานฝีมือด้านต่างๆมากมาย ตามร้านขายของที่ระลึกจึงมีถ้วยจานและเครื่องเซรามิค ลวดลายเฉพาะตัววางขายกันดาษดื่น น่าตื่นตา-ตื่นใจ...อีกวันหนึ่งเราก็ขับรถวนเที่ยวรอบเกาะกันต่อ เริ่มต้นจาก Cala Llonga ที่เป็นเวิ้งอ่าวกว้าง ที่คลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวอาบแดดตรงชายหาด มีท่าเรือที่พาไปยังหาดอื่นรอบเกาะอยู่ด้านหนึ่ง พอดีวันนั้นมีคณะถ่ายทำแฟชั่นคุณหนูๆมาทำการกันอยู่บนท่าเรือด้วย เราก็นั่งดูกันอยู่สักพักก่อน ขับรถล่องขึ้นไปถึงSant Miquel ที่ซาน มิเกลนี้มีถ้ำ ที่เปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอยู่ด้วย เราเคยเข้าไปชมกันมา 2 รอบแล้ว คราวนี้เลยเดินเล่นกันแค่รอบนอก ภายในถ้ำก็จะมีหินหยด-หินย้อยและการแสดงแสง-สี ให้ดูกัน ในสมัยก่อนถ้ำนี้เป็นที่เก็บซ่อนสินค้าและสมบัติ ของนักเดินเรือที่ผ่านมาที่นี่...แต่ป่านนี้คงไม่มีเหลือแล้วล่ะ ขากลับเราแวะกินมื้อเย็นกันที่ร้านอาหาร Can cans เป็นร้านข้างทางที่อยู่ดีๆก็โผล่ขึ้นมาให้แวะ บรรยากาศในร้านสวยและคลาสสิคดี เราสั่งปลาซาร์ดีนย่างมากิน ส่วนคุณปู้จายกินสเต็ก อิ่มอร่อยกลับบ้านนอนสบาย.... วันต่อมาเราไปหาอาหารเช้ากินกันที่ Sant Josep อาหารเช้าของเราก็ไม่พ้น Tapas อีกแร่ะ ขอให้มีปลาหมึกเหอะ...กินได้ทุกวัน โชคดีที่เกาะนี้มีอาหารทะเลอุดมสมบรูณ์ แต่บางวันเราก็เปลี่ยนไปกินไตผัดกระเทียมดูบ้าง รสชาดก็อร่อยถูกปากดี... หลังจากนั้นก็ขับเรื่อยเปื่อยชมทิวทัศน์ไปจนถึงนาเกลือ นาเกลือนี้อยู่ทางใต้สุดของเกาะ(ไม่ไกลจากสนามบินนัก) และชายหาดบริเวณนี้ก็เป็นแหล่งรวมนักเล่นวินเซริฟ เพราะเป็นอ่าวเปิดที่รับลมทะเลเต็มๆจากเมดิเตอร์เรเนี่ยน ขากลับแวะเดินเล่นที่ Platja d'En Bossa ย่านนี้เต็มไปด้วยผับและบาร์ที่พลุกพล่านที่สุด นักท่องเที่ยวหนุ่มๆก็นั่งดื่มเบียร์-เชียร์บอลกันโหวกเหวก สาวๆก็แต่งตัวเหมือนเพิ่งหลุดออกมาจากปาร์ตี้... ป้ากะลุงเลยหลบไปเดินตากแอร์ในห้าง Syp กัน... และในซุปเปอร์มาเก็ตนี้เองทำให้เราได้เจอกับ ป้านางและน้องเม สองสาวไทยที่อาศัยอยู่ที่นี่ ป้านางบอกว่าแต่งงานมาอยู่ที่เกาะนี้ ร่วม 30 ปีแล้ว นานทีถึงจะได้กลับเมืองไทย เพราะมีกิจการ ร้านปลาสดที่ต้องดูแล (ร้านปลาของป้านางที่เราหาไม่เจอซักที) อยู่ในตัวเมือง Santa Eularia ที่เราพักอยู่ ป้านางยังบอกอีกว่าที่บ้านป้ามีพื้นที่ปลูกผัก-ผลไม้ไทยกินเองด้วย ทักทายพูดคุยกันพอหอมปาก-หอมคอแล้วเราก็ร่ำลากัน กลับมาทำ กุ้งอบวุ้นเส้น กินเล่นตอนบ่าย... วันรุ่งขึ้นขับรถไปแวะกินมื้อเช้ากันที่ Jesus ก็กินปลาหมึกอีกแหละ...แวะเข้าไปชมโบสถ์ (ไม่รู้ทำไมเราชอบเที่ยววัด โบสถ์และพิพิธภัณต์เป็นพิเศษ) แล้วขับรถชมวิวกันไปรอบเกาะ แวะร้านขายเครื่องเซรามิคอีกร้านใน Sant Josep ขับรถวนต่อจนไปเจอทางเดินลาดลงจากเขา ที่คาดว่าจะไปถึงหาดสวยๆสักที่หนึ่ง... แต่หลังจากเดินกันไปเกือบชั่วโมงก็ยังไม่เห็นอะไรเลย นอกจากประตูบ้านใครไม่รู้ ออกแบบได้เหมือนกิโยตินมากๆ เราเลยเดินไต่เขาย้อนกลับขึ้นมา 2 ลุง-ป้าบ่นกันอุบอิบ... กลับที่พักว่ายน้ำเล่นแก้ร้อน แล้วคืนนั้นเราก็ออกไปกินอาหารจีนกัน... วันต่อมารู้สึกเพลียๆเลยนั่งๆ-นอนๆกันอยู่ในอพาร์ทเม้นท์จนบ่าย ค่อยออกไปหามื้อบ่ายกินกันที่ Sant Antonio แล้วขับรถต่อ ไปจนถึง Eivissa เดินชมร้านรวงจนดึกแล้วก็ขับรถกลับที่พักกัน... เสื้อผ้าที่นี่สวยดี แต่ราคาค่อนข้างแพง โดยเฉพาะชุดผ้าลินินพื้นเมืองสีขาวๆนั่น... ...เที่ยวนี้เราไม่ได้กิน Paella เลยซักกะจาน เพราะมัวแต่ตามล่ากินปลาหมึก... แต่เราก็ซื้อผงเครื่องปรุงพาเอลล่ากลับมาบ้านด้วย กะว่าจะลองทำกินเองดูซักที... วันนี้เราขับรถตระเวณขึ้นไปเที่ยวทางเหนือสุดของเกาะ หาด Portinatx นี้ก็เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวที่มาอาบแดด ที่นั่นมีสวนน้ำขนาดกลางๆให้เข้าไปเล่นสไลเดอร์ได้ด้วย และใกล้ๆกันนี้ก็มีจุดชมวิวที่สวยมากอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งเมื่อ 3 ปีที่แล้วเรามาแวะจอดรถเดินลงไปชมกัน ขากลับขึ้นมาพบว่ารถ(เช่า)โดนทุบกระจกข้าง และมีคนขโมยกระเป่าหิ้วที่เราทิ้งไว้ในรถไป งานนั้นเราต้องเสียเวลาเที่ยวไปหนึ่งวันเพื่อไปแจ้งความและทำEmergency Passport ที่สถานฑูตในตัวเมือง ...จากนั้นเราก็ขับรถตระเวณหาถ้ำที่คุณปู้จายเคยเดินลงไปเที่ยว เมื่อหลายปีก่อน หากันจนเจอ แต่... ตอนนี้เขาปิดกั้นทางเดินลงไว้และปิดป้ายอันตรายไว้ทั่วไปหมด คาดว่าอาจจะมีคนเคยประสบอุบัติเหตุที่นี่ เราเลยเดินวนๆดูกันแค่ชั้นบน แค่นั้นก็ประทับใจ ในความงามของธรรมชาติแล้ว... หาดด้านล่างสวยและน้ำทะเลสีฟ้าใสเหมือนภาพในโปสการ์ดเชียวล่ะ ขากลับแวะกินมื้อค่ำกันที่ Es Canar คุณปู้จายกิน Chilli Con Carne เราสั่งขาแกอบมาลอง รสชาดน่าเกลียดจนกินไม่ลง... ... Hippy Market ตลาดนัดฮิปปี้นี้เป็นจุดสวนรวมใหญ่ของ พ่อค้า-แม่ค้าเร่ที่อาศัยอยู่บนเกาะนี้ เริ่มต้นมาจากพวกฮิปปี้ที่อพยพเข้ามาอาศัยที่นี่ตั้งแต่ปี 1958 บุปผาชนเหล่านี้รักอิสระและถนัดในงานฝีมือ จึงสามารถผลิตผลงานออกมาขายให้แก่นักท่องเที่ยว ต่อมาได้มารวมตัวกันมาเป็นตลาดนัดแห่งนี้ขึ้น ตั้งแต่ปี 1970 เป็นต้นมาตลาดนัดวันพุธนี้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง เปิดตลอดช่วงฤดูร้อน เดือนเมษายน จนถึงปลายเดือนตุลาคม ส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าพื้นเมือง เสื้อผ้าและเครื่องประดับจากอินเดีย แอฟาริกา จีน และไทย!!! สมัยที่เกาะนี้ยังใช้เงินเดิมก่อนที่จะเปลี่ยนมาเป็นยูโร ที่ตลาดนัดแห่งนี้จะมีบรรดาวณิพก-ศิลปินแต่งตัว หลากสีสรรมายืนเป็นหุ่นให้ถ่ายรูปกันเยอะแยะไปหมด มาเที่ยวนี้ทั้งตลาดมีเจ้าหนุ่มดรบินฮู้ดสีเงินเหลืออยู่คนเดียว???Eivissa (Ibiza Town) Dalt Vila ปราสาทเก่ากลางเมืองนี้ได้ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ประมาณปีคศ. 1500 และถูกบันทึกไว้เป็น 1 โบราณสถานของ Unesco ตั้งแต่ปี 1999 ปัจจุบันยังพอมีกลิ่นไอของศิลปะยุค Renaissance พอเหลือให้เห็นอยู่บ้าง... รอบๆตัวปราสาทมีบ้านเรือนและสถานที่ทำการของราชการ รวมทั้งโบสถ์,พิพิธภัณต์และร้านค้าต่างๆ ปะปนกันไป ที่นี่มีนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกขึ้นมาชมไม่เคยขาดสาย จากมุมมองสูงสุด มองออกไปสู่ทะเลเมดิเตอเรเนี่ยน กำแพงเมืองและบริเวณรอบๆเกาะไกลสุดสายตา... ...จากประสบการณ์การกลับไปเยือนเกาะนี้มา 3 รอบ ทำให้เรารู้สึกว่าเดี๋ยวนี้สเน่ห์เดิมๆของเกาะแห่งนี้ลดน้อยลงไปเยอะ ค่าครองชีพก็สูงขึ้น ผู้คนยิ้มน้อยลง... จะมีก็แต่ภูมิประเทศและธรรมชาติที่ยังคงสวยงามคงเดิม เราเลยคิดกันว่าครั้งนี้น่าจะเป็นครั้งสุดท้ายของการมาเยือนเกาะ ไอบีซ่านี้เสียที...จะลองไปค้นหาที่อื่นเที่ยวดูกันบ้าง แต่ถ้าเพื่อนๆท่านใดต้องการที่จะไปค้นหาสเน่ห์ของไอบีซ่า ด้วยตนเอง...และสนใจที่พักที่เราไปพักกันนี้ ขอเชิญติดต่อได้ที่ Mr.Rod - Mrs.Penny 01603 864408 เบอร์โทรนี้เฉพาะสำหรับภายในประเทศอังกฤษเท่านั้นนะคะ...ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาเที่ยวชมทริปเที่ยว Ibiza ด้วยกันค่ะ GRACIAS POR SU VISITA
Create Date : 21 ตุลาคม 2550
Last Update : 6 พฤศจิกายน 2553 18:26:50 น.
45 comments
Counter : 3073 Pageviews.
โดย: แม่เจ้าเมฯ วันที่: 22 ตุลาคม 2550 เวลา:5:26:11 น.
โดย: boatboat วันที่: 22 ตุลาคม 2550 เวลา:11:22:37 น.
โดย: SwissSydney วันที่: 23 ตุลาคม 2550 เวลา:7:13:58 น.
โดย: เด็กโคราช ณ ดูไบ (meephrom ) วันที่: 23 ตุลาคม 2550 เวลา:22:59:13 น.
โดย: PS-pani วันที่: 24 ตุลาคม 2550 เวลา:21:02:25 น.
โดย: YGHarding วันที่: 29 ตุลาคม 2550 เวลา:10:52:30 น.
โดย: มิสเตอร์ฮอง วันที่: 29 ตุลาคม 2550 เวลา:14:06:53 น.
โดย: เจี๊ยบ IP: 77.251.100.72 วันที่: 29 ตุลาคม 2550 เวลา:22:15:34 น.
โดย: bagarbu วันที่: 31 ตุลาคม 2550 เวลา:18:25:26 น.
โดย: boatboat วันที่: 1 พฤศจิกายน 2550 เวลา:10:40:08 น.
โดย: มิสเตอร์ฮอง วันที่: 1 พฤศจิกายน 2550 เวลา:14:20:02 น.
โดย: fonw วันที่: 1 พฤศจิกายน 2550 เวลา:15:20:21 น.
โดย: แม่น้องรัน (runch ) วันที่: 1 พฤศจิกายน 2550 เวลา:17:28:31 น.
โดย: แป๋วภูเก็ต วันที่: 1 พฤศจิกายน 2550 เวลา:22:39:28 น.
โดย: thaispicy วันที่: 2 พฤศจิกายน 2550 เวลา:1:03:28 น.
โดย: แม่เจ้าเมฯ วันที่: 2 พฤศจิกายน 2550 เวลา:19:32:28 น.
โดย: bagarbu วันที่: 3 พฤศจิกายน 2550 เวลา:5:16:43 น.
โดย: YGHarding วันที่: 3 พฤศจิกายน 2550 เวลา:6:34:30 น.
โดย: PS-pani วันที่: 5 พฤศจิกายน 2550 เวลา:22:07:06 น.
โดย: มิสเตอร์ฮอง วันที่: 6 พฤศจิกายน 2550 เวลา:13:32:52 น.
โดย: YGHarding วันที่: 7 พฤศจิกายน 2550 เวลา:5:06:33 น.
โดย: มิสเตอร์ฮอง วันที่: 8 พฤศจิกายน 2550 เวลา:2:48:52 น.
โดย: มิสเตอร์ฮอง วันที่: 10 พฤศจิกายน 2550 เวลา:2:56:12 น.
โดย: มิสเตอร์ฮอง วันที่: 13 พฤศจิกายน 2550 เวลา:2:49:31 น.
โดย: จอมแก่นแสนซน วันที่: 16 พฤศจิกายน 2550 เวลา:14:15:44 น.
โดย: C_J_love2007 IP: 117.47.108.170 วันที่: 28 พฤศจิกายน 2550 เวลา:15:47:09 น.
โดย: มิสเตอร์ฮอง วันที่: 4 ธันวาคม 2550 เวลา:1:06:42 น.
โดย: PS-pani วันที่: 4 ธันวาคม 2550 เวลา:7:00:13 น.
โดย: haha IP: 66.79.173.27 วันที่: 24 พฤศจิกายน 2554 เวลา:14:46:26 น.
โดย: A&F IP: 66.79.173.27 วันที่: 24 พฤศจิกายน 2554 เวลา:14:49:10 น.
โดย: shoesonline IP: 1.234.47.9 วันที่: 10 กรกฎาคม 2555 เวลา:16:05:19 น.
โดย: Anonymous IP: 1.234.47.9 วันที่: 10 กรกฎาคม 2555 เวลา:16:06:10 น.