Bloggang.com : สมาชิกหมายเลข 3661152 : เที่ยวลานเเสดงคอนเสิร์ตระดับโลก & การ์เด้นส์กลางกรุง ชิคาโก

เที่ยวลานเเสดงคอนเสิร์ตระดับโลก & การ์เด้นส์กลางกรุง ชิคาโก

วันนี้เรามาเที่ยวสวนสาธารณะขนาดใหญ่ตามภาพด้านบน ตั้งอยู่ย่าน Loop ในเมืองชิคาโก ประเทศสหรัฐอเมริกา อยู่ใกล้กับชายฝั่งทะเลสาบมิชิแกน ครอบคลุม 24.5เอเคอร์ สวนสาธารณะเเห่งนี้ชื่อ "มิลเลนเนียมพาร์ค" ภายในสวนนี้มีจุดเช็คอินเด่นๆอยู่ 3 จุดตามภาพด้านบน คือหมายเลย 1.สะพานคนข้ามคดเคี้ยวมองคล้ายงู, 2.ลานเสดงคอนเสริ์ตรูปคล้ายเปลือกหอย เเละ 3. ประติมากรรมรูปถั่ว เดอะบีน

วันนี้เราจะมาเที่ยวตามหมายเลย 1.สะพานคนข้าม เเละ 2.ลานเเสดงคอนเสริ์ตกันค่ะ

ลานแสดงคอนเสิร์ตกลางแจ้งมองดูคล้ายเปลือกหอย มีลักษณะแบบแผ่นเหล็กดัดโค้งซ้อนกันไปมาอย่างได้จังหวะ มันคือ Jay Pritzker Pavilion (เจย์พริตซ์เกอร์พาวิลเลี่ยน) ชื่อของลานเเสดงคอนเสริ์ตรูปเปลือกหอยที่ตั้งอยู่ในภายในสวนสาธาระณะมิลเลนเนียมพาร์ค ตั้งอยู่ทางด้านทิศใต้ของ ถนนแรนดอล์ฟ และทางตะวันออก

สวนสาธารณะมิลเลนเนียมพาร์ค กลางเมืองชิคาโก ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1998 และเปิดใช้บริการในปี ค.ศ. 2004 สวนสาธารณะแห่งนี้ไม่ธรรดานะ มันถูกดีไซน์มาเพื่อการใช้งานอันหลากหลายไม่ว่าจะเป็น ลานแสดงคอนเสิร์ต, ลานสเก็ต, อนุสรณ์สถาน ซึ่งแต่ละที่ก็มีความเป็นมาที่น่าสนใจมากเลยทีเดียว

ลานเเสดงคอนเสิร์ต "พริตซ์เกอร์พาวิลเลียน" ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางของ Millennium Park และเป็นที่ตั้งของ Grant Park Symphony Orchestra และ Chorus และ เทศกาลดนตรี Grant Park กลางแจ้งฟรีแห่งเดียวในประเทศ!

เดิมทีลักษณะการก่อสร้างลานคอนเสร์ติกลางเเจ้งนี้มีข้อจำกัดทางกฏหมายเกี่ยวกับความสูงของอาคารใน Grant Park เพื่อหลีกเลี่ยงข้อจำกัดนี้ จึงเลี่ยงมาสร้างให้ลานมีลักษณะกว้างมองดูเหมือนตาข่าย,เปลือกหอย มองเป็นงานศิลปะ มากกว่าอาคาร

ลานนี้ได้รับการออกแบบให้มีพื้นที่นั่งเล่นขนาดใหญ่ มีเครือข่ายเพื่อรองรับระบบเสียงที่มีการออกแบบอะคูสติก คือท่อโลหะทรงกลมสีเทาพร้อมลำโพงทรงกล่องสี่เหลี่ยมสีเทาเข้มสองตัวห้อยอยู่ด้านหลัง โดยระบบอะคูสติกเป็นระบบเสริมเสียงแบบกระจาย ซึ่งช่วยให้นักดนตรีบนเวทีได้ยินเสียงซึ่งกันและกันอย่างชัดเจน นอกจากนี้เสียงจากเวทียังสะท้อนจากพื้นผิวด้วยระบบเสียงสองระบบ ลำโพงเสริมแรงแบบหันไปข้างหน้า เวลาถ่ายทอดเสียงจะดูเหมือนว่ามาจากเวทีโดยตรง

ลานเเสดงคอนเสิร์ต Jay Pritzker Pavilion (เจย์พริตซ์พาวิลเลี่ยน) ออกแบบโดยแฟรงก์เกห์รี ลานนี้มีที่นั่ง 4,000 ที่นั่ง และที่สนามหญ้าอีก 7,000 ที่นั่ง เวทีล้อมรอบด้วยแผ่นสแตนเลสโค้งลักษณะของเกห์รี ได้รับการตั้งชื่อตามJay Pritzker ซึ่งครอบครัวนี้เป็นเจ้าของโรงแรมในเครือ Hyatt Hotels และเป็นผู้บริจาครายใหญ่

Pritzker Pavilion เป็นที่ตั้งของ Grant Park Symphony Orchestra และ Chorus และ Grant Park Music Festival เป็นซีรีส์เพลงคลาสสิกที่ให้เข้าชมฟรี ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากท้องถิ่นเพียงแห่งเดียวในประเทศสหรัฐอเมริกา

เทศกาลนี้นำเสนอโดย Chicago Park District และ Chicago Department of Cultural Affairs เป็นเจ้าภาพจัดงานแสดงซีรีส์เพลงอื่น ๆ, งานศิลปะ เเละการแสดงประจำปีอื่นๆมากมาย เป็นต้นว่าดนตรีร็อก, ดนตรีคลาสสิก และนักร้องโอเปร่า รวมถึงการเป็นเจ้าภาพจัดกิจกรรมออกกำลังกาย เช่นโยคะ

ออกจากลานเเสดงคอนเสริ์ตเเล้ว ไปเที่ยวต่อ ที่สะพานคนเดินเท้าที่คดเคี้ยวคล้ายงู สะพานนี้มีชื่อว่า "BP Pedestrian Bridge" เป็นสะพานลอยคาน เหนือถนน Columbus Drive เชื่อมต่อ Millennium Park กับ Maggie Daley Park (เดิมคือ Daley Bicentennial Plaza)

สะพานคนเดินคดเคี้ยวนี้ ออกแบบมาและได้รับการตั้งชื่อตามบริษัท BP plc ซึ่งบริจาคเงิน 5 ล้านดอลลาร์ให้กับการก่อสร้างในครั้งนี้ เปิดเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2547

การออกแบบสะพานคดเคี้ยวเเห่งนี้ ขึ้นชื่อในเรื่องความสวยงาม การใช้แผ่นสเตนเลสสตีลเพื่อแสดงความเป็นนามธรรม สะพานนี้เรียกว่าลักษณะคล้ายงูเนื่องจากมีลักษณะโค้งงอ การออกแบบสะพานเป็นไปตามมาตรฐานของกรมทางหลวง เพื่อรองรับการจราจรทางเท้าที่เร่งรีบ

สะพานนี้รออกแบบเป็นคานกล่องพร้อมฐานคอนกรีต ถูกปูพื้นด้วยไม้เนื้อแข็งโดยไม่มีราวจับ ความยาวรวม 935 ฟุต มีความลาดชัน 5 เปอร์เซ็นต์บนพื้นผิวที่เอียง ซึ่งทำให้ไม่มีสิ่งกีดขวาง

สะพานนี้ได้รับรางวัลจากการใช้โลหะแผ่นมาทำ แม้ว่าสะพานจะปิดในฤดูหนาวเนื่องจากไม่สามารถกำจัดน้ำแข็งออกจากทางเดินไม้ได้อย่างปลอดภัย แต่ก็ได้รับคำวิจารณ์ในแง่ดีในเรื่องการออกแบบและความสวยงาม

เดินเลยออกจากลานเเสดงคอนเสิร์ตเปลือกหอยไปทางด้านหลัง เป็นสวนดอกไม้ (การ์เด้นส์) ชื่อ "Lurie Garden" มีตึกระฟ้า Randolph Street อยู่เบื้องหลัง ดูสวยเก๋ไม่เบาเลยนะยู

"Lurie Garden" เป็นสวนสาธารณะขนาด 2.5 เอเคอร์ ตั้งอยู่ทางตอนใต้สุดของ สวนสาธารณะ Millennium Park ออกแบบโดยบริษัทภูมิสถาปัตยกรรม GGN ( Gustafson Guthrie Nichol), Piet Oudolf และ Robert Israel เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2547

สวนนี้เป็นการผสมผสานระหว่างไม้ยืนต้นขนาดไหญ่,ต้นหญ้า,พุ่มไม้ และต้นไม้ประดับที่สวยงาม

สวนนี้มีค่าใช้จ่าย 13.2ล้านเหรียญ และมีเงินบริจาค 10ล้านเหรียญสำหรับการบำรุงรักษา สวนนี้ได้รับการตั้งชื่อตามผู้ใจบุญที่ชื่อ "แอนลูรี" ผู้บริจาคเงินบริจาค 10ล้านดอลลาร์ สวนแห่งนี้เป็นเครื่องบรรณาการของเมืองซึ่งมีคำขวัญคือ" Urbs in Horto" ภาษาละติน หรือ"City in a Garden"