|
Rockville? No Shit!
หลายอาทิตย์ก่อนได้ซื้อ metal detector มาหนึ่งอัน Garrette Ace 250 เชียวนะ เกม treasure hunting เป็นเกมที่นิยมกันพอสมควรในอเมริกา สำหรับท่านที่นึกไม่ออกลองนึกดูเคยเห็นใครใช้เครื่องแบบนี้ที่ beach มั่งไม๊???? เครื่องนี้ตรวจโลหะแทบทุกชนิด แต่จุดประสงค์คือหา historical artifacts หรือของโบราญ เช่นเหรียญเก่าๆมากๆ เครื่องใช้สมัยก่อนที่จมดิน มีคนเจอทองบ่อยเหมือนกัน สถานที่ๆขุดกันบ่อยๆก็คือชายหาดหรือ historical sites ต่างๆ เขาว่าวันดีคืนดีช่วง hurrican seasons ลมพัดพวกเหรียญ Spanish เก่าๆสมัยเรือล่มเข้าฝั่งมาบ่อย แอบหวังอยู่กับเขาเหมือนกันเพราะสะสมเหรียญ
แต่ว่าตั้งแต่ซื้อเครื่องนี่มายังไม่ได้กำไรกะเค้าสักกะที ไปขุดมาสองสามแห่งๆแรกทำแว่นกันแดด Ray Ban สุดรักหาย ต้องไปประกาศหาคืนเสียค่ารางวัลไป $40
แห่งที่สองไปทะเล ได้เหรียญใหม่มา $0.80 ขุดจะปวดหลัง เจอ pulltaps (ส่วนของน้ำอัดลมกระป๋องที่ดึงทิ้งไป) อีก 14 อัน ในระหว่างนั้น Scott เพื่อนซี้ทรยศที่ตามติดรถไปตากแดดเป็นปลาแห้งที่ทะเลก็เยาะเย้ยตลอดทางขากลับ มันไม่เชื่อเรื่องขุดหาสมบัติ ตอนหลัง Scott เอาเหรียญ penny ไปฝังตามทรายตอนเราไม่เห็น เจ้า Garrette Ace 250 ก็ บี๊บๆๆๆๆๆ ไม่หยุดเลยแหล่ะ ถ้ามันพูดได้มันคงตะโกนว่า "นี่ๆๆขุดตรงนี้ มหาสมบัติเลยนะนาย" เราก็ขุดๆๆๆๆลงไปแปดนิ้ว ไม่เจออะไร มาดูปากหลุมมีแต่เหรียญ penny ไอ้ตัวต้นเหตุนั่งหัวเราะก๊ากๆตบเข่าฉาดๆ ฝากไว้ก่อนเถอะแก คราวหน้าไม่ช่วยไปเป็นเพื่อนจีบสาวแล้วว๊อย ขากลับโดน parking ticket ไปอีก $25 โธ่ชีวิตรันทด Scott บอกไม่ต้องขุดหรอก ขาดทุนเปล่าๆ "อ่ะให้ $0.50" ไอ้เพื่อนเวร ไม่ใช่ขอทานนะเฟ้ย
ที่เด็ดที่สุดคือ lawn หน้าบ้านนี่เอง เราอยู่ Rockville, MD นะ อยู่มาสิบกว่าปีแล้วแถวๆนี้เคยสงสัยอยู่ว่าทำไมใครมันช่างตั้งจริงๆ เพิ่งมาเข้าใจต้องใช้น้อง Garrette Ace 250 นี่เอง ขุดเท่าไหร่ก็เจอแต่หินๆๆๆและหิน แม่เจ้า! OMG นี่มันเมืองหินหรือไงวะนี่ แล้วใครนะช่างทำเหรียญหล่นได้หล่นดี ขุดมาสามวันแม้แต่วันไม่สบายลางานก็ออกมาขุดเจอแต่เหรียญ wheat penny
ทำไมหินมันเยอะขนาดนี้ เจ็บมือแล้วนะ ยังหาไม่เจอเลยไอ้ relics ทั้งหลาย ใครมีหลังบ้านที่ไม่มี wheat penny หล่นเยอะขอไปขุดหน่อยสิตัวเอง
Create Date : 19 กันยายน 2550 | | |
Last Update : 11 เมษายน 2553 1:06:48 น. |
Counter : 835 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
เหรียญดอกบัว ร.3 ขัดเงา หายากที่สุด
หมู่นี้ดวงไม่ค่อยดี ตอบกระทู้ตามความรู้สึกก็ไปเหยียบตีนชาวบ้านเข้า ถูกกระทืบซะเกือบตาย เรื่องไม่เป็นเรื่องแท้ๆ ไม่ยักรู้ว่าคนไทยเค้าไม่ชอบฟังความเห็นชาวบ้านในแง่ลบ สงสัยจะชอบให้ยอๆๆๆเข้าไว้แล้วจะรุ่งนะน้อง
สรุป ต่อไปนี้สัญญากับตัวเอง ความเห็นที่เป็นแง่ลบไม่ต้องเขียนเพราะคนเค้าไม่อยากฟัง เค้ารับกันไม่ได้ เก็บความปากเอ๋งของตัวเองไว้สุดที่รักก็แล้วกัน
มาดูเหรียญแก้เซ็งดีกว่า เหรียญนี้คือเหรียญที่เรียกว่า "ดอกบัว ร.3" ขัดเงาและเป็นเหรียญ pattern หมายความว่าทำมาเป็นแบบแต่ไม่ได้ใช้ จริงๆแล้วเหรียญนี้เป็นเหรียญคู่กับเหรียญช้าง คือในสมัยโบราญคนไทยให้เงินพดด้วงมาตลอด ในราชการที่ 3 ท่านพยายามทำเหรียญแบนขึ้นใช้เพราะเงินพดด้วงต้องผลิตด้วยมือ ไม่ทันความต้องการ เมืองไทยเริ่มมีต่างชาติเข้ามาค้าขายมากขึ้น จึงต้องการผลิตเหรียญด้วยเครื่องยนตร์แทน
เหรียญดอกบัวและเหรียญช้างมีมาเป็นต้นแบบแค่แบบละ 500 เหรียญ แต่อันที่เห็นนี้เป็นแบบ "ขัดเงา" ซึ่งเป็นเหรียญที่ 2 ที่ค้นพบเท่านั้น ราคาประเมินก็ 5 แสน เราประมูลมาได้จากเวปฝรั่ง (ได้มาถูกว่านั้น)
อันนี้มีแถมเพราะมีกระดาษห่อของแท้และ "shell" ซึ่งเป็น copper เปลืองหุ้มไว้อีกที
ร.3 ท่านไม่โปรดจึงไม่ได้ผลิต ท่านว่าดอกบัวเหมือนตรากรมท่าเรือ ส่วนช้างเหมือนเหรียญของประเทศศรีลังกา
ใครจะมาปล้นขอบอกว่าไม่ได้เก็บไว้ที่บ้านจ้า จะเข้าทำนอง มีทองเท่าหนวดกุ้งนอกสะดุ้งจนเรือนไหวหรือเปล่าเนี้ย
Create Date : 17 กันยายน 2550 | | |
Last Update : 11 เมษายน 2553 1:07:08 น. |
Counter : 2738 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
ผัดเผ็ดรูด๊อฟ กวางน้อยจมูกแดง
Rudolph the Red-Nosed Reindeer เป็นกวางจมูกแดงของ Santa Claus ตามคำเล่าในนิทาน คืนวันคริสมาตส์คืนหนึ่งเป็นคืนที่หมอกลงหนามากๆ ซานต้ากำลังจะตัดสินใจไม่ออกแจงของขวัญให้เด็กๆเพราะมองทางไม่เห็น ก็ได้หันมาเจอรูด๊อฟ เจ้ากวางลากรถตัวน้อยที่จมูกเป็นสีแดงแปล่งแสงแต่กำเนิด ซานต้าก็เกิดไอเดียใสปิ๊งนำเจ้ารูด๊อฟน้อยเป็นกวางลากรถลากที่เรียกว่า sleigh (ใช้ในเมืองที่มีหิมะหนาเช่นขั่วโลกเหนือ) จมูกแปล่งแสงของรูด๊อฟส่งแสงสวางใด้ดี และตั้งแต่นั้นมา รูด๊อฟน้อยก็เป็นที่รักใคร่ของเพื่อนๆหมู่กวางลากรถ
=================
แต่วันนี้ เพื่อนเวียตนามคนหนึ่งนำอาหารมาฝาก เป็นเนื้อผัดเผ็ดที่อร่อยมากๆ กลิ่นออกจะมีกลิ่นสาบเล็กๆแต่ก็ไม่มากเนื่องจากเครื่องเทศต่างๆที่ใช้ปรุงกลบกลิ่นได้ดี
"นี่เนื้ออะไรน่ะ อร่อยดี" เราถาม "ถิดนัย" เพื่อนตอบเป็นภาษาเวียตนาม ปรกติเราก็พูดภาษานี้ไม่ได้หรอก แต่พอจะเข้าใจบ้างในบางคำเพราะมีเพื่อนชาตินี้เยอะมาก
คำว่า "ถิด" แปลว่า เนื้อ คำว่า "นัย" (ไม่รู้ออกเสียงถูกไม๊)แปลว่า กวาง
อีตานี่ไปยิงกวางมาได้ตัวหนึง กวางในแถบ Maryland นี่มีเยอะมากๆ วันดีคืนดีเรามองออกมาหลังบ้านในส่วนที่เป็นสวน ก็เห็นน้องกวางน้อยๆสองสามตัวออกมาเล็มหญ้าหลังบ้าน ในบางเขตการขับรถกลางคืนนั่นเสี่ยงกับการชนกวางมากๆ เราเคยขับรถชนกวางมาแล้วหนหนึ่งด้วยความเร็ว 100 กว่ากิโลต่อชั่วโมง คนบางคนชนกวางตายแล้วอุ้มขึ้นรถไปแล่เนื้อกินก็มี ในช่วงที่มีประชากรกวางแน่นหนา ทางรัฐก็จะมีใบอนุญาตล่ากวางออกมาขาย เพื่อคุมประชากรของเหล่ากวาง เนื่องจากเป็นต้นเหตุของอุบัติเหตุบนท้องถนนบ่อยๆรวมทั้งความเสียหายที่กวางทำกับสวนผักต่างๆที่คนปลูกไว้
เรามองจานผัดเผ็ดอีกครั้ง แบบว่า อึ้งไปนิดนึง โธ่ ไม่น่าเลยรูด๊อฟ อยู่ไม่ถึง Christmas Eve ซะงั้น....
เฮ้อ อร่อยก็อร่อย สงสารก็สงสาร.....
You know Dasher and Dancer And Prancer and Vixen, Comet and Cupid And Donner and Blitzen, But do you recall The most famous reindeer of all? Rudolph the Red-Nosed Reindeer Had a very shiny nose And if you ever saw it You would even say it glows All of the other reindeer Used to laugh and call him names They never let poor Rudolph Join in any reindeer games Then one foggy Christmas Eve Santa came to say "Rudolph, with your nose so bright, Won't you guide my sleigh tonight?" Then all the reindeer loved him As they shouted out with glee: Rudolph the Red-Nosed Reindeer, You'll go down in history!
Create Date : 02 ธันวาคม 2549 | | |
Last Update : 11 เมษายน 2553 1:07:58 น. |
Counter : 753 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
ขอแนะนำเครื่องดื่มใหม่มาแรงแซงทิ้งโคงชาเขียวโออิชิ...หาซื้อได้ตามร้านเกาหลีทั่วไป
>
ใครๆเค้าก็รู้กันหมดแล้วว่าเจ้าของบร๊อคชอบอาหารเป็นพิเศษ (น้อยกว่าชอบผู้หญิงนิดนึง)
วันนี้ขอเสนอ aloe drink หรือน้ำว่านหางจระเข้ (สะกดถูกเปล่า) ขวดนี้ $2 กว่าซื้อมาจากร้านเกาหลีใกล้บ้าน ปรกติไม่ชอบน้ำหวานๆแต่วันนี้ทำท่าจะเป็นหวัด (ต่อเนื่องมาจากที่ไป camp out มาหน้า Bestbuy คืนวัน Thanksgiving) เลยอยากดื่มน้ำหวานให้ชื่นใจซะหน่อย
น้ำ aloe นี้กำลังฮิตมากในหมู่คนเอเซียที่ช้อปร้านเกาหลี ที่น่าแปลกคือน้ำนี้ไม่มีกลิ่นเหม็นเขียวของต้นว่านนี้เลย บ้านเราที่เมืองไทยปลูกว่านหางจระเข้หลายต้น ซึ่งวันดีคืนดีคุณพ่อของเราเอามาแปะศีษะเพราะผมที่ร่วงไปมากมาย หาหมอกี่แห่งๆก็รักษาไม่หาย แต่อนิจา ผมของป๋าก็ไม่ยอมหยุดจากไปอยางถาวร
(นอกเรื่องได้ไง กลับมาเรื่องน้ำ aloe ต่อ) จุดเด่นของน้ำ aloe นี่คือวุ้นเนื้อของ aloe ล้วนๆที่เค้าปอกใส่ลงไปด้วย ดื่มน้ำหวานๆพร้อมเนื้อวุ้นเย็นๆ อืม อร่อยๆๆๆ
Create Date : 29 พฤศจิกายน 2549 | | |
Last Update : 11 เมษายน 2553 1:08:28 น. |
Counter : 1420 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
Black Friday วันโลกาวินาส
Black Friday คือวันสวรรค์สำหรับนักช๊อปในอเมริกา Black Friday คือวันหลัง Thanksgiving day ปีนี้ตรงกันวันที่ 24 November เป็นวันที่สินค้าเกื่อบทุกอย่างลดแบบสุดๆ ครึ่งต่อครึ่ง และถูกที่สุดแห่งปี แม้ว่าสินค้าอื่นๆเช่นเสื้อผ้าจะลดราคา แต่อะไรจะน่าซื้อไปกว่าสินค้า electronics ล่ะ? ชาวอเมริกันจะเข้าแถวซื้อตั้งแต่คืนก่อนร้านเปิดอีก เพื่อที่จะได้เข้าไปแย่งได้ก่อนใครๆ Black Friday มาจากนิยามคำว่า black ในความหมายของฝ่ายบัญชี คือทางร้านอาจจะขาดทุน (red) มาตลอดปี แต่พอถึงวันช๊อปโลกา..นี้ บัญชีร้านก็จะแสดงผลกำไร (black) ขึ้นมาทันก่อนจบสิ้นปี เป็นวันที่คนเริ่มช๊อปซื้อของสำหรับ Christmas ด้วย
ปีนี้เราก็บ้าไปกะเค้าด้วย เรื่องของเรื่องคือ notebook Dell แสนรักเกิดมีอาการไม่รักดีขึ้นมาตะหงิดๆ ก็เลยตั้งใจว่าจะไปหา notebook ตัวไหม่ซะหน่อย
Bestbuy คือร้านขายอุปกรณ์ไฟฟ้าและเครื่องไฟฟ้ารวมถึงเครื่อง computer ต่างๆ เราเล็งไว้แล้วว่าจะตื่นแต่ตีสามมาเข้าคิวก่อนเวลาเปิดทำการเฉพาะกิจคือตีห้า
ที่ไหนได้หัวค่ำหลังไปเลี้ยง Thanksgiving เสร็จขับรถผ่าน Bestbuy ก็เห็นมนุษย์นักช๊อปไปเข้าคิวกันเป็นสิบแล้ว โอว้แม่เจ้า!! นี่มันเพิ่งจะทุ่มนึงเองนี่น่า?????
และแล้ววิญญาณนักช๊อปผีบ้าก็เข้าสิง วิ่งไปบ้านเพื่อนซี้ที่อยู่ไม่ไกล ขอยืมเก้าอี้พับและอาหารเครื่องดื่มวิ่งไปต่อคิวตอนสองทุ่ม!!!! ไอ้เจ้า notebook ตัวที่เล็งไว้มีอยู่สามตัวคือ Toshiba ($250), HP ($379), และ Sony แพงที่สุด ($599) แต่จอก็ดีมาก เป็นแบบ XBRITE-ECO รุ่นพิเศษ เห็นแล้วยั่วกิเลสจริงจริ้งงง
ท่วมกลางอากาศหนาวเหน็บ นักช๊อปสติเสียทั้งหลาย (ตามที่แฟนของอีตาฝรั่งข้างๆเค้าเรียก crazy shoppers) ก็เข้าจูงลูกหอบหลาน หอบผ้านวม เก้าอี้ เกมกด ipod มาเข้าคิวกันเป็นระเบียบ แต่ละคนก็แต่งตัวกันหลายชั้น เพราะความหนาวของอากาศปลายปี
ฝรั่งผู้ชายข้างหน้าที่มาถึงก่อนเราเป็นผู้ชายอายุเรียนมหาลัย ชื่อ Jonathan เรียกสั้นๆว่า John น่าจะสักยี่สิบต้นๆ ชวนคุย เขาก็บอกกว่าจะเอา notebook เหมือนกัน ฝรั่งข้างซ้ายเป็นคู่สามีภรรยา เป็นน้าของอีตาคนข้างหน้ามีมาช้ากว่าเราไปหนึ่งก้าว หุหุ สามคนก็ตะโกนคุยกันข้ามหัวเรา ดีจริง
ตามทำเนียมเข้าแถว Black Friday นี่ไม่มีใครยอมให้คนอื่นจองที่ให้เพื่อนหรือญาติเลย เพราะของมีจำกัด เช่น notebook ที่อยากได้มีจำนวนแค่ 20 ชิ้น คน 20 คนแรกเท่านั้นถึงจะได้ คู่สามีภรรยามารยาดีจึงยอมต่อแถวหลังเราแต่โดยดีทั้งๆที่หลานชายเค้ามาถึงก่อนและอยู่ข้างหน้าเรา
เก้าชั่วโมงที่แสนยาวนาน ระหว่างสองทุ่มที่มายืนรอ จนถึงตีห้าเวลาร้านเปิด บอกได้คำเดียวว่าทรมานสุดๆ กินน้ำมากก็ไม่ได้ เพราะกลัวต้องเข้าห้องน้ำ ได้ไปเข้าหนนึง ฝากนาย John จองที่ไว้ (เนื่องจากคนรอบข้างเริ่มคุ้นๆหน้าแล้วหลังนั่งมองกันมาหลายชั่วโมง แอบแว๊ปไปห้องน้ำแล้วกลับมาก็ไม่มีใครด่าทอว่าแซงคิว) พอลุกขึ้นจากเก้าอี้พับ ขาเราแทบพับด้วยเลย เพราะมันหนาวจนขาหมดความรู้สึกไปแล้ว นิ้วเท้าที่ไม่ต้องไปคิดถึง ชาไปนานแล้วด้วย ขนาดใส่ถุงเท้าและรองเท้า combat แบบอย่างหนาแล้วนะเนี้ย
ถึงตอนตีสี่ ตำรวจมากันเต็มเป็นสิบๆคน แล้วจอดรถต่อกันเป็นห้าหกคันปิดหน้าร้านถัดจากแถวพวกเรา เพื่อกันคนแซงคิว รายการแซงคิวนี่ใครว่าเป็นแต่คนไทย ฝรั่งหน้าด้านมีเยอะมาก แล้วไหนจะพวกแมคซิกัน พี่มืด ที่โผล่กันมาตอนตีสี่ แต่ทำมั่วมาจ่อหน้าร้านแบบไม่เกรงใจพวกที่มาเข้าคิวตั้งแต่เมื่อคืนแบบพวกเราเลย
ตำรวจทำงานเข็มงวดมาก เรียกว่าไม่ยอมให้ใครมาแซงแถวเลย มีคนหนึ่งมั่วนิ่มเดินลุยมาจากหางแถวไปหาเพื่อนที่หัวแถว พวกในแถวทั้งหลายรวมพลังกันด่าก่น จนตำรวจต้องมาลากมันออกไปจนได้ พี่มืดอีกคนที่ทำท่าจะมาแซงหัวแถวก็โดนไล่ไปตามระเบียบ แบบว่าประทับใจตำรวจจริงๆ สงสัยก็แต่ ขโมยขโจรในท้องที่คงปล้นกันสบายเลย เพราะพี่ตำรวจเป็นสิบๆ มาคุมแถวคิวอยู่หน้า Bestbuy นี่เอง
ถึงเวลาตีสี่ พนักงาน Bestbuy ออกมาเดินถามพวกเราเริ่มตั้งแต่หัวคิวว่าจะเอาอะไร? ของชิ้นใหญ่ที่มีจำนวนจำกัดต้องมีคูปอง ถึงจะซื้อได้ ส่วนใหญ่ก็พวก plasma TV notebook desktop camera camcorder ต่างๆ คูปองที่เค้าก็แจกพวกหัวแถวลงมา เรียนว่าพวกเราที่มากันตั้งแต่สองทุ่มของเมื่อคืนก็ได้ของกันทั่วหน้า ไม่เสียแรงจริงๆ พวกอยู่ท้ายแถวที่ยาวเป็นไมล์ ก็คงไม่ได้อะไร
น่าเสียดายที่ notebook ของ HP หมดตรงนาย John เป็นเครื่องสุดท้ายพอดี เราเลยเหลือ Toshiba ($250) หรือ Sony ($599) และแล้วเราก็เลือก Sony Vaio N11GW เพราะเจ้า Toshiba ราคาเงินไทยหนึ่งหมื่นบาทนี่ถูกเหลือเชื่อ ถูกจนกลัวมันจะเจ๊งภายในไม่กี่วันน่ะสิ
และแล้วหลังจากฝ่าฟันฝูงหมาป่าเข้าไปในร้าน เราก็ได้ Sony ออกมา ราคา $599 ประมาณสองหมื่นบาทไทย นี่ถูกมากจากราคาเต็ม $1000 จากเวป Sony หรือ $900 จากราคาปรกติของ Bestbuy ได้ portable DVD ที่เพื่อนฝากซื้ออีกเครื่องราคา $69 เห็นของอื่นๆลดอีกเยอะมาก Motorola bluetooth headset แค่ $14 เอง!!!! แต่ตอนนี้หมดงบ หมดตรูด เอาไว้ปีหน้าแล้วกันเนอะ
เอารูปมาโชว์ ยังเห่ออยู่เลยเนี้ย ตอนนี้เจ้าของบร๊อคทำท่าจะเป็นไข้ เฮ้อ คุ้มหรือเปล่าเนื้ย???? ตอบได้ว่าคุ้มจริงๆ ปีหน้าเอาใหม่ แต่จะเอาถุงนอนไปด้วย สู้ตาย (โว๊ยยยย)
Create Date : 25 พฤศจิกายน 2549 | | |
Last Update : 11 เมษายน 2553 1:08:56 น. |
Counter : 570 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
| |
|
|