หลังจากที่บอกลาเมืองเก่า Gamla Stan แล้ว ก็นั่งรถไฟใต้ดินไปต่อรถเมล์เหมือนเมื่อวันวานเพื่อไปเยือน Nordiska Museum ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ใหญ่ของสวีเดน รวบรวมทั้งศิลปะ วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์
พอเปิดประตูเข้าไปในอาคาร โชว์บัตร Stockholm Card ให้ดูก็เข้าชมได้ฟรี และเพื่อให้ชมได้ดีและเข้าใจยิ่งขึ้น อย่าลืมเรียกหา Audio Guide ด้วยนะคะ ไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่มแต่อย่างใด บริเวณโถงภายในของพิพิธภัณฑ์
อีกมุมมอง
รูปปั้นกษัตริย์สวีเดน King Gustav Vasa บริเวณโถงทางเข้า
ขึ้นลิฟท์ไปที่ชั้น 4 ก่อนเลย
วัฒนธรรมการแต่งกาย
นาฬิกาไม้ - ยังจำได้ไหม? สัญลักษณ์กลม-เหลี่ยมสื่อถึงความเป็นหญิงและชาย
เก้าอี้ไม้ ดีไซน์น่ารัก
เฟอร์นิเจอร์สมัยใหม่
รองเท้าของชนเผ่าพื้นเมือง "ซามิ" Sápmi ที่มี 4 เชื้อชาติในคนเดียว
ชอบรองเท้าคู่นี้จัง
Table Setting อยู่ชั้น 3
การจัดแสดงโต๊ะอาหารทำให้เห็นถึงวัฒนธรรมในยุคต่างๆ
ชมเพลินเลยนะคะสำหรับคนนิยมชอบพิพิธภัณฑ์ ฉันใช้เวลานานเกือบสองชั่วโมง เดินแล้วก็เมื่อยอยู่เหมือนกัน ด้านล่างชั้น 2 หรือ Main Hall (ขวามือของทางเข้า) มีร้านอาหารและเครื่องดื่มให้บริการอยู่ บรรยากาศน่านั่งนานๆ เลยแหละ ส่วนตรงข้ามร้านจะเป็น Children's Playhouse คิดค่าบริการสำหรับเด็กอายุ 5-12 ปีที่มากับผู้ใหญ่ในราคา 20SEK ถ้ามีเด็กไปด้วยก็น่าใช้บริการเหมือนกันนะ จาก Nordiska Museum ก็นึกว่าจะลองไปดูเจ้าตึกทรงกลมที่ใหญ่โตเอามากๆ ตึกที่ว่านี่คือ Stockholm Globe Arenas ฉันเดินจาก Nordiska Museum ไปขึ้นรถไฟใต้ดินสายสีแดง T13 ที่สถานี Karlaplan แล้วไปเปลี่ยนเป็นสายสีเขียว T19 ที่สถานี Stockholm C นั่งไปลงที่สถานี Globen ซึ่งเป็นสถานีที่คนลงเยอะมากๆ นึกในใจว่าเขาคงแห่ไปดูเจ้าตึกที่ว่านี่เหมือนกันกระมัง
พอออกจากสถานีรถไฟใต้ดิน ก็เดินตามฝูงชนไปเรื่อยๆ นะคะ เจอตึกคู่แฝดอยู่ตรงหน้า มีตัวอักษรเขียนไว้ว่า Globen City Globen City
ด้วยความที่ฉันเข้าใจว่าคนอื่นๆ ที่ลงจากสถานีมาเที่ยวชมเจ้าตึกนี่เหมือนกัน ก็เลยเดินตามคลื่นมหาชนไปเรื่อยๆ มารู้สึกตัวว่าเข้าใจผิดแล้วน้องเอ๋ย ก็เห็นทางข้างหน้าเป็นประตูทางเข้าสนามกีฬา หุหุ....คนกำลังต่อคิวรอซื้อตั๋วเข้าสนามอยู่เต็มไปหมด ...อ้อ! วันนี้ เป็นวันอาทิตย์นี่เอง คนแห่มาดูกีฬากันเยอะ มิน่าล่ะ เหลียวไปทางไหนก็เห็นแต่หนุ่มสวีดิชมากกว่าสาวๆ นึกขำตัวเองอยู่เหมือนกันว่า ..เออ! เราเนี่ย เดินตามมาอย่างมั่นใจมากเลยนะ เดินย้อนศรกลับไปทางที่เดินมาใหม่ แล้วก็มองหาทางเข้าหรือที่จำหน่ายบัตรขึ้นไปดูวิวบนตึกกลมนี่ ...เจอแล้วค่ะ เห็นป้าย Skyview ตัวโตๆ อยู่นี่เอง เข้าไปติดต่อซื้อบัตรขึ้นชมวิว ปรากฏว่าต้องรอนานถึงสองชั่วโมง เสียดายที่ไม่ได้ซื้อตั๋วล่วงหน้าจากอินเตอร์เน็ต ...ก็เลยตัดสินใจไม่รอ แต่ออกไปนั่งมองเจ้าตึกนี่อยู่ด้านนอกสักพักใหญ่ หนาวเจียนตายเลย ..ไม่รู้จะทนนั่งอยู่ทำไมเหมือนกันค่ะ
Skyview : Stockholm Globe Arenas (Ericsson Globe)
Stockholm Globe Arenas เปิดตั้งแต่ปี ค.ศ. 1989 มีความสูงประมาณ 85 เมตร (279 ฟุต) เส้นผ่าศูนย์กลาง 110 เมตร (361 ฟุต) หรือคิดเป็นความจุราว 600,000 ลบ.ม. ปัจจุบันถือเป็นตึกครึ่งวงกลมที่ใหญ่ที่สุดในโลก (The largest hemispherical building)โดยใช้เป็นสถานที่จัดการแข่งขันกีฬาและจัดงานต่างๆ เช่น คอนเสิร์ต ซึ่งสามารถจุผู้ชมได้ถึง 16,000 ที่นั่ง หรือ 14,119 ที่นั่งสำหรับการแข่งขัน Ice Hockey และเพิ่งมีการเปลี่ยนชื่อเป็น Ericsson Globe เมื่อต้นปีที่แล้วนี่เอง ความน่าสนใจของเจ้าตึกนี้ก็คือ เขาตั้งใจจะทำให้ที่นี่เป็นแลนด์มาร์คสำหรับการท่องเที่ยวโดยเฉพาะ ก็เลยมีการสร้างลิฟท์ใสให้ขึ้นไปชมวิวโดยรอบจากฝั่งหนึ่งไปยังอีกฝั่งหนึ่งได้ เพิ่งจะเปิดบริการในส่วนของ Skyview ในเดือนกุมภาพันธ์ 2010 นี่เอง
จาก Globe Arenas แห่งนี้ก็หลบเข้าเมืองต่อ ไปเดินดูจตุรัสร่วมสมัย Sergels Torg หรือจะเรียกว่าเป็นแหล่งชอปปิ้งก็คงไม่ผิดนัก เพราะเป็นย่านที่รวมร้านค้าสินค้าแบรนด์เนม แฟชั่นต่างๆ ไว้อย่างมากมาย รวมทั้งเป็นแหล่งนัดพบ ผู้คนพลุกพล่าน อากาศหนาวๆ อย่างนี้ จะเห็นผู้คนทั้งวัยรุ่นและวัยโรยนั่งอยู่ตามบันได ตามทางเดิน คุยกันจุ๊กจิ๊ก บ้างก็นั่งตากแดดที่แรงเอาเรื่องทั้งที่มีลมหนาวพัดโบกโบย ...เที่ยวคนเดียวอย่างฉันก็ได้แต่เดินมองดูอิริยาบถและวิถีชีวิตของผู้คน ณ ที่แห่งนี้เท่านั้น Sergels Torg
H&M สตรีทแบรนด์ของสวีเดน
Stockholm Concert Hall
ไม่ค่อยน่าดูนักนะคะ สำหรับ Stockholm Concert Hall สถานที่มอบรางวัลโนเบล น่าจะเป็นเพราะวันนี้เป็นวันอาทิตย์ ด้านนอกก็เลยมีการตั้งเต๊นท์ขายของสารพัดอย่าง ตอนที่ฉันไปถึงพ่อค้าแม่ค้าทยอยเก็บแผงกันเกือบหมดแล้วล่ะค่ะ ยอดตึกสวยๆ ใกล้สถานีรถไฟ Stockholm C
ทริปสแกนดิเนเวียในปีนี้ ดูจะไม่มีโปรแกรมที่แน่นอน อย่างที่บอกไว้ว่างานเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ไม่ค่อยมีเวลาในการหาข้อมูลนัก แต่เหมือนกับได้ตั้งนาฬิกาปลุกให้กับตัวเองไว้ว่า "ถึงเวลาต้องไปแล้วนะ" หยุดพัก หยุดคิดเรื่องงานบ้าง ...โปรแกรมเที่ยวในสถานที่ต่างๆ จึงเป็นไปในแบบที่ไม่ตั้งเป้ามากนัก โปรแกรมหลวมมาก จะว่าไม่ดีก็ไม่ดี เพราะจะเที่ยวที่ต่างๆ ด้วยข้อมูลจำกัด แต่ก็มีข้อดีเหมือนกันคือ สบาย และสบายอย่างมาก เดินดูโน่นดูนี่ เข้าถนนโน้น ออกถนนนี้ แบบไม่มีจุดหมาย พอรู้สึกตัวว่าไถลออกนอกเส้นทางมาก ก็ค่อยหยิบแผนที่มาดูอย่างจริงจังสักครั้งหนึ่ง ประสบการณ์จากการเที่ยวยุโรปในสองปีที่ผ่านมา ทำให้รู้ว่าถึงจะหลงอย่างไร ไกลแค่ไหน เดี๋ยวก็จะหาทางกลับที่พักได้เองแหละ เพราะระบบขนส่งมวลชนของประเทศยุโรปมีอย่างทั่วถึงและมีความปลอดภัยสูงมาก
ฉันเดินเล่นอีกไม่นานก็กลับไปใช้บริการซุปเปอร์มาร์เก็ตใต้สถานีรถไฟใต้ดินใกล้ที่พัก ได้น่องไก่ย่างแพ็คสำเร็จรูป 2 น่อง สลัดผักอีกหนึ่งถุง ช็อคโกแลตโยเกิร์ตอีกถ้วยนึง แถมด้วยแอ๊ปเปิ้ลหนึ่งลูก แล้วก็กลับมานั่งดินเนอร์ร่วมกับคนอื่นที่ห้องครัวของโฮสเทล ได้อิ่มท้องแบบง่ายๆ ในราคาสบายกระเป๋า 79SEK มื้อเย็นง่ายๆ สบายท้อง
ค่ำวันนี้ "แอ๊บ" ที่เคยเป็นลูกน้องเก่าสมัยฉันทำงานอยู่ศุลกากร และโชคดีจับพลัดจับผลูได้แต่งงานกับหนุ่มสวีดิชแล้วย้ายมาอยู่สวีเดนจนมีลูกสองคน โทรศัพท์มาหาและขอคำยืนยันกับฉันว่า จะนั่งรถไฟไป Malmö ในเวลาไหนแน่ เพราะเธอจะพาลูกๆ ไปดักรอที่สถานีรถไฟเพื่อทักทาย และยังบอกอีกว่าได้เตรียมผัดข้าวไว้ให้ฉันสำหรับกินกลางวันบนรถไฟด้วย ...อึ้งและรู้สึกซาบซึ้งในน้ำใจของแอ๊บอย่างมากเลยนะคะ... ฉันบอกเวลาและชื่อสถานีที่รถไฟจะจอดตามที่ได้ซื้อตั๋วล่วงหน้าไว้แล้วให้แอ๊บรู้ เดี๋ยวพรุ่งนี้เราคงจะได้เจอกันค่ะ อาจจะแค่เห็นกันแว่บเดียวเท่านั้น หลังจากวางโทรศัพท์ ฉันก็รีบจัดการแพ็คกระเป๋าเตรียมเช็คเอ๊าท์ออกในเช้าวันพรุ่งนี้ หวังว่าคืนนี้จะได้หลับสบายอีกคืนค่ะ |
อยากเห็นคนไทยหันมาเที่ยวพิพิธภัณฑ์กันบ้างจังค่ะ