Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2551
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
11 ธันวาคม 2551
 
All Blogs
 
หนังสือนาฬิกาชีวิตตอน๒ มะรุม ต้นไม้เพื่อชีวิต โดย ดร.วิไลวรรณ อนุสารสุนทร



Link : ไปยังข้อมูลต่างๆ จากหนังสือ นาฬิกาชีวิตตอน ๒
มะรุม ต้นไม้เพื่อชีวิต
เขียนโดย ดร.วิไลวรรณ อนุสารสุนทร




คำนำ / บทสำนึกคุณ จากผู้เขียนหนังสือ

ข้อมูลคร่าวๆ จากแหล่งอ้างอิง

ประสบการณ์ตรงจากชีวิตจริง

มะรุมรักษาโรคเอดส์ (AIDS)

ตำราอาหารเกี่ยวกับมะรุมและธรรมชาติบำบัด










ผลจากการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ได้พิสูจน์คุณค่าทางโภชนาการของใบมะรุมดังนี้ :
เปรียบเทียบคุณค่าสารอาหารในใบมะรุมจากน้ำหนักเท่าๆ กัน กรัมต่อกรัม
ใบมะรุม
มีไวตามินซี มากกว่าส้ม 7 เท่า
มีแคลเซียม มากกว่านม 4 เท่า
มีไวตามินเอ มากกว่าแครอท 4 เท่า
มีโปแตสเซียม มากกว่ากล้วย 3 เท่า
มีโปรตีน มากกว่านม 2 เท่า

มะรุมเป็นไม้กลางบ้านของไทยที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายมาเป็นเวลานาน นอกจากรสชาติที่อร่อยแล้ว ชาวอินเดียยังได้ทำการทดลองและเชื่อว่ามีคุณสมบัติในการป้องกันโรคภัยต่างๆ ได้ถึง 300 ฃนิด

องค์การสหประชาชฃาติได้ให้การสนับสนุนในการค้นคว้าและวิจัยอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะในการรักษาโรคขาดอาหารและอาการตาบอดซึ่งเกิดขึ้น ในเด็กแรกเกิดจนถึงวียเจริญเติบโตในประเทศด้อยพัฒนา เช่นกลุมประเทศในแอฟริกาตอนใต้และประเทศอินเดีย

กลุ่มองค์การการกุศลหลายแห่งได้หันมาให้ความสนใจอย่างจริงจังกับพันธุ์ไม้ชนิดนี้ รวมทั้งในประเทศไทย กลุ่มนักศึกษาแพทย์ จำนวน 25 ท่านจากุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ทำการทดลองวิจัย โดยนำมารักษาผู้ป่วยโรคงูสวัด แม้แต่กลุ่มประเทศอื่นๆ เช่น อังกฤา เยอรมัน รัสเซีย ญี่ปุ่น จีน ก็หันมาให้ความสนใจ และทำการค้นคว้าอย่างเร่งด่วน เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยเป็นโรคมะเร็ง เบาหวาน โรคเอดส์ และอื่นๆ อีกมากมาย

ข้อมูลคร่าวๆ จากแหล่งอ้างอิง
ข้อมูลต่อไปนี้ ได้มาจากวารสารการค้นคว้าและวิจัยของแพทย์หลายแขนงที่ประสบผลสำเร็จ และจากประสบการณ์จริงในการใช้ส่วนต่างๆ ของต้นมะรุมในการบำรุงรักษาสุขภาพ ทุกๆ ท่านที่เอ่ยถึงยังมีชีวิตอยู่ บางท่านขอสงวนนาม บางท่านก็อนุญาตให้เปิดเผยนามได้

ประโยชน์ทั้งหลายที่พอจะรวบรวมได้ มีดังต่อไปนี้
I.ใช้รักษาโรคขาดอาหารในเด็กแรกเกิดถึง 10 ขวบ ลดสถิติการเสียชีวิต พิการ และตาบอดจากการขาดสารอาหารได้เป็นอย่างดี ในกรณีเด็กแรกเกิด การให้สารมะรุม ทำได้ดีที่สุดโดยผ่านทางน้ำนมมารดา เมื่อทารกดื่มนมมารดาที่รับประทานใบมะรุมอย่างสม่ำเสมอ สารอาหารสำคัญๆ จะผ่านสู่ทารกโดยง่าย อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มภูมิต้านทานและเพิ่มแคลเซียมเข้าไปเสริมกระดูกให้มารดาเป็นอย่างดี ผลที่ได้ 100% มีตัวอย่างจากวารสารลอสแอนเจลิสไทม์ ฉบับลงวันที่ 20 มีนาคม ค.ศ. 2000 เป็นบทความชื่อ "มะรุม ต้นไม้มหัศจรรย์" โดย มาริค พิส บรรยายถึงเด็กชายชาวเอธิโอเปียอายุ 5 เดือน ซึ่งแพทย์หมดหวังที่จะให้การรักษา เพราะขาดสารอาหารอย่างรุนแรง ต่อมาเมื่อมารดาได้รับการแนะนำ โดยนายแพทย์ซึ่งเป็นหมอสอนศาสนาจากกลุ่มองค์กรการกุศล "ต้นไม้เพื่อชีวิต" ให้รู้จักการใช้ใบมะรุมแห้งบดละเอียดนำมาทำอาหาร ขณะนี้เด็กชายผู้นั้นมีอายุ 6 ขวบ สุขภาพสมบูรณ์และแข็งแรง พ้นภาวะตามืดบอดได้อย่างหวุดหวิด

II. ช่วยผู้ป่วยโรคเบาหวานให้อยู่ในภาวะควบคุมได้ สามารถลดการใช้ยาลงโดยความเห็นชอบและการดูแลอย่างใกล้ชิดจากแพทย์ผู้ทำการรักษา จากการตรวจวัดด้วยลูกดิ่ง ท่านอาจารย์สุทธิวัสส์ คำภา ได้บรรยาย ณ วัดป่าธรรมชาติว่า ถ้ารับประทานใบมะรุมอย่างสม่ำเสมอย่อมมีโอกาสที่จะหายจากโรคเบาหวานได้ คณะแพทย์และนักวิจัยทั่วโลกกำลังให้ความสนใจเป็นอย่างสูง โดยหาดูรายละเอียดได้จากเว็ปไซต์ทั่วๆ ไป

III. ใช้ควบคุมความดันโลหิตสูง ให้อยู่ในภาวะควบคุมได้ แต่ทั้งนี้จะต้องช่วยตัวเองด้วยการควบคุมอาหาร การบริหารร่างกายง่ายๆ เช่น การเดิน การรำไท้ซี่ เป็นต้น มิฉะนั้นแล้ว การบำบัดด้านนี้จะไม่ได้ผลเท่าที่ควร

IV. ช่วยเพิ่มและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย ถ้ารับประทานผลิตผลจากมะรุมในระหว่างตั้งครรภ์ นอกจากจะทำให้มารดามีสุขภาพสมบูรณ์และแข็งแรงแล้ว ทารกที่เกิดมาก็จะมีสุขภาพสมบูรณ์และโอกาสที่ทารกจะติดเชื้อ HIV ย่อมลดน้อยลงด้วย มะรุมจะช่วยเพิ่มแคลเซียมให้แก่มารดาในระยะตั้งครรภ์ได้เป็นอย่างดี คนทั่วๆ ไป สามารถสร้างภูมิคุ้มกันให้ตัวเองได้ถ้ารับประทานใบมะรุมอย่างน้อยอาทิตย์ละ 3 ครั้ง

V. ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานที่ต่ำลงของผู้ป่วยโรคเอดส์ให้อยู่ในภาวะควบคุมได้ และสามารถมีชีวิตอยู่อย่างคนปกติทั่วไปในสังคม การรักษาโรคเอดส์ประสบผลสำเร็จอย่างกว้างขวางจากประเทศในกลุ่มทวีปแอฟริกา และได้รับความสำเร็จเป็นครั้งแรกในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2005 จากการค้นคว้าและทดลองของงัดแอฟริกาอินแลนด์ ประเทศทานซาเนีย โดยนายแพทย์เฟลิซิ และพยาบาลชาวเยอรมันชื่อไมค์กี้ เอตลิ่ง สำหรับท่านที่สนใจต้องการจะนำไปทดลองใช้ วิธีการรักษาจะอยู่ในบทความตอนท้ายของหนังสือเล่มนี้โดยละเอียด

VI. ถ้ารับประทานสม่ำเสมอจะช่วยป้องกันโรคมะเร็ง และถ้าหากเป็นอยู่ก็จะช่วยให้การรักษาพยาบาลง่ายขึ้น ในบางกรณีสามารถหยุดการเจริญเติบโตของโรคร้ายได้ ถ้าใช้ควบคู่กับยาแพทย์แผนปัจจุบัน หากผู้ป่วยด้วยโรคมะเร็ง ได้รับการรักษาด้วยรังสี การดื่มน้ำมะรุมจะช่วยลดการแพ้รังสี ช่วยให้ผู้ป่วยฟื้นตัวเร็วขึ้น และมีร่างการแข็งแรง ขณะนี้สถาบันค้นคว้าโรคมะเร็งของมหาวิทยาลัยการแพทย์จอนฮอพกินส์ ตลอดจนหน่วยงานการวิจัยหลายสถาบัน กำลังเร่งทำการค้นคว้าด้านนี้อย่างจริงจัง ท่านสามารถดูรายละเอียดได้จากเว็บไซต์ //www.PUBMED.GOV โดยพิมพ์คำว่า MORINGA ท่านจะได้ข้อมูลการวิจัยอย่างมากมาย

VII. ช่วยบรรเทาอาการปวดบวมของโรคเก๊าท์ โรคไขข้อและกระดูดอักเสบ โรคมะเร็งในกระดูก โรครูมาติซั่ม มีรายละเอียดบางส่วนจากการค้นคว้าด้านนี้ ในบันทึกของ Dr.Lovwell J. Fuglie และในเว็บไซต์ของหมอชาวบ้าน สำหรับกรณีของโรคเก๊าท์ และโรคไขข้ออักเสบ ผู้เขียนและเพื่อนๆ ชาวต่างชาติมีประสบการณ์โดยตรง ส่วนโรคมะเร็งในกระดูกนั้น มารดาอายุ 65 ปี ของเพื่อนร่วมงานชาวพม่า เมื่อเริ่มทานใบมะรุมได้ 1 ปี ก็พบว่ามีอาการดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด สุขภาพอยู่ในขั้นดี ไม่มีอาการทรุดโทรมเช่น ผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งรายอื่นๆ

VIII. ช่วยรักษาโรคตาเกือบทุกชนิด เช่น โรคตามืดตามัวเพราะขาดสารอาหารที่จำเป็น โรคตาต้อ เป็นต้น ถ้ารับประทานสม่ำเสมอจะทำให้สายตาดีขึ้น บุตรชายของผู้เขียนรับประทานใบมะรุมนานประมาณ 1 ปีครึ่ง ก็ปรากฎว่า อาการสายตาสั้นที่เป็นอยู่ดีขึ้นกว่าเดิมจนสังเกตได้ ตัวผู้เขียนเองเป็นโรคตา "กลูโคม่า" อย่างรุนแรง มีอาการน่าวิตก หลังรับประทานมะรุมอย่างต่อเนื่อง ปีนี้เป็นปีที่ 4 ผลปรากฎว่าดีขึ้นอย่างมาก จนแพทย์ผู้ทำการรักษาประหลาดใจ และงุนงงเมื่อทราบว่าเป็นผลมาจากการทานใบมะรุมที่ท่านปฎิเสธที่จะให้การสนับสนุนนั่นเอง

IX. รักษาโรคลำไส้อักเสบ โรคเกี่ยวกับท้อง โรคพยาธิในลำไส้ เป็นต้น ในปี 2003 ผู้เขียนป่วยหนักด้วยโรคลำไส้อักเสบอย่างรุนแรง แพทย์ลงความเห็นว่า ควรตัดส่วนที่เป็นปัญหาทิ้งเพื่อกันการลุกลามจนอาจถึงขั้นเป็นมะเร็ง แต่เนื่องจากสุขภาพในขณะนั้นไม่อำนวยให้ทำการผ่าตัด ประกอบกับลำไส้ยังอักเสบอยู่ หลังจากออกจากโรงพยาบาล แพทย์ให้รับประทานยาปฎิชีวนะจนหมด และนัดให้กลับไปตรวจใหม่ แต่ด้วยความกลัวประกอบกับมารดาผู้เขียนเสียชีวิตด้วยโรคเดียวกัน หลังผ่าตัดเพียง 4 วัน ผู้เขียนจึงตัดสินใจไม่กลับไปหาหมออีก ระหว่างนั้นก็รับประทานใบมะรุมทั้งสดและแห้งรวมทั้งใบบัวบกด้วย อาการเจ็บปวดอย่างรุนแรงก็หายไป หนึ่งปีต่อมาทางโรงพยาบาลยื่นคำขาดว่า ถ้าไม่กลับไปตรวจลำไส้อีก และถ้ามีอาการอักเสบซ้ำซ้อน ทางบริษัทประกันสุขภาพจะไม่รับผิดขอบค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ผู้เขียนจึงตัดสินใจเข้ารับการตรวจผลปรากฎว่าโรคลำไส้หายเป็นปกติ ไม่มีอาการแทรกซ้อนใดๆ ทั้งสิ้น

X. รักษาปอดให้แข็งแรงและช่วยรักษาโรคปอดอักเสบ จากการค้นคว้าของแพทย์หลายๆ ท่าน และจากประสบการณ์โดยตรงของผู้เขียนที่เคยเป็นโรคปอดมาก่อน เมื่อรับประทานใบมะรุมอย่างสม่ำเสมอ รู้สึกได้ว่าสุขภาพปอดดีขึ้น

XI. รักษาโรคทางเดินหายใจอักเสบ โรคโพรงจมูกอักเสบ หอบหืด และโรคภูมิแพ้ ทุกคนในครอบครัวผู้เขียนได้รับผลน่าพอใจอย่างยิ่งจากการใช้มะรุมผง โดยเฉพาะโรคภูมิแพ้ อาการภูมิแพ้ของผู้เขายนลดลงจนเกือบจะหายดี หอบหืดหายไป หายใจสะดวกขึ้นจนคนใกล้ชิดสังเกตเห็นได้ในระยะแรกๆ ของการรับประทานใบมะรุม ผู้เขียนมีอาการไอมากพอสมควร แต่เพื่อนชาวจีนได้ให้ข้อสังเกตว่า นี่คืออาการขับพิษของมะรุม เมื่อขับพิษหมด อาการไอจะหายไปเอง ในขณะเดียวกันชาวต่างชาติผู้ขายผงมะรุม ได้นำเม็ดมะรุมมาให้ทดลองรับประทานดู ปรากฎว่าอาการไอหายไปอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันแทบจะไม่มีอาการไออีกเลย นอกจากเวลาที่อากาศเปลี่ยนแปลงมากๆ จะไอบ้างเล็กน้อยแต่ไม่รุนแรงนัก

XII. ช่วยเชื่อมต่อกระดูกที่หักได้ผลรวดเร็ว มีหลายกรณีที่เป็นหลักฐานพิสูจน์ได้ ก่อนที่ผู้เขียนจะเริ่มรับประทานมะรุม ขณะนั้นสุขภาพทรุดโทรมมากและหกล้มเป็นประจำเพราะเข่าอ่อน มีครั้งหนึ่งหกล้มนิ้วเท้าหัก แพทย์ผู้ทำการรักษาประเมินผลว่าจะหายได้ในระยะเวลา 7-8 เดือนเป็นอย่างน้อย โชคดีที่ผู้เขียนเริ่มรับประทานมะรุมแคปซูลอย่างสม่ำเสมอ ปรากฎว่าอาการดีขึ้น เริ่มใส่รองเท้าได้ภายใน 3 อาทิตย์ และสามารถเดินได้เป็นปกติในระยะเวลาแค่ 3 เดือน ผู้สูงอายุหลายท่านแห่งหมู่บ้านออนท๊อปออฟเดอ-เวิลร์ด เมืองโอคาล่า มลรัฐฟลอริดา และชาววัด ป่าธรรมชาติ เมืองลาพวนเต้ หลายท่านก็มีประสบการณ์เกี่ยวกับกระดูกหักและใช้มะรุมช่วยรักษาเช่นเดียวกัน สำหรับผู้เขียนเองนอกจากจะช่วยเรื่องกระดูกหักแล้ว ยังช่วยโรคกระดูกเสื่อมในผู้สูงวัยอีกด้วย คุณหมดโมนาได้ตกลงตรวจกระดูกให้ผู้เขียน หลักจากที่ได้ขออนุญาตท่านหยุดทานแคลเซียมเป็นเวลา 8 เดือน และกลับไปเอ็กซเรย์กระดูกใหม่ ผลปรากฎว่าความหนาแน่นของกระดูกเพิ่มขึ้น 1 % ถึงจะเป็นเป็นอัตราส่วนที่เล็กน้อย แต่คุณหมอโมนากล่าวว่าเป็นความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ของผู้เขียน และจากผลการตรวจ ท่านได้สั่งหยุดยารักษาโรคทุกชนิดเหลือแต่ยาความดัน ให้มีติดตัวไว้เสมอเพื่อความไม่ประมาท ส่วนยาหยอดตา ผู้เขียนยังคงใช้เป็นประจำ เพราะนอกเหนือหน้าที่ของคุณหมอโมนา

XIII. ช่วยรักษาโรคคอหอยพอชนิดมีพิษ มีผลในเพศหญิงเต็ม 100% ชาย 75% ใบมะรุมผงสามารถรักษาจนผู้เขียนหายขาดจากโรคคอหอยพอก ในอดีต แพทย์ที่ทำการรักษาให้ยาเกินขนาดจนร่างกายผู้เขียนรับไม่ไหว ระยะเวลาเพียง 6 เดือน น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วถึง 50 ปอนด์ ในที่สุดแทพย์ที่ทำการรักษายอมแพ้ และส่งต่อให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะโรคดูแลต่อ กว่าจะถึงมือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ผู้เขียนอาการทรุดลงมากแล้ว โรคเบาหวานเข้าแทรก โรคไขมันในเม็ดเลือด ความดันสูง โรคตับ โรคไต โรคกล้ามเนื้อหัวใจ โรคกระเพาะ พร้อมใจกันคุกคามอย่างหนัก สายตาเสื่อมลง การหายใจผิดปกติ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ คุณหมอโรเซ็นเบิร์ก ถึงกับส่ายหน้า เพราะไม่ทราบจะเริ่มรักษาส่วนใดก่อนดี ในระยะเริ่มแรกที่ทำการรักษา ผู้เขียนเกิดอาการโรคลำไส้แทรกซ้อนแทบเอาชีวิตไม่รอด ในตอนนั้นไม่มีใครคิดว่าผู้เขียนจะรอดชีวิตมาได้ ไม่ว่าจะทำอย่างไร ดูจะสุดวิสัยที่แพทย์จะเยียวยาได้ หลังจากออกจากโรงพยาบาล คุณหมอโรเซ็นเบิร์กตัดสินใจจะรักษาโรคคอหอยพอกก่อน ซึ่งขณะนั้นมีให้เลือก 2 ทาง คือ

1. การผ่าตัด กรณีผู้เขียนกลัวมาก เพราะมารดาเคยได้รับการผ่าตัดแบบเดียวกัน แต่โชคร้ายการผ่าตัดไม่ประสบผลเท่าที่ควร มีโรคแทรกซ้อนจนเกิดอาการทางประสาท และต้องนอนโรงพยาบาลนานถึง 2 ปี

2. การใช้รังสีปรมาณู เพื่อนหลายคนของผู้เขียนได้รับการรักษาประเภทนี้ และประสบปัญหายุ่งย่ากทางสุขภาพ พอดีในขณะนั้น สุขภาพของผู้เขียนไม่อำนวยให้ทั้ง 2 ทาง หมอจึงขอเวลา 3 เดือน จะเริ่มต้นหลังปีใหม่ 2004 ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่ผู้เขียนออกจากโรงพยาบาล และได้พบเพื่อนสองสามีภรรยาผู้มีใจเมตตาแนะนำให้ลองทานใบมะรุม จึงได้เริ่มทำการค้นคว้าหาข้อมูล และพบว่ามะรุมมีคุณประโยชน์มหาศาล หลังจากรับประทานใบมะรุมได้ 3 เดือน

วันที่ 4 มกราคม 2004 ผู้เขียนกลับไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายอย่างละเอียด ก่อนตัดสินใจว่าจะรักษาด้วยวิธีใด เป็นความบังเอิญที่คุณหมอโรเซนเบิร์กต้องย้ายที่ทำงาน จึงได้ส่งมอบการรักษาให้คุณหมอโมนาผู้ซึ่งในเวลาต่อมาต้องได้รับความประหลาดใจอย่างมาก เมื่อพบว่าโรคคอหอยพอกของผู้เขียนมีอาการดีขึ้นเรื่อยๆ เช่นเดียวกับโรคอื่นๆ อีกหลายโรค ผู้เขียนจึงตัดสินใจบอกคุณหมอเรื่องการใช้ใบมะรุมควบคู่ไปกับยาที่คุณหมอสั่ง แรกทีเดียวท่านไม่เชื่อ แต่ก็ลดยาหลายขนานลงตามอาการของโรค และเลื่อนการพบแพทย์ห่างออกไป

ในเวลานั้นผู้เขียนไม่แน่ใจว่า มะรุมจะสามารถรับประทานระยะวได้ จึงเกิดความกลัวว่าการรับประทานใบมะรุมมากๆ อาจจะมีผลแทรกซ้อน จึงลองหยุดรับประทาน 3 เดือน ต่อมาเมื่อกลับไปพบคุรหมอโมนาตามนัด ก็พบว่าอาการของโรคทุกชนิดที่เคยเป็นได้กลับมาอีก คุณหมอโมนาจึงสั่งให้หยุดการรับประทานมะรุม แต่ผู้เขียนไมได้เรียนว่า เพราะหยุดนี่แหละโรคต่างๆ จึงกลับมาอีก ท่านสั่งยาต่างๆ เพิ่มเติมและนัดให้กลับไปอีกภายใน 2 เดือน ผู้เขียนเริ่มกลับมารับประทานใบมะรุมอีก ด้วยความกลัวจึงเพิ่มขนาดขึ้นจากวันละ 4 แคปซูล เป็นวันะล 6 แคปซูล เมื่อถึงกำหนดนัด คุณหมอถึงกับงงเป็นไก่ตาแตก เพราะอาการทุกอย่างกลับเป็นปกติอีกครั้ง ครั้งนี้ผู้เขียนจึงสารภาพกับคุณหมอว่าผู้เขียนไม่ได้ใช้ยาที่แพทย์สั่งเลย นอกจากยาลดความดันเพียงอย่างเดียว แต่รับประทานมะรุมทุกวัน แพทย์หญิงโมนาจึงยอมตกลงว่าจะให้เวลา 2 เดือน ถ้าอาการกลับทรุดลงไปอย่างเดิม จะไม่มีการต่อรองใดๆ อีกทั้งสิ้น

2 เดือนต่อมา ผลที่ออกมาก็ยังคงเหมือนเดิม ผู้เขียนจึงต่อรองขอเวลาอีก 1 ปี โดยจะมารับการตรวจทุกๆ 3 เดือน คุณหมอก็ตกลงตามนั้น

ในการตรวจร่างกายครบ 1 ปี พบว่า นอกจากรักษาโรคแล้ว มะรุมยังรักษา กระดูกด้วย ผู้เขียนจึงขอต่อรองกับคุณหมออีกครั้ง โดยขอหยุดทานแคลเซี่ยมเป็นเวลา 1 ปี ครั้งนี้คุณหมอลังเลใจและบอกว่าเสี่ยงมากเกินไป สำหรับกระดูก จึงตัดสินใจให้เวลาเพียง 8 เดือน โดยเอ็กซ์เรย์ดูความหนาแน่นของกระดูกไว้ก่อนว่า สภาพกระดูกของผู้เขียนเสื่อมโทรมเพียงใด ท่านยังกำชับอีกว่า ถ้าเกิดอาการเจ็บปวดหรือผิดปกติเมื่อใดให้รีบติดต่อท่านทันที

ครั้งนี้ ผู้เขียนเพิ่มจำนวนแคปซูลจากวัน 6 เป็น 8 เมื่อครบกำหนดตามนัด คุณหมอโมนาเดินเข้ามาในห้องตรวจ พร้อมด้วยผลเอ็กซ์เรย์ครั้งที่ 2 ด้วยใยหน้าที่ยิ้มละไมและโค้งให้ผู้เขียนพร้อมกับกล่าวว่า "ขอเรียกว่า "คุณมะรุม" ได้ไหม?" เราประสบผลสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ร่วมกัน ถึงแม้ว่าเปอร์เซ็นต์ในการเพิ่มความหนาแน่นของกระดูกจะเพียงน้อยนิด แต่ก็ถือเป็นข้อพิสูจน์ได้ว่าเราประสบผลสำเร็จในการทดลองครั้งนี้ท่านได้มอบผลการตรวจให้ผู้เขียนไว้เป็นหลักฐาน ท่านใดต้องการข้อพิสูจน์ ผู้เขียนยินดีที่จะมอบสำเนาให้ดู น่าเสียดายที่กฎหมายอเมริกันไม่อำนวยให้คุณหมอนำมะรุมมาใช้รักษาคนไข้อื่นๆได้ ผู้เขียนจึงได้แต่หวังว่า ประสบการณ์ส่วนตัวอาจจะช่วยเพื่อนร่วมชาติที่อยู่ในถิ่นทุรกันดารที่แพทย์สมัยใหม่ไปไม่ถึง หรือฐานะการเงินไม่อำนวย ให้พบแพทย์ได้ หรืออาจจะนำความรู้และประโยชน์ของมะรุมมาใช้กับครอบครัวและคนรอบข้าง

งานวิจัยด้านโรคมะเร็ง เบาหวาน ความดัน โรคคอหอยพอก โรคตับ และโรคตา ท่านสามารถค้นดูได้จาก //www.PUBMED.GOV และอีกหลายเว็ปไซต์เกี่ยวกับมะรุม นอกจากนี้หนังสือพิมพ์รายวันในเมืองต่างๆ ของสหรัฐอเมริกาใต้ ลงบทความเกี่ยวกับความมหัศจรรย์ของมะรุมหลายต่อหลายครั้ง เนื่องจากขณะนี้ทั่วโลกกำลังตื่นตัวเรื่องมะรุมเป็นพิเศษ



มะรุม ต้นไม้มหัศจรรย์
จากหนังสือ นาฬิกาชีวิตตอน๒
เขียนโดย ดร.วิไลวรรณ อนุสารสุนทร











Create Date : 11 ธันวาคม 2551
Last Update : 7 มิถุนายน 2552 17:33:01 น. 13 comments
Counter : 2187 Pageviews.

 
อ่านแล้วก็อยากทานมะรุมเลยค่ะ
ขอบคุณค่ะ


โดย: สาวพิษณุโลก** วันที่: 11 ธันวาคม 2551 เวลา:17:16:04 น.  

 
ทานแล้วดีมากครับ


โดย: คนลำปาง IP: 124.157.157.158 วันที่: 18 ธันวาคม 2551 เวลา:12:56:20 น.  

 
เคยนำมาลวกเหมือนผักทั่วไปแบบไม่สุกมากมาจิ้มน้ำพริก ปรากฎว่าคลื่นไส้ เมามะรูม คนแก่บอกต้องต้มให้เปื่อยก่อนจึงจะกินได้ปลอดภัย การกินใบดิบๆ ไม่เป็นอันตรายหรือมีผลข้างเคียงหรือคะ


โดย: สงสัย IP: 210.203.169.188 วันที่: 29 ธันวาคม 2551 เวลา:0:53:50 น.  

 
ตอบคุณให้หายสงสัยนะคะ

สันนิษฐานว่าคุณคงจะแพ้มะรุมนะคะ เพราะในบางคนก็จะรับประทานไม่ได้ จะแพ้ค่ะ ถ้าเป็นเช่นนั้นก็ไม่ควรรับประทานค่ะ ไม่ว่าจะเป็นสดหรือแคปซูลค่ะ...

คุณแม่ของเราก็เป็นเหมือนคุณค่ะ...ท่านก็จะไม่ทานค่ะ


โดย: นางฟ้าอรชร วันที่: 5 มกราคม 2552 เวลา:10:41:39 น.  

 
อยากทราบว่าคนปกติจะทานได้มั้ยและจะรู้ได้อย่างไรว่าจะต้องทานครั้งละกี่เม็ด กี่มื้อ และจะหาซื้อได้จากที่ไหนบ้างค่ะ


โดย: กิ๊ฟ IP: 58.10.65.191 วันที่: 19 มกราคม 2552 เวลา:11:35:41 น.  

 
โดยทั่วไปแล้วคนปกติก็รับประทานได้ค่ะ ที่ทางเราจำหน่ายอยู่ ก็จะให้รับประทาน 2 มื้อ มื้อละ 2 แคปซูลค่ะ ในขนาดแคปซูล 500 มิลลิกรัม จะสั่งซื้อก็ติดต่อกับทางเราได้เลยค่ะ โทร 081 625 2454


โดย: นางฟ้าอรชร วันที่: 21 มกราคม 2552 เวลา:13:38:18 น.  

 
เป็นพืชที่กระผมชอบเป๋นจีวิตจิตใจ๋เลยครับ กิ๋นยอดดิบก่ดีนำมาลวกกับน้ำพริกก่เหมาะ ดอกเอามาแก๋งใส่ปลาจี่ก่ลำแต้ๆ หน่วยบ่ฆ้อนก้อมแก๋งใส่ปลาแห้ง...ลำสุดสุดเลยครับ บ่เจื่อลองจิมเต๊อะครับ..ลำก่ลำประโยชน์ก่มีนักเน้อครับ


โดย: ป เชียงของ IP: 58.137.118.241 วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:16:06:47 น.  

 
น่าอร่อยนะคะ คุณ ป.เชียงของ เคยทานแต่แกงส้มฝักมะรุมอย่างเดียวเองค่ะ...อยากทานแบบเมนูคุณบ้าง จะหาทานได้ที่ไหนค่ะเนี่ย..อิอิ


โดย: นางฟ้าอรชร วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:13:08:54 น.  

 
อยากทราบราคา


โดย: เชียงใหม่ IP: 125.25.45.155 วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:10:58:43 น.  

 
แล้วถ้าคนเป็นโรคสะเกล็ดเงินจะรับประทานได้มั้ยค่ะ???

แล้วมันจะหายมั้ย????


โดย: อยากทราบมาก IP: 125.26.33.154 วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:18:05:15 น.  

 
สวัสดีค่ะ คุณความเห็นที่ 10

น่าจะตอบไปทางเมล์แล้วใช่มั้ยค่ะ
ลองใช้น้ำมันมะรุม น่าจะดีกว่ารับประทานแคปซูลค่ะ


โดย: นางฟ้าอรชร วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:13:29:07 น.  

 
คือ ดิฉันทานผงใบมะรุม แคปซูล ก่อนอาหาร 3 เวลา ครั้งละ 1 เม็ด กลับได้ผลตรงกันข้าม คือ มีอาการท้องบวม มันป่องขึ้นคล้ายกับบวมน้ำ แล้วก็ท้องผูกมาก ไม่ยอมถ่ายเลย อึดอัดมาก เลยต้องกินยาถ่ายช่วย แถมยังมีผื่นคันขึ้น เป็นเม็ดเล็กๆ ตามตัว หน้า แขน ขา อ้อ แล้วก็ปัสสาวะขัดด้วย ออกมาน้อยมาก
ก็เลยหยุดกิน สักพัก ก็กลับมากินใหม่ ก็เป็นเหมือนเดิมอีก
อยากเรียนขอคำปรึกษาค่ะ รบกวนผู้รู้ช่วยตอบด้วยนะคะ ขอขอบพระคุณยิ่งค่ะ


โดย: สอบถาม ทานมะรุมได้ผลตรงข้าม IP: 118.174.201.79 วันที่: 17 พฤษภาคม 2552 เวลา:11:46:00 น.  

 
ตอบคุณพี่ที่มีคำถามอันดับที่ 12 ค่ะ
อาการที่ว่า น่าจะเป็นอาการแพ้นะคะ เพราะบางคนก็จะทานมะรุมไม่ได้ อย่างคุณแม่ดิฉันเอง ก็ทานไม่ได้เหมือนค่ะ แต่อาการแพ้จะเป็นแค่อาการผื่นคันเท่านั้น แบบที่ท้องผูกไม่เป็นค่ะ ทางที่ที คิดว่าควรงดทานเลยจะดีที่สุดค่ะ


โดย: นางฟ้าอรชร วันที่: 17 พฤษภาคม 2552 เวลา:15:40:01 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

นางฟ้าอรชร
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add นางฟ้าอรชร's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.