bloggang.com mainmenu search
 

กลุ่มอาการสะง็อกสะแง็ก (Frailty Syndrome)
 
 

เรียน อาจารย์ นพ.สันต์

ดิฉัน อายุ 61 ปี กำลังเกษียณมา สูง 155 ซม. นน. 42 กก. ลดลงจากเมื่อปีกลายซึ่งอยู่ที่ 46 กก. ตรวจสุขภาพประจำปี ทุกปี หมอก็ไม่เคยบอกว่าเป็นโรคอะไร ได้แต่บอกว่าปกติดี เมื่อสามเดือนก่อนไปเที่ยวเมืองจีน รู้สึกว่า.
ตัวเอง ไม่มีเรี่ยว ไม่มีแรง รู้สีกว่าตัวเองเดินช้า ตามคนอื่น เขาไม่ทัน จึงไม่อยากเดิน จนวันสุดท้าย สมัครใจเฝ้าโรงแรม ไม่ออกไปไหน ธรรมดาอยู่ที่บ้านก็ไม่ค่อยไปไหนอยู่แล้วเพราะ ไม่ชอบออก กลับมาได้ตั้งสามเดือนแล้ว ตั้งใจ กินอาหารเสริมและวิตามินบำรุง ก็ไม่หาย น้ำหนักทำท่าจะลดลงไปอีก ดิฉันเป็นโรคอะไร และควรจะทำอย่างไรดี คะ

...........................................

🟥🟥ตอบครับ🟥🟥

🟩ผมประเมินเอาตามข้อมูลที่คุณให้มาว่าผลการตรวจสุขภาพประจำปีทุกอย่างปกติ จึงขอวินิจฉัยทางอากาศว่า คุณน่าจะป่วยเป็น "กลุ่ม
อาการสะง็อกสะแง็ก"
นี่เป็น ชื่อภาษาไทยที่ผมตั้งให้เอง เพราะศัพท์บัญญัติ ยังไม่มี ผมแปลมาจากชื่อในทางการแพทย์ว่า 🟥frailty syndrome 🟥
ทั้งนี้หากถือตามงานวิจัยสุขภาพหญิง (WHAS) และงานวิจัยสุขภาพคนเป็นโรคหัวใจหลอดเลือด (CHS) คำนิยามของ

กลุ่มอาการ
สะง็อกสะแง็กมี 5 ประการ ดังนี้

1. 🟩น้ำหนักลด (ลดเกิน 5% ในหนึ่งปี)

2. 🟩ขาดพลัง (exhaustion) หรือ จิตตก นิยามว่า จากเดิมพลังงานเต็มสิบ ลดลงเหลือน้อยกว่าสาม

3. 🟩มีกิจกรรมน้อยลง (low physical activity) นิยามว่าหญิงออกแรงได้น้อยกว่า 270 แคลอรี่ ชายออกได้น้อยกว่า 383 แคลอรี่ ต่อสัปดาห์

4. 🟩เชื่องช้าลง (slow) นิยามว่า เดินแค่ 15 ฟุต (4.57 เมตร) ใช้เวลาเกิน 6-7 วินาที (ขึ้นกับเพศและความสูง)

5. 🟩ไม่แข็งแรง (weakness) นิยามว่าแรงบีบมือลดเหลือต่ำกว่า 20%


🟥โรคนี้ม้น เป็นโรคของคนแก่นะ อุบัติการณ์ของโรคสะง็อกสะแง็กในชุมชนในคนอายุเกิน 65 ปีในอเมริกา พบว่า มีมากถึง 7-12% และยิ่งแก่มาก ก็ยิ่งเป็นกันมากขึ้นๆ แต่ว่าคุณนี่อายุยังไม่ถึง 65 เลยนะ


🟩สาเหตุของโรคนี้เชื่อว่ามันเป็นการประชุมแห่งเหตุ คือ สาระพัดสาเหตุมาเกิดบรรจบกันจนทำให้ระบบตั้งศูนย์ถ่วงล้อของร่างกาย (homeostasis) เสียการทำงานไปจนร่างกายรับมือกับภาวะเครียดไม่ไหว สาเหตุตัวเอ้ๆที่มักพบร่วมเสมอ คือ เกิดการอักเสบเรื้อรังขึ้นในร่างกาย มีความเครียดจากสิ่งแวดล้อม หรือจากการใช้ชีวิต หรือมีการเจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรังต่างๆ ซ่อนอยู่ ส่งผลให้ระบบกล้ามเนื้อและระบบฮอร์โมนเสียการทำงานตามไปด้วยจนมี อาการดังกล่าว


🟩สำหรับการพยากรณ์โรคนี้ เมื่อใดก็ตามที่โรคสะง็อกสะแง็กเกิดขึ้น เมื่อนั้นเชื่อขนมเจ๊กกินได้ว่า อัตราตายจะเพิ่มตามมา
แต่อย่างไรก็ตาม สถิติบอกว่าโรคนี้มันกลับฟื้นคืนดีได้🟩ถ้า...


หลักฐานทางการแพทย์นับถึงวันนี้
วิธีที่จะป้องกันและแก้ไขโรคสะง็อกสะแง็กได้เด็ดขาด

มีวิธีเดียว คือ..ออก🟥กำลังกาย ทั้งการออกกำลังกายแบบเล่นกล้าม 🟥แบบแอโรบิก และแบบเสริมการทรงตัว 🟥ครบสูตรครบสามรส
ถ้าผู้สูงอายุที่สะง็อกสะแง็กไม่ยอมออกกำลังกายไม่ยอมเล่นกล้ามเสียอย่างก็..จบข่าว 🟥


ดังนั้น ผมแนะนำคำเดียวว่า ให้คุณเริ่มด้วยการออกกำลังกาย เน้นการเล่นกล้าม พอการออกกำลังกายกระตุ้นให้เกิดความอยากอาหารขึ้นมาก็ให้กินทุกอย่างที่ขวางหน้า เดี๋ยวคุณก็จะดีขึ้นเอง
ถ้าทำอย่างนี้แล้ว 3 เดือนยัง🟥ไม่ดีขึ้นคุณค่อยกลับไปโรงพยาบาลเพื่อให้หมอเขาสืบค้นหาโรคเรื้อรัง🟥ที่อาจซุกซ่อนอยู่แต่หาไม่เจอในเมื่อตอนไปครั้งที่แล้ว


การรักษาโรคสะง็อกสะแง็กที่ได้ผลรองลงไปก็คือ การบำบัดแบบปจว. หรือปฏิบัติการทางจิตวิทยา ผมหมายถึงการพยุงผู้ป่วยให้รอบด้านแบบผสมผสานหรือแบบองค์รวม (comprehensive care) ท้ังทางร่างกาย ความคิด จิตวิญญาณ ครอบครัว สังคม สิ่งแวดล้อม ก็มีหลักฐานว่าทำให้ดัชนีคุณภาพชีวิตดีขึ้น


ส่วนการบำบัดด้วยวิธีอื่น เช่น การบำบัดทางโภชนาการ หมายถึง🧡🟥กินอาหารที่กลัวว่าจะขาดแคลนให้ครบเช่น แคลอรี่ โปรตีน ไวตามิน เกลือแร่ และกาก เป็นวิธีที่น่าจะได้ผลในเชิงทฤษฎี
แต่หลักฐาน วิจัยที่จะสนับสนุนว่า การบำบัดทางโภชนาการที่ไม่มีการออกกำลังกายได้ผลจริงไหม ❓ ยังไม่มี

พูดง่ายๆว่า ถ้าไม่ออกกำลังกายเสียอย่าง แม้จะตั้งใจกิน หรือตั้งใจกรอกอาหารเสริมอย่างไร ก็ไม่ได้ผล 🟥ต้องเข็นให้ออกกำลังกายให้ได้ก่อน 🟥พอมีความอยากอาหาร การบำบัดด้วยอาหาร จึงจะมีช่องทางได้ประโยชน์


ส่วนการบำบัดด้วยยา ไม่ว่าจะเป็นฮอร์โมนเพศชาย ฮอร์โมนเพศหญิง ฮอร์โมน IGF1 หรือยาต้านการอักเสบ ล้วนมีผลสองด้าน คือ ดีบ้างเสียบ้าง ยังไม่สามารถสรุปได้ว่า ดีมากกว่าเสียหรือเสียมากกว่าดี
ดังนั้น ผมจึงยังไม่แนะนำ

ยกเว้น ตัวเดียวที่มีผลข้างเคียงต่ำและมีความสัมพันธ์กับการที่อาการสะง็อกสะแง็ก อาจจะดีขึ้น คือ...
🟥วิตามินดี. 🟥
แต่ว่า ผมสนับสนุนให้ใช้วิธี ออก🟥แดดเป็นหลัก🟥มากกว่า หรืออย่างน้อย ถ้าระดับวิตามินดี.ต่ำ🟥มากก็ออกแดดควบกับการกินวิตามินดี. 🟥
เพราะ การออกแดดมีคุณค่าต่อร่างกาย และจิตใจ ที่มากกว่า การช่วยสร้าง วิตามิน ดี เท่านั้น🟥

Cr : นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์
 
Health Blog
 
newyorknurse
Create Date :14 มิถุนายน 2566 Last Update :27 มิถุนายน 2566 20:49:57 น. Counter : 322 Pageviews. Comments :0