bloggang.com mainmenu search





สวัสดีค่าสาวๆบล็อคนี้มีรีวิวผลิตภัณฑ์ใหม่จากโอเลย์มาฝากกัน
ซึ่งเป็นไลน์ใหม่ล่าสุดของเค้าเลยซึ่งทรายได้มีโอกาสไปงานเปิดตัวมาด้วย
และได้ทดลองใช้เป็นคนแรกๆถึงที่ประเทศอเมริกา!
นั่นก็คือกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลรอบดวงตา Olay EYES นั่นเอง

ซึ่งตอนนี้ขอบอกว่าวางขายบ้านเราเรียบร้อยแล้ว
มีให้เลือก 2 สูตร ที่ตอบโจทย์ปัญหารอบดวงตาที่ต่างกัน
อยากรู้ว่าสูตรไหนเหมาะกับใคร ช่วยเรื่องอะไร บล็อคนี้ห้ามพลาดค่ะ



ทำไมเราจึงควรบำรุงรอบดวงตา?


ผิวรอบดวงตาเป็นจุดที่มีความบอบบางเสียความชุ่มชื่นได้ง่าย
ทำให้เกิดปัญหาได้ง่ายและเป็นจุดที่แสดงถึงอายุได้ชัดเจน
ซึ่งปัญหารอบดวงตาเกิดได้จากหลายๆปัจจัย
ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยภายในอย่างพื้นฐานกรรมพันธุ์ อายุที่เพิ่มขึ้น

หรือปัจจัยภายนอกจากไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่แสนจะหนักหน่วง
ทำงานหนัก พักผ่อนน้อย นอนดึก ปาร์ตี้ เล่นมือถือ/คอมพิวเตอร์
ล้วนต่างทำให้เกิดปัญหาต่างๆขึ้นไม่ว่าจะรอยคล้ำ รอยบวม ริ้วรอย
ซึ่งถ้าไม่ดูแลกันตั้งแต่เนิ่นๆบอกเลยว่าเมื่อใต้ตาโทรมหน้าจะดูล้ำเกินวัยไปทันที




สำหรับโอเลย์ทั้ง 2 สูตร
จะตอบโจทย์ปัญหารอบดวงตาที่ต่างกัน ดังนี้

Olay EYES The Ultimate Eye Cream

ตัวนี้เน้นช่วยบำรุงและปกปิดรอยคล้ำ ริ้วรอย และรอยบวม

ส่วน Olay EYES PRO-RETINOL Eye Treatment

จะเน้นช่วยฟื้นฟูบำรุง เรื่องริ้วรอยและตีนกา



Olay EYES The Ultimate Eye Cream


ขนาด 15 ml ราคา 999 บาท
มีจำหน่ายตาม Watsons, Boots, Tops Supermarket และ Lazada

***ของเค้าเอามาจากอเมริกาเป็นขนาด 13ml
แต่ของไทยจะขนาด 15ml ได้เยอะกว่าในราคาถูกกว่าที่นู่นด้วย!


----------------------------------------------------------------------------

คุณสมบัติตามคำเคลม

ช่วยบำรุงและฟื้นฟูสภาพผิว และลดเลือนร่องรอย 3 ปัญหา
คือ รอยคล้ำ ริ้วรอย และรอยบวมของถุงใต้ตา
โดยตัวนี้มีเทคโนโลยี คัลเลอร์-คอเร็คติ้ง
ที่ช่วยลดเลือนรอยคล้ำใต้ตาทันทีที่ใช้ และอ่อนโยนสำหรับผิวรอบดวงตา



รายละเอียดส่วนผสม


ส่วนผสมที่เน้นมาเป็นจุดขายในการช่วยฟื้นฟูผิวรอบดวงตา
คือ Peptide & Penta-Peptide
หน่วยย่อยสุดของโปรตีนช่วยฟื้นฟูโครงสร้างผิว
กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน
จึงช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิวลดเลือนปัญหาริ้วรอย

Niacinamide หรือวิตามินบี 3
ส่วนผสมนางเอกที่พบได้ในทุกผลิตภัณฑ์ของแบรนด์โอเลย์
เป็นวิตามินสารพัดประโยชน์ ช่วยในการกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่
และให้เซลล์ผิวทำงานเป็นปกติ จึงช่วย
ให้ผิวเนียนละเอียด
ริ้วรอยลดเลือนลง และบางการวิจัยบอกว่ามีคุณสมบัติ
ออกฤทธิ์ในเชิงไวท์เทนนิ่งช่วยให้จุดด่างดำลดเลือนลง

และสารกลุ่มที่ให้ความชุ่มชื่นอย่าง Glycerin , Fatty Acid
(ชื่อที่ลงท้ายด้วย Alcohol เป็นกลุ่มกรดไขมันให้ความชุ่มชื่นไม่ใช่แอลกอฮล์เน่อ)

มี Titanium Dioxide ที่ช่วยกระจายและ
และ Iron Oxide ที่ออกสีเนื้ออ่อนๆช่วยพรางความหมองคล้ำ


***ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอมและแอลกอฮอล์



รุ่นนี้มาในรูปแบบกระปุกใสมีฝาปิดสีเงิน
ดังนั้นจึงไม่ควรวางในที่ที่โดนแสงแดด
เพื่อป้องกันไม่ให้เนื้อครีมเสื่อมก่อนเวลา



ลักษณะเนื้อและกลิ่น


ดูจากในกระปุกด้านบนจะดูเป็นเนื้อครีมข้นๆ
แต่เมื่อลองแตะลงบนผิวจะรู้สึกเลยว่าเนื้อมีความนุ่มๆฟูๆ
เค้าว่าคล้ายเนื้อวิปครีมเลยอ้ะ เนื้อมีความลื่นและเกลี่ยง่ายมากกก
หลังทาให้ลุคผิวแบบกึ่งแมทท์ แห้งสนิท ไม่มัน ไม่ขึ้นเงา ไม่เหนอะหนะ

เซ็ตตัวเป็นฟิลม์เคลือบผิว ให้ความรู้สึกเรียบลื่นขึ้นทันทีเหมือนการลงไพรเมอร์

สีในกระปุกจะออกสีเนื้ออ่อนค่อนข้างชัด
แต่เมื่อลงบนผิวสีจะค่อยๆกลืนและหายไปกับผิว
เรียกว่าแทบไม่ออกสีเลยหล่ะ จึงสามารถใช้ได้กับทุกสีผิว

โดยจะช่วยพรางพวกรอยด้วยหลังการกระจายแสง
ทำให้ใต้ตาให้ดูสดใสขึ้น ลองเทียบดูจากใต้ตาเค้าสองข้างได้เลย
ด้านที่ลง
Olay EYES The Ultimate Eye Cream รอยคล้ำจะดูจางนิดนึง
แต่อยากให้ทำความเข้าใจกันก่อนว่าอายครีมก็คืออายครีมเน้นบำรุง
มิใช่คอนซีลเลอร์ดังนั้นการปกปิดจึงไม่ใช่แบบเนียนกริบนะฮะ

***เค้าใช้อายครีมทาที่เปลือกตาด้วยเพราะเป็นจุดที่เหี่ยวไว
มีความคล้ำเช่นเดียวกัน ซึ่งอายครีมตัวนี้ดีงามตรงช่วยเตรียมผิวให้เรียบขึ้น
เวลาทาอายแชโดวจะรู้สึกว่าเกลี่ยง่ายและติดทนขึ้นด้วย




ในเรื่องของเส้นริ้วใต้ตานี่ถ่ายแบบซุปเปอร์ซูมให้ดูชัดๆ
จะเห็นว่าเส้นริ้วมันก็ยังอยู่แหละแต่มันดูตื้นขึ้นและจางลงนิดนึง
เพราะเนื้อของอายครีมเข้าไปช่วยเติมร่องผิวและกระจายแสง



ส่วนในเรื่องความชุ่มชื่นวัดให้ดูกันไปเลย
เอาจริงๆตอนไปเทสที่อเมริกาคือลองตอนแรกแอบคิดเหมือนกัน
ว่าจะชุ่มชื่นดีไหมเพราะเนื้อตัวนี้ทาแล้วเซ็ตตัวค่อนข้างแมทท์
ผิวแห้งแบบเค้าที่ไม่ใช้อะไรแมทท์ก็เลยแอบมีความกังวล

ซึ่งเค้าก็ได้ให้ลองเทสกับเครื่องวัดความชุ่มชื่น
โดยผลออกมาว่าชุ่มชื่นขึ้นจริง
ดังนั้นไม่ต้องกังวลในเรื่องความชุ่มชื่นเน่อตัวนี้ชุ่มชื่นดีจ้า



สรุปความรู้สึกหลังทดลองใช้

ที่เค้าชอบสุดเลยคือเท็กซ์เจอร์ที่เกลี่ยง่ายและเซ็ตตัวแมทท์
ซึ่งเป็นข้อดีมากๆสำหรับสาวๆที่แต่งหน้า
เพราะอายครีมตัวนี้จะทำหน้าที่เป็นไพร์เมอร์บางๆ
ในการเตรียมผิวรอบดวงตา ทำให้แต่งตาได้ง่าย
ติดทนขึ้น และไม่ตกร่อง ไม่เป็นคราบระหว่างวัน

และคุณสมบัติการกระจายแสงก็ช่วยพรางปัญหาใต้ตาได้ระดับนึง
ถ้าคนไม่มีปัญหาใต้ตามากมายวันด่วนๆสามารถลงอายครีมตัวนี้เดี่ยวๆ
แล้วแต่งหน้าตามโดยไม่ต้องโบกคอนซีลเลอร์ได้เลย
ใต้ตาจะดูเป็นผู้เป็นคนขึ้นแบบเป็นธรรมชาติ

ในด้านของผลลัพธ์ในเรื่องของการบำรุง
เค้าว่าให้ฟิลหลังใช้ที่ดีในเรื่องของความชุ่มชื่น
ผิวใต้ตาจะดูอิ่มฟูขึ้น แต่ในเรื่องความหมองคล้ำและริ้วรอย
อันนี้ยังตอบให้มิได้ ไม่ได้มีปัญหาตรงนี้มากนัก
จึงยังไม่ค่อยเห็นความเปลี่ยนแปลงค่ะ

ส่วนอาการบวมของถุงใต้ตาซึ่งเค้าเป็นคนตาบวมง่าย
ซึ่งส่วนตัวนอนน้อยไม่ค่อยบวมเท่าไหร่
แต่นอนมากไปตาจะพองเป็นปลาทองเลย
ก็เลยรู้สึกว่าอาการบวมขึ้นอยู่กับการพักผ่อนเป็นหลักมากกว่า
อายครีมแค่ช่วยเสริมลดความบวมได้แค่นิดหน่อยไม่ใช่ทาแล้วยุบทันตา
ดังนั้นไม่อยากตาบวมก็ควรมีวินัยในเรื่องการพักผ่อนกันนะฮะ

สรุปสั้นๆ ชุ่มชื่นดี ให้ผิวใต้ตาดูสดใสขึ้น
ให้ผลลัพธ์ในการเตรียมผิวได้ดี ช่วยให้เมคอัพง่ายขึ้น
สำหรับสูตรนี้เค้าชอบใช้ตอนกลางวัน
เพราะให้ผลลัพธ์ได้ทันทีหลังทา
แต่ใครจะใช้ตอนกลางคืนด้วยก็ได้นะฮะ
ไม่ต้องกังวลเรื่องสี เค้าลองแล้วทาในปริมาณปกติ
สีเนื้อที่เห็นจะซึมเข้าผิวหมดไม่เลอะหมอนจ้า



Olay EYES PRO-RETINOL Eye Treatment

ขนาด 15 ml ราคา 999 บาท

มีจำหน่ายตาม Watsons, Boots, Tops Supermarket และ Lazada

----------------------------------------------------------------------------

คุณสมบัติตามคำเคลม


ช่วยฟื้นบำรุง และฟื้นฟูสภาพผิวจากปัญหาริ้วรอย และตีนกา
ด้วยส่วนผสมที่ช่วยกระตุ้นกระบวนการผลัดเซลล์อย่างอ่อนโยน
ทำให้ริ้วรอยตื้นขึ้นและแลดูจางลง
สามารถสัมผัสถึงความเปลี่ยนแปลงได้ภายใน 4 สัปดาห์




รายละเอียดส่วนผสม


ส่วนผสมหลักที่ใส่มาแบบจัดเต็มมากยังคงเป็นนางเอกของโอเลย์
ก็คือ
Niacinamide หรือวิตามินบี 3
ที่ช่วยในเรื่องของการลดเลือนริ้วรอย

แต่ส่วนผสมตัวที่เค้ายกมาเป็นตัวชูโรงจริงๆ
คือ Proprietary Retinoid และ Retinyl Propionate

สารในกลุ่มของวิตามินเอ ที่ช่วยกระตุ้นกระบวนการผลัดเซลล์ผิว
จึงช่วยให้ริ้วรอยตื้นขึ้น ผิวดูเรียบเนียนสม่ำเสมอขึ้น

นอกจากนี้ยังเสริมมาด้วยวิตามินอี (Tocopheryl Acetate)
ช่วยให้ความชุ่มชื่น เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ
และ
วิตามินบี 5 (Panthenol)
ที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื่นเรียบเนียน ให้เซลล์ผิวแข็งแรง
และช่วยปกป้องผิวจากอาการระคายเคือง

***ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอมและแอลกอฮอล์



เค้าชอบแพคเกจของอายครีมรุ่นนี้
มีความดีงามตรงหลอดพลาสติกทึบแสง
ที่ช่วยป้องกันความเสื่อมจากแสงได้ดี สะดวกในการพกพา
และปลายหลอดเรียวเล็กทำให้บีบกะปริมาณอายครีมได้ง่าย



ลักษณะเนื้อและกลิ่น

เนื้ออายครีมสีขาวบีบออกมาเหมือนจะข้น
แต่เกลี่ยแล้วจะพบกว่าเนื้อลื่นเกลี่ยง่าย
ให้สัมผัสแบบชุ่มชื่นดีเลย แต่จะใช้เวลาในการซึมผิวสักหน่อย
หลังทาผิวจะดูฉ่ำขึ้น มีความเงาและหนึบผิวเล็กน้อย
ไม่มีกลิ่นเพราะไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม

เทคนิคการทาของเค้าคือใช้นิ้วนางที่มีน้ำหนักมือน้อยสุด
ค่อยๆเกลี่ยให้ทั่วรอบดวงตารวมถึงเปลือกตา
เสร็จแล้วบีบอายครีมเพิ่มอีกเล็กน้อยทาย้ำเข้าไปไปบริเวณร่องหางตา
เพราะเป็นจุดที่จะกลายเป็นรอยตีนกาได้เมื่ออายุเพิ่มขึ้น

ส่วนตัวเค้าใช้สูตรนี้ตอนก่อนนอนเลยจะโบกเยอะเป็นพิเศษ
เพราะตอนกลางคืนเราไม่ต้องกังวลในเรื่องการเยิ้มอ่านะ
เน้นหนาๆชุ่มๆจัดเต็มดีกว่า ผิวแห้งแบบเค้าและนอนห้องแอร์ที่อากาศแห้ง
โบกหนาแค่ไหนทิ้งไว้สักแป๊บก็ซึมหายเข้าผิวหมด



ในเรื่องของความชุ่มชื่นถ้าวัดจากเท็กซ์เจอร์และความรู้สึก
สูตรนี้ให้ฟิลที่ชุ่มกว่าแบบชัดเจน แต่วัดด้วยเครื่อง
ผลของความชุ่มชื่นที่เพิ่มขึ้นก็พอๆกันนะทั้งสองสูตร
เอาว่าในเรื่องความชุ่มชื่นให้ผ่านทั้งคู่
แต่จะเลือกใช้สูตรใดก็เลือกตามปัญหาที่กังวลเอาเนอะ

สรุปความรู้สึกหลังทดลองใช้

สำหรับสูตรนี้จะเน้นเรื่องริ้วรอยเป็นหลัก
ซึ่งเค้าก็ยังไม่ถึงกับมีปัญหาริ้วรอยใต้ตาขนาดนั้น
มีรอยที่เกิดจากการแสดงอารมณ์ทั่วไปซึ่งก็เป็นเรื่องปกติที่เราต้องมี
ดังนั้นจึงไม่สามารถวัดผลได้ว่าริ้วรอยจางลงแค่ไหน

แต่ในเรื่องความรู้สึกของการใช้เค้าจะชอบสูตรนี้
ตรงฟิลหลังการทาที่มีความชุ่มผิวมากกว่า
เหมาะกับใช้โบกตอนก่อนนอนมากกว่าอีกสูตร
หลังทาจะรู้สึกว่าผิวนุ่มๆขึ้น เป็นฟิลที่ผิวแห้งรู้สึกดี

อ้อเค้าพกสูตรนี้ไปใช้ตอนไปเที่ยวยุโรปด้วย
ไปช่วงหน้าหนาอากาศเลขตัวเดียวถึงติดลบ
อายครีมตัวนี้เอาอยู่นะผิวใต้ตาชุ่มดีไม่แห้งไม่เยิน
ซึ่งสำหรับอากาศแห้งแบบนั้นทาตอนกลางวันก็รอด
ช่วยลดเมคอัพแห้งจนเกิดอาการแคร็กที่ใต้ตาได้โอเคเลย
(ลืมพกอีกสูตรไปเลยใช้สูตรนี้ทั้งเช้าและก่อนนอนฮะ)

---------------------------------------------------------------------------------



ได้ฟังความรู้สึกของเค้าไปแล้วก็ลองเลือกดูเนอะ
ว่าตัวเองมีปัญหารอบดวงตาแบบไหน
ซึ่งสองสูตรก็ถือว่าทำมาครอบคลุมปัญหาได้ครบ

ก่อนจบขอฝากไว้ว่าปัญหาใต้ตาต้องดูแลประกอบกัน
ทั้งการบำรุงและการพักผ่อนให้เพียงพอ
ถ้าเป็นปัญหาใต้ตาที่เกิดจากเรื่องสุขภาพอย่างอาการภูมิแพ้
ก็ต้องรักษาที่สาเหตุไปด้วย ดูแลตัวเองให้แข็งแรง

ถึงจะช่วยให้รอบดวงตาดูสดใสขึ้นได้นะฮะ
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาเยี่ยมชมล่วงหน้าด้วยค่า Smiley

-----------------------------------------------------------------------------------------

Disclaimer : Sponsored Content by OLAY
***All opinions are my own
Information//www.olay.co.th


Create Date :22 มีนาคม 2560 Last Update :5 เมษายน 2560 16:26:43 น. Counter : 10134 Pageviews. Comments :2