bloggang.com mainmenu search



 :: KUNGINTER TALK :: 



ชื่อผลิตภัณฑ์ :  ON THE
PEAK LOTION SERUM e


อิปซ่า
ออน เดอะ พีค โลชั่น ซีรั่ม อี


โลชั่นบำรุงผิวหน้า


วิธีใช้ กดหัวปั๊ม 3 ครั้ง ลงบนแผ่นสำลี เช็ดลงบนผิวออกไปด้านข้าง
และใช้ฝ่ามือกดเบาๆ ราวกับโอบรัดบนใบหน้า เพื่อให้ซึบซาบได้อย่างทั่วถึง


ผลิตโดย บริษัท อิปซ่า จำกัด ประเทศญี่ปุ่น


นำเข้าโดย
บริษัท ชิเซโด้ (ไทยแลนด์)จำกัด


ปริมาณสุทธิ 170 มิลลิลิตร


ราคา 4,800 บาท


Ingredients List :


Water,
Alcohol, Butylene Glycol, Glycerin, Betaine, Methyl
Gluceth-10
,
Dipropylene
Glycol, PEG-32, PEG-6, PEG-60 Hydrogenated Castor Oil, Triethylhexanoin, Phenoxyethanol,
Polyglyceryl-2 Diisostearate, Simmondsia Chinensis (Jojoba) Seed Oil, Trisodium
EDTA, PEG-90M, Sodium Citrate, Isostearic Acid, Citric Acid, Fragrance, Lauryl Betaine, Arginine HCl, Serine, Alanine, Tocopheryl Acetate, Silica, Magnesium Ascorbyl
Phosphate,Hydroxyproline, Isodonis Japonicus Extract, Sodium
Polygamma-Glutamate
, BHT, Sodium Benzoate, Tocopherol,
Methylparaben


รายละเอียด


IPSA On The Peak ตัวนี้ เป็น “เซรั่ม” ในรูปแบบเนื้อ
“โลชั่น”
ที่เค้าบอกว่า
มีประสิทธิภาพสูงที่สุดสูตรหนึ่งของ
IPSA เพราะเค้าได้ใส่กรดอะมิโนลงไปหลายตัว
เช่น Arginine HCl, Serine, Alanine และ Hydroxyproline เพื่อเพิ่มความชุ่มชื่นและทำให้ผิวแลดูอิ่มๆอวบๆ
(
ใช้ Sodium Polygamma-Glutamate ที่เป็นสารก่อเจลประเภทโปรตีน
แต่มีลักษณะเป็น Polymer ช่วยให้ผิวอมน้ำได้ดีเยี่ยม รวมถึงสาร
Betaine ซึ่งช่วยเก็บกักน้ำให้ผิวดี
และ นาน กว่า Sodium Hyaluronic เสียอีก และ สาร Methyl Gluceth-10ก็ช่วยให้ผิวเก็บน้ำไว้ได้ดีขึ้นอีกแรงนึงเช่นกัน)มากกว่านั้นมีส่วนผสมที่เน้นเรื่องเพิ่มความใสให้ผิวด้วย(โดยการลดการสร้างเมลานิน โดยใช้
Magnesium Ascorbyl Phosphate ซึ่งเราทราบกันดีว่ามันคือ
วิตามินซี versionเสถียรอีกตัวนึงนั่นเอง ซึ่งจะช่วยทำหน้าที่นี้ แต่กุ้งก็ไม่ทราบว่าทาง IPSA เค้าใส่มาให้กี่ %แต่ที่แน่ๆ ไม่น่าจะเยอะมากเพราะอยู่หลัง Silica อีก
ส่วนตัวเลยคิดว่า
มันไม่ค่อยช่วยด้านความกระจ่างใสเท่าไหร่นักแต่ถ้าความชุ่มชื่นล่ะก็ ตัวนี้จัดเต็มเลยทีเดียวนะ จะบอกให้) เค้าบอกไอ้เจ้าซีรั่มแบบโลชั่นนี้ ยังช่วย “ขจัด” หรือ “ผลัด” เซลล์ผิวที่ “เสื่อมสภาพ เซลล์ที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือ เซลล์ที่หมดอายุขัย ” ออกไปจากผิวเราด้วย( สังเกตจากเวลาที่เราปั๊มโลชั่นลงสำลีแล้วเช็ดผิว
จะเห็น
คราบดำๆติดออกมาบ้าง
เนื่องจากอิทธิฤทธิ์ของ
Lauryl Betaine ซึ่งเป็นสารชะล้างทำความสะอาดและมี Alcohol ช่วยอีกแรงนั่นเอง คิคิเค้าบอกอีกว่า มันมีประสิทธิภาพในการ “ส่งเสริม” การทำงานของ
Skin Care ตัวถัดๆไป ที่จะทาลงผิว
( เพราะมีสารทำละลายหลายตัว
เช่น
Butylene
Glycolและ Dipropylene Glycol
ซึ่งมีฤทธิ์ทำละลายสารและนำพาลงสู่ผิวได้ดีขึ้นบ้าง (ดีกว่าเอาน้ำเปล่าพรมหน้าล่ะกัน คิคิ)


ข้อสังเกต :


ผลิตภัณฑ์นี้มีน้ำหอมผสมอยู่  


- ผลิตภัณฑ์นี้มี Alcoholผสมอยู่


ผลิตภัณฑ์นี้ มีสารที่ช่วยหักล้างผลเสียของ Alcohol ผสมอยู่หลายตัวจึงใช้แล้วจะไม่พบปัญหาความแห้งกร้านจาก Alcohol แน่นอน Don’t worry นะจ๊ะ !!





:: THE RESULTS ::



ผลลัพธ์ :


- ผิวชั้นบนสุด ดูมีสุขภาพดีขึ้น ชุ่มชื่นขึ้น


     ข้อนี้จริงนะ ก็ แหมม อัดสารให้ความชุ่มชืนมาหลายตัวซะขนาดนั้นทั้ง Betaine ที่ work กว่า Hyaluronic Acid * ทั้ง Methyl Gluceth-10 ทั้ง Arginine HCl, Serine,
Alanine
และ Hydroxyproline ซึ่งมันเป็นกรดอะมิโนที่เป็นองค์ประกอบหลักของ Collagen ไง พอเอามาผสมลงในโลชั่น มันก็ไม่ได้ขนาดว่าจะช่วยลดริ้วรอยอะไรได้เพราะมันซึมลงไปยังผิวชั้นล่างไม่ได้ แต่มันช่วยให้ผิวชุ่มชื่นมากๆแล้วพอผิวมันชุ่มชื่นมากๆผิวก็จะมีสุขภาพดีขึ้นเอง จริงๆนะ


- ผิวนุ่มขึ้น


    จริง ! คือด้วยความที่เนื้อสัมผัสมันเป็นโลชั่นที่เข้มข้นกลางๆ แต่นุ่มมาก


     คือ
เนื้อนุ่มๆลื่นๆเหนอะๆนิดนึง เพราะเค้าใส่
Polyglyceryl-2 Diisostearate ซึ่งเป็นสารเคลือบผิวให้นุ่นลื่น และ Jojoba Oil ซึ่งเป็นน้ำมันจากพืชเพียงชนิดเดียวของโลกในตอนนี้
ที่มีลักษณะโครงสร้างคล้าย
Sebum ของคนเราที่สุด
และให้สัมผัสที่เป็น
Silk Touch ที่นุ่นลื่น
ไม่ทิ้งความมันเงาบนผิว เหมือนน้ำมันพืชชนิดอื่นๆ อืมมเค้าก็เข้าใจเลือกใช้สารนะ


- ผิวดูยืดหยุ่นขึ้น


     ก็จริงอีก ! เพราะผิวของเราเป็นโปรตีนทั้งนั้น พอได้กรดอะมิโนมาเสริม
มันก็เหมือนบ้านที่ทาสีใหม่ ฟื้นฟูก้อนอิฐให้สวยงามขึ้น
เนื่องจากเซลล์ผิวอิ่มน้ำมากขึ้น ก็เลยแลดูยืดหยุ่นขึ้นไง
แต่ถ้าหยุดใช้ก็เหมือนเดิมนะ ต้อง
Maintain ไปเรื่อยๆ


กลิ่นหอมอ่อนๆจากดอกกุหลาบ


    ไม่รู้ว่าสายพันธุ์ไหนหรอกแต่กลิ่นมาจากFragranceไม่ใช่ Essential Oil จากดอกกุหลาบโดยตรงเหมือนบางแบรนด์ ( ส่วนตัวกุ้ง คิดว่า IPSA เค้าปรุงมาได้หอมกำลังดีนะ คือหอมแบบผู้ดี หอมอ่อนๆ
แนวบำบัดอารมณ์ ผ่อนคลายสติ คือ ถ้าเครียดๆ กลับบ้าน อาบน้ำ+ใช้ตัวนี้ ก็พอจะช่วยได้บ้างเหมือนกันนะเออ 55+)


*อ้างอิงประโยค Betaine ที่ work กว่า Hyaluronic Acid //www.sinthaichem.com/pdf/K/spec/5.PDF


สรุปคือ ซีรั่มในรูปแบบโลชั่นตัวนี้ เหมาะกับผู้ที่ต้องการโลชั่นเนื้อเข้มข้นปานกลาง


ที่ให้ความชุ่มชื่น ชุ่มฉ่ำ กักเก็บน้ำให้ผิวได้ดีเยี่ยม (คนที่มีผิวขาดน้ำ จะชอบมาก)


กลิ่นหอมดอกกุหลาบอ่อนๆ ส่วนผสมดี แต่ราคาค่อนข้างสูง คือถ้ามองแบบโลชั่นเช็ดผิวจะว่าแพงมาก


แต่ถ้ามองว่ามันเป็นซีรั่มบำรุงผิว กับปริมาณ 170 ml กับราคา 4,800
บาท ( 30 ml เทียบเท่า 847 บาท ) กุ้งก็คิดว่าเป็น
Product ที่น่าครอบครองตัวนึงของ IPSA เลยหล่ะครับ
;)



 หวังว่าการทำรีวิวนี้ของกุ้ง...จะเป็น “ประโยชน์” ต่อการ
“ตัดสินใจ เลือกซื้อ เลือกใช้”ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวต่างๆ...มากยิ่งขึ้นนะครับ
แล้วพบกันใหม่ครับ 




และตอนนี้สามารถพบปะและร่วมพูดคุยกับกุ้งได้มากขึ้นใน Page ของกุ้งเองนะครับ ที่นี่เลยครับ ^^ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ รักทุกคน จุ๊บๆ





Krisanawat Surasitt


Create Your Badge Kunginter


Promote Your Page Too



Free TextEditor
Create Date :02 เมษายน 2554 Last Update :30 พฤษภาคม 2556 17:22:25 น. Counter : Pageviews. Comments :13