bloggang.com mainmenu search


สวัสดีครับคุณผู้อ่านทุกท่าน วันนี้กุ้งจะUpdate ผลิตภัณฑ์ไวท์เทนนิ่งที่ออกใหม่และมาแรงมากเลยทีเดียว นั่นคือ Kiehl's ตัวที่ชื่อว่า " Clearly Corrective Dark Spot Solution" เป็นสินค้าในกลุ่มลดเลือนรอยด่างดำ เพิ่มความไบร์ท กระจ่างใส ใหม่และเข้มข้นที่สุดในกลุ่ม Dermatologist Solutions ครับ


ตัวนี้เป็นเซรั่มผสมวิตามิน C เข้มข้น (แต่ทางคีลส์ได้พัฒนาสูตร โดยใช้วิตามินซีแบบใหม่ ไฉไลกว่าเดิม ( The key and innovative ingredient ) คือ Activated C = New Generation Vitamin C Derivative นั่นคือสาร 3-O-Ethyl Ascorbic Acid นั่นเองครับ (ก่อนหน้านี้ เขาจะเน้นใช้ Ascorbyl Glucoside และ L-Ascorbic Acid เป็นหลักมากกว่าครับ )



ในฐานะนักวิทยาศาสตร์และบิวตี้บล็อกเกอร์ กุ้งจะขอโฟกัสไปที่ตัวสูตรโครงสร้างเคมี และ สารประกอบของสินค้าตัวใหม่นี้เป็นหลักนะครับ โดยรวมแล้ว Product ตัวนี้ ถูกปรุงมาเพื่อคนที่มีปัญหา Uneven Skin Tone ( หมายรวมถึง dark spots, discolorations, acne scar ผิวมีสีไม่เท่ากัน กระด่างกระดำ ไม่สม่ำเสมอ มีรอยแผลเป็นจากสิว รอยดำ เป็นต้น) และ ผู้ที่ยังไม่มีปัญหาดังกล่าว แต่ต้องการเพิ่มความ Clarity ให้กับผิว ก็ใช้ได้เช่นกันครับ (ช่วยให้ผิวดูกระจ่าง สดใส สดชื่น เกลี้ยงเกลาขึ้น) เพราะมีฤทธิ์ป้องกันการสร้างเม็ดสีใหม่ๆ ได้ด้วยเทคโนโลยี “Anti-cluster” ( it helps prevent the formation of new pigment clusters)

ในอดีตกาล นักวิทยาศาสตร์และแพทย์ผิวหนัง มักแนะนำให้คนไข้ที่มีปัญหาเรื่องสีผิวเช่น ฝ้า กระ จุดด่างดำ ( Uneven Skin Tone ) ให้ใช้ยาประเภทกัดฟอกสีผิว เพื่อยับยั้งการสร้างเม็ดสี ด้วยการปรุงครีมสูตรผสมไฮโดรควิโนนผสมกรดวิตามินเอ/กรดผลไม้เข้มข้น เพื่อแก้ปัญหา แต่ก็พบว่า คนไข้หลายรายทนรับผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นจากตำรับยานี้ไม่ไหว (ผิวลอก  เป็นขุย ไวแสง หน้าคล้ำกว่าก่อนใช้ )






ปัจจุบันบริษัทผลิต Skin Care ต่างๆ จึงว่าจ้างนักวิทยาศาสตร์และนักวิจัย เพื่อทำการค้นหา R&D คิดสารออกฤทธิ์ใหม่ๆ ที่อาจจะมีโมเลกุลเล็กลง เสถียรกว่าเดิมและทำงานดีขึ้น(Innovative Active Ingredient) มาใช้ในสูตรของตน โดยเน้นผลลัพธ์ที่ดี และผลข้างเคียงที่น้อยที่สุด แต่ที่ว่ามาทั้งหมด ทำให้สกินแคร์แนวทรีทเมนท์อย่างคีลส์เองก็ไม่นิ่งนอนใจ โดยเลือกหยิบ Vitamin C ฟอร์มใหม่ (3-O-Ethyl Ascorbic Acid) มาใช้ใน Product เพื่อเติมเต็มความต้องการของตลาดไวท์เทนนิ่ง และ แก้ไขข้อด้วยของ Vitamin C (L-Ascorbic Acid) ที่เสื่อมง่าย ตายไว  พูดง่ายๆ คือ เอา Vitamin C ไปต่อยอด พัฒนาโครงสร้าง ให้แข็งแรง ทนทานต่อความร้อน อากาศ และรังสียูวี (นี่เป็นสาเหตุที่เค้าไม่จำเป็นต้องใส่ serumนี้ ในขวดสีชา หรือขวดทึบแสง) โดยยังคงออกฤทธิ์บนผิวหนังได้ดีอยู่


แต่จะว่าไปแล้ว สาร 3-O-Ethyl Ascorbic Acid ก็ไม่ใช่อะไรที่ใหม่ที่สุด เพราะก่อนหน้านี้ ก็มีอีกบริษัทที่นำสารตัวนี้มาใช้ในสูตรไวทเทนนิ่งของตัวเองเรียบร้อยแล้ว นั่นคือ Shiseido White Lucent ที่ใช้ 3-O-Ethyl Ascorbic Acid เป็น Active หลัก และใช้ Plant Extract ต่างๆ มาเสริมฤทธิ์ ปรุงในเบส Serum เนื้อเซรั่มโลชั่น ( Water + BG + Glycerin + Xylitol + Silicone + Vegetable Oil) ในบรรจุภัณฑ์หัวปั๊ม  ก็เป็นที่ตอบรับจากลูกค้ากลุ่มเป้าหมายอย่างผู้หญิงเอเชียได้อย่างดี แต่พอมายุคหลังๆ จะมีการเพิ่มสาร Tranexamic Acid เข้ามาเสริมอีกแรง  ก็เป็นอะไรที่สกินแคร์แบรนด์ญี่ปุ่น ถนัดที่จะทำอยู่แล้ว



แต่พอสาร 3-O-Ethyl Ascorbic Acid ได้มาอยู่ในมือของสกินแคร์แบรนด์ฝรั่งอย่างคีลส์บ้าง ก็ได้มีการใช้ 3-O-Ethyl Ascorbic Acid เป็น Active หลัก และใช้เสริมด้วย ไวท์เบิร์ช (White Birch)= Hydroxyproyl Tetrahydropyrantriol ( Sugar Derived) ซึ่งมีฤทธิ์ Restore Hydration คือฟื้นคืนน้ำให้เซลล์ผิว +  Increases Skin Elasticity Levels และ Collagen Production คือ มีส่วนช่วยเพิ่มระดับการสร้างสารโปรตีนในผิวได้ และเสริมด้วยสารสกัดจากดอกโบตั๋น (Peony Extracts) ซึ่งมีฤทธิ์เป็น Anti-Oxidant (สามารถวิ่งไปจับอนุมูลอิสระบนผิว เมื่อทาลงไป)





ซึ่งคีลส์ได้ทำการปรุงสูตรนี้ โดยเอา Activated C  + Plants Ext. มาในรูปของ Essence/Serum มาในเบส Water  + PG + Glycerin + Alcohol Denat., (เนื้อบาง เบา ซึมซาบไว ระเหยไว สบายผิว) แบบ Dropper หัวหยด ที่สามารถทาได้ทุกเมื่อเชื่อวัน (Apply This Serum To The Face Both Day And Night) 



ดังนั้นเราจะเห็นได้ว่า Shiseido White Lucent กับ Kiehl's Dermatologist Solutions Clearly Corrective Dark Spot Solution นั้น มีความคล้ายคลึงกันมาก แต่จะแตกต่างที่ Texture หรือเนื้อสัมผัส กล่าวคือ ของ Shiseido จะมี Oil และ Silicone (อ้างอิงสูตร ===> Shiseido White Lucent Concentrated Brightening Serum )


ดังนั้น ถ้าใครแพ้น้ำมันพืช เช่น น้ำมันปาลม์ น้ำมันโจ้โจ้บา หรือนมผึ้ง ก็ไม่เหมาะที่จะใช้ Shiseido White lucent ตัวดังกล่าว ในขณะที่ Kiehl's Dermatologist Solutions Clearly Corrective Dark Spot Solution นั้น ปราศจาก Oil ที่หนักผิว, ปราศจากซิลิโคน, ปราศจากสารเคลือบรูขุมขน (แต่ก็ยังพบว่ามี Alcohol ผสมอยู่ด้วย แต่ก็ยังดีที่อยู่หลังสาร PG และ Glycerin )


เอาเป็นว่าในฐานะที่ตนเป็นนักวิทยาศาสตร์และบิวตี้บล็อกเกอร์ จะไม่ขอตัดสินว่าสูตรไหน ยี่ห้อไหนดีกว่ากัน หรือไม่ อย่างไร เพียงแต่จะมาให้ข้อมูลทางวืทยาศาสตร์ เพื่อประกอบการตัดสินใจในการเลือกซื้อสินค้าตัวต่อๆไปของเพื่อนๆนักอ่านรีวิวทุกท่านแล้วกันนะครับ ใครใคร่อยากใช้แบรนด์ไหน สูตรใด ก็เดินไปลองขอ Sample มาทดลอง+ทดสอบอาการแพ้กันก่อนด้วยนะครับ



** แล้วมาพบกันใหม่ กับ ⁞รีวิวฉบับเต็ม (เปรียบเทียบ ก่อนใช้-หลังใช้ เรื่องรอยดำจากสิว) เมื่อได้ทดลองใช้ Kiehl's - Dermatologist Solutions - Clearly Corrective Dark Spot Solution หลังจากนี้อีก 4 สัปดาห์ครับ :)


----------------------------------


KUNGINTER


Health And Beauty Blogger


---------------------------------


Studying Master of Science program in


Anti-Aging and. Regenerative Science,


MFU University Bangkok,Thailand



Free TextEditor
Create Date :24 กุมภาพันธ์ 2555 Last Update :30 พฤษภาคม 2556 17:21:57 น. Counter : Pageviews. Comments :7