bloggang.com mainmenu search
{afp}






วันที่ 2 ย้อนวัยไปกับUniversal studio Japan

วันนี้เราอยู่ที่ Universal studio ทั้งวัน เราซื้อบัตรผ่านประตูจากประเทศไทย พอไปถึงก็แค่เอา QR code ไปสแกนแล้วเข้าได้เลย ใครที่อยากประหยัดเวลาต่อแถวเครื่องเล่นเราแนะนำให้ซื้อ express pass ไปด้วย express pass นี้มีให้เลือกหลายแบบว่าจะ express passเครื่องเล่นอะไรบ้างและ pass ได้กี่เครื่องเล่น เราซื้อแบบจัดเต็มคือexpress pass 7 นั่นคือสามารถต่อแถวพิเศษลัดคิวให้เร็วขึ้นได้ถึง 7 เครื่องเล่นโดยเครื่องเล่นแต่ละอย่างจะกำหนดเวลาไว้ว่าเราสามารถใช้สิทธิ์ลัดคิวได้ในช่วงเวลากี่โมงบ้าง ส่วนราคาค่าผ่านประตู+expresspass 7 นั้น คิดเป็นเงินไทยก็เบาๆ แค่ 6000 กว่าบาทแค่นั้นเอง 555 Smiley

ผ่านเข้าประตู เราก็แวะถ่ายรูปกับลูกโลกตรงทางเข้าตามธรรมเนียม แล้วก็มุ่งหน้าไปฮอกวอตส์ The Wizarding World of Harry Potter เป็นที่แรก



เครื่องเล่นในฮอกวอตส์มี 2 อย่าง อย่างแรกคือ Forbidden journey เราใช้ express pass เลยไม่ต้องรอคิวนาน Forbidden journey จะเป็นเก้าอี้นั่งที่หมุนขึ้นๆลงๆได้เก้าอี้นี้พาเราไปตะลุยโลกเวทย์มนต์ เข้าร่วมการแข่งขันควิดดิชไปกับแฮรี่ สนุกตื่นเต้นดี เหมือนเราขี่ไม้กวาดอยู่จริงๆ (อันนี้ไม่มีรูป เพราะก่อนเล่นจะต้องฝากของทุกอย่างไว้ในลอคเกอร์) ในบรรดาเครื่องเล่นทั้งหมดที่ได้เล่นเราก็ชอบอันนี้ที่สุดแล้ว พอเล่นเสร็จ ตรงทางออกมีร้านขายของที่ระลึก (ทุกเครื่องเล่นจะมีร้านขายของที่ระลึกที่ทางออกเหมือนกันหมด) ยังไม่ทันไร เราก็เสียเงินให้กับผ้าคลุมบ้าน Gryffindor แล้วในราคา 4500 เยน




ออกจากร้านขายของที่ระลึกเราก็ไปเล่น Hippogriff ต่อเจ้า Hippogriff คือรถไฟเหาะขนาดย่อมๆ ที่ใช้ระยะเวลาในการเล่นประมาณ30 วินาทีหรือ 1 นาทีแค่นั้นเอง แต่เราใช้เวลาต่อแถวถึง 1 ชั่วโมงครึ่งพอต่อแถวไปใกล้ถึงคิว เราถึงเพิ่งรู้ตัวว่ามันสามารถใช้ express pass ได้เช่นกัน แถมแถว express นั้นไม่มีคนเลยพูดง่ายๆคือ ถ้าใช้ express ก็จะได้เล่นเลย ไม่ต้องต่อแถวเรานี่แทบทรุดให้กับค่าโง่ 1 ชั่วโมงครึ่งและสิทธิ์ express ที่เสียไปฟรีๆ 1 สิทธิ์



หลังจากเล่น Hippogriff เราเดินผ่าน Backdraft พอดี ก้มมองตั๋ว express pass ของตัวเองมันให้เลือกว่าจะ express Backdraft หรือ Hollywood dream the ride จึงเลี้ยวเข้า Backdraft ซึ่งเรามองว่าเป็นการตัดสินใจที่พลาดมากเพราะ Backdraft แถวไม่ยาวเท่าไหร่และเข้าได้ครั้งละหลายคนแถมยังไม่สนุกอีก ภายใน Backdraft แบ่งเป็น 3 ห้อง ห้องแรกให้ดูวิดีโอซึ่งเป็นภาษาญี่ปุ่นที่ไม่มีแม้แต่ซับอังกฤษให้เราฟังไม่ออกเลย ห้องที่ 2 มีพนักงานมาพูดๆภาษาญี่ปุ่นต่อส่วนห้องสุดท้ายน่าสนใจขึ้นมาเล็กน้อย เป็นโชว์ไฟไหม้มีเอฟเฟคที่ตื่นตาตื่นใจพอสมควร 

พอออกมาท้องเริ่มหิวจึงมุ่งหน้าไปหาของกิน เราเดินไปทาง Jurassic ซึ่งมีร้านขายน่องไก่งวง คิดว่าจะอร่อยเพราะเห็นคนกินกันเยอะ น่องไก่เข้าปากคำเเรกก็รู้สึกผิดหวังรอบที่สอง เราว่าเนื้อไก่เหนียวไปหน่อยรสชาติก็งั้นๆ แต่ถือว่าประทังความหิวได้ ระหว่างกินก็นั่งดูคนเล่น JurassicPark – The Ride มองตั๋ว express pass มันให้เลือกระหว่างJurassic Park – The Ride กับ Terminator ด้วยความที่ไม่อยากเปียก เลยตัดสินใจว่าจะเอา express ไปใช้กับTerminator ดีกว่า



Terminator เราก็ว่าไม่น่าตื่นเต้นเท่าไหร่ ภายในแบ่งเป็น 2 ห้องห้องแรกมีพนักงานสาวมาพูด กึ่งเล่นละครอะไรสักอย่างเพราะออกแอคติ้งเยอะเหมือนกัน ไม่รู้ว่าพูดอะไรบ้าง แต่มีคนขำเป็นช่วงๆ คนที่ฟังญี่ปุ่นไม่ออกอย่างเราก็ยืนงงกันต่อไป พอไปถึงห้องที่ 2 เป็นการฉายหนังแบบ3ประกอบกับนักแสดงออกมาเล่นเป็นช่วงๆถือว่าสนุกในระดับหนึ่ง แต่เราว่าถ้าไม่กลัวเปียกแบบเรา เอาตั๋วไปเล่น JurassicPark – The Ride น่าจะสนุกกว่า

จาก Terminator เราไปเล่น The Amazing Adventures of Spider-Man อันนี้แถวยาวมาก ขนาดใช้ express ยังใช้เวลาต่อคิวเกือบครึ่งชั่วโมง คิดว่าถ้าไม่มี express อาจจะใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง เข้าไปแล้วถือว่าไม่ผิดหวังลักษณะเครื่องเล่นคล้ายๆ Forbidden journey ของแฮรี่แต่เราว่าสนุกตื่นเต้นน้อยกว่าแฮรี่นิดหนึ่ง

ออกจาก Spider Man เราแวะถ่ายรูปเล่นเรื่อยเปื่อยอยู่พักหนึ่งก็ไปเล่น Hollywood dream ต่อ


Hollywood dream เป็นรถไฟเหาะ มีให้เลือก 2 แบบ คือ the ride เป็นรถไฟสีขาวรถไฟจะวิ่งไปข้างหน้าปกติ อีกแบบเรียกว่า back drop เป็นรถไฟสีแดงรถไฟจะวิ่งถอยหลัง ความเสียวคือเอาหลังลง เราจะไม่รู้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตเราบ้างเราใจไม่แข็งพอจะเล่น back drop เลยเลือกเล่น the ride ธรรมดา ทั้งๆที่จริงๆแล้ว ถ้าเลือก back drop เราใช้ express ลัดคิวได้ ส่วน the ride นั้น เราใช้สิทธิ์ไปกับ Backdraft แล้วเลยต้องต่อแถวธรรมดา ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งก็ได้เล่น แน่นอนว่าเจ้า the ride นั้นไม่ทำให้ผิดหวัง สนุกตื่นเต้นพอๆกับ Forbidden journey จนอยากจะเล่นอีกรอบแต่พอนึกถึงแถวอันยาวเหยียดแล้วก็ขอยอมแพ้

ระหว่างทางเดินไป Despicable Me Minion Mayhem เราผ่าน Evangelion XR Ride ก็เลยแวะเล่นก่อน เราไม่มี express เลยต่อแถวธรรมดา ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 40 นาที เค้าให้เราใส่แว่น VR แล้วพาเราไปผจญภัยในโลกการ์ตูน อันนี้เดินเข้าไปแบบไม่คาดหวัง เลยรู้สึกว่าสนุกกว่าที่คิดไว้

เล่นเสร็จเป็นเวลาประมาณ 2 ทุ่ม ถึงเวลาที่ใช้ express ของ Despicable Me Minion Mayhem ได้พอดี ก็เลยไปเล่น Minion ต่อ แถวของ Minion เราว่ายาวพอๆกับ Spider Man โชคดีที่ express ช่วยประหยัดเวลาได้เยอะ พอเข้าไป ห้องแรก เป็นการ์ตูนมินเนี่ยนสั้นๆที่เหมือนเกริ่นนำเรื่องราวอันนี้ดีหน่อยที่จอด้านข้างมีซับอังกฤษให้ เลยฟังเข้าใจ ถัดจากการ์ตูนก็ได้เวลาเข้าเครื่องเล่นไปลุยโลกของมินเนี่ยนแล้วมินเนี่ยนไม่ทำให้เราผิดหวังเช่นกัน สนุกดี แต่น่าเสียดายที่ตอน 2ทุ่มกว่าเราเริ่มหิว ด้วยความที่ท้องว่างพอมินเนี่ยนพาหมุนไปหมุนมาหลายรอบ เราเลยรู้สึกคลื่นไส้ (รูปนี้ถ่ายตั้งแต่ตอนกลางวันที่เดินผ่าน)
ออกจากมินเนี่ยน เราก็กลับโรงแรม สรุปว่าวันที่ 2 ใช้เวลาใน USJ เต็มๆ เล่นเครื่องเล่นไปทั้งหมด 8อย่าง วันนี้ไม่ค่อยได้ถ่ายรูปเท่าไหร่เน้นเล่นมากกว่า ความจริงแล้วก็ยังเหลืออีกหลายอย่างที่เราไม่ได้เล่น เช่น Flying Dinosaur อันนี้น่ากลัวเกินไปเราไม่กล้าเล่นจริงๆ จะเล่น JAWS ก็กลัวเปียก Freeze Ray Sliders อันนี้อยู่ใน Zone Minion เป็นเครื่องเล่นใสๆ เหมาะกับเด็ก คนที่เล่นส่วนใหญ่จะเป็นพ่อแม่ลูก (ตามรูปข้างล่าง) แต่แถวยาว เลยขี้เกียจต่อ แค่ยืนดูคนอื่นเล่น เอาเป็นว่าถ้าใครอยากเล่นทุกอย่าง อาจจะต้องใช้เวลาใน USJ ถึง 2 วัน
Create Date :29 ธันวาคม 2561 Last Update :29 ธันวาคม 2561 22:17:17 น. Counter : 351 Pageviews. Comments :0