bloggang.com mainmenu search
{afp}


วันที่ 4ใส่กิโมโนเที่ยวเกียวโต

วันนี้ทดลองเป็นสาวญี่ปุ่นด้วยการใส่กิโมโนเป็นครั้งแรกตอนเช้าเราเดินทางไปร้านเช่าชุด Yumeyakata ซึ่งเราจองเวลาไปจากประเทศไทยล่วงหน้า จองไว้เวลา 9 โมง พอไปถึงร้านนั่งรอไม่นาน พนักงานก็เรียกให้ขึ้นไปชั้นบน หลังจากแจ้งชื่อและเวลาที่จองเค้าจะให้ใบเสร็จมา จากนั้นก็ถึงขั้นตอนเลือกชุด ราคาค่าเช่าชุดละ 2800 เยนไม่รวมภาษี ใครจะอยากจะใส่เครื่องประดับอะไรเพิ่มก็หยิบเพิ่มในขั้นตอนนี้ได้เลยราคาแต่ละชิ้นเพิ่มอีก 200-500 เยน เลือกชุดเสร็จก็ไปที่ห้องแต่งตัวในขั้นตอนนี้ไม่ต้องห่วงว่าจะใส่ไม่เป็นเพราะจะมีพนักงานมาช่วยใส่ให้ทุกขั้นตอนแต่ที่เราคาดไม่ถึงคือตอนแต่งตัว จะเป็นห้องโล่งๆที่แต่งตัวรวมกัน(ไม่มีห้องแต่งตัวแยก จะแยกแค่ห้องแต่งตัวผู้ชายกับผู้หญิง) ซึ่งเค้าจะให้เราถอดเสื้อจนเหลือแค่ชั้นใน 

ความพีคคือในห้องนั้นมีคนไทยอีกกลุ่มหนึ่งอยู่ด้วย กลุ่มนั้นเองก็ตกใจเหมือนกันที่ให้ถอดหมดเลย แล้วหนึ่งในคนไทยกลุ่มนั้นก็บอกเราว่า "ถอดก็ถอด พวกเราก็หลับหูหลับตาแป๊ปหนึ่งแล้วกัน" แล้วเค้าก็ถอดเสื้อ เราหันมองซ้ายมองขวาคนอื่นๆก็ถอดเหมือนกัน เราเลยเอาวะถอดก็ถอด ถ้าไม่ถอดก็ใส่กิโมโนต่อไม่ได้เพราะฉะนั้นเราเลยแนะนำว่าสำหรับคนไทยอย่างเราๆที่ไม่ชินกับการถอดเสื้อจนเหลือแค่ชั้นในต่อหน้าคนอื่นให้ใส่เสื้อซับในไปด้วย จะเลือกเป็นเสื้อกล้ามก็ได้ และคอเสื้อควรกว้างนิดหนึ่งเสื้อจะได้ไม่โผล่ขึ้นมาตอนเราใส่กิโมโน 

ส่วนขั้นตอนใส่กิโมโนนั้นไม่ยากแค่ยืนนิ่งๆให้คนอื่นใส่ให้ แต่แอบบอกไว้ก่อนว่าชุดกิโมโนจะรัดแน่นพอสมควรเรียกได้ว่าต้องทนอึดอัดไปทั้งวันหลังใส่ชุดเสร็จถ้าใครไม่ทำผมต่อก็ไปจ่ายเงินได้เลยส่วนใครที่จองทำผมไว้ด้วยก็ไปทำผมต่อ ทรงผมมีให้เลือกทั้งหมด 8 ทรง มีทั้งแบบเกล้าหมดและปล่อยครึ่งหัว สำหรับค่าทำผมนั้น เพิ่มอีก 1500 เยน ไม่รวมภาษีเช่นเดิมแน่นอนว่า เราทำผมด้วย ไหนๆก็มาทั้งที ขอจัดเต็มหน่อย รวมแล้วใช้เวลาอยู่ที่ร้านนี้ประมาณ2 ชั่วโมงกว่าๆ จึงจะได้เริ่มออกเที่ยว


เริ่มที่วัดแรกคือวัดTofukuji ระหว่างทางไปวัด เราเจอร้านอาหารตอนนั้นเป็นเวลา 11 โมงกว่าแล้ว เลยแวะเติมพลังกันก่อน ภายในร้านมีสวนขนาดย่อมๆ



ส่วนในร้านมีเมนูเดียวเป็นเบนโตะ คือทุกคนที่เข้ามาเค้าจะจัดมาแบบเดียวกันหมด ราคาอยู่ที่ 3250 เยน หน้าตาอาหารก็ตามรูป เห็นแบบนี้ดูเหมือนไม่เยอะ แต่กินจริงๆแล้วอิ่มมาก เราถึงกับกินไม่หมด หรือจริงๆแล้วเป็นเพราะชุดกิโมโนที่รัดแน่นก็ไม่รู้ เรื่องรสชาติ เราว่าไม่อร่อย และขอสารภาพตามตรงว่าหลายอย่างในนั้นมีอะไรบ้างก็ไม่รู้ เราเรียกชื่อไม่ถูก  โดยรวมคือไม่ผ่านและราคาแพง ถือเป็นมื้อที่เรารู้สึกเสียดายเงินที่สุด


กินเสร็จก็ได้เวลาเดินเที่ยววัด Tofukuji กันแล้ว
















จากวัด Tofukuji เราเดินต่อไปยัง Fushimi inarishrine หรือศาลเจ้าเทพเจ้าจิ้งจอก ระยะทางห่างกันประมาณ 1.3 กม.ใครจะนั่งรถก็ได้นะ ใช้ JR line ห่างกันแค่ 1 สถานี

ที่ศาลเจ้าเทพเจ้าจิ้งจอกจุดเด่นของที่นี่คือประตูโทริอิ เป็นเสาสีแดงเรียงรายเยอะมากเป็นหมื่นๆต้น ตามที่เห็นในแผนที่โดยเสาจะมีทั้งขนาดเล็กขนาดใหญ่ปนๆกันไป แต่เราเดินได้ไม่นานก็เลี้ยวกลับเพราะชุดกิโมโนไม่เอื้ออำนวยให้เดินจนหมด











ภายในศาลเจ้าเทพเจ้าจิ้งจอกมีร้านขนมตั้ังอยู่ด้วย ว่าแล้วก็แวะเติมขนมลงกระเพาะกันหน่อย



ต่อจากศาลเจ้าเทพเจ้าจิ้งจอกเราก็ไปที่ศาลจ้ายาซะกะ (Yasaka shrine) ซึ่งอยู่ใกล้ๆย่านกิออน ศาลเจ้านี้จุดเด่นคือโคมไฟที่อยู่ด้านหน้า แนะนำให้ไปตอนค่ำๆเปิดไฟแล้วสวยดี 






ก่อนจะกลับไปคืนชุด เราแวะไปเดินเล่นย่านกิออนความจริงย่านนี้มีร้านของกินหลายร้านแต่เราไม่ได้แวะกินเพราะกลัวไปคืนชุดไม่ทัน


หลังจากกลับไปคืนชุดแล้ว เราแพลนจะไปเที่ยววัดน้ำใสต่อ แต่ขึ้นรถบัสผิดสาย หลงทางก็เลยกลับโรงแรมแทน เป็นอันจบวันที่ 4 แบบงงๆ

Create Date :06 มกราคม 2562 Last Update :6 มกราคม 2562 17:23:14 น. Counter : 528 Pageviews. Comments :1