วันนี้เราย้ายโรงแรมอีกครั้งเพราะอยากนอนโรงแรมแบบไฮเทคดูบ้างแต่ค่าโรงแรมค่อนข้างแพงเลยนอนแค่คืนเดียว ชื่อ The millennialskyoto ราคาก็แค่ 8000 กว่าเยนต่อคืนเอง (ปาดน้ำตาเบาๆ)ส่วนที่ว่าโรงแรมนี้ไฮเทคยังไง เดี๋ยวจะมาเล่าให้ฟังคราวหลัง ฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรมแล้ว เราก็ออกเดินทางโดยใช้ JR line ไปลงสถานี Saga-Arashiyama แล้วก็ไปสถานี Saga Torokko Station (อยู่ติดกัน) เพื่อซื้อตั๋ว Sagano Romantictrain ไปที่ Kameoka Torokko Station ถ้าจำไม่ผิดค่าตั๋วราคาเที่ยวละ620 เยน สำหรับใครที่อยากได้ตั๋วนั่งจะต้องจองไปก่อนล่วงหน้าถ้าไปซื้อตั๋วที่สถานีเลยได้ตั๋วยืนแน่นอน และควรจะไปเช้าหน่อยถ้าไปสายนอกจากแถวยาวแล้ว ตั๋วจะเต็มเกือบหมด ประมาณว่าไปเช้าได้ตั๋วรอบบ่ายอย่างเราไปถึง 8 โมงครึ่ง ได้ตั๋วรอบ 10 โมง 

ด้วยความที่เวลาเหลือเราเลยไปเดินเล่นรอ เดินไปถึงหน้าวัด Tenryu-ji แต่ไม่ได้เข้าไป เพราะคิดว่าเวลาคงไม่ทัน เดินกลับมาที่สถานีอีกทีคนต่อแถวซื้อตั๋วรถไฟ Sagano ยาวกว่าเดิมอีก แถมตั๋วยังเต็มไปจนถึงรอบบ่าย2 โมงแล้ว 

หลังจากขึ้นรถไฟ เราก็ค้นพบว่า ข้อดีของตั๋วยืนคือ ได้ดูวิวทั้ง 2 ฝั่งและตั๋วยืนก็ยืนกันหลวมๆ ไม่ได้เบียดกับใคร ดูวิวแม่น้ำโฮะซึ (HozugawaRiver) เพลินๆ ประมาณ 30 นาทีก็ถึงสถานี Kameoka TorokkoStation เราใช้เวลาถ่ายรูปเล่นที่สถานีนี้ 1 ชั่วโมงก็นั่งรถไฟกลับส่วนใครที่อยากจะชมแม่น้ำโฮะซึแบบเน้นๆ จะเลือกวิธีล่องเรือกลับก็ได้ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 

ขากลับเราลงที่สถานี Arashiyama TorokkoStation เพื่อจะเดินไปที่ป่าไผ่ (Arashiyama bambooforest) แต่สายตากลับเหลือบไปเห็นป้ายชี้ไปวัด Jojakko-ji ซะก่อน เห็นคนเดินไปเยอะเลยเดินตามไป ค่าเข้าจำไม่ได้แต่ก็ได้ภาพสวยๆมาอย่างที่เห็น 

ออกจากวัดเราก็มุ่งหน้าไปที่ป่าไผ่เดินผ่านป่าไผ่กลับไปทางสถานี Saga Torokko Station ความจริงป่าไผ่ที่ว่านั้น ไม่มีอะไรเลย มันคือทางเดินที่สองข้างทางมีต้นไผ่สูงๆ เเละคนจำนวนมากจนแทบจะหาที่ถ่ายรูปไม่ได้

เดิมทีว่าจะแวะเข้าวัด Tenryu-ji แต่ความหิวเลยเปลี่ยนเป็นหาร้านขายอาหารตรงแถวๆทางเดินไปสะพานโทเง็ตสึเคียว (Togetsukyo Bridge) แทน ชื่อร้านอะไรก็ไม่รู้ แค่เห็นว่าน่ากินก็เดินเข้าเลยผลปรากฏว่าอร่อยมากจ้า

ท้องอิ่มก็เดินต่อไปที่สะพานโทเง็ตสึเคียว 

จากสะพานเราเดินต่อไปที่สวน Kameyama-koen และเดินตามป้ายที่เขียนว่า observation deck เพื่อไปที่จุดชมวิวอันนี้ต้องเผื่อเวลาพอสมควรเพราะต้องเดินขึ้นเขาเป็นระยะทางประมาณหนึ่ง  ระหว่างเดินไป เราก็เเวะถ่ายรูปไปเรื่อยจึงไปถึงช้ากว่าที่คาดไว้ แต่ขึ้นไปแล้วก็ได้วิวสวยๆสมใจตามรูป

ตอนแรกเราตั้งใจว่าจะแวะวัด Tenryu-ji แต่กว่าจะเดินไปถึงวัดฟ้าก็มืดแล้วทั้งๆที่เป็นเวลา 5 โมงกว่า ไม่แน่ใจว่าวัดปิดหรือยัง เลยเปลี่ยนแผนไปดูไฟที่วัด Kiyomizuหรือวัดน้ำใสแทน ความจริงแถบ Arashiyama มีวัดอีกเยอะเลยแต่เราเดินไม่ทันเลยไปได้แค่ 1 วัด