เป็นนักแสดงหนุ่มรูปหล่อที่ห่างจอไปนานทีเดียว ล่าสุด ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์  หวนคืนจอภาพยนตร์อีกครั้ง  ในบทบาทตัวละครที่ชื่อ “วุฒิ” ในภาพยนตร์เรื่อง “ชัมบาลา” วันก่อนเจอ ซันนี่ ในงานบันเทิงแห่งหนึ่ง ก็ขอเมาท์ซะหน่อย ก่อนหน้านี้หายเงียบไปนาน ไปทำอะไรอยู่ ? “ก่อนหน้านี้ที่ไม่ได้เล่นหนังแต่ผมก็เล่นซิทคอมครับ คือจริง ๆ ไม่ได้หายไปไหน ถ้าถามว่าคิดถึงหนังมั้ย ก็คิดถึงนะ มันก็แบบสนุกนะที่ได้ทำ ได้เป็นตัวละคร แล้วพอมานั่งดูหนังเทียบกับละครแล้วพลังมันต่างกันครับ พอได้ขึ้นชื่อว่าหนังแล้ว มันมีพลังของทุกสิ่งทุกอย่าง เรื่องของการแสดงออก ไม่ว่าจะเป็นเราจะส่งสายตาหรือว่าอะไร มันเป็นพลัง ผมรู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งเวลาเจอบทดี ๆ โอ้โห มันตื่นเต้นมาก จะรู้สึกได้ ยิ่งเรื่องนี้ครับยิ่งใหญ่แบบว่าน่าเล่น”

เป็นไงมาไง ถึงได้เข้ามามีส่วนร่วมในหนังเรื่องนี้ ? “กับพี่ปี๊ด (ปัญจพงศ์ คงคาน้อย) ผู้กำกับเรารู้จักมาสิบกว่าปีแล้ว  เขาอยากเป็นผู้กำกับหนัง ถ้าเกิดมีโปรเจคท์หรือเรื่องคิดอะไรในหัว เขาจะพูดหรือส่งมาให้เราตลอดเวลา มีบางครั้งที่แบบเอาไปเสนอที่อื่นแล้วเขาไม่ได้เห็นแนวทางของเขาอะไรแบบนี้ และพอเขามาที่นี่ (สหมงคลฟิล์ม) แล้วเหมือนเขาเข้าใจคนทำหนัง แล้วก็เสนอแนวทางให้เขาให้ผ่าน แล้วเขาก็ส่งบทร่างมาให้ผมดูเรื่อย ๆ แรก ๆ ก็จากไม่เป็นรูปเป็นร่างเลยครับ จนรู้สึกว่าดีขึ้นเรื่อย ๆ  ซึ่งก่อนมาถึงชัมบาลาตัวพี่ปี๊ดผู้กำกับเขามีหลายเรื่องมาก”

ในหนังเรื่องนี้ รับบทอะไรและคาแรกเตอร์เป็นอย่างไร ? “รับบทเป็น วุฒิ ในแง่ของตัวละครวุฒิจะเป็นคนที่จริงจังเรื่องความรักครับ สิ่งที่ทำอะไรลงไปทุกอย่างคือจะอยู่ในกรอบ คือเขาจะเป็นคนที่ไม่ทำอะไรที่มันประมาทกับชีวิต ทำอะไรก็ต้องถูกต้อง ๆ แต่วุฒิไม่ใช่แบบตรงจนเกินไป คือทำชีวิตตัวเองไม่ให้แบบเละเทะ ไม่โลดโผดมากกว่า และก็รักจริง” ได้แสดงร่วมกับอนันดาเป็นยังไงบ้าง ? “ในเรื่องวุฒิจะมีพี่ชายที่ชื่อ ทิน รับบทโดย อนันดา ความแตกต่างของพี่น้องสองคนนี้คือวุฒิพยายามจะมีเป้าหมาย มีความรับผิดชอบทุกสิ่งทุกอย่างสำหรับครอบครัวกับตัวเองกับอะไร แต่ว่าพี่ชายจะแบบไม่รับผิดชอบ เหมือนเวลาทำอะไรใช้ชีวิตบนความเสี่ยง  คือสิ่งที่เขาทำจะล้มจะพลาดจะอะไรเหมือนเขาไม่กำหนดไว้ก่อน ก็แล้วแต่ดวง เรามีความคิดที่ไม่เหมือนกัน ผู้กำกับเขาไม่อยากให้คนดูรู้สึกติดภาพเดิม ๆ ของเราสองคน ก็จะเห็นว่าอนันดาเล่นเศร้าโศกมาตลอด คือ แบบซีเรียส ไม่ค่อยหัวเราะ ซึ่งสำหรับผมที่ผ่านมาคนดูก็จะเห็นแบบสบาย ๆ มากกว่า แต่ทีนี้คือผู้กำกับเขาไม่อยากให้คนติดภาพอะไรพวกนี้ อยากเห็นอนันดาหัวเราะพูดจากวนคนตลอดเรื่อง เล่นต๊องเอาฮาตลอดเรื่อง ซึ่งผมจะเป็นซีเรียส”

ในการเดินทางสู่ทิเบตและการค้นหาสิ่งที่เรียกว่า “ชัมบาลา” สำหรับซันนี่แล้วน่าสนใจอย่างไร ? “สิ่งสำคัญคือการที่ได้ทำอะไรเพื่อใครสักคน ผมว่ามันเริ่มมาจากความรัก ความอยากให้เขา อยากทำอะไรให้คนคนหนึ่งที่เรารัก ก็คือ ผมว่าการที่เราอยู่ดี ๆ เราจะทำอะไรขนาดนี้ ทำสิ่งสิ่งหนึ่งที่ตัวเองอยากหรือไม่อยากไม่รู้เพื่อใครสักคนหนึ่ง มันเป็นอะไรที่เต็มไปด้วยความรู้สึกที่ดี ๆ อยู่แล้ว”

ได้ร่วมงานกับ น้ากล้วย-ณัฐวุฒิ กิตติคุณ ผู้กำกับภาพระดับท็อปของประเทศด้วย (นางนาค, โหมโรง, ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช, องค์บาก ฯลฯ) “ในเรื่องของการทำงานของเขา ผมไปดูภาพเขา โอ้โหสวยจังและทำเร็วด้วยนะครับ แสงโน่นนี่ ชอบครับชอบมาก รู้สึกดีมากที่ได้ร่วมงานกับคนเก่ง ๆ แล้วภาพที่เราถ่ายออกมามันเป็นสถานที่ที่แปลกตาด้วย ถ้าบ้านเราก็เป็นสถานที่คุ้นเคยที่เห็นอยู่แล้ว อันนี้เหมือนเราดูหนังฝรั่งที่เห็นแล้วแบบ เฮ้ยที่นี่ที่ไหนคิดไม่ออกไม่คุ้นเลย ก็จะได้ความรู้สึกแบบนั้น อาจจะเป็นสักเรื่องที่ไม่มีเชื้อชาติในโลก เป็นภาพที่แบบไม่รู้ชาติไหน ถ้ามันไม่พูดไทยกันเราจะรู้มั้ยว่ามันชาติไหน ซึ่งจริง ๆ ต้องบอกว่าการทำงานที่กว่าจะได้ภาพสวย ๆ ออกมาอย่างที่เห็น มันไม่ใช่โจทย์ของเรา เราไม่ได้ต้องการอย่างนั้น เราต้องการให้คนดูตามตัวละครซันนี่และอนันดาไป แล้วค่อย ๆ อิ่มเอมเรื่อย ๆ ไปกับความสวยงามของทิเบตนะครับผม ถ้าถามว่ายากมั้ย ผมโชคดีที่ได้ทำงานกับน้ากล้วยนะ” ติดตามได้เร็ว ๆ นี้ทุกโรงภาพยนตร์.

//www.dailynews.co.th/entertainment/149612