Ninja!
Group Blog
 
 
สิงหาคม 2549
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
25 สิงหาคม 2549
 
All Blogs
 
มาฝึกยิ้มกันเถอะ

การ “ยิ้ม” นั้น ใบหน้าเราใช้กล้ามเนื้อน้อยมาก แค่ 17 ชิ้นเท่านั้นเอง แต่การ “หน้าบึ้ง” นั้น ใบหน้าของเราต้องทำงานหนัก ต้องใช้กล้ามเนื้อบนใบหน้ากว่า 30 ชิ้น จึงทำให้ ใบหน้าบึ้งขึ้นมาได้

ผมไปค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมจากหนังสือ “คู่มือสร้างสุขด้วยรอยยิ้ม” ของกรมสุขภาพจิต ก็พบว่า

การยิ้มจะใช้กล้ามเนื้อใบหน้าเพียงสองมัด คือ กล้ามเนื้อบริเวณแก้มและรอบดวงตา มัดใหญ่คือ ไซโกเมติก เมเจอร์ (Zygomatic Major) จะช่วยดึงมุมปากให้ยกขึ้นไปหาโหนกแก้ม และกล้ามเนื้ออีกชิ้น ออร์บิคิวลา (Orbicularis Oculi) จะช่วยดึงเนื้อแก้มและเบ้าตาให้ยกขึ้น

เมื่อเปรียบเทียบการยิ้มกับการแสดงสีหน้าแบบอื่น เช่น โกรธ เศร้า เคร่งขรึม วิตกกังวล ฯลฯ จะพบว่า การยิ้มใช้กล้ามเนื้อใบหน้าน้อยกว่าการแสดงสีหน้าแบบอื่นมาก การยิ้มจึงใช้พลังงานน้อยกว่า ทำให้ใบหน้าดูดีกว่าการแสดงสีหน้าแบบอื่น

แต่รอยยิ้มที่จริงใจนั้น จะปรากฏอยู่เพียง 1-4 วินาทีเท่านั้น

เพราะฉะนั้น จะดูว่าใครยิ้มจริงใจแค่ไหน ก็ต้องแอบดูยิ้มตอนเผลอ

การยิ้มยังมีผลต่อสุขภาพโดยตรง เมื่อกล้ามเนื้อใบหน้าเคลื่อนไหวจนเกิดรอยยิ้ม จะส่งผลให้โลหิตแดงวิ่งไปเลี้ยงสมองได้ดี ทำให้สมองมีอุณหภูมิต่ำ หัวใจเต้นช้าลง ความดันโลหิตลดลง ระบบต่างๆในร่างกายผ่อนคลาย ต่อมหมวกไตจะทำงานน้อยลง ฮอร์โมนอะดรีนาลิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนแห่งความเครียดก็จะถูกขับออกมาน้อยลง ทำให้เกิดความรู้สึกสบายและผ่อนคลาย

ตรงกันข้ามกับคนหน้าเครียด หน้านิ่วคิ้วขมวด การเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อใบหน้าจำนวนมาก จะทำให้สมองมีอุณหภูมิสูงขึ้น และเกิดความรู้สึกที่ไม่สบาย

ดังนั้น การยิ้มจึงช่วยให้เรารู้สึกสบายและผ่อนคลาย ช่วยลดความเครียด ทำให้สุขภาพแข็งแรง ไม่เจ็บป่วยง่าย และยังช่วยทำให้ หายจากการป่วยไข้เร็วขึ้น ช่วยเสริมสร้างอารมณ์และความรู้สึกให้ดีขึ้น การยิ้มยังเป็นยารักษาความงาม ช่วยชะลอความเหี่ยวย่นของใบหน้าได้อีกด้วย

การฝึกให้รู้จักยิ้มก็ไม่ยาก ทำได้โดยการพูดคุยอย่างสนุกสนานกับเพื่อนฝูงที่สนิทคุ้นเคยหรือคนในครอบครัว อ่านหนังสือดูตลกประเภทขำขันชวนหัวเราะ ที่สำคัญ คือ ต้องหัดเตือนตัวเองให้ยิ้มทุกครั้งที่ตื่นนอน ยิ้มทุกครั้งที่พบหน้าคนใกล้ชิด ยิ้มทุกครั้งเมื่อก้าวออกจากบ้าน ยิ้มทุกครั้งเมื่อเข้าสำนักงาน และ ยิ้มตอบทุกคนที่ยิ้มให้ เป็นต้น

เขียนบทความนี้เสร็จ ผมก็ต้องขอไปเริ่มต้นฝึกยิ้มตั้งแต่วินาทีนี้ เลยครับ เพื่อความสุขของตัวเอง ความสุขของครอบครัว และความสุข ของสังคมโดยรวม ถ้าคนไทยทุกคนหัดยิ้มเข้าหากันตลอดเวลา ผมรับรองว่า “ดัชนีความสุข” ของคนไทยพุ่งปรี๊ดเป็นจรวด






Create Date : 25 สิงหาคม 2549
Last Update : 9 มิถุนายน 2550 21:29:10 น. 2 comments
Counter : 1805 Pageviews.

 
แวะมายิ้มค่ะ



โดย: กระต่ายลงพุง วันที่: 29 สิงหาคม 2549 เวลา:0:33:51 น.  

 
แวะมาเยี่ยมอีกครั้งจ้ะ อัพบลอคมั่งนะคะ คิกๆๆ



โดย: กระต่ายลงพุง วันที่: 6 กันยายน 2549 เวลา:23:08:43 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

MaThilDra
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add MaThilDra's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.